การเลี้ยงเมจ ให้เก่งเร็วๆ เทคนิคการเล่นเกม ROV ระดับสูง เน้นดาเมจที่รุนแรงให้กับทีม

ผมเชื่อว่า คงมีหลายท่าน เคยเห็นการแข่งขัน เกม ROV ทั้งในระดับลีก และระดับโลกกันมาบ้างแล้ว โดยอาจจะดูผ่านทาง Youtube เป็นส่วนใหญ่ แต่ทุกท่านรู้หรือไม่ครับ ว่าในคลิปการแข่งขันเหล่านั้น มีเทคนิคการเล่นหลายๆ อย่าง ผ่านตาของท่านไป โดยที่ท่านเองไม่รู้ว่า มันคือ เทคนิค หรือสูตรการเล่นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็คือเทคนิค ที่ผมจะเอามาแนะนำกันในบทความนี้ นั่นคือ การเลี้ยงเมจ ให้โตเร็วๆ หรือ การปั้นเมจของทีม ให้แข็งแกร่ง และโหดตั้งแต่ต้นเกมนั่นเองครับ

การเลี้ยงเมจ คืออะไร? และต้องเลี้ยงยังไง?

จุดเด่นของเมจ ในเกม ROV ก็คือ เป็นฮีโร่ที่ทำดาเมจได้รุนแรง เหมือนกับแครี่ แต่สกิลส่วนใหญ่ จะทำให้ศัตรูติดสถานะไปด้วย ทำให้สามารถคอมโบสกิล ทำดาเมจได้อย่างรุนแรง สามารถละลายแท็งค์ได้ง่ายๆ เหมือนไม่ใช่แท็งค์เลยทีเดียว เพราะดาเมจเวทที่สุดแสนจะรุนแรง พูดง่ายๆ ก็คือ เมจเป็นตำแหน่ง ที่มีผลต่อเกม มากกว่า แครี่อีกนะครับ มันไม่เก่งในด้านดันป้อม แต่มันเก่งในทีมไฟต์ และช่วยฆ่าได้เป็นอย่างดี เราจึงเห็นนักแข่งหลายทีม หยิบเมจมาเล่น แต่ไม่หยิบแครี่มาเล่น

ยิ่งเมจสมัยนี้อย่าง Tulen, Liliana หรือ Lauriel เป็นเมจที่โหดมากๆ ทำดาเมจได้อย่างรุนแรง ควบคู่ไปกับการทำให้ศัตรูติดสถานะ ที่แสบไปกว่านั้นก็คือ แม้พวกมันจะตัวบางเหมือนกับแครี่ แต่กลับมีสกิลสำหรับหนี หรือสกิลที่ช่วยทดแทน หรือช่วยทำให้มันเอาตัวรอดจากการโดนล้วงได้ แถมยังสวนกลับตัวล้วงจนตายง่ายๆ ได้อีกด้วย

แต่ในช่วงต้นเกม เมจพวกนี้ จะไม่เก่งครับ เหตุผลไม่ใช่ว่า เวทมันไม่แรงนะครับ แต่เพราะ คูลดาวน์ของสกิล ของเมจทุกตัว มันค่อนข้างนาน แถมยังกินมานาอีกเป็นจำนวนมาก จึงยืนเลนได้ไม่นาน ก็ต้องกลับบ้าน เพื่อเติมมานา นี่แหละครับ ที่มาของเทคนิค การเลี้ยงเมจ ที่เราจะมาแนะนำกัน

การเลี้ยงเมจ ก็คือ การให้เมจในทีมของเรา ซึ่งอยู่ในเลนกลาง เอาบัพฟ้าไปใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น Tulen, Lauriel, และ Liliana ส่วนใหญ่ จะใส่รูน ที่ช่วยลดคูลดาวน์มา 6% อยู่แล้ว หากได้บัพฟ้าเข้าไป ก็จะทำให้ลดคูลดาวน์มากถึง 26% เลยนะครับ ( บัพฟ้า หรือ Sage Buff ช่วยฟื้นฟูมานา 2% ต่อวินาที และลดคูลดาวน์ของสกิล 20% ) ซึ่งหากให้เมจพวกนี้ มีลดคูลดาวน์ 20% ตั้งแต่ต้นเกม มันจะโหดมากๆ นะครับ ยิ่งถ้าเลเวล 4 มีสกิลอัลติด้วยแล้ว ยิ่งโหดมากไปกันใหญ่ จะช่วยทีมไฟต์ และแก๊งค์จนฆ่าศัตรูได้ง่ายๆ เลยทีเดียวครับ

