จังหวะการเข้าทำ ในเกม ROV มีความสำคัญแค่ไหน ทำไมถึงต้องศึกษาให้ดีๆ ด้วย

และแล้วก็มาถึงบทความ ที่ผมอยากจะมาแนะนำให้ทุกท่าน ได้อ่านกันแบบจริงจัง เพราะมันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในเกม ROV จะเรียกได้ว่า สำคัญกว่า การจัดเซ็ตไอเท็ม หรือการซื้อรูนอีกนะครับ จังหวะการเข้าทำ หรือบางคน อาจจะเรียกว่า จังหวะทีมไฟต์ ก็ว่าได้ คือ ถ้าพูดง่ายๆ มันก็คือ จังหวะที่ ทีมทั้งสองทีม จะเข้าปะทะกันนั่นเอง ซึ่งไอ้จังหวะที่ว่านี้ จะเป็นตัวบ่งชี้เลยว่า ทีมไหนจะแพ้ ทีมไหนจะชนะ เพราะถ้าเข้าผิดจังหวะ ผลที่ตามมา ก็คือ อาจตายยกทีมได้แน่นอนครับ

จังหวะการเข้าทำ ในเกม ROV สำคัญขนาดไหน?

ผู้เล่นจำนวนมาก ยังไม่เข้าใจ ในเรื่องของ จังหวะการเข้าทำ หรือ เข้าบวก ว่าใคร ตำแหน่งไหน ควรจะเข้าไปบวกตอนไหน ส่วนใหญ่ จะคิดง่ายๆ ก็แค่ว่า แท็งค์ กับ ไฟต์เตอร์กึ่งแท็งค์ ต้องเข้าไปบวกก่อน เป็นตัวแรกเสมอ ซึ่งจริงๆ แล้ว มันไม่จำเป็น ต้องเป็นแบบนั้นเสมอไปก็ได้นะครับ เพราะในความเป็นจริงแล้ว มันมีหลายเทคนิค ที่จะทำให้บวกกับฝ่ายตรงข้าม แล้วชนะ แม้เลเวลของเรา จะเป็นรองนิดหน่อยก็ตาม

จังหวะการเข้าทำ ในเกม ROV จริงๆ แล้ว ก็คือ การยกพวก เข้าไปลุย หรือเข้าไปซัดกันตรงๆ นั่นเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “การสร้างจังหวะการเข้าทำ” ซึ่งตรงนี้ มีหลายวิธีมากๆ ซึ่งมักจะมีเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

จังหวะการเข้าทำ ในเกม ROV
จังหวะการเข้าทำ ในเกม ROV จัดว่า สำคัญมากๆ ใครไม่เข้าใจ อาจพาทีมแพ้ได้เลย

1. หากฝ่ายเรา ได้เปรียบในเรื่องของเลเวล ที่ส่วนใหญ่ สูงกว่า ฝ่ายตรงข้าม มากถึง 2 เลเวล ให้ใช้การยกพวก เข้าไปถล่ม แบบไม่ต้องคิดมากเลย โดยใช้ กฎการปะทะ แบบที่ผมเคยแนะนำไปแล้ว คือเล่นงาน ตัวสนับสนุน ที่อ่อนแอก่อนเสมอ

2. หากเกมสูสี ให้ใช้แท็งค์ กับ ไฟต์เตอร์กึ่งแท็งค์ เป็นตัววิ่งหลอก ไม่เข้าปะทะ ย้ำว่า อย่าเข้าปะทะ ให้วิ่งยั่ว ให้ฝ่ายตรงข้าม ยิงสกิลใส่เข้ามา โดยในระหว่างที่วิ่งหลอกล่อ ให้เมจ และแครี่ของเรา ( แต่เน้นว่า ต้องเป็นเมจ จะดีที่สุด ) ยิงสกิลเพื่อลดทอนเลือดของฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม ให้มากที่สุด ซึ่งเมื่อฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม ตัวไหนก็ตาม เพลี่ยงพล้ำ จนเลือดเหลือน้อย ก็ให้ฝ่ายเรา เปิดฉากเข้าโจมตีก่อนทันที โดยก็ต้องอาศัยกฎการปะทะ อยู่เหมือนเดิม คือ เล่นงานตัวที่เลือดน้อย เพราะโดนสกิลของเมจทีมเราก่อน จากนั้นก็เล่นงาน ตัวที่อ่อนแอกว่า ได้แก่ เมจ และแครี่ ก่อนเสมอ จากนั้น ค่อยมาเล่นงาน แท็งค์ กับ ไฟต์เตอร์กึ่งแท็งค์ เป็นตัวสุดท้าย

3. หากเกมของฝ่ายเราเป็นรอง เลเวลน้อยกว่า ให้ใช้การซุ่มในพุ่มไม้ แล้วหลอกศัตรูเข้ามาหา แล้วรุมยำให้ตาย จะล่อให้มา 1 ตัว 2 ตัว หรือ 3 ตัว หรือจะมาทั้งทีมก็ได้ แต่เวลาปะทะ ต้องไม่ยืนบวกกันตรงๆ ต้องโจมตีไป ถอยไป สลับกันโจมตี แล้วถอยไปด้วย แบบนี้ จะสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้ามได้มาก และที่สำคัญ ทีมเราจะไม่ตายเลยด้วย วิธีการล่อให้ศัตรูวิ่งตามมา ก็ไม่ยาก ใช้แท็งค์ หรือตัวที่มี Mobility สูงๆ เป็นตัวล่อครับ เช่น Taara ล่อให้พวกศัตรูวิ่งตามมา ในจุดที่เรา แอบซุ่มพุ่มไม้รออยู่ แบบนี้ ต่อให้เลเวลสูงกว่า ก็ไม่รอดครับ และจากการซุ่มแบบนี้เพียงแค่ครั้งเดียว หากฆ่าทีมฝ่ายตรงข้ามได้หมด หรือเกือบหมด จะทำให้ฝ่ายเรา มีเลเวล กลับมาสูสีทันที

