อย่างที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์แนวทางการเล่น ROV หลังปรับแพทช์ใหม่ โรงเรียนเวทมนต์ ไปแล้วนั้น จะเห็นได้ว่า ฮีโร่ที่จะได้รับการปรับความสามารถให้เก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ ก็จะเป็นฮีโร่ในตำแหน่งเมจนั่นเองครับ ซึ่งได้รับผลจากหลายๆ เรื่อง ก็แน่นอนล่ะครับ มันเป็นแพทช์ที่เกี่ยวกับเมจ ก็ต้องบัพความสามารถของตำแหน่งเมจโดยรวมอยู่แล้ว ทีนี้ เมื่อเป็นแบบนี้ คนที่เล่น แท็งค์ หรือ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต หลายๆ คน ก็อาจจะรู้สึกกังวล น้อยใจ และเซ็งที่ว่า ทำไมบัพแต่ตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจ ทำไมไม่เห็นใจพวก แท็งค์ หรือ ซัพพอร์ตบ้าง ใจเย็นๆ ครับ วิธีแก้ทางเมจ ROV และไอเท็มเวทใหม่ มีอยู่แล้วครับ และเมื่อเข้าใจ ก็จะบอกได้เลยว่า เมจตัวไหนเก่งขึ้น ก็มาดิค้าบ หรือ เมจตัวไหนใส่ไอเท็มเวทใหม่ เจาะเกราะเวท +150 เหรอ ก็มาดิค้าบ ท้าทายแบบนี้ได้เลย เพราะซัพพอร์ต หรือ แท็งค์ของเรา รับแรงกระแทกได้ไหว และเอาอยู่แน่นอนครับ
วิธีแก้ทางเมจ ROV และไอเท็มเวทใหม่ ใน ROV แพทช์ใหม่ โรงเรียนเวทมนต์ Carano
คนที่เล่นตำแหน่ง แท็งค์ หรือ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ของทีม ไม่ต้องกังวลไปนะครับ การปรับให้เมจมันเก่งขึ้นมา หรือ มีไอเท็มเวทใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 2 ชิ้น ก็ไม่ได้ทำให้การเล่นในตำแหน่งเดิม มันยากขึ้นแต่อย่างใด เราเพียงแค่ต้องปรับบางสิ่งบางอย่างเพื่อรับมือบ้าง ก็เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าถามว่า มันต้องเปลี่ยนแปลงอะไรจนยุ่งยาก และวุ่นวายมั้ย ตรงนี้ตอบได้เลยว่า ไม่ต้องครับ เราปรับแค่เล็กน้อย ย้ำว่า เล็กน้อยจริงๆ ครับ ซึ่งผมจะอธิบายให้ละเอียด และทำให้ทุกคนเข้าใจ จะได้ไม่ต้องกังวลกับเมจในแพทช์ใหม่นี้ ว่ามันจะเก่งเกินไป จนแท็งค์โดนยำเละเทะเป็นขนมเลย อันนี้มันก็เกินไปนะครับ
สำหรับวิธีการที่ผมจะแนะนำนี้ จะเน้นข้อมูลเพื่อใช้กับ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ของทีม เป็นหลักนะครับ แต่ผู้ที่เล่นตำแหน่ง ไฟต์เตอร์ออฟเลน ก็สามารถเอาบางอย่างไปปรับใช้ได้ด้วยเช่นกัน
1. ปรับรูนใหม่
