หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผมได้ทำการ สรุป ROV แพทช์ใหม่ 6 พ.ย. 61 ไปแล้ว แต่อาจจะมีหลายๆ คน ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะการปรับบางอย่าง มันเป็นการปรับที่ค่า Stat หรือ ปรับสกิลบางอย่าง ก็เลยทำให้หลายๆ คน ที่ยังเป็นมือใหม่ หรือ ไม่ค่อยได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง อาจจะไม่เข้าใจ งั้นเพื่อความง่าย ผมจะมา วิเคราะห์ ROV แพทช์ใหม่ พ.ย. 61 แบบไม่ต้องมีตัวเลขอะไรให้รกหูรกตา และสรุปให้เลยครับ ว่า มันเป็นการปรับให้ฮีโร่ตัวนั้น เก่งขึ้น หรือว่า อ่อนลง แต่มันอาจจะยาวสักหน่อยนะครับ เพราะต้องอธิบายให้หมดทุกตัว ที่มีการปรับสมดุลเลยทีเดียว แต่จะอธิบายแบบกระชับ เข้าใจง่ายครับ ไม่เวิ่นเว้อ
วิเคราะห์ ROV แพทช์ใหม่ พ.ย. 61 แบบเข้าใจง่าย ฮีโร่ตัวไหนเก่งขึ้น/อ่อนลง
Baldum เก่งขึ้นอย่างชัดเจนครับ ใครที่เคยเล่น และหยุดเล่นไป เตรียมปัดฝุ่น หยิบมันกลับมาได้แล้วครับ โดยเอามาโรมได้เลย เพราะจากการบัพสกิล 1 กับ สกิล 2 แบบนี้ จะทำให้ Baldum สามารถเวดป่า ขโมยป่า และสู้กับศัตรูได้สนุกมาขึ้น โดยเฉพาะสกิล 2 ที่จะใช้ได้บ่อยขึ้น ดาเมจแรงขึ้น โดยรวมแล้ว เล่นได้สนุกขึ้นแน่นอนครับ
Zephys ความตั้งใจของทางทีมงาน ผมมั่นใจว่า เค้าต้องการให้ ผู้เล่น Zephys ต้องเน้นไปที่การใช้การโจมตีปกติ หลังจากใช้สกิล 1 เป็นหลัก เพราะเมื่อเอามารวมกับ Omni Arms หรือ Frost Cape แล้ว ดาเมจมันจะแรงมากๆ รวมทั้งสกิล 2 ก็ปรับลดคูลดาวน์ลงแบบชัดเจน ทำให้แพทช์ใหม่นี้ Zephys กลับมาแน่นอนครับ มันจะเป็นแอสซาซินตัวล้วง ที่สามารถหยิบมาเล่นได้เรื่อยๆ แน่นอนครับ
Rourke ในแพทช์ใหม่นี้ ถือว่า น่ากลัวมากที่สุดครับ เพราะได้รับการปรับให้โกงจริงๆ เลย โดยปรับให้ตีป้อมได้เต็มๆ 100% ของดาเมจที่ทำออกมาได้ ซึ่งจะเหมือนกับที่มันเคยเป็น “Bug” ในตอนนั้น ที่ว่า ตีป้อมแรงมาก มันก็จะกลับมาตีป้อมแรง แบบถูกต้อง ไม่ใช่ Bug อีกแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ ยังเพิ่มระยะเวลาของการเสริมความแรงในการโจมตีปกติ ของสกิล 1 จากเดิมแค่ 1.5 วินาที ก็ปรับมาเป็น 4 วินาที มันจะเป็นอะไรที่โคตรโกงแล้วนะครับ ทีนี้งานเข้าล่ะ
ถ้าดูในรายละเอียด จะเห็นว่า Rourke มันปรับนิดหน่อยแค่นั้นเอง แต่จริงๆ แล้ว ถ้าคนเล่นเป็นจะรู้ว่า แม้จะปรับนิดหน่อย แต่มีผลกับการเล่นเยอะมากๆ นะครับ เจ้าตัวนี้แหละ ที่ต้องหยิบมาเล่นครับ Rourke มันจะกลับมาได้รับความนิยมแน่นอนครับ
Riktor ก็โดนเนิฟไปตามระเบียบครับ โดยรวมก็คือ ทำให้สกิล 1 ของมันเบาลง ทางทีมงานเค้าอาจจะมองว่า มันน่าจะเป็นการสร้างโอกาส ให้มันโดนปลดล็อคจากการโดนแบนบ้าง แต่จากเท่าที่ดู ดาเมจมันก็ไม่ได้ลดลงสักเท่าไหร่ ดังนั้น โดยภาพรวมแล้ว มันก็ยังโกงอยู่ดีครับ แถมระยะการพุ่งออกมาจากในพุ่มไม้ ที่แม้ว่า จะโดนลดลง แต่ลดลงแค่ 0.5 มันจึงแทบจะไม่มีผลอะไรเลยครับ โดยรวม มันก็ยังโกงอยู่ดีครับ ต้องแบนมันเหมือนเดิมจ้า
