วิเคราะห์ไอเท็ม Fafnir’s Talon ไอเท็มตีเร็วในเกม ROV ไอเท็มแก้ทางไฟต์เตอร์แท็งค์ที่ดีที่สุด

นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถือได้ว่า เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ หรือ มองข้ามกันไป เพราะมัวแต่ไปสนใจผิดจุด ผมบอกได้เลยว่า ในเกม ROV แพทช์ปัจจุบันนี้ ไอเท็ม Fafnir’s Talon นั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันคือ ไอเท็มแก้ทาง แท็งค์ และไฟต์เตอร์ ที่ดีที่สุด สำหรับฮีโร่ที่ใช้การโจมตีกายภาพเป็นหลัก หากคนที่เล่นแครี่ยังคงเลือกที่จะออกไอเท็มตามสูตรเดิมๆ หรือ เห่อใช้ไอเท็มตีเร็วที่ถูกปรับมาใหม่อย่าง Blitz Blade บอกเลยว่า ตั้งแต่ช่วงกลางเกมถึงเลทเกม จะยิงแท็งค์และไฟต์เตอร์ตัวหนาๆ พวกนี้ “ไม่เจ็บ” แน่นอนครับ เมื่อยิงเค้าแล้ว เค้าไม่เจ็บ ก็เตรียมตัวแพ้ไฟต์ และโดนล้วงแบบง่ายๆ ได้เลยครับ สงสัยใช่มั้ยครับว่า Fafnir’s Talon มันสำคัญอะไรขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มาครับ เดี๋ยวผมจะทำการ วิเคราะห์ไอเท็ม Fafnir’s Talon ให้ทุกคนได้เข้าใจเกี่ยวกับมันมากขึ้นกันครับ

วิเคราะห์ไอเท็ม Fafnir’s Talon ไอเท็มแก้ทางแท็งค์ และไฟต์เตอร์ ในแพทช์ปัจจุบัน

Fafnir’s Talon เป็นไอเท็มที่เหมาะสำหรับฮีโร่ 2 ประเภท นั่นคือ แครี่ที่ตีเร็ว หรือ แครี่ DPS (เช่น Slimz, Tel’Annas, Wisp, Yorn, Laville) กับ ไฟต์เตอร์สาย DPS (เช่น Omen, Kil’Groth) ส่วนฮีโร่ในตำแหน่งอื่นๆ ไม่นิยมใช้กัน ยกเว้นว่า มันจำเป็นจริงๆ ถึงจะใช้

หลายคนมักจะเข้าใจว่า Fafnir’s Talon เป็นไอเท็มตีเร็ว ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีให้กับฮีโร่ที่สวมใส่ แต่ให้พลังโจมตีที่น้อย เลยทำให้ผู้เล่นแครี่หลายๆ คน มองข้ามไป และเลือกใช้ไอเท็มที่มันเน้นคริติคอล หรือ ให้พลังโจมตีที่สูงกว่ามาใส่แทน เช่น Fenrir’s Tooth เป็นต้น จะได้ยิงแล้ว มันแรงๆ ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น แท้ที่จริงแล้ว Fafnir’s Talon มีจุดเด่นอยู่ที่ Passive หรือ สกิลติดตัวของมันต่างหาก

Fafnir’s Talon
Fafnir’s Talon

สกิลติดตัวDragon’s Breath: การโจมตีปกติจะสร้างความเสียหายกายภาพเท่ากับ 8% ของ HP ปัจจุบันของศัตรู (คูลดาวน์ 0.3 วินาที)”

ถ้าอ่านจากเนื้อหาของ Passive หรือสกิลติดตัวของไอเท็ม Fafnir’s Talon จนจบ จะพบว่า มันจะมีเงื่อนไข 2 อย่างที่ผู้เล่นต้องใช้ในการพิจารณาเพื่อตัดสินใจว่า สถานการณ์แบบที่กำลังเจออยู่นั้น เหมาะสมกับไอเท็ม Fafnir’s Talon หรือไม่ นั่นคือ