นี่คือสิ่งแรกที่ผู้เล่นตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต จำเป็นต้องทำเป็นอย่างแรกเลยนะครับ ซึ่งตรงนี้ ถามว่า ต้องปรับอะไรมากมายเลยเหรือไม่ ตอบเลยว่า ไม่ครับ และมันมีเงื่อนไขในการปรับด้วย ซึ่งส่วนที่เราจะปรับจริงๆ ก็คือ การปรับจาก Prowess เป็น Herculean Power ทั้ง 10 ชิ้นเลย แค่นั้นเองครับ เพราะเมื่อเราปรับแบบนี้ จะทำให้ได้ ต้านทานเวท +50 หน่วย ตั้งแต่ต้นเกม
ถามว่า มีผลอะไร มีผลแน่นอน กับเกมที่เราต้องเจอกับพวกเมจที่มีดาเมจแรงมากๆ ในช่วงต้นเกม เช่น Raz หรือ เจอกับทีมฝั่งตรงข้าม ที่มีเมจ 2 ตัวในทีม เช่น เมจเลนกลางตัวนึง เมจฟาร์มป่าตัวนึง หรือ เจอกับ แครี่ฝั่งตรงข้าม ที่ทำดาเมจเวทแรงๆ ผสมมาด้วยเช่น Tel’Annas ถ้าเจอแบบนี้ เราต้องใช้รูน Herculean Power เท่านั้นครับ ถึงจะทำให้ต้นเกม เรายืนไหว และไม่เจ็บมาก
ซึ่งถ้าเราไม่เจอตัวทำดาเมจเวทแรงๆ ในช่วงต้นเกม อย่างที่ผมได้ยกตัวอย่างมานั้น เช่น ฝั่งตรงข้ามมีแค่ Ishar ตัวเดียว ที่เป็นเมจเลนกลาง และฮีโร่ตัวอื่นๆ ในทีม ก็ไม่ใช่ตัวทำดาเมจเวทอะไรเลย แบบนี้ ตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ก็สามารถใช้รูนแท็งค์ปกติมาตรฐานได้ ที่เป็น Prowess นั่นแหละครับ ใช้ได้เลย ไม่มีปัญหาครับ
2. เลือกใช้ฮีโร่ที่มีค่าเกราะกายภาพเริ่มต้นสูงๆ
เพื่อที่ต้นเกม เราจะได้ไปเน้นออกไอเท็มกันเวทมาติดตัวไว้ก่อนได้ เช่น Mortos, Baldum, Omega, Xeniel ซึ่งจากฮีโร่ตัวอย่างที่ยกมา จะเห็นว่า ฮีโร่เหล่านี้ จะมีสกิลติดตัว หรือ สกิลที่ใช้เพื่อสร้างโล่ อยู่กับตัวอยู่แล้ว เพื่อเน้นการป้องกันดาเมจกายภาพ หรือ โล่ดูดซับความเสียหาย ซึ่งข้อดีก็คือ ต้นเกม มันจะแข็งแกร่งมากๆ เมื่อเจอกับพวกที่โจมตีแบบกายภาพ ทำให้เราไม่ต้องมาออกไอเท็มเกราะกายภาพ ในช่วงเริ่มเกมทันที แต่ทำให้เรา สามารถออกไอเท็มกันเวทได้ตั้งแต่เริ่มเกมแทน
เพราะถ้าเราวิเคราะห์ดูให้ดีๆ จะเห็นว่า แท็งค์ หรือ ซัพพอร์ตของเราที่เล่นในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ที่มักจะตายตั้งแต่ต้นเกมในช่วงที่ยังไม่เลเวล 3 – 4 เลยนั้น สาเหตุการตายส่วนใหญ่ จะมาจาก การโดนดาเมจเวท หรือ สกิลจากเมจ ในช่วงต้นเกมเข้าไปเต็มๆ ทำให้บาดเจ็บหนักมาก จนตายได้ง่ายๆ นั่นเพราะว่า แท็งค์ หรือ ซัพพอร์ตของเรา มีแต่เกราะกายภาพนั่นเอง พอโดนดาเมจเวทเข้าไป ก็ไส้แตก เพราะมีค่าการต้านทานเวทน้อยมากๆ นั่นเอง
