และแล้วในเซิฟไต้หวัน ก็ได้มีการปรับแพทช์ใหม่ล่าสุดให้กับเกม ROV อีกครั้ง โดยปรับเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 เม.ย. 63 ซึ่งมีการปรับทั้งในส่วนของโหมด Chess และที่สำคัญ มีการปรับสมดุลฮีโร่หลายตัว ซึ่งบางตัวมีผลกระทบกับการเล่นแน่นอน และอาจจะกลับเข้ามาสู่ META อีกครั้งหลังจากหลุดไปเพราะความเก่งไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนครับ ผมก็จะเอา ข้อมูล ROV แพทช์ 16 เม.ย. 63 มาบอกกันเหมือนเดิม รวมทั้งจะทำการวิเคราะห์ให้ด้วยว่า การปรับแบบนี้ มีผลอะไรกับการเล่นฮีโร่ตัวนั้นๆ บ้าง เพื่อให้เข้าใจกันง่ายขึ้น และลดความกังวลของผู้เล่นที่ชื่นชอบฮีโร่ตัวนั้นๆ ได้แน่นอนครับ – “ข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำและถูกต้อง ย่อมทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่นได้ง่ายขึ้นแน่นอน”
ข้อมูล ROV แพทช์ 16 เม.ย. 63 : ปรับสมดุลฮีโร่หลายตัว
สำหรับในส่วนของการปรับในโหมด Chess นั้น ผมจะไม่พูดถึงนะครับ แต่จะเน้นในเรื่องของข้อมูลที่มีการปรับสมดุลฮีโร่ที่ส่งผลกระทบกับการเล่นในโหมดแบบ 5v5 เป็นหลัก โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Kil’Groth (บัพ)
สกิล 1 Sea Spear
– ปรับลดดาเมจลง 100/125/150/175/200/225 (+0.65 physical attack) → 50/80/110/140/170/200 (+1.0 physical attack)
การปรับแบบนี้ เป็นการปรับลดดาเมจต้นเกมเท่านั้น แต่มีการปรับเพิ่มตัวคูณดาเมจ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 35% นั่นเท่ากับว่า ยิ่ง Kil’Groth ใส่ไอเท็มโจมตีมากเท่าไหร่ สกิล 1 ก็จะยิ่งแรงมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงเลทเกม ดาเมจจากสกิล 1 จะแรงมาก ดังนั้น การปรับลดดาเมจนี้ เป็นเพียงการปรับลดดาเมจต้นเท่านั้น แต่ตัวคูณดาเมจกลับถูกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น ตรงนี้ ทำให้สกิล 1 ของ Kil’Groth น่าสนใจมากขึ้นแน่นอนครับ
– ปรับลดอัตราการสโลว์ให้น้อยลง 25/30/35/40/45/50% → คงที่ 30%
ตรงนี้ไม่ได้มีผลมากสักเท่าไหร่ เพราะในช่วงต้นเกม อาจจะยังไม่รู้สึกอะไร ส่วนเลทเกม แม้จะโดนเนิฟไปก็ตาม แต่ส่วนใหญ่คนที่เล่น Kil’Groth มักจะใส่พวกไอเท็มสโลว์เพิ่มเข้าไปอยู่แล้วเช่น Hyoga’s Edge ดังนั้น การปรับลดลงไปแบบนี้ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมายนัก
สกิล 2 Enrage Spear
