หนึ่งในสกิลชาเลนเจอร์ที่ถือได้ว่า มีระยะเวลาคูลดาวน์น้อยเป็นอันดับ 2 ในเกม ROV และมีประโยชน์กับการเล่นเป็นอย่างมาก นักแข่งนิยมหยิบไปใช้ในการแข่งขันกันเยอะสุดๆ นั่นคือ สกิล Disturb หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “ดับป้อม” หรือ “ใบ้ป้อม” นั่นเองครับ ในช่วงแรกๆ หลังจากที่มีการปรับแพทช์เพิ่มความสามารถของสกิล Disturb มานั้น ก็มีผู้เล่นหยิบไปใช้กันไม่มากเท่าไหร่หรอกครับ เพราะหลายคนยังไม่เข้าใจถึงจุดเด่นของมัน และการเล่น Solo Rank ส่วนใหญ่ ก็มักจะต่างคนต่างเล่น ทำให้การใช้สกิล Disturb มันไม่ค่อยจะคุ้มค่าสักเท่าไหร่ ในบทความนี้ผมก็เลยจะมาทำการ วิเคราะห์สกิล Disturb ในเกม ROV และแนะนำทริคการใช้สกิล Disturb ให้คุ้มค่ามากที่สุด เพื่อเป็นแนวทาง และทำให้ทุกคนอยากจะหยิบสกิล Disturb ไปใช้ในการเล่น Solo Rank มากขึ้น
วิเคราะห์สกิล Disturb ในเกม ROV เหมาะกับใคร? ควรใช้ตอนไหน? และกดใช้อย่างไรให้คุ้มค่า?
Disturb มีระยะเวลาคูลดาวน์ 60 วินาที โดยเมื่อกดใช้สกิล จะหยุดการทำงานของป้อมศัตรู 4 วินาที (เพิ่มขึ้น 0.5 วินาที ทุก 3 เลเวลของฮีโร่) หากใช้ใส่ป้อมฝ่ายตัวเอง จะทำให้ป้อมเป็นอมตะและโจมตีครั้งละ 2 นัด เป็นเวลา 4 วินาที (ไม่มีผลหากใช้ซ้ำใส่ป้อมที่กำลังได้รับผลนี้ และหากใช้ซ้ำใส่ป้อมเดิมภายใน 60 วินาที จะทำให้มีผลเพียง 1 วินาทีเท่านั้น)
นั่นแปลว่า ในแต่ละทีมเราควรจะมีฮีโร่แค่ตัวเดียวที่ใส่สกิลนี้เอาไว้ ก็เพียงพอแล้ว และควรจะเป็นฮีโร่ในตำแหน่งที่มีความเกี่ยวข้องกับการตีป้อม เช่น ซัพพอร์ต หรือ ออฟเลน ตำแหน่งอย่าง เมจ หรือ ออฟเลน ไม่ควรใช้สกิลชาเลนเจอร์นี้
เพื่อความเข้าใจ และตอบข้อสงสัยในทุกๆ คำถาม ผมจะแบ่งการอธิบายออกเป็นข้อๆ ดังนี้
1. Disturb เหมาะสมกับฮีโร่แบบไหน
ฮีโร่ที่เหมาะสมกับการใช้สกิล Disturb นั้น ควรเป็นตำแหน่งซัพพอร์ต เพราะเป็นแนวหน้า ที่มีความอึด ถึก ทน และเกี่ยวข้องกับการเดินเกม และการตีป้อมโดยตรง แต่ไม่ใช่ว่า ฮีโร่ทุกตัวที่เล่นในตำแหน่งซัพพอร์ต้องใช้สกิลชาเลนเจอร์ Disturb นะครับ อันนี้เป็นเรื่องที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจกัน
