จากที่ก่อนหน้านี้ ผมได้ย้ำไปเสมอว่า การเล่นเกม ROV ที่ดีที่สุดก็คือ การกดแบบเป็นทีม 5 คน ไปกับเพื่อน แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มีเพื่อน หรืออาจจะเป็นมือใหม่ หรือ ไม่รู้วิธีการหาเพื่อนแล้วกดกันเป็นทีม 5 คน ว่าต้องทำยังไง ทุกวันนี้ ก็ได้แต่กด Solo Rank ตัวคนเดียว หรืออย่างมากก็มีเพื่อนใน List รายชื่อที่เคยเล่นด้วยกัน มากดเป็นตี้กันไปบ้าง แต่ก็น้อยครั้งที่จะได้เล่น วันนี้ผมมี ทริคการหาทีม ลงแร็งค์ ROV ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนใน List ก็เล่นเป็นทีม 5 คนได้ รวมทั้งรู้ว่า มีโอกาสชนะสูงตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มเล่นเลยทีเดียว มันดูยังไง วิเคราะห์แบบไหน มาดูกันครับ
ทริคการหาทีม ลงแร็งค์ ROV ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่รู้กัน
ก่อนหน้านี้ในช่วงประมาณซีซั่นที่ 10 เห็นจะได้ ผมก็เคยเอาทริคแบบนี้มาบอกกันแล้วครั้งนึง เป็นเรื่องของ สูตรการเล่น Solo Rank ตัวคนเดียว ที่ไม่ได้กดคนเดียว ซึ่งถ้าใครเอาไปใช้ ก็รับรองว่า จะได้ผลดีอย่างแน่นอน แต่บางคนอาจจะมองว่า มันเก่าไปหรือเปล่า ตั้งแต่ซีซั่นที่ 10 แล้ว ตรงนี้ผมบอกเลยว่า ไม่เก่าไปครับ มันยังคงใช้ได้เสมอ และนี่คือ ขั้นตอน รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ที่จะทำให้เรา มีทีมที่แข็งแกร่ง ลงแร็งค์แล้วมีโอกาสชนะสูงขึ้นชัวร์ๆ ครับ
ทริคนี้เกิดมาจาก ระบบในเกม ที่เค้าก็ทำเอาไว้เผื่อให้คนที่ไม่มีเพื่อน ไม่มีทีม สามารถจัดทีม 5 คน เพื่อเล่นเป็นทีมได้ ไม่ต้องไปเสี่ยงเล่นแบบ กดไปคนเดียวให้ระบบสุ่มหาเพื่อนร่วมทีมมาให้ เพราะทุกวันนี้ ก็มีแต่คนบ่นว่า ทำไมระบบถึงสุ่มคนแบบนี้มาให้ คือ สุ่มแต่คนที่แย่ๆ สุ่มพวกที่ไม่เล่นจริงๆ จังๆ หรือสุ่มพวกที่ชอบโยนเกม Win Rate ต่ำๆ มาให้ ใช้ทริคนี้ก็จะหมดปัญหาเรื่องเหล่านี้ไปครับ อาจจะไม่ 100% แต่ดีกว่าที่ระบบสุ่มมาให้แน่นอนครับ
1. เข้าไปในช่องแชท ที่มุมซ้ายล่าง แตะเข้าไปเลย มันจะเป็นช่องเอาไว้สำหรับแชท
2. พยายามมองหาการประกาศตั้งห้อง “โหมดจัดอันดับ” ในระดับแร็งค์ที่ตัวเองอยู่ โดยให้มองหาระดับแร็งค์เดียวกับที่เราอยู่นะครับ
อย่าเล่นกับแร็งค์ที่สูงกว่า ถ้าฝีมือเรายังไม่เก่งจริง เพราะอาจจะไปเจอฝั่งตรงข้ามที่โหดๆ เนื่องจากการเล่นกับคนที่แร็งค์สูง จะพาไปเจอทีมฝั่งตรงข้ามที่มีแร็งค์สูงเช่นกัน