Tel’Annas โดยภาพรวม ก็ถือว่า ดีขึ้นในระดับหนึ่งครับ ทำให้มันคล่องตัวมากขึ้น แต่การเสีย ความเร็วเคลื่อนที่หลังจากใช้อัลติไปนั้น ถือว่า เนิฟหนักครับ แม้ว่า ดาเมจของ Tel’Annas ในสกิล 1 กับ 2 จะแรงขึ้น แต่ความคล่องตัวมันลดลง ตรงนี้ก็ต้องเล่นแบบระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิมนะครับ
Yorn ได้บัพ ให้สกิลติดตัวมีความแรงมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีครับ ทำให้มันยิงได้รัวๆ แรงๆ ขึ้น ถูกใจแฟนๆ มหาเทพยอร์น แน่นอนครับ
Ryoma ได้รับการบัพให้ดาเมจของสกิล 2 แรงขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะเดิมทีมันก็ยังเล่นได้ดีอยู่แล้ว ยิ่งบัพให้มันแรงขึ้นแบบนี้ยิ่งดีขึ้นไปกันใหญ่
Wonder Woman ได้รับการบัพ ในสิ่งที่มันควรจะได้รับมานานแล้ว นั่นคือ ลิมิตของความแรงในการตีมอนสเตอร์ป่า ทำให้ Wonder Woman ขโมยป่า หรือ ฟาร์มป่าได้ยากขึ้น แต่หลังจากนี้ มันจะสามารถขโมยป่า เวดป่า หรือแม้แต่ฟาร์มป่า ก็ยังได้นะครับ แต่ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้นครับ ประเด็นมันอยู่ที่ การเอา Wonder Woman ไปยืนเลน แล้วออก Levithan ในแพทช์ใหม่ จะทำให้มันเก็บค่า Stack ของไอเท็มป่าครบ 15 ตัวเร็วขึ้น เนื่องจากทำดาเมจด้วยสกิล 1 ใส่มอนสเตอร์ป่าได้แรงขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ นั่นเองครับ
Lumburr โดยภาพรวม แม้จะเป็นการบัพทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่ได้มีผลอะไรกับการเล่นสักเท่าไหร่ เพราะเป็นการบัพเพื่อลดคูลดาวน์ ให้กับสกิล 2 และอัลติ รวมทั้งลดการใช้มานา เวลากดใช้สกิลด้วยแค่นั้นเอง ซึ่งยังไม่มีผลจะทำให้ Lumburr กลับมาติดกระแส หรือติด META ได้เหมือนเมื่อก่อน
Ilumia สำหรับเมจตัวนี้ ยังมีปัญหาเรื่องการแปลภาษาอยู่ครับ แต่ถ้าให้เดา โดยภาพรวม น่าจะดีขึ้นครับ แม้ว่า เวลาใช้สกิล 1 รวมกับสกิลติดตัวที่ทำงาน จะถูกปรับให้เบาลง จากดาเมจที่เมื่อก่อนได้เป็น 2 เท่าเหลือแค่ 1.6 เท่า แต่มันก็ยังถือว่า แรง และรับได้อยู่ครับ
Zanis อีกหนึ่งฮีโร่ที่ต้องบอกว่า น่าสนใจมากๆ เพราะการเพิ่มความสามารถในการดูดเลือด เข้าไปอยู่ในสกิล 2 และไม่ใช่น้อยๆ ด้วยนะครับ สูงสุดถึง 20% ซึ่งเมื่อรวมกับไอเท็มอีกสัก 10% จะทำให้ Zanis ดูดเลือดได้ไม่น้อยกว่า 30% นั่นเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับ แถมการโจมตียังเร็วขึ้นจาก 50 เป็น 200% อันนี้ มีผลแน่นอน เวลากดใช้อัลติ แล้วตามด้วยสกิล 2 ทันที ศัตรูจะได้รับดาเมจโคตรเยอะ จากการโจมตีปกติ ซึ่งมีความเสียหายจริงแทรกเพิ่มเติมเข้ามาด้วย