– ปรับลดดาเมจเวทที่ได้จากการโจมตีปกติครั้งที่ 3 75/115/155/195/235/275 (+0.3 extra physical attack) → 75/110/145/180/215/250 (+0.25 extra physical attack)
การปรับลดดาเมจเวท จากการโจมตีปกติครั้งที่ 3 ลงไปเล็กน้อย ก็มีผลเล็กน้อยครับ ไม่ได้มีผลอะไรมากมาย ไม่ต้องกังวลไป
– ปรับเพิ่มดาเมจเวทที่ได้จากการโจมตีปกติเมื่อกดใช้สกิล 2 เป็น 50/85/120/155/190/225 (+0.25 extra physical attack) → 75/110/145/180/215/250 (+0.25 extra physical attack)
ตรงนี้สิครับสำคัญมาก เพราะเป็นการปรับเพิ่มดาเมจเวทที่ได้จากการโจมตีปกติเมื่อกดใช้สกิล 2 ซึ่งมันจะเกิดขึ้นบ่อยและมีผลแน่นอน เพราะ Kil’Groth จะใช้การโจมตีใส่ศัตรูโดยกดใช้สกิล 2 เป็นหลักอยู่แล้ว และฟันรัวๆ ก็ยิ่งทำดาเมจเวทโดยรวมเพิ่มมากขึ้นอีก ดังนั้น ตรงนี้ถือว่าเป็นการบัพที่มีผลมากพอสมควรเลยทีเดียวครับ
– ปรับเพิ่มอัตราการดูดเลือดจากสกิล 2 เป็น 40/49/58/67/76/85 (+0.17 extra physical attack) → 50/60/70/80/90/100 (+0.2 extra physical attack)
ตรงนี้จะเรียกได้ว่า เป็นจุดสำคัญที่จะทำให้ Kil’Groth คืนถิ่นตำแหน่งเจ้าพ่อออฟเลนในแพทช์นี้ได้เลยครับ เพราะมันจะดูดเลือดได้แรงขึ้นแบบเห็นๆ ทั้งต้นเกม และเมื่อใส่ไอเท็มโจมตี หรือ เลทเกม ก็ดูดเลือดได้แรงขึ้นแบบเห็นๆ ทำให้เราเล่น Kil’Groth ได้ง่ายมากขึ้นเยอะ เรียกได้ว่า นึกอะไรไม่ออก เวลาเจอกับ Lu bu, Florentino, Yena ก็หยิบ Kil’Groth มาปะทะได้เลยครับ สู้ได้สบายขึ้นแน่นอน
– ปรับลดคูลดาวน์ของสกิล 2 เป็น 12 / 11.6 / 11.2 / 10.8 / 10.4 / 10 วินาที → 12 / 11.4 / 10.8 / 10.2 / 9.6 / 9 วินาที
นอกจากการบัพให้สกิล 2 เมื่อกดใช้แล้ว ทำดาเมจเวทได้แรงขึ้น และดูดเลือดได้แรงขึ้นแล้ว ยังลดคูลดาวน์สกิลลงมาอีก ซึ่งเมื่อเรารวมกับพลังแฝงอย่าง Devil’s Awakening ที่ลดคูลดาวน์ของสกิลด้วยแล้ว มีโอกาสที่เวลาเข้าไฟต์ Kil’Groth จะกดใช้สกิล 2 ต่อเนื่องหลังจากที่กดใช้อัลติไปแล้วได้รัวๆ มากขึ้น ใช่ครับ การลดลงไป 1 วินาที มีผลนะครับ มีผลกับฮีโร่ที่ตีรัวๆ แบบ Kil’Groth นี่แหละครับ โดยเฉพาะในช่วงเลทเกม จะทำให้มันหนังเหนียวขึ้นเยอะแน่นอนครับ
Arduin (บัพ)
สกิล 1 Rend
– ปรับลดคูลดาวน์ จาก 8 เป็น 7 วินาที ตรงนี้ก็มีผลเล็กน้อยครับ ทำให้กดใช้สกิล 1 ได้บ่อยขึ้น แต่ก็ยังไม่ว้าวสักเท่าไหร่ครับ
สกิล 2 Undying Protector
– ปรับเพิ่มโล่ให้แข็งแกร่งขึ้น 200/225/250/275/300/325 (+0.75 physical attack) → 250/280/310/340/370/400 (+1.0 physical attack)
