หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผมได้เขียนแนะนำไปแล้วเกี่ยวกับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับการปรับแพทช์ล่าสุดในบทความ ข้อมูล ROV แพทช์ 16 เม.ย. 63 เซิฟไต้หวัน ซึ่งก็ใช้เวลานานพอสมควร ประมาณ 7 วัน กว่าที่เซิฟไทยจะทำการปรับตามเซิฟไต้หวัน ซึ่งในระหว่างนั้น ก็มีการปรับสมดุลเพิ่มเข้ามาอีก 3 ตัว ซึ่งผมไม่ได้เขียนเอาไว้ในบทความก่อนหน้านี้ ทีนี้เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ผมก็จะมาทำการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ใหม่ 23 เม.ย. 63 และแนะนำกันเลยว่า ฮีโร่ที่ได้รับการปรับสมดุลในแพทช์นี้ มีตัวไหนบ้าง ที่น่าหยิบมาเล่นมากขึ้น
วิเคราะห์ ROV แพทช์ใหม่ 23 เม.ย. 63 ปรับสมดุลฮีโร่ตัวไหนน่าเล่นที่สุด?
ถ้าพูดถึงฮีโร่ที่ถูกปรับสมดุลเพิ่มเข้ามา จะมีอยู่ 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่ Chaugnar, Ryoma และ Volkath ซึ่งตัวของ Volkath เอง ไม่ได้ปรับอะไรที่โดดเด่นมากนัก เป็นการปรับเพิ่มให้สกิล 2 ที่เมื่อใช้แล้วฆ่าศัตรูได้ จะได้รับมานาคืนทันที แค่นั้นเอง เป็นการบัพเล็กๆ ให้กับ Volkath แค่นั้นเอง ส่วน Chaugnar กับ Ryoma ถูกปรับให้เก่งขึ้นจนติดอันดับฮีโร่น่าเล่นเลยทีเดียวครับ ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า อันดับของฮีโร่น่าเล่นที่ถูกปรับสมดุลในแพทช์นี้ มีตัวไหนบ้าง ผมจะอธิบายเป็นตัวๆ เลยนะครับ ว่าทำไมมันถึงได้น่าเล่น เพราะอะไร?
Ryoma
Ryoma นี่ ถูกปรับให้เก่งขึ้นแบบชนิดที่ว่า แซงหน้า Batman เลยทีเดียวครับ เพราะมันเป็นการปรับเพิ่ม Mechanic ของสกิลใหม่ ให้กับตัวของ Ryoma เอง นั่นคือ สกิล 1 ของ Ryoma ถ้าเรากดใช้แล้วโดนเป้าหมาย เราจะสามารถกดใช้ซ้ำได้อีกครั้ง ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ดีมากๆ ใช้ได้หมดกับทุกเป้าหมาย จะเป็นฮีโร่ ครีป หรือ มอนสเตอร์ป่า ส่งผลให้ Ryoma จะมีความคล่องตัวในการไล่ฆ่า และการหนีเอาตัวรอด เพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวครับ พูดง่ายๆ กดใช้สกิล 1 ได้ 2 ครั้งต่อเนื่อง ทำให้ระยะการหนี หรือ การไล่ล่า ไกลขึ้นเยอะ มันจะกลายเป็น ออฟเลน ที่พลิ้วขึ้นกว่าเดิมในทันทีครับ
และถึงแม้ว่า จะมีการปรับลดดาเมจของสกิล 1 ของ Ryoma ลงไปเป็น 250/300/350/400/450/500 ( +1.25 physical attack) → 200/240/280/320/360/400 ( +1.0 physical attack) ก็ตาม มันก็ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะเราไม่ได้คาดหวังดาเมจจากสกิล 1 ของ Ryoma สักเท่าไหร่อยู่แล้ว แต่จะเน้นที่ดาเมจจาก สกิลติดตัว และสกิล 2 ที่เป็นการแทงเป็นหลัก
ทำให้โดยรวมแล้ว Ryoma น่าเล่นมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ทั้งในตำแหน่ง ฟาร์มป่า (Jungle) และ ตำแหน่งออฟเลน (DSL) รวมทั้งในบางครั้ง ก็หยิบไปเล่นในเลนแครี่ (ADL) ก็ได้ด้วยเช่นกัน คือ พอมันพลิ้วขึ้น มันก็เล่นได้ง่ายมากขึ้น เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทีมที่ต้องการ Burst Damage แรงๆ ในช่วงต้นเกมนั่นเองครับ CC ก็หนัก แถมยังได้ความพลิ้วขึ้นมาอีก บอกเลยว่า โหดแน่นอนครับ
Batman
