ถ้าพูดถึงเรื่องของปัญหาที่ว่า ทำไมอยู่ๆ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ที่ใช้งานอยู่ ก็เริ่มช้าลงทุกที ยิ่งนานวัน ก็รู้สึกว่า ยิ่งช้าลง พื้นที่จัดเก็บ ก็ดูน้อยลงด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ติดตั้งแอพอะไรเพิ่มเติมเลย แถมยังไม่ได้ถ่ายรูปอะไรอีก สาเหตุ เป็นเพราะอะไร คนส่วนใหญ่ มักจะมองข้าม แอพพลิเคชั่น LINE ไป ทั้งๆ ที่ เจ้าแอพนี้แหละครับ ตัวการใหญ่ ที่กินทรัพยากรของเครื่องเยอะ สูบทุกอย่าง ทั้งพื้นที่ใน SD card และ Bandwidth ของ 3G/4G แถมยังไม่มีลิมิต ในการเก็บข้อมูลอีกด้วย ยิ่งนานวัน ข้อมูลก็ยิ่งโตขึ้น เต็มพื้นที่หน่วยความจำได้เลยนะครับ ซึ่งหน่วยความจำ ที่เพิ่มขึ้นมา ก็ไม่ได้มาจากที่ไหนหรอกครับ ก็มาจาก ประวัติแชทใน LINE ที่เราไม่ได้ลบนั่นเอง เพราะส่วนใหญ่แล้ว เวลาเราอ่านแล้ว เราก็จะทิ้งเอาไว้แบบนั้น ไม่ได้ไปลบมัน ยิ่งในปัจจุบัน แต่ละคนก็มีเพื่อนฝูงมากขึ้น จำนวนกลุ่มสนทนา ก็ยิ่งเยอะเพิ่มขึ้น เป็นเงาตามตัว ซึ่งนั่น ทำให้ ประวัติแชทใน LINE เพิ่มขึ้น โดยไม่ได้ตั้งใจ คือไม่รู้ตัวว่า การมีประวัติการแชทเยอะๆ จะกินหน่วยความจำในเครื่องมากขนาดนี้ ยิ่งถ้าเป็น สมาร์ทโฟน รุ่นล่างๆ ที่สเปคไม่สูง หน่วยความจำ ROM ที่ให้มา แค่ 8 GB แล้วด้วยล่ะก็ แป็บเดียว ก็เต็มแน่นอนครับ ส่วนใหญ่ พอพื้นที่หน่วยความจำเต็ม สิ่งแรกที่จะไปลบเลยก็คือ รูป และวีดีโอ เพราะคิดว่า น่าจะเป็นสาเหตุหลัก แต่ต่อไปนี้ จำเอาไว้เลยนะครับ ว่าให้มาดูที่ แอพ LINE ก่อนเลยครับ เจ้านี่แหละ ตัวดี
ประวัติแชทใน LINE อ่านแล้ว ไม่สำคัญ ก็ลบไปซะ อย่าเก็บเอาไว้
ถ้าดูจากในรูป จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยนะครับ ว่า แอพ LINE ของผม กินพื้นที่หน่วยความจำ ในเครื่องผมไปถึง 3 GB ซึ่งนับว่าเยอะมากๆ ทั้งๆ ที่ ตัวแอพพลิเคชั่นเอง ใช้พื้นที่ในการทำงาน แค่เพียง 60 MB เท่านั้น ที่เหลือ อีก 2.88 GB มาจาก ประวัติแชทใน LINE และจำนวนรูป รวมทั้ง Cache ต่างๆ ที่ทางแอพได้เก็บเอาไว้ นับว่าเยอะมหาศาลมากๆ ทีเดียว สำหรับแอพๆ นึง บน สมาร์ทโฟน
วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ เมื่อแชทกับใครแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บ ก็ให้ลบทิ้งไปเลยครับ ไม่ต้องเก็บประวัติเอาไว้ บางคน เก็บประวัติการสนทนาเอาไว้ เพื่อเป็นหลักฐานบ้าง เพื่อประโยชน์ เวลาต้องมาค้นหาข้อมูลในภายหลังบ้าง ( เพราะเดี๋ยวนี้ ในแอพ LINE มีฟีเจอร์ สำหรับค้นหา ข้อความ ที่เคยแชทเอาไว้ด้วยนะครับ ) แต่นั่นมันไม่ถูกต้องครับ แนะนำให้ สำรองประวัติออกมา หรือ เก็บไว้ใน Keep ของทางแอพ LINE เองดีกว่า เพราะ Keep จะไปเก็บใน Cloud ของทาง LINE เอง ทำให้เรา ไม่ต้องมาเปลืองพื้นที่จัดเก็บในเครื่องให้วุ่นวาย
บางท่านอาจจะสงสัยว่า ถ้าข้อมูลก้อนนี้ ของทาง LINE มันโตขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ถ้าสมมติว่า มีหน่วยความจำ ROM ตั้ง 16 GB อย่างมือถือรุ่นท็อปในหลายๆ รุ่น ก็ไม่เห็นจะต้องมาสนใจเรื่องนี้เลย คำอธิบายก็คือ ข้อมูลที่โตขึ้นเรื่อยๆ ก้อนนี้ จะไปทำให้ ตัวแอพ LINE เอง เกิดความช้า ในการเปิดขึ้นมาทำงานก่อน เป็นอันดับแรก เพราะต้องโหลด ข้อมูลขึ้นมาทั้งก้อน และต่อมา ก็จะไปดึงทรัพยากรเครื่อง นั่นคือ RAM ของเครื่องอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีแบนด์วิธของ 3G/4G ที่ถูกดึงโดยตัวแอพเอง โดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัวนะครับ อย่าลืมว่า แอพ LINE จะทำงานแบบ Run in Background คือ ทำงานตลอดเวลา แม้ว่าตัวแอพเอง จะไม่ได้เปิดอยู่นะครับ
ก้อนข้อมูลก้อนนี้ มันเป็นสิ่งไม่จำเป็นเลยครับ เพราะข้อความแชทส่วนใหญ่ ไม่ได้มีความหมายอะไรอยู่แล้ว เป็นการคุยกันสนุกๆ ไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ในเครื่อง ให้เปลืองหน่วยความจำแต่อย่างใด อันไหนลบได้ ก็ลบไปเถอะครับ แล้วคุณจะรู้ว่า แอพ LINE เวลาที่มี ประวัติแชทใน LINE น้อยๆ มันทำงานได้เร็วกว่าเห็นๆ