1. ฮีโร่ที่เราใช้งาน ต้องใช้การโจมตีปกติเป็นหลัก
2. ฮีโร่เป้าหมายที่เราจะต้องโจมตีอยู่บ่อยๆ ต้องเป็นพวกที่ตัวหนาๆ มี HP เยอะๆ

เหตุผลก็เพราะว่า Passive หรือสกิลติดตัวของ Fafnir’s Talon นั้น จะทำงานร่วมกับการโจมตีปกติเท่านั้น ยิ่งเราใช้การโจมตีปกติเร็วและบ่อยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลให้เราทำดาเมจเพิ่มเติมได้มากขึ้นเท่านั้น และหลักการคำนวณดาเมจของ Fafnir’s Talon ก็คือ 8% ของ HP ปัจจุบันของเป้าหมาย ดังนั้น ถ้าฝั่งตรงข้ามมี ไฟต์เตอร์ตั้งแต่ 2 ตัวเป็นต้นไป การใช้ Fafnir’s Talon จะคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ยิ่งเจอพวกแท็งค์ที่มี HP เยอะๆ เช่น Taara, Roxie, Toro, Maloch, Y’bneth, Skud ยิ่งทำให้การใช้ Fafnir’s Talon คุ้มค่าแบบสุดๆ เพราะมันจะโดนดาเมจเพิ่มเติมเข้าไปรุนแรงมากๆ

แท็งค์ และ ไฟต์เตอร์ทุกตัว แพ้ทาง ไอเท็ม Fafnir's Talon กันหมด
แท็งค์ และ ไฟต์เตอร์ทุกตัว แพ้ทาง ไอเท็ม Fafnir’s Talon กันหมด สังเกตดาเมจจากในภาพ ดาเมจซ้อนทับกันเต็มไปหมด เจอแบบนี้เข้าไป แท็งค์ก็ต้องแตกล่ะครับ

แต่ต้องเข้าใจว่า ดาเมจจากสกิลติดตัวของ Fafnir’s Talon ที่เพิ่มขึ้นมา ในทุกๆ การโจมตีปกตินั้น จะค่อยๆ ลดลงตามปริมาณ HP ที่เหลืออยู่ของเป้าหมายนะครับ เช่น ตอนที่เป้าหมายเลือดเต็มหลอด เรายิงปกติใส่ ดาเมจหลักคือ 190 หน่วย และดาเมจจากสกิลติดตัวของ Fafnir’s Talon เพิ่มมาอีก 395 หน่วย แต่พอศัตรูเลือดค่อยๆ ลดลง ดาเมจหลักยังคงเท่าเดิมคือ 190 ส่วนดาเมจจากสกิลติดตัวของ Fafnir’s Talon จะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ นะครับ เพราะมันคำนวณจาก เปอร์เซ็นต์ HP ปัจจุบันที่เหลืออยู่ของเป้าหมายนั่นเอง โอเคนะครับ

ทีนี้ที่บอกว่า Fafnir’s Talon จะคุ้มค่า เมื่อเจอกับพวกฮีโร่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นไฟต์เตอร์ หรือแท็งค์ (รวมทั้งพวกฮีโร่ประเภทซัพพอร์ตด้วย) นั่นก็เพราะว่า ฮีโร่พวกนี้ จะนิยมออกไอเท็มป้องกันให้กับตัวเองไม่น้อยกว่า 3 ชิ้นเสมอ ซึ่งไอเท็มป้องกันในเกม ROV ส่วนใหญ่จะให้ HP เพิ่มเติมมาด้วยเสมอ (ยกเว้น The Aegis กับ Hercules’s Madness ที่จะให้มาแต่ค่าเกราะป้องกันอย่างเดียว) นั่นแปลว่า พวกไฟต์เตอร์, แท็งค์ และซัพพอร์ตเหล่านี้ จะมี HP ที่เพิ่มสูงขึ้นมากๆ ตามไปด้วย นั่นแปลว่า ฮีโร่พวกนี้ก็จะโดนดาเมจจากสกิลติดตัวของ Fafnir’s Talon แรงมากขึ้นไปด้วย