โดยภาพรวมแล้ว ต้องบอกว่า Zanis มันจะกลับมาเป็นอีกหนึ่งตัวแสบ ที่จะมีคนหยิบมาเล่นกันมากขึ้นแน่นอนครับ และสกิลที่เป็นพระเอก ก็คงจะหนีไม่พ้นสกิล 2 แน่นอน เพราะมันดูดเลือดได้ จะทำให้ Zanis ยืนเลนได้นานมากขึ้น ไม่ต้องกลับบ้านบ่อยๆ นั่นเองครับ
Kriknak มันต้องโดนเนิฟเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ เป็นเรื่องปกติเลย เพราะมันเก่งเกินไป ซึ่งการเนิฟครั้งนี้ ก็ทำให้สกิลติดตัว และสกิล 1 ของเจ้าด้วงเบาลงอย่างเห็นได้ชัด มีโอกาสที่มันจะหลุดแบนได้บ้าง เพราะดาเมจจากสกิล 1 มันเบาลงไปพอสมควร ในช่วงต้นเกม ส่วนเลทเกม ก็เบาลงนิดหน่อยครับ
Y’bneth โดนเนิฟอย่างหนัก โดนแทบทุกสกิล และถูกปรับให้มัน ไปเก่งเอาตอนเลทเกม ทำให้ช่วงต้นเกม มันทำดาเมจได้น้อยมากๆ โดยภาพรวม ถือว่า ดาเมจเบาลงไปจนไม่สามารถเป็นตัวทำดาเมจได้ครับ เหมาะจะเอามาเป็นตัวทำจังหวะ หรือ ตัวสร้างจังหวะ พวก CC อะไรให้ทีมดีกว่า แต่ดูๆ แล้ว โดนเนิฟเยอะ ถ้าจะเล่น ก็ต้องระวังตัวเองมากขึ้นครับ พูดง่ายๆ ต้นเกม อัตราการฟื้นฟูในพุ่มไม้ หายไปครึ่งนึง คิดดูละกันว่า มันจะลำบากขนาดไหน เวลายืนเลน แล้วเจอกับตัวที่มีดาเมจแรงๆ ลำบากแน่นอนครับ
The Joker แน่นอนว่า แม้จะได้รับการบัพมาในแพทช์ที่แล้ว ให้หลังจากใช้อัลติแล้ว โจมตีปกติเร็วขึ้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ที่จะทำให้ The Joker กลับมาผงาดได้อีกครั้ง ดังนั้น ทางทีมงานเค้าก็เลยจัดให้อีกสักรอบ โดยคราวนี้ เพิ่มดาเมจให้อัลติไปเลย ทำให้มันแรงขึ้นไปแบบเต็มๆ ทีนี้ The Joker มันจะกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง สำหรับการเล่นในทุกๆ เกมอย่างแน่นอนครับ
Ignis สกิล 1 ซึ่งถือว่า เป็นสกิลที่เป็นหัวใจหลักของ Ignis ถูกปรับให้แรงขึ้น ตั้งแต่เลเวล 1 เลย แต่หลังจากนั้น จะเบาลงครับ เบาลงไปเรื่อยๆ แถมตัวคูณดาเมจเวท ก็ถูกปรับลดลงไปอีก นั่นแปลว่า แม้จะใส่ของเต็มเท่าที่เคยใช้ดาเมจโดยรวมของสกิล 1 ก็จะเบาลงไปเยอะกว่าเดิมพอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้น เลิกแบน Ignis ได้แล้วครับ มันไม่โหดเหมือนเดิมอีกแล้ว
Lindis โดนเนิฟไปค่อนข้างเยอะ ในช่วงกลางเกม และเลทเกม ทำให้ดาเมจช่วงกลางเกม และเลทเกม เบาลงไปอย่างเห็นได้ชัด ถามว่า ยังเอามาเล่นได้อยู่มั้ย ยังเล่นได้อยู่ครับ เพราะดาเมจช่วงต้นเกมถึงกลางเกม ยังแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ ดังนั้น มันก็เลยคล้ายๆ กับเป็นการวัดใจว่า ถ้าหยิบ Lindis มาเล่น ต้องขึ้นนำให้ได้ตั้งแต่ต้นเกม ถ้าเงินไม่นำ เกมไม่นำ ลำบากแน่นอนครับ เพราะถ้าเกมเป็นฝ่ายนำ ดาเมจของ Lindis ก็จะแรงแน่นอน และชดเชยที่ดาเมจโดนเนิฟไปได้ครับ พูดง่ายๆ คือ ต่อไปนี้ Lindis จะคล้ายๆ Fennik คือ ต้องชิงขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมให้ได้ ไม่อย่างนั้น อาจจะโดนพลิกเอาได้ง่ายๆ เพราะดาเมจไม่พอในช่วงเลทเกมนั่นเองครับ
