หลังจากที่มีการ อัพเดทแพทซ์ เกม ROV ไปแล้ว เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.60) พบว่า มีหลายคน พบกับปัญหา ไม่สามารถเข้าเกมได้ หรือเล่นแล้ว รู้สึกว่าช้ามากขึ้น ไม่เร็วเหมือนก่อนที่จะทำการอัพเดท ไม่ต้องกังวลไปครับ ผมมี วิธีแก้ปัญหาเล่น ROV ไม่ได้ มาแนะนำกันครับ รับรองว่า ถ้าทำตามนี้แล้ว จะสามารถเล่นเกม ROV แพทซ์ใหม่นี้ ได้ลื่นขึ้นอย่างแน่นอน และหมดปัญหา เรื่องของการเข้าเกมไม่ได้ หรือปัญหาต่างๆ ที่กำลังเจออยู่ด้วยครับ
วิธีแก้ปัญหาเล่น ROV ไม่ได้
ทุกครั้งที่มีการอัพเดทแพทซ์ใหม่ ผมจะแนะนำให้กับแฟนเพจทุกท่าน ทำการลบแอพเกม ROV ออกจากเครื่อง ด้วยวิธี Clean Uninstall ก่อนครับ ซึ่งจะทำให้ลบข้อมูลทุกอย่าง เกี่ยวกับแอพนั้น จากสมาร์ทโฟน ของเราไปจนหมดสิ้น เหมือนกับการเริ่มต้นใหม่เลยว่างั้น ซึ่งก็แปลว่า เราจะไม่เจอไฟล์ส่วนที่เหลือค้าง จากการอัปเดต หรือพวก Leftover ใดๆ เอาไว้ทั้งสิ้น เมื่อไม่มีไฟล์เหลือ แล้วแอบทำงานเบื้องหลัง ก็จะไม่มีปัญหาต่างๆ เช่น ล็อคอินเข้าเกมไม่ได้ หรือเล่นแล้วช้า หรือแม้แต่เข้าเกมไม่ได้เลย เปิดเข้าเกมแล้วเด้ง อะไรแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้น
ปัญหาของแต่ละคน จะแตกต่างกันไป เพราะใช้สมาร์ทโฟน แตกต่างกันไป คนละรุ่น คนละยี่ห้อ และที่สำคัญ คนละระบบปฏิบัติการ จริงอยูว่า เป็น Android เหมือนกัน แต่มันใช้ UI คนละค่าย ดังนั้น การเข้ากันได้ หรือ Compatibility จึงไม่เท่ากันครับ ดังนั้น เพื่อความชัวร์ ใช้วิธีที่ผมแนะนำให้นี้ ดีที่สุดครับ
ทำตามนี้เลยนะครับ
1 เปิดเข้าไปที่ Settings แล้วเข้าไปที่ Apps หรือบาง UI อาจใช้คำว่า Applications ก็ได้
2. แตะปุ่มที่มีคำว่า Force Stop หรือ บังคับหยุด
3. แตะเปิดเข้าไปดูที่ Storage หรือข้อมูลการใช้งาน ( บาง UI ไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปดู สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยครับ )
4. แตะที่ปุ่ม Clear Data หรือ ลบข้อมูล ได้เลยครับ
5. เสร็จแล้วก็แตะ back กลับมาที่เมนูก่อนหน้านี้
6. แตะที่ปุ่ม Uninstall ได้เลยครับ
7. ทำการ Restart เครื่อง 1 ครั้ง
8. รอเครื่องบูทเรียบร้อย สักพักนึง แล้วก็เปิด Play Store ขึ้นมา ค้นหาเกม ROV แล้วติดตั้งได้เลยครับ
แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ง่ายนิดเดียวเอง จริงมั้ยครับ?
การ Clean Unistall แอพ และติดตั้งแอพใหม่นั้น เป็น วิธีแก้ปัญหาเล่น ROV ไม่ได้ ที่ตรงจุดมากที่สุด เพราะผลจากการอัพเดทแพทซ์ ส่วนใหญ่จะมีการเหลือไฟล์ทิ้งเอาไว้ หรือที่เรียกว่า Leftover ค่อนข้างเยอะ และบางส่วน ก็ยังทำงานเบื้อหลังต่อไป ( running in background ) ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องให้มันรันอีกแล้ว ย้ำว่า ต้อง Clean Uninstall เท่านั้นนะครับ ถ้าแค่กด uninstall เลย โดยไม่ Clear Data ก่อน ข้อมูลส่วนใหญ่ จะยังอยู่ และไม่ได้ช่วยทำให้ปัญหา ที่ทุกท่านกำลังเจออยู่นี้ หมดไปได้นะครับ
วิธีที่ผมแนะนำมานี้ ขอให้นำไปใช้กับทุกครั้ง ที่มีการอัพเดทแพทซ์ ได้เลยนะครับ จะได้ไม่ต้องเจอกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้ ทำแบบนี้ รับรองว่า ยังไงก็ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ
