คำว่า Internet Banking ในที่นี้ ผมไม่ได้หมายถึง การเลือกใช้แอพสำหรับ โอนเงิน หรือเช็คยอดเงินผ่านแอพออนไลน์ นะครับ แต่ผมจะหมายรวมถึง การทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงการใช้งาน ผ่านทางเว็บบราวเซอร์ใน PC คอมพิวเตอร์อีกด้วย ( ในส่วนของการใช้ แอพเพื่อทำธุรกรรมการเงินนั้น สามารถอ่านคำแนะนำได้ในบทความ โอนเงินผ่านมือถือ อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่โดนแฮก ) ในบทความนี้ ผมจะแนะนำเกี่ยวกับ เรื่องของความปลอดภัย ในการทำธุรกรรมการเงิน ผ่านทาง อินเทอร์เน็ต ว่าต้องระมัดระวังอะไรบ้าง ถึงจะปลอดภัย และลดความเสี่ยง หรือโอกาสที่จะถูกแฮกลงไปได้
วิธีการใช้งาน Internet Banking แบบที่ปลอดภัยที่สุด
1. ใช้งานผ่านเครือข่าย 3G/4G เท่านั้น อันนี้สำคัญมากๆ ครับ ถ้าใช้มือถือ หรือ แท็บเล็ต อันนี้ก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าใช้โน๊ตบุ๊ค หรือ PC อาจจำเป็นต้องซื้อ 3G/4G USB มาเสียบเพื่อต่อใช้งานครับ เหตุผลก็เพราะว่า การเชื่อมต่อผ่านทาง 3G/4G จะมีความปลอดภัยมากที่สุด ไม่มีโอกาสที่จะถูกแฮกได้เลยครับ ยกเว้นเจ้าของเครือข่ายมือถือนั่นแหละครับ ที่จะเป็นคนแฮก แต่มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นครับ เอาเป็นว่า ถ้าอยากมั่นใจว่า การเชื่อมต่อกับธนาคารผ่านอินเทอร์เน็ต ช่องทางไหนปลอดภัยที่สุด? คำตอบก็คือ ผ่านทาง 3G/4G ครับ ปลอดภัยที่สุด
2. อย่าใช้งานผ่าน ฟรี WiFi หรือ WiFi ของทางผู้ให้บริการ อันนี้สำคัญมากๆ ครับ บางคนคิดว่า อยากจะประหยัด 3G/4G Data เอาไว้ใช้งาน ก็เลยใช้พวกฟรี WiFi ที่ผู้ให้บริการ เปิดให้ใช้งาน ตามห้างต่างๆ หรือ ฟรี WiFi ตามร้านกาแฟ ก็น่าจะปลอดภัยเหมือนกัน แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนใหญ่โดนแฮก ก็เพราะไปใช้พวกฟรี WiFi แบบนี้นั่นแหละครับ เพราะเราไม่รู้เลยว่า ใครอยู่ในวง WiFi เหล่านั้นบ้าง ซึ่งเมื่อเราทำการเชื่อมต่อ เราอาจจะกำลังถูกดักจับข้อมูลทันทีก็เป็นได้ ดังนั้น ถ้าจะทำธุรกรรมการเงิน อย่าทำบน ฟรี WiFi หรือ WiFi ที่ทางผู้บริการ เปิดให้ใช้งานเด็ดขาดครับ การทำธุรกรรมการเงินเหล่านี้ ใช้อินเทอร์เน็ตนิดเดียวครับ ไม่จำเป็นต้องประหยัด 3G/4G หรอกครับ
3. ใช้งานผ่าน WiFi ที่บ้านของตัวเองเท่านั้น การใช้งาน WiFi ภายในบ้านของตัวเอง ยังไงก็ปลอดภัยที่สุดอย่างแน่นอน แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ไม่มีคนอื่น มาเล่นเน็ตอยู่ในวงเดียวกับเรานะครับ คือไม่ได้เปิดให้ข้างบ้านใช้งานด้วย หรือเคยบอกรหัส WiFi ให้กับเพื่อนบ้าน หรือเพื่อนที่เคยมาบ้าน อันนี้ไม่ได้เด็ดขาดครับ ต้องทำการเปลี่ยนรหัสใหม่ให้เรียบร้อย ให้มีแต่เรา และบุคคลในบ้านเราเท่านั้น ที่สามารถใช้งานได้จริงๆ เพื่อป้องกันการถูกดักข้อมูล ในวง WiFi ซึ่งเป็นวิธีการแฮก ที่ง่ายและเร็วที่สุดครับ