Roxie โดนเนิฟสกิล 1 ไปบ้าง แต่ชดเชยได้ครับ คือ แบบนี้ เค้าปรับให้ดาเมจเวทจากสกิลมันลดลงไปครับ แต่ไปเพิ่มที่ตัวคูณดาเมจเวท นั่นแปลว่า ถ้าอยากได้ดาเมจเวทแรงๆ ให้ Roxie ก็ต้องใส่ไอเท็มเพิ่มพลังเวท เช่น Berith’s Agony หรือ Soaring Aura ก็จะทำให้ได้ดาเมจเวท แรงขึ้น แรงกว่าปกติอีกนะครับ เพราะตัวคูณดาเมจเวทจากไอเท็ม มันถูกเพิ่มจาก 0.16 มาเป็น 0.2 เลยนะครับ ดังนั้น ในแพทช์ใหม่นี้ ถ้าจะเล่น Roxie แล้วอยากเผาให้แรงๆ ก็ต้องออกของที่มี +พลังเวท เยอะๆ ครับ อยู่ที่การออกของแล้วครับ ว่าจะทำให้ Roxie มันเก่งขึ้น หรืออ่อนลง
Taara หลังจากที่ปรับแพทช์มาก่อนหน้านี้ ทำให้มันอ่อนลงไปเยอะ ดังนั้น ทางทีมงาน ก็เลยปรับใหม่ ให้คล้ายๆ กับของเดิมที่เคยเป็น เราก็จะเห็นคนหยิบมา Taara มาเล่นกันมากขึ้นเหมือนเดิมครับ
Raz ปรับลดดาเมจของสกิล 2 ไปนิดหน่อย มีผลบ้าง แต่ไม่ถึงกับมีนัยยะสำคัญอะไร ยังคงหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิมครับ ติด META อยู่เหมือนเดิม
The Flash ลดคูลดาวน์ให้กับสกิล 1 เพื่อให้มันเล่นได้สนุกมากขึ้น ใช้สกิล 1 ได้บ่อยมากขึ้น
Mina ปรับลดความเร็วเคลื่อนที่พื้นฐาน ให้ช้าลงนิดนึง คือ มันวิ่งเร็วเกินไป เข้าถึงตัวศัตรูได้เร็วไป ก็เลยปรับลดลงไปครับ ไม่มีผลอะไรมากนักครับ เล่นได้เหมือนเดิม และก็ต้องแบนมันเหมือนเดิม
Kahlii ปรับพลังโจมตีขึ้นมานิดหน่อย ไม่มีผลอะไร
Natalya ปรับเพิ่มพลังป้องกัน และพลังชีวิตขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ได้เก่งขึ้นอะไรมากมาย
Mganga ปรับเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่พื้นฐาน และ ความเร็วโจมตี อันนี้ ทำให้มันเก่งขึ้นบ้าง แต่ไม่ถึงกับเก่งแบบสุดๆ นะครับ แต่จะทำให้มันเล่นได้สนุกมากขึ้นนั่นเองครับ
Batman ได้รับการบัพให้สกิล 3 ในตอนที่กำลังกดใช้ ให้มันค่อยๆ หายตัว จะไม่ตกเป็นเป้าหมาย ของสกิลใดๆ ทำให้มันคล่องตัวมากขึ้น และเก็บอัลติ เอาไว้ใช้เพื่อหนีได้แล้วครับ
Murad มีการปรับแต่หลายคน อาจจะสงสัยว่า มันเป็นการบัพ หรือ การเนิฟ โดยส่วนตัว ผมมองว่า มันเป็นการบัพครับ เพราะ 5% ในช่วงต้นเกม ถือว่าน้อยครับ แปลว่า การปรับแบบนี้ จะทำให้ Murad ช่วงต้นเกม ดาเมจแรงขึ้นแน่นอนครับ
และนี่ก็คือ วิเคราะห์ ROV แพทช์ใหม่ พ.ย. 61 ของฮีโร่ทุกตัว ที่ถูกปรับสมดุลนะครับ หวังว่า คงจะทำให้ทุกคน มีความเข้าใจกันมากขึ้น เกี่ยวกับแพทช์ใหม่ ที่อีกไม่นานก็จะปรับแน่นอน ทำความเข้าใจเอาไว้ก่อนครับ เพราะหลังจากปรับแพทช์ รูปแบบการเล่น การจัดทีม ต้องเปลี่ยนไปแน่นอน ก็เห็นๆ อยู่ว่า มีฮีโร่หลายๆ ตัว เก่งขึ้น จนต้องหยิบมาลงแร็งค์ และฮีโร่หลายๆ ตัว ก็โดนเนิฟ จนไม่น่าจะหยิบมาเล่นอีกแล้ว
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