ทีนี้ ถ้าเราปรับใหม่ มาเน้นออกไอเท็มกันเวทตั้งแต่เริ่มเกม เมื่อเราโดนดาเมจเวทจากเมจในช่วงต้นเกม เราก็จะไม่เจ็บมาก และทำให้ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ของเราแข็งแกร่ง และตายยากตั้งแต่เลเวล 2-3 ไม่ตายง่ายๆ เหมือนเดิมอีกแล้ว
แต่อย่างที่บอกไปแล้วในข้อ 1 ใช่ว่าจะทำแบบนี้ในทุกๆ เกมนะครับ เราจะทำเฉพาะเกมที่เจอกับเมจฝั่งตรงข้ามที่ดาเมจเวทแรงๆ ตั้งแต่ต้นเกม เช่น Raz แต่ถ้าเราไม่ได้เจอเมจพวกที่ทำดาเมจแรงๆ ตั้งแต่ต้นเกม เราก็ไม่ต้องไปเน้นไอเท็มกันเวทอะไรมากมายก็ได้ครับ ใช้สเต็ปหลบหลีกเอาก็ได้เช่นกัน
3. ลำดับเวลาการออกไอเท็มกันเวท ในแต่ละช่วงของเกม
คนที่เล่นฮีโร่ในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ต้องเข้าใจเรื่อง จังหวะ หรือเวลาที่เหมาะสมในการออกไอเท็มเป็นอย่างมาก มากกว่าฮีโร่ในตำแหน่งอื่น เพราะว่า โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต จะมีเงินน้อยกว่าชาวบ้านเค้า โกลด์ที่มีต้องใช้ให้คุ้มค่า ออกไอเท็มให้เหมาะสมกับช่วงเวลา และสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งจากประสบกาณ์ ผมได้ทำเป็นสูตรสำหรับการออกไอเท็ม เวลาเจอกับฝั่งตรงข้าม ที่มีเมจแรงๆ เอาไว้ (จะกี่ตัวก็ตาม) ตามนี้เลย
ต้นเกม
เมื่อใส่แบบนี้ จะทำให้ได้การต้านทานเวททั้งหมดเป็น Gilded Greaves (110) + Gladiator’s Gauntlets (90) + Gladiator’s Gauntlets (90) = 290 หน่วย เมื่อรวมกับรูน Herculean Power ก็จะทำให้มีค่าการต้านทานเวทสูงถึง 340 หน่วย ( มากกว่า Gaia’s Standard และ น้อยกว่า Medallion of Troy นิดเดียวจริงๆ) นั่นเท่ากับว่า ในช่วงต้นเกม ฮีโร่ของเราจะเหมือนใส่ไอเท็มต้านทานเวทชิ้นใหญ่เอาไว้ชิ้นนึงเลยทีเดียว รับมือกับเมจได้สบาย แม้แต่ Raz ก็ฆ่าเราไม่ได้ในคอมโบเดียวแน่นอนครับ
ตรงนี้ถือว่า สำคัญที่สุดครับ นั่นคือ ช่วงต้นเกมนั่นเอง ถ้าเราใส่ไอเท็มกันเวทได้ถึงขนาดนี้ จะทำให้เราสามารถรับดาเมจจากเมจได้สบายๆ แน่นอนครับ ต่อให้เมจใส่ไอเท็มเจาะเกราะเวทมา ก็ยังรับได้อยู่ครับ เพราะยิ่งเวลาผ่านไป เกราะเวทเราก็จะยิ่งหนามากขึ้น มากขึ้นไปเรื่อยๆ
กลางเกม
การจะอัพไอเท็มซัพพอร์ต ขึ้นเป็นไอเท็มชิ้นใหญ่ หรือ ขั้นสูงสุดก่อน แล้วค่อยมาอัพไอเท็มกันเวทให้เป็นชิ้นกลาง หรือ อัพไอเท็มซัพพอร์ตเป็นแค่ชิ้นกลาง แล้วรีบมาอัพไอเท็มกันเวทให้เป็นชิ้นกลางก่อนนั้น มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ ถ้าดูแล้ว เมจฝั่งตรงข้าม ดาเมจเวทแรง หรือ มีเมจ 2 ตัว