แม้ว่า เทคโนโลยี ในการผลิต มือถือ สมาร์ทโฟน จะพัฒนา ไปได้ไกลมากๆ ภายในเวลา อันรวดเร็ว ในระยะเวลา ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่จอความละเอียดต่ำๆ จนมาเป็น หน้าจอ ความละเอียด ระดับ HD 720p และก้าวข้ามมา เป็น Quad HD ณ ตอนนี้ ส่วนเรื่องของสเปค อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู หรือ หน่วยความจำ ก็ล้ำหน้าไปไกลมากๆ เกินกว่า ที่ ระบบปฏิบัติการ ในปัจจุบัน จะตามทัน พูดง่ายๆ คือ ซีพียู มันเร็วไปไกลแล้ว แต่ OS ยังรีดพลังงาน ของ CPU มาใช้ได้อย่างไม่เต็มที่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะสิ่งที่ดูเหมือนว่า จะไม่ได้รับการพัฒนา หรือปรับปรุง ให้ดีขึ้นเลย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็คือ แบตเตอรี่มือถือ หรือ แบตมือถือ ที่เราเรียกกันสั้นๆ
จนในปัจจุบัน หากเรามี มือถือ Phablet หรือ สมาร์ทโฟน จอใหญ่ สิ่งที่ต้องมี ควบคู่กันไป ก็คือ Power Bank หรือ แบตเตอรี่สำรอง พกพาติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น มือถือ ยี่ห้อไหน ก็กิน แบตเตอรี่ และมักจะไม่เพียงพอ ต่อการใช้งาน ใน 1 วันเสมอ ไม่ว่าจะเป็น iPhone , iPad , สมาร์ทโฟน Android , แท็บเล็ต , Windows Phone มีข้อเสีย ในเรื่อง แบตมือถือ เหมือนกันหมด
แต่ปัญหานี้ อาจจะหมดไป เพราะตอนนี้ ทาง Microsoft ได้ซุ่มพัฒนา แบตมือถือ ให้จุไฟได้มากขึ้น ทำให้ใช้งาน มือถือ ได้นานขึ้น โดยใช้งานค้นคว้าวิจัย เทคโนโลยี เกี่ยวกับ แบตเตอรี่มือถือ ที่ทาง มหาวิทยาลัย MIT ชื่อดัง ในสหรัฐอเมริกา ได้คิดค้น ขึ้นมา โดยมีแนวคิดดังนี้
แนวคิด ในการพัฒนา แบตเตอรี่มือถือ ด้วย Hardware
แนวคิดนี้ จะเป็นการ แบ่งแยกการใช้ แบตเตอรี่ ออกมาเป็น 2 ก้อนเล็กๆ ด้วยกัน โดย แบตเตอรี่มือถือ แบบ Li-Ion ทั้ง 2 ก้อนนี้ จะแบ่งแยกการทำงาน ออกเป็นคนละหน้าที่ ก้อนหนึ่ง ก็จะใช้สำหรับ การทำงาน ที่กินไฟมากๆ อย่างเช่น การเล่นเกม เป็นต้น ส่วน แบตอีกก้อนหนึ่ง ก็จะเอาไว้ใช้ สำหรับงานเบาๆ ที่ไม่กินไฟมาก อย่างเช่น สำหรับแสตนด์บายเครื่อง หรือสำหรับ รับสายโทรเข้า หรือ โทรออก เท่านั้น ซึ่งชัดเจนว่า เมื่อทาง Microsoft ได้ลองเอามา ออกแบบใหม่ และพัฒนาออกมา เป็นตัวต้นแบบ และได้ทดสอบแล้ว ผลที่ได้ออกมาคือ ช่วยเพิ่มยืดอายุ การใช้งาน ของ แบตเตอรี่มือถือ จากปกติ ออกไปได้ถึง 20 – 50 %
เพิ่มประสิทธิภาพ การใช้งาน แบตเตอรี่มือถือ ด้วย Software
แค่ปรับปรุง ออกแบบ และพัฒนาตัว แบตเตอรี่ แบบใหม่นั้น ยังไม่เพียงพอ การจะช่วยประหยัด แบตเตอรี่ ขณะที่ใช้งาน มือถือ สมาร์ทโฟน มากขึ้นนั้น จำเป็นต้องใช้ Software เข้ามาช่วย โดยทาง Microsoft เอง ก็เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ว่าจ้าง บริษัท ผู้พัฒนา ซอฟท์แวร์ ที่ชื่อว่า “E-Loupe” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น ที่สามารถระบุได้ว่า แอปไหน กินพลังงานเท่าไหร่ และจำเป็นหรือไม่ ที่ต้องใช้แอปนั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง หรือ Running in Background โดยเจ้า ซอฟท์แวร์ ตัวนี้ จะเข้าไปทำการหยุด หรือปิดแอปตัวที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง โดยไม่จำเป็น ไปเลย เพื่อประหยัดพลังงานใน แบตเตอรี่ ให้ใช้งาน ได้นานขึ้น
ตัวอย่างของ ซอฟท์แวร์ ที่ช่วยประหยัด แบตเตอรี่ นั้น ก็มีให้เห็นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใน Samsung Galaxy S5 และ HTC One M8 ที่มีโหมด Ultra Saving Power ช่วยตัด แอป ที่ไม่จำเป็นทิ้งไป เพื่อประหยัดพลังงานสูงสุด ช่วยให้ แบตเตอรี่มือถือ ใช้งานได้นานขึ้น แม้ว่าจะเหลือไฟใน แบตเตอรี่ อยู่น้อยนิดเต็มทีก็ตาม
สำหรับระยะเวลา ในการพัฒนา แบตเตอรี่มือถือ ที่ทาง Microsoft กำลังซุ่มทำอยู่ในขณะนี้ จะยังไม่มีการกำหนดมาว่า จะเสร็จสิ้น ประมาณเมื่อไหร่ แต่ก็นับว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เริ่มมีบริษัทยักษ์ใหญ่ ในวงการ มือถือ และเทคโนโลยี ไอที เล็งเห็นความสำคัญ และเริ่มพัฒนา ต่อยอด เทคโนโลยี แบตเตอรี่มือถือ ให้ล้ำหน้าขึ้นไปอีก