ตรงนี้แม้ว่าจะมีการปรับให้โล่หนาขึ้นเยอะมากๆ ก็ตาม แต่ก็ยังไม่ว้าวสักเท่าไหร่ครับ จริงอยู่ที่มันสามารถหยิบมาเล่นในตำแหน่งออฟเลน และ โรมมิ่งได้ดีมากขึ้น แต่สำหรับแพทช์นี้ ที่พวกตัวยิงไกลยิงแรงมากๆ การเล่น Arduin ก็จะยากขึ้นด้วยครับ โล่ที่ได้มาก ก็อาจจะยังไม่เพียงพอ อีกทั้งถ้าอยากได้โล่หนามากๆ ก็ต้องออกไอเท็มโจมตีเยอะๆ ซึ่งมันก็จะทำให้ Arduin ตัวบางลงไปกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้ก็ต้องพิจารณาให้ดีๆ สรุปคือ ยังไม่ว้าวเท่าไหร่ครับ
– ปรับเพิ่มความเสียหายจริงที่ทำได้หลังกดใช้สกิล 2 เป็น 100/125/150/175/200/225 → 125/150/175/200/225/250
ตรงนี้แม้จะเป็นการบัพให้ทำความเสียหายจริงเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ดูๆ ทรงไปแล้ว โดยรวมน่าจะเป็นการปรับให้ Arduin ไปยืนออฟเลน มากกว่าการเอามาโรมมิ่ง ซึ่งตรงนี้ ใครที่เป็นเมน Arduin ก็น่าจะชอบ แต่โดยส่วนตัว ผมยังมองว่า มันก็ยังไม่ว้าวสักเท่าไหร่ครับ ต้องพึ่งพาอาศัยทีมเยอะพอสมควรอยู่ดีครับ
Batman (บัพให้เก่งมากๆ)
สกิล 2 Batarang
– ปรับให้ดูดเลือดเพิ่มขึ้น 140/168/196/224/252/280 (+0.5 physical attack) → 100/120/140/160/180/200 (+1.0 physical attack)
ตรงนี้มีผลมากๆ เพราะแม้ว่าจะมีการปรับลดดาเมจต้นให้เบาลงไป แต่กลับเพิ่มตัวคูณดาเมจให้แรงขึ้นมาเป็น 2 เท่า ซึ่งโดยปกติ คนที่เล่น Batman เค้าก็ออกแต่ไอเท็มโจมตี ให้มันทำดาเมจแรงๆ อยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อตัวคูณดาเมจมันเพิ่มขึ้นเท่าตัวแบบนี้ การันตีเลยว่า Batman จะดูดเลือดจากการใช้สกิล 2 เพิ่มขึ้นแบบสุดๆ แน่นอน ทำให้จังหวะการเข้าไฟต์ หรือ ยืนเลน ทำได้ดีมากขึ้น และเล่นได้หลากหลายตำแหน่งมากขึ้นแน่นอน ตรงนี้สิครับ ว้าวแน่ๆ แต่ยังครับ ยังว้าวไม่พอ ไปดูที่การปรับอันต่อไปอีกครับ
อัลติ Dark Knight
– ปรับลดคูลดาวน์ 36/30/24 → 35/25/15 วินาที
ตรงนี้สิครับว้าวมากๆ ด้วยการปรับแบบนี้ จะทำให้ Batman หายตัวได้บ่อยขึ้นในช่วงเลทเกม เรียกได้ว่า เลทเกมมานี่ Batman จะพลิ้วมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ หายตัวได้เกือบตลอดเวลา สามารถปรับแผนการเล่นได้หลายรูปแบบ จะเข้าไปตอด ไล่ฆ่า หรือ แยกดัน ก็สามารถทำได้ดีมากขึ้น เพราะปรับลดคูลดาวน์ลงไปแบบสุดๆ นั่นเองครับ
Jinna (บัพมากๆ)
สกิล 1 Battering Beads
