หามือถือ Android ที่ถูกขโมยไป ให้รู้ตัวหัวขโมยอย่างรวดเร็ว แต่เหนื่อยหน่อยนะ

หลังจากในบทความที่แล้ว ที่ผมได้แนะนำ ขั้นตอนที่เราควรจะทำเมื่อ มือถือ Android หาย ซึ่งหลังจากที่เราทำตามขั้นตอนหมดแล้ว ที่เหลือก็คือ การรอคอยผลการแจ้งจากทาง ผู้ให้บริการมือถือค่ายต่างๆ ซึ่งตรงนี้ อาจต้องใช้เวลายาวนานมาก และบางทีเราอาจจะต้องตามเรื่อง คอยไล่เช็คเองด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเราใจร้อน และอยากรู้ว่า ใครเป็นคนขโมยมือถือของเราไป ผมก็มีวิธี หามือถือ Android ที่ถูกขโมยไปด้วยตัวเอง มาแนะนำกันครับ ซึ่งต้องบอกเลยว่า มันอาจจะยาก และเหนื่อยสักหน่อย แต่จะทำให้เรารู้ว่า ใครขโมยมือถือของเราไปได้แน่นอนครับ และส่วนใหญ่ ก็มีคนทำแบบนี้ และจับขโมย พร้อมกับได้มือถือคืนมา อย่างรวดเร็วหลายคนแล้วครับ

เพราะผมต้องบอกว่า ถ้าจะรอให้ทาง ตำรวจ และทางผู้ให้บริการ ดำเนินการแล้วล่ะก็ คงต้องใช้เวลานานมากๆ ซึ่งเราเอง ที่เป็นผู้เสียหาย อาจจะทนรอไม่ได้ ทั้งเจ็บใจ เสียใจ และแค้นใจ ก็อยากจะลงมือหาเอง ด้วยการช่วยตำรวจสืบค้น ก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะตรงนี้ ต้องเข้าใจด้วยว่า นี่เป็นคดีลักทรัพย์ ซึ่งทุกวันนี้ ตำรวจก็งานเยอะอยู่แล้ว คดีลักทรัพย์นี้ ถือเป็นคดีเล็กๆ ความสำคัญ และความเร่งด่วน อาจจะทีหลัง คดีฆาตกรรม ดังนั้น ถ้าเราช่วยหาหลักฐาน และหาตัวผู้กระทำความผิดมาได้ ก็จะทำให้คดีเดินหน้าไวขึ้น จับขโมยได้ไวขึ้น และทำให้เราได้มือถือคืนมาเร็วขึ้นด้วย

ขั้นตอนในการ หามือถือ Android ที่ถูกขโมยไป และตามจับหัวขโมยด้วยตัวเอง

1. อันดับแรก ติดต่อไปที่ Call Center หรือจะไปที่ศูนย์บริการ ของผู้ให้บริการ ค่ายมือถือ ที่เราใช้งานอยู่ แล้วทำการยื่นเรื่อง ขอพิกัดตำแหน่งสุดท้าย ของสัญญาณมือถือ เบอร์ของเรา ก่อนที่มันจะถูกปิดเครื่องไป เพื่อเอาไว้แกะรอยเส้นทาง ที่ขโมยเอามือถือไป ซึ่งตรงนี้ อาจใช้เวลาหลายวัน แต่พิกัดที่จะได้มา ให้ย้ำว่า ขอแบบแม่นยำนะครับ เพราะถ้าเกิดเหตุในเมือง พิกัดจะแม่นยำมากๆ เนื่องจากมันสามารถยืนยันตำแหน่งได้จากเสาส่งหลายต้น อันนี้ชัวร์ครับ เพราะผมทำงานด้านนี้อยู่ แต่ก็อย่าไปคาดหวังมากครับ เพราะโจรบางคน ขโมยแล้วปิดเครื่องทันทีก็มี แต่บางคนก็โง่ ปิดเครื่องตอนขโมย แต่ไปเปิดตอนกลับบ้าน หรือตรงที่ร้านที่จะเอาไปขาย ทำให้สัญญาณมันไปขึ้นแถวนั้น ช่วยทำให้เราสามารถหาเจอได้ง่ายขึ้น