หากทีมไหน สร้างจังหวะในการเข้าทำได้ดีกว่า ก็จะเป็นฝ่ายกุมชัยชนะ ได้ทุกอย่างไปแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ป้อม, มังกร Abyssal Dragon, หรือแม้แต่ Dark Slayer เพราะฝ่ายที่แพ้ หากไม่ตายยกทีม ที่เหลือ ก็ต้องบาดเจ็บหนัก เหลือเลือดน้อย จนต้องกลับไปเติมเลือดที่บ้านกันหมด ซึ่งความได้เปรียบแบบนี้ และเวลาที่สามารถเอาไปฆ่าพวก มังกร หรือมอนสเตอร์ในป่าได้ จะทำให้เกมเปลี่ยน และพลิกกลับมาสูสีได้เลยนะครับ

หากดูจากเงื่อนไขแล้ว จะเห็นได้ว่า แท็งค์ กับไฟต์เตอร์ ไม่ใช่ตัวที่ต้องบ้าระห่ำ เห็นศัตรูอยู่ 4 ตัว แล้ววิ่งเข้าไปกลางวง แล้วหวังว่า เพื่อนในทีม จะตามไปช่วยได้ แบบนั้น ยังไงก็ตายนะครับ เพราะนั่น ไม่ใช่หน้าที่หลักของแท็งค์ ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด คิดว่าแท็งค์ ต้องวิ่งเข้าไปบวกก่อนเสมอ อันที่จริงแล้ว แท็งค์ เป็นแค่ตัวล่อ หรือตัวหลอก และตัวชนบ้างเมื่อจำเป็นเท่านั้น แต่หน้าที่หลัก ของพวก เมจ และแครี่ ต้อง “หรอย” เลือดของ ศัตรูลงให้มากที่สุด หรือหากจำเป็น ต้องสนับสนุน และช่วยแท็งค์ ไม่ให้ตาย เวลาที่แท็งค์พุ่งเข้าชนกับศัตรูให้ แบบนั้นถึงจะถูกต้อง

จังหวะในการเข้าทำ หรือ การบวก แบบนี้ ผมขอใช้คำว่า “สเต็ป” แทนก็แล้วกันนะครับ เพราะถ้าดูในการแข่งขัน ระดับเมเจอร์ลีก จะเห็นได้ชัดๆ เลยว่า แท็งค์ หรือไฟต์เตอร์กึ่งแท็งค์ ของ แต่ละทีม จะไม่บ้าระห่ำ วิ่งเข้าไปชนแบบโง่ๆ โดยไม่สนใจว่าจะมีเพื่อนตามไปหรือไม่ เด็ดขาด แต่จะใช้การสเต็ป หลอกล่อศัตรูให้วิ่งตามมาบ้าง หรือ เข้าหลังจากที่ ศัตรูโดนเมจ หรือแอสซาซินของเราไปจนเลือดลดไปเยอะแล้วบ้าง ซึ่งนั่น คือสิ่งที่เรียกว่า การใช้ “สเต็ป” นั่นเองครับ

ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นเลยว่า ในการแข่งเมเจอร์ลีก จะไม่มีพวกที่วิ่งเข้าไปบวก แล้วตายในป้อมศัตรูเลยนะครับ นั่นแปลว่า เค้ารู้จังหวะ และสถานที่ ที่เหมาะสม และควรจะบวกด้วย ดังนั้น ถ้าเห็นว่า มีใครในทีมเรา เข้าไปบวกแล้วตายในป้อม นั่นแสดงว่า คนนั้น อ่อนมากๆ นะครับ ต่อให้ฆ่าศัตรูได้ แต่ตัวเองก็ตายในป้อมนั้นด้วย ยังไงก็ถือว่า ไม่คุ้มครับ

จังหวะการเข้าทำ หรือ เข้าไฟต์ ของฮีโร่ “แต่ละตัว” มีความแตกต่างกันไปนะครับ แม้จะเป็นฮีโร่ในตำแหน่งเดียวกัน เช่น ไฟต์เตอร์กึ่งแท็งค์ แต่ก็ต้องใช้จังหวะ ในการเข้าไปบวก ที่แตกต่างกัน ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับ สกิลของฮีโร่แต่ละตัวนะครับ ดังนั้น ถ้าผู้เล่น ไม่ศึกษาให้ดี ว่าฮีโร่แต่ละตัว มีจังหวะในการใช้สกิลอย่างไร และมีจุดเด่น จุดด้อย อย่างไร แพ้ทางตัวไหน เวลาที่เข้าไปบวก ก็จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “บวกผิดจังหวะ” ซึ่งนั่น อาจจะไม่ได้หมายถึงแค่ คนบวก ต้องตาย แต่อาจจะทำให้ตายยกทีม และทำให้ทีมแพ้ได้ แค่พลาดในจังหวะเดียวนะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้การจัดทีม ROV ที่ดี ควรมีฮีโร่ในตำแหน่งไหนบ้าง และควรไปเล่นในเลนไหนของแผนที่
เรื่องถัดไปพ่อมด Ignis ROV เมจที่เล่นได้มันส์สุดๆ และแรงสุดๆ เผาด้วยไฟ และสโลว์ด้วยน้ำแข็ง