ผมบอกไปแล้วว่า Batman มันเก่งขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด ทั้งในช่วงต้นเกม และ เลทเกม กล่าวคือ ในช่วงต้นเกม ได้รับการบัพให้ สกิล 2 ดูดเลือดได้แรงขึ้น นั่นทำให้ตัวมันเอง ในจังหวะเข้าไฟต์ ทำได้ง่ายมากขึ้น ตายยากขึ้น ส่วนในช่วงเลทเกม มันก็จะใช้อัลติได้บ่อยมากขึ้น ป่วนเกมได้มากขึ้น ทำให้ตัวของมันเอง มีความอ่อนตัวในการเล่นมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ
นั่นแปลว่า ต่อไปนี้ เราสามารถหยิบ Batman มาเล่นได้ทั้งในตำแหน่ง ฟาร์มป่า และ ออฟเลน อย่างเต็มตัว ใช่ครับ มันสามารถยืนออฟเลนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ไปๆ มาๆ สามารถสลับตำแหน่งกันได้เลยกับ Ryoma คือ ให้ Ryoma มาฟาร์มป่า แล้ว Batman ไปออฟเลน ยังได้เลยครับ เพราะในช่วงเลทเกม การหายตัวของ Batman จะเป็นปัญหา และกดดันทางจิตวิทยาฝั่งตรงข้ามได้เป็นอย่างดี และมีความคล่องตัวในการแยกดันมากขึ้น ทำให้ตัวมันเอง ดูแล้วเหมาะสมกับการเล่นในตำแหน่งออฟเลนมากขึ้นกว่าเดิม เพราะคล่องตัวมากขึ้น หายตัวได้บ่อยขึ้น ทำให้ล้วงก็ง่าย แยกดันก็สบายกว่าเดิมเยอะนั่นเองครับ
อย่างไรก็ตาม Batman มันไม่สามารถขึ้นบ้านได้ง่าย ตัวมันเองเก่งในการป่วนเกม เน้นการล้วงแนวหลัง พวกตัวบางๆ หรือเปิดแมพ แยกดัน แต่พอมาถึงเรื่องการขึ้นบ้านชั้นใน ทีมจำเป็นต้องมีตัวยิงจากระยะไกลคอยช่วยตรงนี้ เช่น Violet ส่วน Batman ก็ทำหน้าที่แยกดันไป และคอยหายตัวมากดดันศัตรูให้ถอยหนีไป แบบนี้จะดีกว่า ตรงนี้ผู้เล่นในทีมต้องเข้าใจจุดเด่น และจุดด้อยของ Batman ด้วยนะครับ มันหายตัวได้บ่อยขึ้นก็จริง แต่ใช่ว่า มันจะทำอะไรได้มากมาย ทีมต้องเดินเกมช่วยให้ Batman ล้วงง่ายขึ้น หรือป่วนได้ง่ายขึ้นด้วยนะครับ มันถึงจะสอดคล้องกัน
Kil’Groth
อีกหนึ่งฮีโร่ที่เก่งขึ้นแน่นอน ก็คือ Kil’Groth กล่าวคือ มันจะดูดเลือดได้เยอะมากขึ้น เล่นสนุกขึ้นกว่าเดิมแน่นอน แม้ว่าสกิล 1 จะสโลว์ศัตรูน้อยลงก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เทียบกับสิ่งที่มันได้รับการบัพความสามารถให้สกิล 1 แรงขึ้นในช่วงเลทเกม และบัพสกิล 2 ให้ดูดเลือดเยอะขึ้น แบบนี้ก็ทำให้ Kil’Groth ที่มันฟาดรัวๆ เก่งขึ้นแล้วครับ
Chaugnar
Chaugnar ได้รับการบัพความสามารถให้สกิล 2 ทำดาเมจได้แรงมากขึ้นกว่าเดิม 275/325/375/425/475/525 ( +0.35 magical attack) → 300/360/420/480/540/600 ( +0.4 magical attack) และปรับให้การสะสม Stack ที่เมื่อ Chaugnar กดใช้สกิล 2 แล้วโดนศัตรู จะได้รับการเพิ่มพลังโจมตีให้ตัวเอง 30% จากเดิมที่สะสมได้ 2 ครั้ง ก็ปรับเป็น 4 ครั้ง ซึ่งตรงนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ
ถามว่า การปรับแบบนี้ ทำให้ Chaugnar เก่งขึ้นจากหน้ามือ เป็นหลังมือเลยมั้ย ก็ต้องตอบว่า ไม่ถึงขนาดนั้นครับ เพียงแต่มันปรับให้ Chaugnar ในจังหวะที่เข้าไฟต์ ทำดาเมจได้แรงขึ้น เข้าไปนัวกับศัตรูแล้วทำดาเมจเวทได้แรงมากขึ้น ไล่ฆ่าพวกตัวบางๆ อย่าง แครี่ และเมจได้ง่ายขึ้น เพราะมีดาเมจจากสกิล 2 ซึ่งเป็นสกิลหลักในการทำดาเมจของ Chaugnar ได้รุนแรงขึ้นเท่านั้นเองครับ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องไปว่ากันหน้างาน และดูที่จังหวะด้วยครับว่า สามารถกดรัวสกิล 2 ได้เต็มที่มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม การปรับแบบนี้ ก็ทำให้การเล่น Chaugnar เวลาที่หยิบมาแก้ทาง Alice มันเล่นได้ง่ายมากขึ้นพอสมควร แต่เราก็ต้องปรับในเรื่องของ ไอเท็ม มาช่วยด้วย รวมทั้งพลังแฝง ก็จะรีดเอาความแรงของสกิล 2 ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ เดี๋ยวผมจะเอามาเขียนแนะนำกันแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจัดให้ครับผม