– ปรับลดดาเมจเวทลง 300/360/420/480/540/600 (+0.5 magical attack) → 300/350/400/450/500/550 (+0.45 magical attack)
ตรงนี้เป็นการปรับลดดาเมจเวทลงเล็กน้อยครับ เล็กน้อยจริงๆ ไม่ได้มีผลมากนักครับ
– เพิ่มความสามารถใหม่ – เมื่อใช้สกิล 1 แล้วลูกประคำโดนฮีโร่ศัตรู จะฟื้นฟู HP 150/170/190/210/230/250 (+0.15 magic attack) ถ้าชิ่งไปโดนครั้งที่ 2 จะฟื้นฟูให้เพียง 30% เท่านั้น การปรับเพิ่มให้สกิล 1 ของ Jinna มันดูดเลือดได้แบบนี้ จะทำให้มันกลายเป็นเมจที่ถูกเลือกให้หยิบมาเล่นบ่อยขึ้นแน่นอน รวมทั้งจังหวะการเข้าไฟต์ของมันก็จะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เพราะสามารถดูดเลือดจากสกิล 1 ได้อีกด้วยในจังหวะที่คอมโบสกิลร่วมกับอัลติ
– ปรับลดคูลดาวน์ลง จาก 7 เป็น 6 วินาที
แม้ว่าดาเมจของสกิล 1 จะถูกลดลง แต่การเพิ่มความสามารถใหม่เข้ามา ให้มันดูดเลือดได้จากการใช้สกิล 1 และปรับลดคูลดาวน์ของสกิล 1 ลง ก็จะทำให้ Jinna กลายเป็นเมจที่น่าเล่นมากๆ ขึ้นมาเลยทีเดียวครับ เพราะมันจะยืนเลนได้แข็งแกร่งขึ้น และ Poke สกิล 1 ได้บ่อยขึ้น รวมทั้งจังหวะการเข้าไฟต์ ที่นัวเนียกันเนี่ย จะทำได้ดีมากขึ้น และดูดเลือดได้แบบรัวๆ ตรงนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวครับ
Marja (เนิฟ)
สกิลติดตัว Shadow Leech
– ปรับลดอัตราการเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ จาก 2% → 1.5%
ตรงนี้มีผลแน่นอนครับ แต่ไม่มากครับ พอรับได้ เช่น เดิมที ถ้า HP หายไป 50% ก็จะวิ่งเร็วขึ้น 20% ก็จะกลายมาเป็น วิ่งเร็วขึ้นแค่ 15%
อัลติ Ghostwalk
– ปรับเพิ่มคูลดาวน์ 40/32/24 → 40/35/30
ตรงนี้ถือว่า โดนเนิฟหนักครับ มีผลแน่นอน เพราะการปรับเพิ่มคูลดาวน์ในช่วงเลทเกมที่เลเวลสูงสุดถึง 6 วินาที มีผลมากๆ กับการเล่น Marja ทำให้ตัวมันไม่ได้ป่วนเท่าเดิม และไม่พลิ้วเท่าเดิม ต้องรอคูลดาวน์นานมากขึ้น เรียกได้ว่า โดนเนิฟในช่วงเลทเกมแบบเต็มๆ เลยทีเดียว
ถามว่า Marja โดนเนิฟแบบนี้ ยังคงเล่นได้อยู่มั้ย? ตอบเลยว่า ได้ครับ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ในช่วงเลทเกม ต้องลดความห้าว ความซ่าส์ของตัวเองลงไปครับ เล่นแบบรัดกุมนิดนึง ก็จะโอเคครับ
Dirak (ปรับแก้)
ตรงนี้ผมยังไม่แน่ใจ แต่คิดว่า เป็นการปรับแก้ในส่วนของสกิล 2 ในจังหวะที่กดใช้สกิลซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้อุกกาบาตสาดลงมา น่าจะถูกปรับระยะหรือวงรัศมีของสกิลให้แคบลง และ ปรับเพิ่มดีเลย์ของการผลักศัตรูให้นานขึ้น