ฮีโร่ที่เหมาะสมกับสกิล Disturb ต้องเป็นฮีโร่ที่มีสกิลเคลื่อนที่อย่างน้อย 1 สกิล หรือ มีสกิลที่สามารถใช้เพื่อหนีได้ อย่าไปยึดติดกับการเล่นของนักแข่งในการแข่งขัน เพราะนั่นคือการเล่นเป็นทีม 5 คน เค้าคอลเกมกัน และเค้าวางแผนการเล่น ซ้อมด้วยกันมา แต่สำหรับการเล่นแบบ Solo Rank หรือ กดไปเป็นตี้ มันจะเป็นการเล่นเหมือนตัวใครตัวมัน น้อยนักที่จะมีใครเข้าใจเราในจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีที่มีการเข้าไฟต์ ดังนั้น การมีสกิลเอาไว้สำหรับหนี จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ยกตัวอย่าง ฮีโร่ที่เหมาะสม และสามารถใช้สกิล Disturb ได้ เมื่อเล่นในตำแหน่งซัพพอร์ต ก็เช่น Wonder Woman, Ata, Thane, Baldum, Maloch, Lumburr, Skud, Xeniel, Gildur, Y’bneth, Omega, Chaugnar, Arduin, Ormarr, Toro, Taara และฮีโร่ตัวอื่นๆ อีกมากมาย
ข้อสังเกตก็คือ ฮีโร่ที่สามารถใช้สกิล Disturb ได้นั้น มักจะเป็นฮีโร่ที่มีสกิลเคลื่อนที่เป็นหลักอยู่แล้ว เข้าและออฟไฟต์ได้ด้วยตัวเอง และไม่ได้พึ่งพาสกิลเคลื่อนที่อย่างเช่น Flicker หรือ Sprint อะไรมากมายนัก มีความแข็งแกร่งในตัวเองอยู่แล้ว เอาตัวรอดได้ดี ก็สามารถใช้สกิล Disturb มาเล่นได้ครับ
ฮีโร่ที่ไม่เหมาะสมกับสกิลชาเลนเจอร์ Disturb เพราะหากใช้ Disturb จะไม่มีสกิลเอาไว้สำหรับหนีเลย ก็ได้แก่ Grakk, TeeMee, Payna, Arum, Roxie, Mina และฮีโร่อีกหลายๆ ตัว
ข้อสังเกต จะเห็นได้ว่า ฮีโร่ที่ไม่เหมาะกับ Disturb จะเป็นฮีโร่ประเภทขาตาย แม้จะเป็นแท็งค์ตัวหนาๆ แต่ก็เป็นแท็งค์ขาตาย และมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ Flicker หรือ Sprint เป็นส่วนหนึ่งในการเล่น และการเข้าไฟต์ ดังนั้น มันไม่ควรจะเปลี่ยนมาใช้ Disturb เพราะจะทำให้สูญเสียจุดเด่นในเรื่องการเข้าไฟต์ไป แต่ก็ใช่ว่า ที่ผมบอกมา จะกลายเป็นข้อห้ามอะไรมากมายนักนะครับ ยกตัวอย่างเช่น Roxie มันจะเก่งมากๆ หาใช้ Flicker เข้าไปจับล็อค หรือเอาไว้หนี / ใช้ Sprint เพื่อเข้าไปเดินไล่จับล็อคพวกฮีโร่ขาตาย และเอาไว้หนีได้ แต่การใช้ Disturb จะทำให้ Roxie เสียจุดเด่นในเรื่องที่กล่าวมาไป คือ กว่าจะวิ่งเข้าไปจับเค้ามันก็ยากครับ ต้องใช้การดักพุ่มอย่างเดียวถึงจะจับได้ หรือ รอให้เพื่อนำพาศัตรูเข้ามาหาตัวเรา อย่างไรก็ตาม การเล่น Roxie โดยใส่สกิล Disturb ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ หากเรากดเล่นไปเป็นทีม 5 คน มีการคอลเกมกัน และเลือกตัวที่มี CC มาชดเชยในเรื่องนี้ เช่น Superman เพื่อเอาไว้ผลักศัตรูเข้ามาให้ Roxie จับล็อค และเล่นแบบเดินไปไหนมาไหนกับ Roxie ตลอด มีความเป็นทีมสูง แบบนี้ก็สามารถเล่น Roxie ที่ใส่สกิล Disturb ได้นะครับ แต่สำหรับการ Solo Rank ตัวคนเดียว ไม่แนะนำให้เล่น Roxie ที่ใส่ Disturb นะครับ ประโยชน์มันน้อยเกินไป