เหตุผลที่เราต้องใช้ การเลี้ยงเมจ ก็เพราะว่า เมื่อเมจของเรา โตขึ้น หรือ เก่งขึ้น ก็จะช่วยทำดาเมจ และทำประโยชน์ให้กับทีมได้เป็นอย่างมาก เพราะสกิลของเมจ ส่วนใหญ่ จะมีดาเมจที่รุนแรง และมีพวก CC ติดมาด้วย ช่วยให้ดาเมจที่ทีมของเราทำได้ รุนแรงมากๆ จนสามารถละลายเกราะของแท็งค์ฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย ( ดาเมจรุนแรงกว่า แครี่ ของฝ่ายเราที่ทำได้อีกนะครับ )

ขั้นตอน การเลี้ยงเมจ ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ ก็แค่ เลือกตัวฟาร์มป่า เป็นตัวที่ไม่ต้องใช้มานา เช่น Zuka หรือ Ryoma ซึ่งส่วนใหญ่ นิยมเป็น Ryoma ครับ ซึ่งการทำแบบนี้ จะเป็นการเล่นแบบ 2-1-2 คือ แทบไม่ต้องมีตัวฟาร์มป่าเลย ทุกคนในทีม ช่วยกันฟาร์ม ช่วยกันเก็บบัพ ที่ตัวเองจำเป็นต้องใช้นั่นเองครับ Zuka ก็เก็บบัพแดง แล้วก็ฟาร์มบ้าง เมื่อมีจังหวะที่ว่างฟาร์มได้ ส่วนเมจ อยู่เลนกลาง ก็เก็บบัพฟ้า และช่วยฟาร์มมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้กับเลนกลาง ทั้งสองฝั่ง

เมื่อตัวฟาร์มไม่ต้องใช้มานา เมจก็เก็บบัพฟ้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับทีมได้เต็มที่
เมื่อตัวฟาร์มไม่ต้องใช้มานา เมจก็เก็บบัพฟ้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับทีมได้เต็มที่

การเล่นแบบนี้ จะทำให้ตัวฟาร์มป่าของทีม และ เมจของทีม โตไปพร้อมๆ กัน เวลามารวมทีมไฟต์ หรือ แก๊งค์ด้วยกัน จะโหดมากๆ ที่สำคัญก็คือ สูตรการเล่นแบบนี้ จะแก๊งค์ หรือ รวมตัวกันได้เร็วมาก ก่อนที่จะเลเวล 4 ก็สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้แล้วครับ

ทำไมต้องเลี้ยงเมจด้วย เลี้ยงแครี่แทนไม่ได้อย่างนั้นหรือ?

คำตอบสำหรับคำถามนี้ ก็คือ เพราะฮีโร่ในเกม ROV แทบทุกตัว มีค่า Stat พื้นฐานที่เหมือนกัน ก็คือ ไม่มีเกราะเวท หรือ ป้องกันเวท (ต้านทานเวท) ติดตัวมา แต่จะมี เกราะกายภาพ ติดตัวมาเหมือนกันหมด ประมาณ 80-110 หน่วย ทุกตัว ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ว่าเป็นแท็งค์ ก็มีมากหน่อย ถ้าเป็นแอสซาซิน หรือแครี่ ก็มีน้อยหน่อย อะไรประมาณนี้