สำหรับเกมที่เจอกับฮีโร่ฝั่งตรงข้ามที่มีไฟต์เตอร์ หรือแท็งค์แค่ตัวเดียว เช่น Riktor โรม, Zuka ออฟเลน, Kriknak ฟาร์มป่า, Violet เลนแครี่, Iggy เมจเลนกลาง ถ้าเจอทีมแบบนี้ ที่มีแต่ตัวบางๆ Fafnir’s Talon จะไม่มีประโยชน์กับทีมเลยครับ เพราะพวกนี้มี HP น้อยมากๆ อยู่แล้ว ดาเมจที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาจากสกิลติดตัว มันน้อยมากครับ ถ้าเจอแบบนี้ ออกเป็น Fenrir’s Tooth เพื่อเพิ่มความแรงให้กับดาเมจของเราจะคุ้มค่ากว่าครับ

สรุปง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราเล่นฮีโร่ที่เป็นพวกตีเร็วๆ เช่น แครี่ หรือ ไฟต์เตอร์ตีเร็ว แล้วเจอกับฝั่งตรงข้ามมีฮีโร่ประเภท ไฟต์เตอร์, แท็งค์ หรือ ซัพพอร์ต รวมๆ กันแล้ว ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป หรือ ตัวฟาร์มป่าที่เป็นพวกไฟต์เตอร์แล้วออกไอเท็มป่าอย่าง Leviathan แบบนี้ เราต้องใช้ไอเท็ม Fafnir’s Talon มาแก้ทางครับ

ใช่แล้วครับ ไม่ใช่ว่าเราจะดูแต่ตำแหน่งออฟเลน และโรมมิ่ง ว่าเป็นฮีโร่ประเภทไฟต์เตอร์, แท็งค์ หรือซัพพอร์ตที่ตัวหนาๆ หรือไม่ ตำแหน่งฟาร์มป่าเราก็ต้องดู เพราะเดี๋ยวนี้นิยมหยิบไฟต์เตอร์เข้าไปฟาร์มป่าแล้วใช้ไอเท็ม Leviathan กันเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Aoi, Lu Bu, Errol, Skud ซึ่งพวกนี้ตัวมันจะหนามากๆ เมื่อมี Leviathan หากเจอฮีโร่ฟาร์มป่าเป็นไฟต์เตอร์พวกนี้และออกไอเท็ม Leviathan ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยครับ Fafnir’s Talon คือ คำตอบสำหรับสถานการณ์แบบนี้ ยิงไฟต์เตอร์ป่าพวกนี้ละลายแน่นอนครับ

คำถามสำคัญก็คือ แล้วเราควรออก Fafnir’s Talon เป็นชิ้นที่เท่าไหร่?

การใส่ Fafnir's Talon มีผลกับแครี่เป็นอย่างมาก
การใส่ Fafnir’s Talon มีผลกับแครี่เป็นอย่างมาก ได้ทั้งความเร็วในการโจมตี ได้ทั้งดูดเลือด และยังได้ดาเมจมาเพิ่มทุกครั้งที่โจมตีปกติอีก ดูเอาจากในภาพ Slimz ยิงคริแตกกระจุยกระจายเลยทีเดียว ศัตรูจะตัวหนาตัวบาง แตกกันหมด