สำหรับ Kil’Groth ออฟเลน ไม่ใช่ตำแหน่งซัพพอร์ต สามารถใส่ Disturb เป็นสกิลหลักได้หรือไม่? คำตอบก็คือ ได้ครับ โดยเวลาที่เล่นก็ต้องเน้นการทำลายป้อมเป็นหลักมันถึงจะคุ้มค่า เพราะบอกแล้วว่า Disturb มันมีคูลดาวน์แค่ 60 วินาที จึงทำให้กดใช้มันได้บ่อยๆ ก็ต้องใช้มันให้คุ้มค่า ถ้าหากเล่นแล้ว ดันไปเน้นเดินไล่ฆ่า ไล่ล้วงแครี่ฝั่งตรงข้าม ไม่เน้นป้อม แบบนี้ก็จะไม่คุ้มค่านะครับ
2. จังหวะการกดใช้ Disturb
หลังจากที่เรารู้แล้วว่า ฮีโร่ตัวไหนเหมาะสมกับการใช้สกิล Disturb คราวนี้เราก็มาดูวิธีการกดใช้สกิลของ Disturb กันบ้างครับ คือ จังหวะในการกดใช้สกิล Disturb มันก็มีความสำคัญเป็นอย่างมากนะครับ เพราะถ้าเรากดผิดจังหวะ เราก็จะเสียสกิลไปเปล่าๆ ทันที ยกตัวอย่างเช่น
Omega ทีมเรากดใช้ Disturb เพื่อหยุดการทำงานของป้อมก่อน แบบนี้ป้อมก็ยิงใส่ฮีโร่ฝั่งเราไม่ได้ และเราก็สามารถโจมตีทำดาเมจใส่ป้อมได้ด้วย แต่พอ Annette ฝั่งตรงข้ามเห็น Omega ทีมเรากดใช้สกิล Disturb เพื่อหยุดการทำงานป้อมปุ๊บ Annette ก็กดใช้ Disturb เช่นกัน เพื่อทำให้ป้อมเป็นอมตะ แบบนี้ก็เท่ากับว่า เราไม่สามารถทำดาเมจอะไรใส่ป้อมได้เลย เพราะป้อมเป็นอมตะ และทำให้สกิล Disturb ของเราหมดความหมายไปทันที เราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้างครับ?
นั่นแปลว่า จังหวะการกดใช้สกิล Disturb สำคัญมาก คนที่กดใช้สกิล Disturb ทีหลังจะได้เปรียบมากกว่าเสมอ
ถ้าซัพพอร์ตทีมเราหยิบ Disturb มา และซัพพอร์ตฝั่งตรงข้ามก็หยิบ Disturb มาเหมือนกัน นั่นก็แปลว่าเค้าสามารถกดใช้สกิล Disturb เพื่อใช้ป้องกันป้อมตัวเองในยามที่ต้องตั้งรับ หรือ ใช้เพื่อหยุดการทำงานของป้อมเราตอนบุกเข้ามาได้ ซึ่งซัพพอร์ตทีมเราก็สามารถทำแบบนั้นได้เช่นกัน แต่ถ้าต้องการให้การใช้ Disturb มีความได้เปรียบมากที่สุด ต้องใช้จังหวะการกดใช้สกิล Disturb ทีหลัง หลังจากที่ฝั่งตรงข้ามกดไปแล้ว
หลายคนคงจะคิดว่า ในเกมตอนที่ฝ่ายเรากำลังบุก และเค้าตั้งรับ ไอ้การที่เราจะมากดใช้สกิล Disturb ทีหลัง หลังจากที่เค้ากดใช้สกิล Disturb เพื่อปกป้องป้อมของตัวเองไปก่อนแล้วนั้น มันทำได้ง่ายมากครับ จังหวะกดใช้ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ก็เราเป็นฝ่ายบุกนี่ แต่การกดใช้ Disturb ตอนที่ฝ่ายเราเป็นฝ่ายตั้งรับ อันนี้ก็ยากและเสี่ยงอยู่นะครับ เพราะถ้าเรามัวแต่รอให้ฝั่งตรงข้ามกดใช้ Disturb ของตัวเองก่อน แล้วเราค่อยกดทีหลัง อาจจะไม่ทัน เพราะฝั่งตรงข้ามอาจจะไม่กดใช้สกิล Disturb เลย และเราก็ดันไม่ยอมกดใช้ ป้อมเราก็อาจจะโดนโจมตีจนแตกไปก่อนได้ ดังนั้น สำหรับจังหวะการตั้งรับ หากไม่ทัน หรือเสี่ยงจริงๆ ก็กดใช้ไปก่อนได้ครับ ไม่ต้องไปซีเรียสอะไรขนาดนั้น
