หนึ่งในพลังแฝงที่ผมใช้ในการลงแร็งค์ค่อนข้างบ่อย ทั้งในตำแหน่งแครี่สำหรับการ Solo Rank และในตำแหน่งซัพพอร์ตสำหรับการเล่นเป็นทีม ก็คือ Visceral Boost นั่นเองครับ ต้องบอกเลยว่า พลังแฝง Visceral Boost มีประโยชน์กับการเล่นเป็นอย่างมาก หากเราเข้าใจและนำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นทริคการเล่นที่ยังมีผู้เล่นส่วนน้อยที่รู้และนำมาใช้ ทำให้หากเราใช้พลังแฝงนี้ จะทำให้แผนการเล่นของเราเฉียบคมและได้เปรียบมากๆ ในช่วงต้นเกม รวมทั้งยังทำให้ฝั่งตรงข้ามรับมือไม่ถูกอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจ พลังแฝง Visceral Boost มากยิ่งขึ้น วันนี้ผมก็จะมาอธิบายกันแบบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า พลังแฝงนี้ มีประโยชน์ยังไง เหมาะกับฮีโร่ตัวไหน และควรหยิบมาใช้กับเกมแบบไหน?
พลังแฝง Visceral Boost มีประโยชน์ยังไง?
ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจกับคำอธิบายของพลังแฝงนี้กันก่อนนะครับ
Visceral Boost – เริ่มเกมด้วย LV2 และได้รับ XP เพิ่มขึ้น 50% จนถึง LV8 โดยระหว่างที่เอฟเฟกต์นี้ทำงาน จะทำให้ XP และ Gold ที่ได้จากครีปและมอนสเตอร์ป่าลดลง 25%
ด้วยคำอธิบายสกิลแบบนี้ถ้าแปลให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ฮีโร่ของเราจะเริ่มต้นเกมมาด้วยเลเวล 2 ทันที และจะได้รับ XP เพิ่มขึ้น 50% จนถึง เลเวล 8 ส่วน XP ที่ได้จากครีปเลน และมอนสเตอร์ป่า จะลดลง 25% งงล่ะสิ ตกลงได้ XP เพิ่มขึ้น หรือลดลงกันแน่? (ในแพทช์ก่อนหน้านี้ จะได้รับ XP จากครีปและมอนสเตอร์ป่า ลดลง 40% ซึ่งถือว่า เยอะมากๆ การหยิบมาเล่นก็ไม่ค่อยจะคุ้มสักเท่าไหร่ แต่พอมีการ ปรับแพทช์ มี.ค. 64 ก็ได้มีการปรับใหม่ ให้เหลือแค่ 25% นั่นจึงทำให้พลังแฝงนี้ กลายเป็นพลังแฝงประจำตัวสำหรับโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง)
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ XP ที่ว่าเพิ่มขึ้น ก็คือ XP ที่ได้จากอย่างอื่นนอกจากการฆ่าครีปเลนและมอนสเตอร์ป่านั่นเอง เช่น การช่วยเพื่อนฆ่าครีปเลน/มอนสเตอร์ป่า หรือ ฆ่าฮีโร่ฝั่งตรงข้ามได้ หรือ ช่วยฆ่าฮีโร่ฝั่งตรงข้าม XP จากการทำพวกนี้จะได้รับเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% โอเคนะครับ แต่การช่วยฆ่าครีปเลนและมอนสเตอร์ป่า จะได้รับ XP 75% จากปกติ (ลดลงไป 25%) เคลียร์นะครับ
อ่านแบบนี้ก็แปลว่า พลังแฝงนี้ ออกแบบมาเพื่อฮีโร่ในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต น่ะสิ ใช่มั้ย? ถูกต้องแล้วครับ Visceral Boost ถูกออกแบบมาสำหรับซัพพอร์ตโดยเฉพาะ ยิ่งมีการปรับใหม่ให้ได้รับ XP จากครีปเลน และมอนสเตอร์ป่ามากขึ้น ยิ่งทำให้มันกลายเป็นพลังแฝงประจำตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถามว่า แล้วเราจะเอา Visceral Boost ไปใช้กับฮีโร่ในตำแหน่งอื่นๆ ได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ได้ครับ
ถ้าจะให้สรุปง่ายๆ ก็คือ นอกจากจะใช้เพื่อช่วยให้ซัพพอร์ตเลเวลอัพเร็วขึ้นกว่าเดิมแล้ว พลังแฝงนี้ยังมีเอาไว้เพื่อช่วยให้ฮีโร่ที่เก่งขึ้นตอนเลเวล 2 มีความได้เปรียบมากขึ้นอีกด้วย ถามว่า ฮีโร่ที่ว่านั้น ต้องมีคุณสมบัติแบบไหน อธิบายง่ายๆ ก็พวกฮีโร่ที่จะเก่งขึ้นทันที ตอนที่เลเวล 2 นั่นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น