อย่าเล่นกับแร็งค์ที่ต่ำกว่า เพราะเมื่อเราแร็งค์สูงกว่า ก็จะพาให้ทีมไปเจอฝั่งตรงข้ามที่แร็งค์สูงเท่ากับเรา และคนในทีมที่แร็งค์ต่ำกว่าเรา อาจจะไม่สามารถรับมือได้
การปรับแพทช์ที่ผ่านมาเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้เทคนิค “พาเด็กไต่แร็งค์เกิดขึ้นอีก” จึงเซ็ตไว้ว่า จะจับคู่ให้ทีมที่มาเจอกัน มีระดับแร็งค์ที่สูงสุดของทีมเป็นที่ตั้ง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าทีมเรามีแร็งค์ Conqueror แค่ 1 คน ที่เหลือมีทั้ง Commander และ Diamond แบบนี้ มีโอกาสที่เราจะเจอกับฝั่งตรงข้ามที่เป็น Conqueror ทั้งทีมเลยก็ได้ หรือ Conqueror มากกว่า 1 คน ก็จะมีสูงมากๆ เพราะเค้าจะเอาแร็งค์สูงสุดในทีมเราเป็นที่ตั้งในการจับคู่ทีมฝั่งตรงข้ามนั่นเอง
แปลว่า คุณควรจะมองหาทีมที่เป็นระดับแร็งค์เดียวกัน อย่าเล่นในระดับแร็งค์ที่ต่ำกว่า หรือ สูงกว่า
แต่ถ้าคุณมั่นใจว่า ความรู้คุณแน่น ฝีมือคุณถึง ก็ให้กดกับแร็งค์ที่สูงกว่าได้เลยครับ อย่ากดกับแร็งค์ที่ต่ำกว่าเด็ดขาด เพราะนั่น คุณจะมีโอกาสแพ้สูตร เพราะคนที่แร็งค์ต่ำกว่า ที่คุณไปร่วมทีมด้วย เค้าอาจจะไม่พร้อมจะเจอฝั่งตรงข้ามที่แร็งค์สูงๆ ทั้งทีมก็เป็นได้
3. ให้ดูที่ Win Rate และจำนวนเกมที่เล่น เป็นสำคัญ จุดนี้คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากเรื่องของระดับแร็งค์ของผู้เล่นในทีมแล้ว เราก็ต้องดูทั้งเรื่องของ จำนวนเกมที่เล่น และ Win Rate เป็นสำคัญเลยนะครับ
สำหรับ Win Rate ที่แนะนำ ก็คือ เกิน 50% ขึ้นไปครับ ส่วนจำนวนเกมที่เล่นมาของผู้เล่นแต่ละคน ก็ต้องไม่น้อยกว่า 2 พันเกมขึ้นไปครับ ยิ่งมากก็ยิ่งดี
ในบางครั้ง เราอาจจะไปเจอ Win Rate 48 – 49% อันนี้ก็ให้มาดูที่จำนวนเกม ถ้าเห็นว่า มีสูงถึง 7 พันเกมขึ้นไป แบบนี้ถือว่า มีประสบการณ์สูง ก็สามารถไปร่วมกับเค้าได้ครับ คือ คนที่เล่นมาเยอะ จะได้เรื่องของประสบการณ์ หรือชั่วโมงบินนั่นเองครับ ดังนั้น ย่อมคุ้มค่ากว่าแน่นอนครับ
คนที่มี Win Rate 48% จากจำนวนการเล่น 9,000 เกม ย่อมเก่งกว่า คนที่มี Win Rate 60% จากจำนวนการเล่นเกมแค่ 200 กว่าเกมแน่นอนครับ ประสบการณ์มันต่างกันเยอะ
จากในภาพด้านบนนี้ จะเห็นได้ว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ มี Win Rate 50% ขึ้นไป และมีจำนวนเกมที่เล่นมาเยอะมากๆ เรียกได้ว่า แต่ละคนนี่ เชี่ยวชาญเอาเรื่อง ทำให้เมื่อเราเข้าไปแจม ก็จะมีโอกาสชนะสูง เพราะเจอแต่คนที่เล่นเป็นงานนั่นเองครับ โดยเฉพาะคนที่ 2 นี่ เล่นมา 8 พันกว่าเกม Win Rate อยู่ที่ 50% ถ้าเป็นการ Solo ก็ต้องบอกว่า เก่งเอาเรื่องครับ