เช่น ตัวฟาร์มป่า และเลนกลาง แบบนี้ ควรเน้นที่การอัพไอเท็มกันเวทให้เป็นระดับกลางก่อนครับ แล้วค่อยมาอัพไอเท็มซัพพอร์ต จากระดับกลาง ขึ้นเป็นชิ้นใหญ่ หรือ ระดับสูงสุดทีหลัง เพราะการป้องกันดาเมจเวท มันสำคัญกว่า เนื่องจาก ดาเมจกายภาพ นอกจากไอเท็มและรูนแล้ว เรายังได้จากสกิลของฮีโร่ที่เราเล่นตามที่ผมได้แนะนำไปแล้วในข้อ 2 นั่นเองครับ
เลทเกม
ในช่วงเลทเกม จะออกไอเท็มตามสถานการณ์ครับ ซึ่งตรงนี้ จะออกไอเท็มกันเวท กี่ชิ้นถึงจะเหมาะสมนั้น เราไปดูตามข้อที่ 4 กันเลยดีกว่าครับ
4. เลือกใส่ไอเท็มต้านทานเวท ตามหลักการนี้
ถ้าเจอเมจฝั่งตรงข้าม ตั้งแต่ 1-2 ตัวขึ้นไป ให้ออกไอเท็มกันเวท 1.5 – 2 ชิ้น (คำว่า 1.5 ชิ้นคืออะไร ไปอ่านได้ในข้อ 5 ครับ)
ถ้าเจอเมจฝั่งตรงข้าม ตั้งแต่ 2-3 ตัวขึ้นไป ให้ออกไอเท็มกันเวท 2-3 ชิ้น
เหตุผลที่ชิ้นสุดท้าย แนะนำให้เป็น Uriel’s Brand ก็เพราะว่า ในช่วงเลทเกม เมจฝั่งตรงข้าม จะออกไอเท็มเจาะเกราะเวทเป็นเปอร์เซ็นต์อย่าง Staff of Nuul มาอยู่แล้ว การเพิ่มค่าการต้านทานเวทขึ้นไปอีก ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะมันถูกเจาะเกราะเวทเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ดี ดังนั้นแล้ว การเพิ่มโล่เพื่อช่วยป้องกันดาเมจเวท เมื่อ HP ต่ำกว่า 40% จะดีกว่าเยอะครับ (รายละเอียด ไอเท็ม Uriel’s Brand ผมได้เขียนอธิบายไว้แล้ว เข้าไปอ่านกันได้เลยครับ)
สูตรไอเท็มกันเวท กรณีที่เจอพวกเมจฝั่งตรงข้ามหลายตัว และแรงมากๆ ในทีมฝั่งตรงข้ามก็คือ การใช้ไอเท็ม 3 ชิ้นนี้ Medallion of Troy, Gaia’s Standard และ Uriel’s Brand รับรองว่า เอาอยู่แน่นอนครับ แต่ถ้าเจอฝั่งตรงข้าม มีเมจมา 5 ตัวเลย ยกทีมเล่นเมจกันหมด เราก็เพิ่ม Hyoga’s Edge มาอีกชิ้น แค่นี้ก็จบแล้วครับ รวมรองเท้ากันเวท กับไอเท็มซัพพอร์ตอีกชิ้น ก็ครบ 6 ชิ้นพอดี รับมือกับเมจฝั่งตรงข้าม 5 ตัวได้แบบสบายๆ เลยครับ
5. ใช้การคอมโบคู่กันของไอเท็มเวทชิ้นใหญ่ กับชิ้นกลาง
อีกหนึ่งสูตรที่ถือได้ว่า เป็นสูตรที่ใช้กันมานาน ตั้งแต่ ROV ในยุคแรกๆ จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังสามารถใช้ได้อยู่ หรือที่หลายคนอาจจะเข้าใจว่า มันคือ การออกไอเท็มต้านทานเวท 1.5 ชิ้น นั่นเอง ไม่ต้องงงไปครับ ว่ามันคืออะไร มันคือการออกไอเท็มกันเวทชิ้นใหญ่ คู่กับไอเท็มกันเวทชิ้นกลาง นั่นเองครับ เพื่ออะไร และเพราะอะไร?
