ผมเชื่อว่า ทุกท่าน ที่เล่นเกม ROV มาเป็นเวลานาน คงจะเจอปัญหาเช่นเดียวกับที่ผมเจอบ่อยๆ นั่นคือ ในทีมที่เราเลือกเล่น มีตัวฟาร์มในทีมหลายตัว คือ มีหลายตัว เลือกสกิล Punish ซึ่งเป็นสกิล สำหรับฟาร์มป่า มาเล่นในเกม ตั้งแต่หน้าเลือกตัวละคร ทั้งแอสซาซิน แครี่ ไฟต์เตอร์ หรือแม้แต่ แท็งค์ บางตัว ก็เลือกสกิลสำหรับฟาร์มป่ามาใช้ เพื่อจะออกของป่า ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ ผู้เล่น จะเริ่มด่ากันเอง ตั้งแต่ตอนเลือกตัวละครเลยทีเดียว เพราะกลัวว่า คนอื่น จะมาแย่งฟาร์มป่า ซึ่งพอเริ่มเกมมา มันก็มีการแย่งฟาร์มป่ากันจริงๆ เพราะแต่ละคน ก็คิดว่า ตัวเองฟาร์มแล้ว เก่งสุด วันนี้ ผมมีคำแนะนำ มาบอกกัน ว่าจริงๆ แล้ว ฮีโร่ตัวไหนกันแน่ ที่ควรจะต้องได้ ฟาร์มป่าแบบเต็มๆ
มีตัวฟาร์มในทีมหลายตัว ดูยังไง หรือตกลงกันยังไง ว่าตัวไหนควรฟาร์ม?
ยกตัวอย่าง เคสกรณีศึกษา ที่ลูกเพจส่งเข้ามาสอบกันเลยนะครับ คือ สมมุติว่า ในทีม มีทั้ง Wukong, Tel’Annas และ Violet ซึ่งทั้งสามตัว ก็ออกสกิล Punish สำหรับฟาร์มป่ามาทั้งหมด ถามว่า ตัวไหน ควรจะได้ฟาร์มป่าแบบเต็มๆ ทุกท่านคิดว่า ตัวไหนครับ?
คำตอบจะอยู่ในหน้ารอโหลดเล่นเกม ที่เราจะเห็นศัตรูครับ ว่ามีฮีโร่ตัวไหนบ้าง ในทีมฝั่งตรงข้าม ถ้าฝ่ายตรงข้าม มีฮีโร่ที่เป็นสายยิงไกล เช่น แครี่ กับเมจ หลายตัว มีแท็งค์แค่ตัวเดียว Wukong ต้องฟาร์มป่าครับ ส่วน Tel’Annas กับ Violet แยกกันไปยืนเลนครับ โดยไวโอเล็ต จะยืนเลนกลางก็ได้ หรือ ออฟเลน ก็ได้ แต่ Tel’Annas จะยืนได้แค่ เลนกลาง กับ เลนมังกร Abyssal Dragon เท่านั้น
แต่ถ้าฝ่ายตรงข้าม มีแท็งค์ กับไฟต์เตอร์กึ่งแท็งค์ หรือไฟต์เตอร์ธรรมดา หรือ แอสซาซิน รวมกันแล้ว มากถึง 3 ตัว มีแครี่ เมจ หรือ ซัพพอร์ต รวมกันได้แค่ 2 ตัว แบบนี้ แครี่ ตัวใด ตัวหนึ่ง สามารถมาฟาร์มได้ครับ ซึ่งต้องตกลงกันเอง แต่ถ้าจะให้ดี ควรให้ ไวโอเล็ต ฟาร์มก่อน 1 รอบ จากนั้นที่เหลือ Tel’Annas จึงค่อยมาฟาร์ม แบบนี้ จะดีที่สุดครับ ส่วน Wukong ไปยืน ออฟเลน เลยครับ
เห็นมั้ยครับว่า จริงๆ แล้ว ในทีมหนึ่ง สามารถมีตัวฟาร์ม หรือตัวที่จะออกไอเท็มป่า ได้มากกว่า 1 ตัว แต่ตัวที่ฟาร์มป่าจริงๆ จะมีได้แค่ ตัวเดียวเท่านั้น ในแต่ละครั้ง ซึ่งอาจจะแบ่งกันฟาร์มก็ได้ หรือจะฟาร์คนเดียวยาวๆ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งตัวที่ไม่ได้มีหน้าที่ฟาร์มป่า ต้องจำไว้เลยว่า “ห้ามไปแย่งฟาร์มมอนสเตอร์ในป่าของเราเลย แม้แต่ตัวเดียว” ไม่อย่างนั้น ตัวฟาร์มป่า ของทีมเรา จะไม่เกิด หากจะอยากฟาร์มป่าจริงๆ ก็ไปตีนก หรือ ตีมอนสเตอร์ในป่าของฝั่งศัตรูแทนจะดีกว่า