นอกจากเราจะเลือกใช้ไอเท็มได้ถูกต้อง และแก้ทางฝั่งตรงข้ามได้แล้ว ลำดับในการออกไอเท็ม หรือ ช่วงเวลาที่ควรออกไอเท็มชิ้นนี้มานั้น ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กันครับ หลักการพิจารณาก็ง่ายแสนง่ายครับ เราก็ดูที่รายละเอียดของ Passive เลยครับ มันเขียนว่า 8% ของ HP ปัจจุบัน ของเป้าหมาย ใช่มั้ยครับ ดังนั้น ก็แปลว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่จะทำให้ไอเท็ม Fafnir’s Talon ชิ้นนี้มีประโยชน์มากที่สุดก็คือ ช่วงที่ HP ของพวก แท็งค์, ไฟต์เตอร์ และซัพพอร์ต พวกนี้เริ่มสูงมากขึ้น นั่นก็คือ ช่วงกลางเกมนั่นเองครับ ดังนั้น เราจึงควรออกไอเท็ม Fafnir’s Talon เป็นชิ้นที่ 3-4 กำลังดีครับ

อย่างไรก็ตาม มันก็มีข้อยกเว้นครับ เช่น Omen, Kil’Groth ที่ต้องออกไอเท็ม Fafnir’s Talon เป็นชิ้นที่ 2-3 ของการเล่น เพราะไฟต์เตอร์พวกนี้ ต้องการความเร็วในการโจมตีเพื่อเพิ่ม DPS (Damage per Second) ให้สูงที่สุด แตกต่างจากแครี่ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ Fafnir’s Talon เป็นชิ้นที่ 2 ก็ได้ เพราะดาเมจจะเบาเกินไป ควรออกเป็นดาบคริติคอลมาก่อน จะดีที่สุด แล้วค่อยขึ้นเป็น Fafnir’s Talon ชิ้นที่ 3 หรือ 4 ก็ยังไม่สาย

ต้องบอกเลยว่า หลังจากที่มีการ ปรับแพทช์ 6 ก.ค. 64 ที่มีการปรับให้ Blitz Blade กลายเป็นไอเท็มตีเร็วที่ไม่มีค่า Status เพิ่มพลังโจมตีให้อีกแล้ว คือ ปรับให้ไปอยู่ในระดับเดียวกับ Slikk’s Sting และ Ifrit’s Claw แล้ว ก็ทำให้วิธีการเลือกใช้ไอเท็มตีเร็วมันง่ายขึ้นเยอะ นั่นคือ ถ้าอยากได้ความเร็วโจมตีด้วย และได้ค่า Status เพิ่มในส่วนของพลังโจมตีด้วย ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย Fafnir’s Talon คือ ทางเลือกเดียวเท่านั้น มันทำให้ความสับสนของคนที่เล่นแครี่ลดน้อยลงไปเยอะ เพราะถ้าเป็นสมัยก่อน เราก็ต้องมาเลือกว่า เราต้องการไอเท็มตีเร็วไว้ตีพวกตัวหนาหรือตัวบาง ถ้าตัวหนาก็ต้อง Fafnir’s Talon แต่ถ้าจะใช้เพื่อตีตัวบางๆ ก็ต้อง Blitz Blade แต่หลังจากที่ปรับสมดุล Blitz Blade ไปแล้ว ปัญหาในการเลือกใช้ก็หมดไปทันที

จากที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์ไอเท็ม Fafnir’s Talon มาจนถึงตรงนี้ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า Fafnir’s Talon เป็นไอเท็มที่เอาไว้แก้ทางพวกฮีโร่ที่เก่งใน ROV แพทช์ปัจจุบันนี้จริงๆ เพราะในทุกๆ เกม เรามีโอกาสสูงมากๆ ที่จะเจอกับ โรมมิ่งเป็นแท็งค์ และออฟเลนเป็นไฟต์เตอร์แท็งค์อีกตัว หรือ ทั้งโรม และออฟเลน เป็นไฟต์เตอร์ทั้งคู่ หากเราไม่เลือกใช้ไอเท็ม Fafnir’s Talon บอกเลยว่า ตั้งแต่ช่วงกลางเกมจนถึงเลทเกม แครี่ยิงใส่ไฟต์เตอร์พวกนี้ไม่เข้าแน่นอนครับ ต่อให้ออกไอเท็ม Muramasa มา มันก็ไม่เพียงพอครับ