4. ใช้งานบนมือถือ หรือแท็บเล็ต ที่ปลอดภัย คำว่าปลอดภัยก็คือ จะต้องไม่เคยถูก Root หรือถูก Jailbreak เด็ดขาด รวมทั้งต้องไม่เคยติดตั้งพวกแอพเกมต่างๆ อีกด้วย เพราะแอพเกม หรือแอพสารพัดประโยชน์ทุกวันนี้ ล้วนมากับ adware ที่ทำงานด้วยการ Run in Background ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า มี Process ตัวไหนบ้าง ที่เป็น Keylogger คอยดักจับข้อมูล ดังนั้น ถ้าจะทำธุรกรรมการเงิน ก็ควรจะแบ่งมือถือกันไปเลย อย่างละเครื่อง เล่นเกมเครื่องนึง ทำธุรกรรมการเงิน เครื่องนึง แบบนี้จะปลอดภัยที่สุดครับ
5. ใช้งานใน Browser ที่เชื่อถือได้ สำหรับการใช้งาน Internet Banking ในคอมพิวเตอร์ PC หรือโน๊ตบุ๊คนั้น จะเป็นการใช้งานผ่านทาง เว็บบราวเซอร์ ผู้ใช้งาน ต้องเลือกเว็บบราวเซอร์ที่เชื่อถือได้จริงๆ เช่น Chrome หรือ Firefox แต่ในความเป็นจริง ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ ยังไม่รู้ และขาดความเข้าใจ ผมเห็นมีหลายคน ที่ใช้งานผ่าน Baidu บราวเซอร์ ซึ่งเป็นของจีน อันนี้อันตรายมากๆ นะครับ ต้องระมัดระวังกันด้วย ทางที่ดี ควรใช้แต่ Chrome จะดีที่สุดครับ
6. ใช้งานบน PC หรือโน๊ตบุ๊ค ที่มั่นใจได้ว่า ปลอดภัยชัวร์ๆ คุณจะรู้ได้อย่างไร ว่า คอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัยจริงหรือไม่? ง่ายๆ ครับ ก็ดูจากพฤติกรรมของตัวคุณเอง ถ้าคุณชอบเข้าเว็บไม่ดีบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้ติด malware มาฝังตัวในคอมของคุณได้ ทางที่ดีที่สุด ทำการแยกเครื่องแบบมือถือเลยครับ เครื่องนึง เอาไว้ทำธุรกรรมการเงิน เพียงอย่างเดียว กับอีกเครื่อง เอาไว้เล่นสนุก ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เล่นเน็ต แยกกันแบบนี้ รับรองได้ว่า ปลอดภัย 100% ครับ
7. สังเกตและตรวจสอบรายละเอียดของ HTTPS ทุกครั้ง อย่าคิดว่า เว็บที่มีสัญลักษณ์กุญแจสีเขียว หรือที่เรียกว่า HTTPS หรือ SSL จะปลอดภัย 100% ทุกวันนี้ มีแล้วนะครับ สำหรับ HTTPS ปลอม ดังนั้นต้องทำการตรวจสอบดูให้ดีก่อน ว่ามีรายละเอียดอย่างไร อย่างในตัวอย่างด้านบน จะเห็นได้เลยว่า เป็นของกสิกรไทยจริงๆ เพราะเป็น Certificate ที่ออกที่ กสิกร สำนักงานใหญ่ ที่ราษฎรบูรณะ นี่คือข้อสังเกตง่ายๆ นะครับ
หากทุกท่าน ทำได้ตามนี้ รับรองว่า การทำธุรกรรมแบบ Internet Banking ของทุกท่าน ยังไงก็ไม่มีทางถูกแฮกอย่างแน่นอนครับ ปลอดภัย 100% อย่าคิดว่า ที่ผมแนะนำมานี้ จะโอเว่อร์เกินความเป็นจริงนะครับ เพราะทุกวันนี้ ผมก็ทำแบบนี้อยู่ครับ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และลดปัญหาที่ตามมา คนส่วนใหญ่ ที่โดนแฮก เพราะประมาทครับ ผลก็คือ เมื่อถูกแฮก โดนขโมยเงิน ก็ต้องมาแจ้งความ ดำเนินคดี เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน โดยที่ไม่รู้จะได้คืนหรือไม่ และเสียความรู้สึกอีก แต่ถ้ายอมทำแบบที่ผมแนะนำมา อาจจะดูยุ่งยากไปสักนิด แต่ทำแล้ว สบายใจ ปลอดภัย ไม่ต้องมากังวล กับปัญหาที่จะตามมาอีกมากมายครับ