เพียงแต่หากเราเลือกที่จะกดใช้ทีหลัง หลังจากที่ฝั่งตรงข้ามกดใช้ Disturb ไปก่อนแล้ว มันก็จะให้ผลดีที่สุดนั่นเองครับ
3. ทริคการกดใช้สกิล Disturb ให้ทำงาน 2 ป้อมพร้อมกัน
หลังจากที่เรารู้แล้วว่า ควรกดใช้สกิล Disturb ตอนไหน มาคราวนี้เราก็ควรจะรู้ทริคเรื่องตำแหน่งการยืนแล้วกดใช้สกิล Disturb กันครับว่า ต้องกดใช้ตรงไหนมันถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด ทริคนี้จะใช้ได้เฉพาะป้อมที่อยู่ชั้นในกำแพงของบ้านเท่านั้นนะครับ
ดูจากภาพด้านล่างนี้ได้เลยครับ เห็นมั้ยครับว่า ในป้อมชั้นใน หรือ ป้อมที่อยู่ด้านในของกำแพงบ้านเรา หรือ บ้านของฝั่งตรงข้ามนั้น ป้อมมันจะอยู่ใกล้กัน หากเราไปยืนตรงกลาง แล้วกดใช้สกิล Disturb ก็จะสามารถหยุดการทำงานของป้อม (ฝั่งตรงข้าม) หรือ ทำให้ป้อมเป็นอมตะ (ป้อมของฝั่งเรา) ได้พร้อมกันทีเดียว 2 ป้อมเลยนะครับ
ที่สามารถทำแบบนี้ได้ ก็เพราะว่า ระยะสกิลของ Disturb มันค่อนข้างไกล หาเรายืนตรงกลาง มันก็จะครอบคลุมระยะของป้อมทั้งสองป้อมทันที ดังนั้น เมื่อเรากดใช้สกิล Disturb ถ้าเป็นฝั่งบ้านเรา มันก็จะบัพป้อมให้เป็นอมตะ แต่ถ้าเราเอาทริคนี้ไปใช้กับป้อมในบ้านของฝั่งตรงข้าม เราจะสามารถกดใช้ Disturb แล้วหยุดการทำงานของป้อมได้ถึง 2 ป้อมพร้อมๆ กันเลยทีเดียวครับ ไม่ต้องกลัวว่า หากไปกดใช้แบบนี้ในบ้านของศัตรูแล้วจะโดนป้อมยิงจนตายนะครับ เราต้องเข้าไปยืนในจุดที่เป็นเส้นขอบสุดของป้อมทั้งสองป้อม หรือเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างป้อมทั้งสองป้อมนั่นเองครับ หากเรายืนตรงนั้น เราจะไม่โดนป้อมยิงแน่นอนครับ และเมื่อเรากดใช้สกิล Disturb ป้อมศัตรูทั้งสองป้อมจะหยุดการทำงานพร้อมกันทันทีครับ ทำให้การบุกขึ้นบ้าน 2 ทางในเวลาเดียวกันได้ผลแบบสุดๆ สามารถทำลายป้อมชั้นใน 2 ป้อมได้ภายในเวลาเดียวกัน