ส่วนภาพด้านบนนี้ เป็นตัวอย่างของทีมที่เราไม่ควรจะกดเข้าไปแจมกับเค้านะครับ เพราะ Win Rate ต่ำกว่า 50% ถึง 2 คน แถมยังมี แร็งค์ที่ต่ำกว่า คือ Diamond อยู่ด้วย และคนที่ 3 ก็เล่นมาแค่ 210 เกม ประสบการณ์ยังน้อย มีความเสี่ยง และอันตรายมากๆ ครับ มีโอกาสที่จะแพ้สูงทีเดียว ถ้าเจอแบบนี้ กดผ่านไปเลยครับ หาห้องอื่นต่อไปครับ
จากภาพด้านบนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ของทีมที่เราไม่ควรไปแจม คนที่ 4 แร็งค์ Diamond ต่ำกว่าคนอื่นๆ ในทีม และมี Win Rate แค่ 46% จากจำนวนเกม 692 เกมนี่ ถือว่า ไม่ดีเลยครับเรียกว่า เล่นได้ไม่โอเค แบบนี้มีโอกาสที่จะทำให้ทีมแพ้ได้ รวมทั้งคนอื่นๆ ในทีม ก็ Win Rate ไม่ดีเช่นกัน การเลือกทีมแบบนี้ เรามีโอกาสเลือก ใจเย็นๆ อย่ารีบครับ ค่อยๆ เลือกไป ดีกว่าเลือกมั่วๆ แล้วเข้าไปเล่นแล้วก็ต้องมาหัวร้อน เพราะเจอคนโยนเกม หรือ ปัญหาอื่นๆ ไม่ต่างจากการ Solo Rank แบบนั้นไม่สนุกครับ สู้เสียเวลาในการหาห้องสักหน่อย แต่ได้ทีมที่ดี เล่นแล้วสนุก และอาจจะชวนกันเล่นต่อยาวๆ ก็ได้ แบบนี้ดีกว่าเยอะครับ
การเลือกหาแบบนี้ ข้อเสียก็คือ ต้องใช้เวลาในการหาค่อนข้างที่จะนานนะครับ ถ้าเราเล่นในเวลาที่มีคนเล่นน้อย เช่น ช่วงเช้ามากๆ จะมีห้องในระดับเดียวกับเราน้อย เพราะคนเล่นน้อย ก็ต้องอดทน และมองหาไปเรื่อยๆ ครับ แต่ถ้าเราเล่นในช่วงเวลา Prime Time ที่มีคนเล่นเยอะๆ การหาทีมแบบนี้จะทำได้ง่ายมากๆ และเร็วขึ้นเยอะครับ
ถามว่า Win Rate และ จำนวนเกมที่เล่นมาของแต่ละคน มันบอกอะไรเราได้? มันจะบอกเราได้ว่า ผู้เล่นแต่ละคน มีความ “เก๋าเกม” มากน้อยแค่ไหน และมี Skill Play จัดจ้านแค่ไหน พวกที่มี Win Rate สูงๆ จะเล่นเก่ง เทคนิคส่วนตัวดีครับ ที่เหลือ ก็มาว่ากันที่ ความเป็นทีม ว่า จะมีความเป็นทีม เดินเกมกันเป็นทีม มากน้อยแค่ไหน ตรงนี้ไม่มีใครบอกได้ ต้องไปดูกันในเกมอย่างเดียวครับ
4. เมื่อเข้าไปแจมกับเค้าแล้ว อย่าลืมแจ้งเค้าด้วยว่า เราถนัดเล่นในตำแหน่งอะไร ซึ่งโดยปกติแล้ว การเล่นแบบ Solo ตัวคนเดียว คุณต้องเล่นได้ทุกตำแหน่ง และเล่นฮีโร่ได้มากมาย รวมทั้งต้องมั่นใจฝีมือตัวเองด้วย แต่ก็ต้องแจ้งด้วยว่า เราถนัดอะไรมากที่สุด ถ้าตรงตามที่เค้าต้องการ เราก็ได้เล่น ถ้าไม่ตรง มีตำแหน่งนั้นอยู่แล้ว เค้าก็เตะเราออก ก็อย่าไปหัวร้อน อย่าไปโมโห มันเป็นเรื่องปกติ เพราะการกดเป็นทีม 5 คน มันต้องกำหนดตำแหน่งให้ตายตัวครับ อย่าไปมั่วกันที่หน้าดราฟตัว จะทำให้กลายเป็นการเลือกตัวมาแบบมั่วๆ แล้วก็พาให้ทีมแพ้ได้ง่ายๆ นะครับ
5. ปรับทัศนคติของตัวเองซะใหม่ จงจำไว้ว่า เมื่อใช้ทริคนี้ มันก็คือ การกดเป็นทีม 5 คนดีๆ นี่เองครับ นั่นแปลว่า เรามีโอกาสที่จะไปเจอกับฝั่งตรงข้ามที่กดเป็นทีม 5 คนอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะเป็นทีม 5 คนที่เล่นด้วยกันประจำ ดังนั้น เราจะมาเล่นแบบ Solo Rank คือ เน้นเห็นแก่ตัวไม่ได้ ต้องเล่นแบบเน้นความเป็นทีม เดินกับเพื่อน เน้นความสามัคคี ไม่อย่างนั้น ถ้าเอาเทคนิค หรือ แนวทางการเล่นแบบ กด Solo Rank ตัวคนเดียวมาใช้ จะมีโอกาสแพ้สูงแน่นอนครับ เนื่องจาก ฝั่งตรงข้ามเค้าจะมีความเป็นทีมมากกว่า เดินไปไหนพร้อมกันหลายๆ คน เน้นการใช้เทคนิคเรื่องของ “จำนวนฮีโร่” ก็จะทำให้ได้เปรียบกว่าเสมอ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะพลาด คือ ที่กล่าวมาตั้งแต่ข้อที่ 1-4 เข้าใจดี เอาไปทำได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่พอเข้าไปเล่นแล้ว กลับเล่นเหมือนเล่นตัวคนเดียวแบบ Solo Rank คือ ยืนกอดป้อม ไม่เดิน ไม่เน้นช่วยเพื่อน เช่น เล่นแครี่ก็ไม่เดินตามแท็งค์ หรือ เล่นแท็งค์ ก็ไม่ไปโซนให้แครี่ เดินมั่วไปหมด ปล่อยให้แครี่โดนรุมแล้วกดเลน อะไรแบบนี้ ซึ่งถ้าทำแบบนี้ ทีมจะมีโอกาสแพ้สูงมากๆ ตั้งแต่ต้นเกม ถ้าคุณไม่ปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง ยังมองว่า การกดแบบนี้ คือการ Solo Rank นั่นจะทำให้คุณเล่นออกมาแย่ และทำให้ทีมแพ้ได้ง่ายๆ เพราะการไม่มีส่วนร่วมของคุณเองนะครับ
ที่สำคัญก็คือ นอกจากจะต้องปรับทัศนคติของตัวเองแล้ว ยังต้องเปิดไมค์ และเปิดลำโพง สำหรับ การคอลเกม ด้วยนะครับ จะเล่นแบบปิดไมค์ ปิดลำโพง ปิดแชท เหมือนเล่นคนเดียวอย่างเมื่อก่อน ไม่ได้อีกต่อไปแล้วนะครับ ต้องเปิดไมค์ เพื่อทำการสื่อสารกันด้วย เพื่อให้จังหวะการเดินเกม การเข้าไฟต์ มันลงตัวที่สุด การเล่นแบบเป็นทีม 5 คน การสื่อสาร สำคัญที่สุดครับ จะอ้างว่า ไม่สะดวกเปิดไมค์ แบบนี้ไม่ได้นะครับ ถ้าไม่สะดวกเปิดไมค์ ก็ควรจะไปกดแบบคนเดียว หรือ Solo Rank ไปเลยนะครับ