เอาง่ายๆ ถ้าเกมไหนเราดันเลือกแครี่มาก่อนเช่น Violet แล้วฝั่งตรงข้ามตัดสินใจหยิบไฟต์เตอร์หรือแท็งค์ตัวหนาๆ มาเล่น รวมทั้งตัวฟาร์มป่าด้วย แค่เซ็ตไอเท็มมาตรฐานของ Violet ไม่สามารถทำให้ไฟต์เตอร์พวกนี้สะดุ้งได้หรอกนะครับ มันต้องมี Fafnir’s Talon มาช่วย ใช่ครับ ถ้าเกมไหนมันเป็นแบบนี้ คือ เราเลือกแครี่มาก่อน แต่ฝั่งตรงข้ามหยิบตัวมาแก้ทาง การใส่ไอเท็ม Fafnir’s Talon ให้กับแครี่ที่ไม่ใช่สาย DPS ก็จำเป็นเช่นกันครับ เพื่อทำให้ยิงใส่ศัตรูแล้วมันเจ็บจนสะดุ้งได้จริงๆ ไม่งั้นยิงไม่เข้าแน่นอนครับ

Violet สามารถใช้ประโยชน์จาก Passive ของ Fafnir’s Talon ได้ ก็เพราะว่า สกิล 1 ที่เป็นการกลิ้งยิงนั้น จะสามารถใช้ประโยชน์จากเอฟเฟกต์ต่างๆ ของการโจมตีปกติได้ ดังนั้นเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่ใช้กับการโจมตีปกติได้ สกิล 1 ของ Violet ก็จะใช้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Omni Arms หรือ Frost Cape สกิล 1 ของ Violet ก็เอามาใช้งานได้หมดเลยครับ รวมทั้ง Fafnir’s Talon ด้วย

เห็นมั้ยครับว่า การเล่นเกม ROV นั้น เราต้องเล่นด้วย “ข้อมูล” และความเข้าใจ ไม่ใช่แต่จะใช้ฝีมือในการบังคับทิศทาง หรือ Skill Play ให้สูงๆ อย่างเดียว แต่การที่เรามีความรู้ ความเข้าใจว่า ต้องออกไอเท็มชิ้นไหนมาเพื่อแก้ทางฝั่งตรงข้ามได้นั้น สำคัญยิ่งกว่า เพราะนั่นจะทำให้ดาเมจของเราที่ทำการโจมตีออกไป มันแรงและทำให้ฝั่งตรงข้ามเจ็บจนสะดุ้งได้เลย

ทีนี้คงรู้แล้วนะครับว่า ถ้าเจอกับฝั่งตรงข้าม ดราฟตัวมาแบบ แท็งค์หลายๆ ตัว หรือเลือก ไฟต์เตอร์มาหลายๆ ตัว หรือ ไฟต์เตอร์ฟาร์มป่าแล้วออกไอเท็ม Leviathan เราควรจะรับมือ และออกไอเท็มอะไรมาแก้ทาง รับรองว่า เมื่อเรายิงใส่ไปแล้ว ไฟต์เตอร์ แท็งค์พวกนั้น ต้องสะดุ้งแน่นอน “อุ๊บส์.. ขอโทษที ดาเมจพี่มันแรงไปหน่อยนะ”

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ

เรื่องก่อนหน้านี้20 ฮีโร่มาแรงใน ROV SS19 สาย Solo Rank จำเป็นต้องใช้ฮีโร่พวกนี้ เพราะมันเก่งและทำให้เล่นง่ายมากขึ้น
เรื่องถัดไปรูนคริของแครี่ ใน ROV แพทช์ปัจจุบัน ควรใช้แบบไหนดีกว่ากัน คริบ่อย (Rage) หรือคริแรง (Rampage)