ถามว่า นอกจากป้อมชั้นในที่อยู่ข้างๆ กัน ที่เราสามารถไปยืนตรงกลาง แล้วกดใช้สกิล Disturb เพื่อทำให้ป้อมเป็นอมตะหรือหยุดป้อมพร้อมกันทั้ง 2 ป้อมได้แล้ว เราสามารถยืนแบบตรงกลางระหว่างป้อมหน้ากับป้อมหลัง แล้วกดใช้ Disturb ให้มันหยุดการทำงานทั้งสองป้อมพร้อมกันได้หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ได้ครับ เพราะลำดับของป้อมนั้นสำคัญมากๆ Disturb จะใช้ได้เฉพาะกับป้อมที่อยู่ด้านอกสุดเสมอ คือ ไม่มีป้อมอยู่ก่อนหน้า การใช้ Disturb จึงใช้ได้กับป้อมอยู่ในระดับเดียวกัน แนวเดียวกันเท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับป้อมที่เป็นแบบ ป้อมหน้า กับป้อมหลัง แบบนี้กดใช้ Disturb ไม่ได้นะครับ มันจะทำให้ป้อมที่อยู่ด้านหน้าหยุดการทำงานป้อมเดียวเท่านั้น ป้อมด้านหลังจะไม่หยุดการทำงานครับ
หลังจากที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์สกิล Disturb ในเกม ROV มาจนถึงตรงนี้ เชื่อว่า หลายคนคงจะเข้าใจวิธีการใช้งานสกิลชาเลนเจอร์ Disturb มากขึ้นแล้วนะครับ คือ ในการแข่งขันเราอาจจะได้เห็นนักแข่งหยิบสกิลชาเลนเจอร์นี้มาใช้กันอยู่บ่อยๆ และใช้กับฮีโร่หลายๆ ตัวที่ไม่เหมาะสมตามหลักการ ก็ต้องทำความเข้าใจครับว่า นักแข่งเหล่านั้น เค้าเล่นกันเป็นทีม 5 คนแบบคอลเกม มีการซ้อมแผนการเล่นมาก่อนแล้ว มันจึงถือเป็นข้อยกเว้น จนอาจจะพูดได้ว่า ในการแข่งขัน แต่ละทีมจะหยิบฮีโร่มาเล่นให้แปลกแหวกแนวแค่ไหนก็ได้ ไม่ผิดหลักการ และการเล่นแบบแปลกๆ แหวกแนวนี่แหละ ที่จะทำให้ทีมมีโอกาสชนะได้สูงขึ้น เพราะฝั่งตรงข้ามเดาทางไม่ออก และไม่ตรงกับแผนการเล่นที่ได้เคยศึกษาการเล่นมาก่อนหน้านี้
แต่สำหรับการเล่นใน Rank หรือ โหมดจัดอันดับ โดยเฉพาะการเล่นแบบ Solo Rank ตัวคนเดียว มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ เพราะต่างคนต่างเล่น และขาดความสามัคคี ส่วนมากจะทะเลาะและไม่พอใจกันตั้งแต่ตอนเลือกตัว พอเข้าไปเล่นก็จะเริ่มด่ากัน เอาเปรียบกัน และอื่นๆ อีกมากมาย การจะเล่นใน Rank ให้ประสบความสำเร็จ จึงไม่ใช่การเล่นตามนักแข่ง แต่ต้องเล่นตามหลักการครับ ยึดถือหลักการที่ถูกต้องเอาไว้ เลือกใช้ฮีโร่ที่เหมาะสมกับสกิล Disturb จริงๆ ก็จะทำให้ทีมของคุณเล่นได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสชนะสูง อย่าทำอะไรแปลกๆ เหมือนที่นักแข่งทำ เพราะคุณไม่รู้หรอกว่า ระบบจะสุ่มใครอีก 4 คนให้มาเป็นเพื่อนร่วมทีมของคุณ คุณดูนักแข่งเค้าเล่นมาแบบนั้น แล้วอีก 4 คนล่ะ เค้ารู้ เค้าเข้าใจ และเค้าอยากจะเล่นตามนักแข่งเหมือนกับคุณหรือเปล่า? คิดดูนะครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
 และสอนทริควิธีกดใช้งานให้คุ้มค่ามากที่สุด พร้อมอธิบายให้ได้เข้าใจว่า ควรเล่นตามนักแข่งหรือไม่){kind=link}