ข้อดีอีกอย่างของการที่ทีม มีตัวฟาร์มป่า มากกว่าหนึ่งตัวก็คือ เวลาที่ตีเอา มังกร Abyssal Dragon นั้น จะได้เปรียบมากๆ เพราะสามารถกดสกิล Frostbite ใส่มังกร ได้ถึง 3 ครั้ง ( คนที่มีสกิลฟาร์มป่า กดได้ คนละ 1 ครั้ง ) ซึ่งสามารถลดเลือดมังกรลงไปรวมๆ ได้ถึง 3,6xx เลยนะครับ ( ช่วงกลางเกมนะครับ ถ้าปลายเกม จะลดได้มหาศาลกว่านี้อีกเยอะ ) ทำให้โอกาสที่จะขโมยมังกร หรือแย่งมังกรจากฝ่ายตรงข้าม มีสูงมากๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงตาย หรือพากันไปตายทั้งทีม เพื่อแย่งมังกรเลย
สำหรับคนที่เล่นเป็นงาน จะรู้ว่าการ มีตัวฟาร์มในทีมหลายตัว ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย ถ้าไม่แย่งกันฟาร์มป่าของฝั่งตัวเอง เพราะปัจจุบัน มีฮีโร่หลายตัวมากๆ ที่ต้องการใช้ ไอเท็มป่า ซึ่งเมื่อต้องการใช้ไอเท็มป่า ก็จำเป็นต้องใช้สกิล Punish เพื่อจะได้ซื้อไอเท็มป่าได้ ดังนั้น คนที่เล่นเป็นงาน จึงต้องรู้ว่า การที่ในทีม มีคนใช้สกิลป่าหลายคน ก็ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาใดๆ ถ้าทุกคน รู้หน้าที่ และตำแหน่งที่ควรเล่นของตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น ผมเลือกเล่น Fennik แล้วเลือกใช้สกิลป่า เพื่อจะซื้อไอเท็มป่า อย่าง Soulreaver แต่ในทีม ตอนเลือกตัวละคร ก็มีคนเลือก Nakroth และ Lu Bu ซึ่งใช้สกิลป่า มาด้วยเช่นเดียวกัน ต่างคน ต่างก็ไม่ได้ว่าอะไรกัน พอเริ่มเกมมา ทุกคนก็รู้งาน Lu Bu วิ่งไปเลนมังกรเล็ก หรือ ออฟเลน Nakroth วิ่งเข้าป่า ไปฟาร์มเอาบัพฟ้าก่อน ส่วนผม วิ่งมาที่ป้อม ในเลนมังกรใหญ่ หรือ Abyssal Dragon เพื่อยืนเลน เห็นมั้ยครับว่า มันก็ไม่ได้มีผลอะไรเลย ถ้าทุกคนรู้งาน และรู้หน้าที่ของตัวเอง
หลายท่านอาจจะบอกว่า ผมก็โลกสวย คิดเหรอว่า ไอ้พวกเด็กเกรียนๆ มันจะไปรู้เรื่องพวกนี้ ก็นี่ไงครับ คือหน้าที่ของทุกท่าน ที่จะช่วยกันแชร์บทความนี้ไปให้มากที่สุด นำไปแชร์ในกลุ่มผู้เล่น ROV ที่มีคนอยู่เยอะๆ ก็ได้ครับ เด็กเกรียนๆ พวกนั้น มันจะได้อ่าน แล้วจะได้รู้ว่า ควรจะต้องเล่นอย่างไร ไม่ใช่เปิดเกมมา แล้วก็มาแย่งฟาร์ม ถ้าท่านไม่แชร์ เรื่องพวกนี้ออกไป เด็กๆ ที่ขาดความรู้ มันก็ยังจะเล่นแบบเกรียนๆ ต่อไป แล้วท่านเอง ที่สุ่มทีมมาเล่นแบบ Solo Rank ก็จะลำบากกันต่อไปนะครับ