2. ขอภาพกล้องวงจรปิด จากสถานที่ที่เราอยู่ ตอนที่มือถือถูกขโมย โดยนำใบแจ้งความ ที่เราแจ้งเอาไว้ ไปยื่นให้กับเจ้าของสถานที่ เพื่อขอความร่วมมือ ซึ่งตรงนี้ ขอดูได้หมดนะครับ รวมทั้งตามร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 อีกด้วย ซึ่งเมื่อเราเจอจากกล้องตัวนึงแล้ว เราก็จะไล่กล้องไปเรื่อยๆ รวมทั้งกล้องของทาง กทม. ด้วย สิ่งที่เราต้องการก็คือ หน้าตาคนร้าย การแต่งกาย และทะเบียนรถ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ถ้าเราได้มา ให้รีบนำไปยื่นกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบค้น และจับกุมตัวคนร้ายได้เลย

ขั้นตอนที่ 1 และ 2 ที่ผมแนะนำมา ให้กระทำควบคู่กันนะครับ เพราะมันใช้เวลาทั้งสองขั้นตอน และข้อมูลจะมาบรรจบกันพอดี ถ้าทำตามนี้ได้ รับรองว่าได้ผลแน่นอน เพราะโจรขโมยมือถือพวกนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ได้เตรียมการมาล่วงหน้า และมักจะไม่ได้ ปิดบังใบหน้า หรือปลอมแปลงทะเบียนรถ ส่วนใหญ่จึงมักจะถูกจับได้อยู่บ่อยครั้ง เพียงแต่ว่า ขั้นตอนในการสืบค้นเหล่านี้ ผู้เสียหาย หรือเจ้าของมือถือ ต้องเหนื่อยหน่อย เพราะต้องทำตัวเหมือนเป็น นักสืบโคนัน หรือ ตำรวจซะเอง คอยไปนั่งไล่ดูกล้องวงจรปิด และขอบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก็ถือว่าเป็นการช่วยงานตำรวจไปก็แล้วกันนะครับ

วิธีการในการ หามือถือ Android ที่ถูกขโมยไป ตามที่ผมแนะนำมานี้ อาจจะลำบาก และเหนื่อยสักหน่อย แต่มันก็คุ้มนะครับ เพราะในความเป็นจริง หัวขโมยส่วนใหญ่ มักจะขโมยไปขายตามร้านรับซื้อมือถือ ซึ่งกว่าที่ร้าน จะขายออกไปได้ ก็ใช้เวลาพอสมควร ซึ่งเราก็ต้องรอ ให้มือถือที่ถูกขโมยไป ขายได้ก่อน แล้วใส่ซิมเปิดใช้งาน ทางผู้ให้บริการทั้ง AIS TRUE หรือ DTAC ถึงจะได้รับการแจ้งเตือน ว่าเป็นเครื่องที่มี IMEI ตรงกับที่ถูกขโมย และแจ้งเรากลับมา ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรทีเดียว แต่ถ้าเราช่วยสืบค้น หาหลักฐาน ทั้งภาพวงจรปิด และหน้าตาคนร้ายได้ ก็จะทำให้เราได้มือถือคืนกลับมาเร็วขึ้น รวมทั้งยังช่วยจับตัวคนร้ายได้อีกด้วย

เรื่องก่อนหน้านี้มือถือ Android หาย ทำยังไงดี? แล้วมีโอกาสจะได้คืนหรือไม่?
เรื่องถัดไปเล่นแอพ Android บน PC ด้วย NOX อีกหนึ่งทางเลือก ของคอเกมแอนดรอย