ถามว่า ในข้อที่ 2 ทำไมถึงให้ไปหาห้องที่มีคนอื่นเค้าสร้างเอาไว้แล้ว ทำไมไม่สร้างห้องเอง แล้วประกาศหาคนเองซะเลยล่ะ แทนที่จะต้องมานั่งเสียเวลาคอยไล่หาห้องที่ใช่ นั่นก็เพราะว่า ถ้าเราสร้างห้องเอง เราจะมองไม่เห็น Win Rate และจำนวนเกมของเพื่อนร่วมทีมนะครับ ดังนั้น ใช้การไปแจมกับทีมของคนอื่น จะดีที่สุดครับ
ข้อควรระวัง : การเล่นด้วยทริคแบบนี้ ถ้าไปเจอทีมที่เค้ากดมาด้วยกัน 4 คน แล้วประมาณว่า ขาดคนนึง เลยมาประกาศหาคนเข้ามาแจมเล่นด้วย เราต้องเล่นให้ดีๆ นะครับ อย่าเล่นแบบโยนเกมเด็ดขาด เพราะอาจจะโดนทั้ง 4 คนนั้น รุมรายงานเราได้ ทางที่ดีที่สุด ก็คือ เล่นในตำแหน่ง และฮีโร่ที่เราถนัดมากที่สุด ซึ่งจะทำให้เราเล่นออกมาได้ดี จนสุดท้าย เมื่อเค้าเห็นเราเล่นได้ดี ก็จะชวนเราเล่นต่อกันอีกหลายๆ เกมยาวๆ และอาจจะแอดกันเป็นเพื่อนในเกมไว้ ทีนี้คุณก็จะเริ่มมีทีมประจำแล้วล่ะครับ ต่อไปการลงแร็งค์ของคุณ ก็จะไม่ต้อง Solo ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะจะมีเพื่อนที่เจอจากการเล่นแล้วเข้าขา ถูกใจกันแบบนี้นี่แหละครับ
จากข้อมูลใน ทริคการหาทีม ลงแร็งค์ ROV ที่ผมอธิบายมาทั้งหมดนี้ คงจะเห็นแล้วนะครับว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะมองกันก็คือ เรื่องของ Win Rate นั่นเองครับ ใช่ครับ เพราะเราไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน เราจะรู้ได้ยังไงว่าคนๆ นั้น เล่นเป็นมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องมาดูกันที่ Win Rate นะครับ และต้องดูที่จำนวนเกมที่เล่นด้วย ยิ่งจำนวนเกมที่เล่นเยอะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ ส่วน Win Rate ถ้าอยู่ที่ 50% ขึ้นไป ถือว่า โอเคครับ ( 49% ก็ยังโอเค แต่ถ้าต่ำกว่านั้น คือ ไม่โอเคแล้วครับ ) ซึ่งตัวของ Win Rate และระดับแร็งค์นี่แหละครับ ที่เค้านิยมเอาไปใช้สมัครเพื่อทดสอบเข้าร่วมทีม จัดทีมลงแข่งขันกัน ส่วนฝีมือ ก็ไปทดสอบกันอีกครั้งนั่นเองครับ
รู้แบบนี้แล้ว ถ้าเล่นไปเรื่อยๆ ก็เอาทริคนี้ไปใช้ได้เลยนะครับ แต่ถ้าจะเล่นเพื่อเก็บ Win Rate คงต้องหาทีมของตัวเอง กับเพื่อนๆ แล้วสร้างไอดีใหม่ แล้วทำ Win Rate สวยๆ เลย ก็จะดีที่สุดครับ ไม่ควรเอาไอดีที่เอาไว้เล่นสนุกๆ ไปสมัครเพื่อเข้าร่วมทีมแข่งขัน กับทีมต่างๆ เพราะ Win Rate มันจะไม่สวยนั่นเองครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand Return จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ รวมทั้งเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand Return นะครับ