นั่นแปลว่า ฮีโร่ในเกม ROV ทุกตัว มีจุดอ่อนอยู่ที่ ดาเมจเวท เพราะไม่มีเกราะเวท ตั้งแต่เริ่มต้นเกมนั่นเองครับ ซึ่งกว่าจะใส่เกราะเวทหนักๆ ก็ปาเข้าไปชิ้นที่ 3 – 4 ซึ่งเป็นช่วงกลางเกมไปแล้ว ถ้าเราช่วยสนับสนุนให้ เมจของเรา เก่งตั้งแต่ต้นเกม จะช่วยฆ่าศัตรูได้ง่ายๆ โดยเฉพาะแท็งค์ จะแพ้ทางเมจในช่วงต้นเกมเป็นอย่างมาก แพ้ทางหนักกว่า แครี่ของฝ่ายเราอีกนะครับ

เพราะอย่างที่บอกไป แครี่เรา โจมตีเป็นดาเมจกายภาพ และแท็งค์ ก็มักจะมี เกราะกายภาพ หนามากอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับเมจ ที่ทำดาเมจได้รุนแรง ในขณะที่ แท็งค์ ไม่มีเกราะเวท หรือ ต้านทานเวทเลย อย่างมาก ก็มีแค่ Gilded Greaves ซึ่งป้องกันเวทได้แค่เล็กน้อยเท่านั้นเอง

อีกหนึ่งวิธีได้บัพง่ายๆ ก็คือ ฆ่าฝ่ายตรงข้าม ที่มีบัพอยู่ซะ แค่นี้เอง
อีกหนึ่งวิธีได้บัพง่ายๆ ก็คือ ฆ่าฝ่ายตรงข้าม ที่มีบัพอยู่ซะ แค่นี้เอง

ดังนั้น เมื่อเทียบกันแล้ว การเลี้ยงเมจ ให้โต จะคุ้มค่ากว่า การเลี้ยงแครี่ให้โตซะอีกนะครับ ยิ่งเมจสมัยใหม่ มีสกิลช่วยให้หนีได้อย่างคล่องตัว อย่าง Tulen และ Liliana ยิ่งทำให้มันเก่งมากขึ้นไปอีก

ข้อควรระวัง ในการเล่นตามสูตรนี้ ผู้เล่นทั้งทีม ต้องเข้าใจสูตรการเล่นแบบนี้ ต้องยืนเลนได้แข็ง ไม่ตายง่ายๆ และที่สำคัญ ต้องรีบเคลียร์ครีปให้เร็ว เพื่อไปช่วยเพื่อนแก๊งค์เสมอ โดยเฉพาะเมจในเลนกลาง หากเพื่อนในทีมแจกกันเยอะๆ ตายกันง่ายๆ บ่อยๆ จะไม่มีใครในทีมเกิดเลย เพราะตัวฟาร์มป่า ก็ไม่ได้ฟาร์มอย่างเต็มที่นัก และท่าจะให้ดี เมจที่อยู่เลนกลาง ก็ควรจะออกไอเท็มป่าด้วย เพื่อให้คุ้มค่า กับการได้บัพฟ้า และจะช่วยฟาร์มป่าได้เร็วมากขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น ดาเมจเวท ที่ได้จากไอเท็มป่า ก็จะแรงขึ้นอย่างมากอีกด้วย เป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ ครับ

แผนการเล่นแบบนี้ จะต้องใช้ สูตรการเล่นแบบ 2-1-2 และมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ การเลี้ยงเมจ ดังนั้น ถ้าจะเล่นแผนนี้ ผมแนะนำว่า แทนที่จะอธิบายยาวๆ ก็แชร์บทความนี้ ให้เพื่อนอ่านแทนเลยดีกว่าครับ จะทำให้เข้าใจแผนกันง่ายมากขึ้น และเข้าใจถึงรายละเอียดสำคัญๆ ของแผนด้วยครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้เทคนิคการเล่น Zephys ROV ตัวล้วงชั้นเลิศ แต่ทำไมบางคนเล่นแล้วไม่เกิด
เรื่องถัดไปเทคนิคการเล่น Lu Bu ROV เล่นยังไงให้โหดจริง ชนได้ ฆ่าได้ ครบเครื่องในตัวเดียว