สูตรที่ว่ามานี้ คือการใช้ Medallion of Troy + Belt of Clarity เพื่อเน้นการป้องกันดาเมจเวทแบบหนักๆ ประเภท Poke สกิลแรงๆ และช่วยฟื้นฟู HP ให้กับฮีโร่อย่างต่อเนื่อง และ ลดคูลดาวน์ให้ฮีโร่อีกด้วย เซ็ตนี้ป้องกันเวทได้สูงที่สุดแล้ว และช่วยให้ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ยืนในสนามรบได้นานขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลับบ้านเลย
ซึ่งสูตรนี้ เรานิยมใช้กับไอเท็ม Medallion of Troy เท่านั้น เพราะจะใช้กับ Gaia’s Standard ไม่ได้ เนื่องจาก สกิลติดตัว มันจะทับซ้อนกันนั่นเอง
ถามว่า สูตรนี้ ต้องใช้กับเกมที่เจอกับทีมที่มีเมจหลายตัวอย่างเดียวหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่า ไม่จำเป็นครับ สูตรนี้สามารถใช้กับเกมที่ฝั่งตรงข้ามมีเมจแค่ตัวเดียวได้ จะดาเมจเวทแรงไม่แรง ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญที่เราใช้สูตรนี้ก็คือ การเด้งเลือด หรือ การฟื้นฟู HP จาก Belt of Clarity นั่นเองครับ พูดง่ายๆ ก็คือ การทำให้ Medallion of Troy มันเด้งเลือดได้เหมือนกัน Gaia’s Standard นั่นเอง แต่อาจจะน้อยกว่า แต่มันก็ทำประโยชน์ให้กับ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต เวลาที่เล่นเป็นอย่างมาก ทำให้ไม่ต้องกลับบ้านเพื่อเติมเลือดเลยนะครับ ซึ่งสูตรนี้ ผู้เล่นระดับโปร หรือ นักแข่ง ในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต นิยมใช้กัน และมักจะออก Belt of Clarity เป็นไอเท็มชิ้นที่ 6 ในช่องสุดท้าย คือ มันเป็นไอเท็มสิ้นเปลืองนะครับ พอมีเงินมากๆ ก็สามารถขายทิ้ง แล้วออกเป็นไอเท็มอย่างอื่นได้ แล้วก็ขายไป ซื้อมาใส่ใหม่ เรียกว่า เป็นไอเท็มที่เอาไว้ พลิกเกมในช่วงเลทเกมก็ว่าได้ครับ
เห็นมั้ยครับว่า จริงๆ แล้ว มันมี วิธีแก้ทางเมจ ROV และไอเท็มเวทใหม่ แบบง่ายๆ แต่ได้ประสิทธิภาพอยู่ ไม่ได้แปลว่า เมื่อปรับแพทช์มาแล้ว เมจมันจะเก่งขึ้นทุกตัวจนไร้เทียมทาน หรือ แท็งค์ ซัพพอร์ต โรมมิ่ง จะไม่มีที่ยืน มันก็ไม่ใช่ เพราะถ้าสังเกตให้ดี แท็งค์หลายๆ ตัว ที่เมื่อก่อนโดนแบนเสมอ ก็ไม่ได้โดนเนิฟอะไรลงไปเลยนะครับ เช่น Baldum มันก็ไม่ได้โดนเนิฟอะไรเลย ยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม ดังนั้น มันอยู่ที่ความเข้าใจของผู้เล่น ในการปรับไอเท็ม ให้เข้ากับสถานการณ์ หรือ การออกไอเท็มตามสถานการณ์ ที่ผมเคยได้เขียนแนะนำไปแล้วนั่นเองครับ ต้องนำเรื่องนี้มาใช้ แล้วการปรับแพทช์ใหม่ จะไม่มีปัญหาสำหรับแท็งค์ในการสู้กับเมจแน่นอนครับ
นอกจากเรื่องของ การจัดรูน และไอเท็มกันเวทเหล่านี้แล้ว อีกวิธีที่ต้องทำควบคู่กันก็คือ วิธีปราบ หรือ กดให้เมจฝั่งตรงข้ามไม่ได้เกิด ซึ่งผมจะเขียนเอาไว้ในบทความต่อไป เพื่อให้ได้ศึกษาและเข้าใจกันอย่างครบถ้วน เอาไว้รับมือ เมจที่มันจะเก่งขึ้นใน ROV แพทช์ใหม่ โรงเรียนเวทมนต์ นั่นเองครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