Jinna
หนึ่งในฮีโร่ที่เรียกได้ว่า โดดเด่นในการปรับแพทช์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่ผมจัดให้มันอยู่ในอันดับที่ 5 ครับ เพราะการปรับให้สกิล 1 ดูดเลือดได้นั้น มันมีเงื่อนไขครับ นั่นคือ
1. มันปรับให้ทำงานเมื่อโดนฮีโร่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น ถ้าโดนครีป มันจะไม่ฟื้นฟู HP ให้
2. ถ้าชิ่งโดนศัตรูครั้งที่ 2 จะฟื้นฟูให้เพียง 30% เท่านั้น
จากเงื่อนไขทั้งสองข้อนี้ ทำให้รูปแบบการใช้ไอเท็ม และพลังแฝงของ Jinna ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ยังคงต้องออกแบบเดิมอยู่ดี และใช่ครับ มันเก่งขึ้น แต่ก็มีเงื่อนไขให้เราต้องทำตามด้วย ถึงจะเก่งขึ้นแบบสุดๆ จริงๆ ดังนั้น แนวทางการเล่น Jinna ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพียงแต่เราสามารถหยิบมันมาสู้กับพวกฮีโร่ที่เก่งๆ หลายๆ ตัวในปัจจุบันได้ง่ายมากขึ้น เข้าไปนัวในวงไฟต์ได้ดีมากขึ้น ยืนทนขึ้น เพราะดูดเลือดได้แบบรัวๆ นั่นเองครับ และที่สำคัญ บอกตรงนี้ไว้เลยว่า ยังไงไอเท็มเวทแวมไพร์อย่าง Rhea’s Blessing ก็จำเป็นสำหรับ Jinna อยู่ดีนะครับ ต้องออกมันเสมอครับ
นี่คือ อันดับของฮีโร่ที่เรียกได้ว่า โดดเด่นจากการปรับแพทช์ล่าสุด โดยเป็นการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ใหม่ 23 เม.ย. 63 ที่ผมได้คัดมาแล้วว่า ฮีโร่ 5 ตัวนี้ ถูกปรับให้เก่งขึ้นแบบเห็นได้ชัด ส่วนฮีโร่ตัวอื่นๆ ที่โดนเนิฟ ก็เนิฟลงไปพอสมควร แต่ก็ยังสามารถหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิม เช่น Marja แม้จะโดนเนิฟหนัก แต่มันก็ยังเป็น ฮีโร่ล่อซื้อสกิล ชั้นดี ที่ยังสามารถหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละครับ
อย่างไรก็ตาม การจะหยิบฮีโร่ที่ผมได้บอกว่า มันถูกปรับให้เก่งขึ้นใน 5 อันดับนี้มาเล่น ก็ต้องดูความเหมาะสมและสถานการณ์ด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่า จะหยิบมันมาเล่นตลอดเวลา เล่นมันทุกเกมเลย แบบนั้นก็ไม่ใช่ ยกตัวอย่างเช่น Chaugnar ตัวนี้เราควรหยิบมาเพื่อแก้ทาง Alice เป็นหลักเท่านั้นนะครับ ถ้าในเกมปกติ ที่เจอกับ โรมมิ่งตัวอื่นๆ ที่ไม่ได้ CC อะไรหนักหนา ก็ไม่ควรหยิบมาเล่น ใช่ครับ มันเก่งขึ้น แต่ไม่ได้เก่งขึ้นอะไรขนาดนั้น หรือ Jinna ก็ไม่จำเป็นต้องหยิบมาเล่นทุกเกม เพราะมันเก่งขึ้น แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น มันยังคงมีเงื่อนไขอยู่เช่นกัน
ส่วน Batman และ Ryoma ที่เก่งขึ้นแบบเห็นได้ชัด เราก็สามารถหยิบมาเล่นได้บ่อยขึ้น แต่ก็ควรดูด้วยว่า เจอกับศัตรูแบบไหน เพราะทั้งสองตัวนี้เป็นแอสซาซินต้นเกม กล่าวคือ มันเก่งในช่วงต้นเกม และสิ่งที่ Batman ได้รับบัพมา ก็จะทำให้มันคล่องตัวขึ้นในช่วงเลทเกม ดังนั้น ในทีมต้องมีฮีโร่เลทเกม และยิงไกล เพื่อช่วยให้การขึ้นบ้านทำได้ง่ายด้วย มันถึงจะเล่นได้คล่องตัวมากขึ้น
ย้ำอีกครั้งว่า ฮีโร่เหล่านี้เก่งขึ้นก็จริง แต่ก่อนจะหยิบไปเล่น ให้ดูความเหมาะสม ของทั้ง Composition ของทีมเรา และการดราฟตัวของฝั่งตรงข้าม ว่าเราสามารถหยิบฮีโร่เหล่านี้ลงไปเล่นได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่า “กูจะเล่นใครจะทำไม” แบบนั้นก็ไม่ถูกนะครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