Ignis, Maloch, Tel’Annas, Zuka, Ryoma, Florentino, Paine, Valhein, Krixi, Thane, Riktor, Raz, The Joker
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกเลยว่า ในทีมแต่ละทีม ควรจะมีคนใช้พลังแฝงนี้ เพียงแค่ตำแหน่งเดียว หรือ คนเดียวพอนะครับ ไม่ควรใช้กันหลายคน เพราะจะทำให้เลเวลมันขึ้นได้ช้า มันต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง ซึ่งไม่คุ้มค่าแน่นอน ดังนั้น ใช้แค่คนเดียวในทีม ถือว่า โอเคที่สุดแล้วครับ
พลังแฝงนี้ถามว่า เหมาะสมกับฮีโร่ในตำแหน่งไหน ก็ต้องตอบว่า มันเหมาะสมกับตำแหน่งซัพพอร์ตมากที่สุด รองลงมาก็คือ ตำแหน่งแครี่, เมจ และออฟเลน และที่ห้ามทำก็คือ ห้ามใช้พลังแฝงนี้กับฮีโร่ในตำแหน่งฟาร์มป่าเด็ดขาด เพราะมันจะผิดอย่างแรง นอกนั้นสามารถหยิบมาใช้กับฮีโร่ในตำแหน่งอื่นๆ ได้ตามแผนการเล่นที่ได้วางเอาไว้
ย้ำอีกครั้งว่า สำหรับจำนวนฮีโร่ในทีมที่สามารถหยิบ Visceral Boost มาใส่ได้นั้น แนะนำให้หยิบมาใส่แค่ตัวเดียวพอนะครับ ถามว่า หยิบมาใส่หลายๆ ตัวในทีมได้มั้ย ก็ต้องตอบว่า ได้ แต่จะเสียมากกว่าได้นะครับ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า XP และ Gold ที่ได้จากครีปเลน และมอนสเตอร์ มันจะหายไป 25% จนถึงเลเวล 8 ซึ่งหากมีตัวทำดาเมจ เช่น เมจ กับ แครี่ ใช้ Visceral Boost ทั้งคู่ จะทำให้เลเวลขึ้นช้า และจนลง เมื่อจนลง ก็ซื้อไอเท็มได้ช้า เมื่อมีไอเท็มช้า ก็ทำดาเมจได้เบา และไม่สามารถฆ่าฮีโร่ฝั่งตรงข้ามได้นะครับ แต่ถ้าเราเลือกใส่แค่ตำแหน่งเดียวเช่น ใส่กับแครี่ ส่วนเมจก็พลังแฝงอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Visceral Boost ผลก็คือ แครี่เราอาจจะดาเมจเบาไปนิดช่วงกลางเกม แต่ยังมีดาเมจเวทของเมจมาช่วยชดเชยให้ตอนเข้าไฟต์นั่นเองครับ
พลังแฝง Visceral Boost เหมาะกับเกมแบบไหน?
นี่คือคำถามสำคัญ เพราะนอกจากเรื่องที่เรารู้ถึงประโยชน์, ความเหมาะสมในการหยิบ Visceral Boost มาใช้ และรู้แล้วว่า มันเหมาะกับฮีโร่ตัวไหนบ้าง คำถามสำคัญก็คือ แล้วมันเหมาะกับการเล่นในเกมแบบไหน?
1. การเล่นเป็นทีม 5 คน
การเล่นแบบที่เราเล่นกับเพื่อน หรือกดไปเป็นทีม 5 คน ตรงนี้เราจะมีแผนการเล่นที่เราซ้อม และวางแผนร่วมกับเพื่อนร่วมทีมไว้แล้ว และมีการเล่นด้วยกันบ่อยๆ ฝึกฝนจนเข้าใจกันอยู่แล้ว ดังนั้น การใช้ Visceral Boost นั้น จึงเหมาะกับตำแหน่งซัพพอร์ตมากที่สุด รองลงมาก็เป็นตำแหน่งออฟเลน หรือ เมจ ที่มีดาเมจจัดจ้านในช่วงต้นเกม เช่น Florentino, Raz พวกนี้หากมีเลเวล 2 จะทำให้โหดมากๆ ตั้งแต่เริ่มเกม
แล้วถามว่า จะให้มันโหดมากๆ ตั้งแต่เริ่มเกมไปทำไม? ก็เพื่อใช้กับแผนเวดป่าตั้งแต่ต้นเกมนั่นเองครับ โดยในหน้าดราฟตัวฮีโร่ Pick/Ban เราจะเห็นแล้วว่า การดราฟตัวฮีโร่ของฝั่งตรงข้ามเป็นอย่างไร เราสามารถเวดป่าได้หรือไม่ ถ้าเราเวดป่า ให้ใช้พลังแฝง Visceral Boost เข้ามาช่วยเลยครับ จะทำให้เราเวดได้ชัวร์มากขึ้น เพราะตัวทำดาเมจของทีมเราเลเวลสูงกว่า ก็จะไล่ฆ่าพวกฮีโร่ฝั่งตรงข้ามที่เข้ามาป้องกันป่าได้แบบรัวๆ เลยทีเดียว เช่น ทีมเรามี Florentino ออฟเลน ที่รำช่ำๆ มากๆ ก็ให้ใช้ Visceral Boost เลยครับ แล้วรวมกัน 4 คน ยกเว้นป่า เดินเข้าไปเวดป่าได้เลยครับ รับรองว่า ป่าแตก และฆ่าได้หมดทุกตัวที่เข้ามาขวางแน่นอนครับ เพราะ Florentino ตอนเลเวล 2 ก็รำแล้วฆ่าได้สบายๆ แล้วครับ
หรือบางทีมจะใช้ตัวทำดาเมจมาเป็นโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต เช่น Riktor, Ryoma ก็เอา Visceral Boost มาได้ และเดินเข้าป่าไปเวดป่าได้เลยครับ ฮีโร่พวกนี้ตอนเลเวล 2 ก็โหดแล้วครับ
2. การเล่นแบบ Solo ตัวคนเดียว
สำหรับการเล่นแบบ Solo ตัวคนเดียว หรือ กดไปคนเดียวนั้น การใช้ Visceral Boost จะแตกต่างไปครับ ไม่จำกัดว่าต้องเล่นในตำแหน่งซัพพอร์ตเท่านั้น เพราะการเล่นแบบตัวคนเดียว ส่วนใหญ่จะเกี่ยงกันไม่เล่นซัพพอร์ตอยู่แล้ว ดังนั้น การเล่นส่วนใหญ่จะต้องยืนหรือเดินไปไหนมาไหนตัวคนเดียว การเลือกใช้ Visceral Boost เราก็สามารถหยิบมาใช้ได้ทุกตำแหน่งยกเว้นป่า ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพื่อให้ตัวเราเองเก่งตั้งแต่ช่วงต้นเกม และสามารถเอาตัวรอดในช่วงต้นเกมได้ อันนี้ผมหมายถึงสำหรับฮีโร่ที่เราเล่นเป็นตัวทำดาเมจ และจะเก่งมากๆ ตอนที่เลเวล 2 นะครับ ตามที่ได้แนะนำไปแล้วว่ามีตัวไหนบ้าง
อย่างไรก็ตาม สำหรับการ Solo ตัวคนเดียว เอาจริงๆ ผมแนะนำให้ใช้กับตำแหน่งซัพพอร์ต จะดีที่สุดครับ อันนี้จากที่ทดสอบว่า ดีที่สุดครับ ไม่ว่าคุณจะเล่นซัพพอร์ตเป็นเมนหลัก จะเล่นแท็งค์ หรือหยิบแครี่ เมจ มาซัพพอร์ตแบบจำเป็นเพราะไม่มีใครในทีมยอมเล่น พลังแฝง Visceral Boost จะช่วยทำให้คุณเล่นได้ง่ายขึ้น เลเวลสูงเร็วขึ้น ไม่ตามหลังเพื่อนมาก และเก่งมากขึ้นแน่นอนครับ การเงินก็จะไม่แย่เพราะมีเอฟเฟ็กต์จากพลังแฝงเข้ามาช่วยในเรื่องการเงินด้วย ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเล่นฮีโร่ตัวไหน ถ้าต้องโดนโบ้ยมาเล่นซัพพอร์ต ใช้ Visceral Boost เลยครับ หรือถ้าเล่นออฟเลน แล้วฮีโร่ที่คุณเล่นมันโหดมากตอนเลเวล 2 ก็เลือกพลังแฝงนี้มาใช้ได้เลยครับ จะได้กดเลนออฟเลนฝั่งตรงข้ามได้ทันทีตั้งแต่เริ่มเกมมา
สรุปสั้นๆ ก็คือ พลังแฝง Visceral Boost มันเหมาะกับตำแหน่งซัพพอร์ตมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการเล่นด้วยแผนการเดินเกมเร็ว เวดป่าตั้งแต่ต้นเกม เน้นการชวนทะเลาะ และเข้าไฟต์ในป่าเป็นหลักตั้งแต่ต้นเกม Visceral Boost ก็จะช่วยคุณได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะตำแหน่งซัพพอร์ตนะครับ ถ้าจะเล่นด้วยแผนเวดป่า เอาไปให้เมจ หรือ ออฟเลนใช้ก็ได้ครับ ขอแค่เป็นฮีโรที่จะเก่งและดาเมจแรงเว่อร์ๆ ตอนเลเวล 2 แค่นั้นก็พอแล้วครับ รับรองว่า ป่าแตกกระจุยแน่นอนครับ เดินเกมเร็วและได้เปรียบสมดังที่ตั้งใจเอาไว้แน่นอน อันนี้พูดถึงในกรณีที่ผู้เล่นคนนั้น มี Skill Play ที่สูงในการเล่นฮีโร่ตัวนั้นจริงๆ นะครับ และแผนเวดป่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเล่นแบบเป็นทีมนะครับ สำหรับการ Solo ตัวคนเดียว ควรหยิบพลังแฝงนี้ไปใช้กับตำแหน่งซัพพอร์ตจะดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเล่นซัพพอร์ตด้วยฮีโร่แบบไหนก็ตาม ใช้พลังแฝงนี้เพื่อช่วยเพิ่มเลเวลให้ฮีโร่ของคุณได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิมได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณช่วยแบกทีมได้ดีมากขึ้น
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