Max (บัพ)
อัลติ Liftoff ปรับเพิ่มระยะเวลาที่เลือกล็อคเป้าให้นานขึ้น จาก 6 → 10 วินาที
การปรับแบบนี้ก็ถือว่าดีครับ แต่ไม่ได้ทำให้ Max เก่งขึ้นอะไรมากมาย เพียงแต่จะทำให้ทีมมีเวลาเห็นศัตรูในแมพได้นานมากขึ้น 4 วินาทีเท่านั้นเอง
Laville (เนิฟ)
ปรับสกิลติดตัวของ Laville ให้โจมตีใส่มอนสเตอร์ป่าแล้วเบาลง 40% ในเลเวลแรก และค่อยๆ ปรับเพิ่มกลับมาเป็นปกติตามเลเวลของ Laville ที่เพิ่มขึ้น
ตรงนี้ ผมอยากให้ทำความเข้าใจสักหน่อย นั่นคือ การปรับแบบนี้ ก็เหมือนกับการปรับกับ Capheny ที่ทำให้ยิงใส่มอนสเตอร์ป่าเบาลงนั่นแหละครับ เพื่อชะลอ และทำให้แครี่ที่ยิงเร็วๆ พวกนี้ ฟาร์มป่าได้ช้าลง ไม่งั้นมันจะโกงมากเกินไป แต่การปรับแบบนี้ก็มีผลเฉพาะกับการหยิบ Laville มาฟาร์มป่าเท่านั้นนะครับ สำหรับการยืนเลน ยังเล่นได้อยู่ ไม่มีปัญหาครับ
ซึ่งการปรับเนิฟ Laville แบบนี้ โดยส่วนตัวผมมองว่า ไม่ได้มีผลอะไรมากมายนะครับ เพราะถ้าเราเล่นแบบเป็นทีม เราก็สามารถปรับแก้ตรงนี้ โดยให้ โรมมิ่งมาเดินคู่กับ Laville ได้ เช่น TeeMee หรือซัพพอร์ตัวอื่นๆ มาเดินและช่วยฆ่ามอนสเตอร์ป่าในช่วงต้นเกมได้ ก็ทำให้ปัญหาการฟาร์มช้าหมดไป แถมยังทำให้ Laville รวยเร็วขึ้นอีกด้วย
ถ้าจะเนิฟให้ Laville ไม่น่าเล่นจริงๆ น่าจะเป็นการเนิฟในส่วนของสกิล 2 ให้โล่มันทำงานได้สั้นลง หรือ ปรับลดระยะเวลาสตั้นของอัลติลงไป แบบนี้น่าจะมีผลกระทบกับ Laville มากกว่า แต่การปรับแค่นี้ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายครับ ยกเว้น Laville ฟาร์มป่าแบบตัวคนเดียว Solo ไปคนเดียวแล้วโรมไม่เป็นงาน ไม่มาช่วยในช่วงต้นเกม อันนี้ก็จะลำบากมากขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ
ทั้งหมดนี้คือ ข้อมูล ROV แพทช์ 16 เม.ย. 63 ที่ในไต้หวันปรับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับในเซิฟไทยก็น่าจะปรับตามมาไม่ช้ากว่ากันสักเท่าไหร่แน่นอนครับ ซึ่งถ้าเราดูให้ดีๆ ก็จะเห็นว่า การปรับแพทช์ในครั้งนี้ ไม่ได้เนิฟฮีโร่ตัวไหนหนักมากเกินไปจนถึงกับต้องเก็บเข้ากรุ อย่าง Marja แม้จะโดนเนิฟหนัก แต่ก็ยังเล่นได้อยู่ดีนะครับ ส่วนฮีโร่ตัวอื่นๆ ที่จะกลับมาคืนถิ่นเดิม ก็ได้แก่ Kil’Groth, Jinna, Batman พวกนี้จะได้กลับมาโลดแล่นในเซิฟหลังจากนี้แน่นอนครับ เพราะมันเก่งขึ้น และเล่นได้สนุกขึ้นมากๆ เลยทีเดียวครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
