วิเคราะห์ RoV แพทช์ 24 ม.ค.65 ยุคทองของซัพพอร์ต “ใครไม่แท็งค์ กูแท็งค์เอง เก่งขนาดนี้ไม่เล่นได้ไง”

และแล้ว การปรับแพทช์ใหม่ในเกม RoV ที่เป็นการปรับสมดุลครั้งใหญ่ มีการปรับสมดุลฮีโร่จำนวนมาก ในปี 2022 ก็มาถึง นั่นคือ RoV แพทช์ 24 ม.ค. 65 หรือ แพทช์ตรุษจีน ปี 65 มีการปรับฮีโร่เก่าๆ หลายตัว ให้เก่งขึ้นแบบสุดๆ ในบทความนี้ผมจะมาทำการ วิเคราะห์ RoV แพทช์ 24 ม.ค.65 แบบเจาะลึกให้ได้เข้าใจกันเลยว่า ฮีโร่ตัวไหนเก่งขึ้นบ้าง และฮีโร่ตัวไหนอ่อนลง จะได้เข้าใจว่า จะเกิดอะไรขึ้นในเกม RoV หลังจากนี้บ้าง

วิเคราะห์ RoV แพทช์ 24 ม.ค.65 ปรับสมดุลฮีโร่จำนวนมาก ฮีโร่เก่ากลับมาเก๋ากันเพียบ ยุคทองของซัพพอร์ต

6 ฮีโร่ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการปรับสมดุลแพทช์นี้

ฮีโร่ใหม่ Yue -> อ่านได้ในบทความ รีวิวสกิลต่างๆของ Yue RoV เมจโจมตีระยะไกล

TeeMee -> อ่านได้ในบทความ วิเคราะห์ TeeMee RoV ปรับใหม่ เก่งขึ้นกว่าเดิม

Ormarr -> อ่านได้ในบทความ วิเคราะห์ Ormarr RoV แพทช์ใหม่ เก่งขึ้น

Chaugnar -> อ่านได้ในบทความ Chaugnar แพทช์ใหม่ เก่งขึ้นแบบสุดๆ

Lumburr -> อ่านได้ในบทความ Lumburr แพทช์ใหม่ ทุบที มีกระเด็นไกล 8 เมตร

Moren -> อ่านได้ในบทความ Moren บัพมาใหม่ โหดขึ้น สตั้นได้ดั่งใจ

ฮีโร่ที่มีการปรับสมดุลเพิ่มเติม 

Mina (ปรับสมดุล)

Mina ROV
Mina

Passive
– ปรับการทำงานของเอฟเฟ็กต์: การใช้สกิล 1 ได้อีกครั้ง จะไม่สิ้นเปลืองมานา

สกิล 2
– มานา: 50 → 50/60/70/80/90/100

วิเคราะห์: การปรับแบบนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับ Mina สักเท่าไหร่นะครับ ไม่ได้ทำให้เก่งขึ้น หรืออ่อนลงอย่างมีนัยสำคัญ คือ การใช้ Passive ที่โจมตีหรือโดนโจมตีจนครบจำนวนแล้วจะกดใช้สกิล 1 ได้อีกครั้งก็แค่ไม่สิ้นเปลืองมานา ซึ่งมันจะมีผลกับช่วงต้นเกมเป็นหลักแค่นั้น รวมทั้งการปรับเพิ่มมานาของสกิล 2 ก็เช่นเดียวกัน มันมีผลกับช่วงต้นเกมเท่านั้น พอถึงช่วงกลางเกม ถึงเลทเกม ก็ไม่ได้มีผลอะไรแล้วครับ ไม่ได้มีการปรับสกิลให้แรงขึ้นหรือเบาลงแต่อย่างใด เพียงแต่ปรับเรื่องการบริหารจัดการมานาในช่วงต้นเกมของ Mina ก็เท่านั้นเองครับ ส่วนเวลาเล่นจริงๆ จะเล่นออกมาเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่ตัวผู้เล่นแต่ละคนครับ คนไหนกดใช้สกิลมั่วซั่ว จนเปลืองมานา ก็จะมีมานาไม่พอเล่น คนไหนเล่นแบบใจเย็น เน้นเอาชัวร์ ไม่กดใช้สกิลมั่วซั่ว แต่เน้นกดในจังหวะที่หวังผลและเหมาะสม ก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

Aoi (บัพ)

Aoi ROV
Aoi

สกิล 2
– ปรับการทำงานของสกิล: ไม่สามารถกดใช้สกิลชาเลนเจอร์ใดๆ ในระหว่างที่โหนสลิงได้ → ไม่สามารถกดใช้ Flicker ขณะที่โหนสลิงได้ แต่นอกนั้น สกิลชาเลนเจอร์ที่เหลือ สามารถกดใช้ได้หมด

อัลติเมทสกิล
– ปรับการทำงานของสกิล: ไม่สามารถกดใช้สกิลชาเลนเจอร์ใดๆ ในระหว่างที่กระโดดอัลติ → ไม่สามารถกดใช้ Flicker ขณะที่กระโดอัลติได้ แต่นอกนั้น สกิลชาเลนเจอร์ที่เหลือ สามารถกดใช้ได้หมด

วิเคราะห์: การปรับแบบนี้จะทำให้การเล่น Aoi โหดขึ้นแน่นอนทั้งตำแหน่ง ออฟเลน และ ฟาร์มป่า โดยเฉพาะตำแหน่งออฟเลน ที่มักจะมากับ สกิลชาเลนเจอร์ Execute ซึ่งประสบปัญหากับแพทช์ที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก เช่น จังหวะโหนตัวไปแล้วจะกดใช้ Execute ก็ไม่ได้ หรือ จังหวะที่กดใช้อัลติ ก็จะกดใช้ Execute ด้วยก็ไม่ได้ พอปรับมาแบบนี้ ก็จะทำให้จังหวะการเข้าไปคอมโบสกิลแล้วออกมาจากไฟต์ของ Aoi หรือ จังหวะการเข้าไปเก็บตก เก็บงาน พวกที่หนีไป ทำได้ง่ายมากขึ้น เพราะสามารถกดใช้ Execute ระหว่างที่กำลังใช้สกิล 2 และอัลติได้นั่นเองครับ

Paine (ปรับสมดุล)

Paine ROV
Paine

Status พื้นฐาน
– ระยะห่างระหว่างการโจมตีแต่ละครั้ง: 0.8 วินาที → 1 วินาที สรุปสั้นๆ ก็คือ Paine จะโจมตีปกติช้าลง

Passive
– การโจมตีพิเศษหลังจากใช้สกิล: หายตัวไปฟัน → เคลื่อนที่ให้เห็นว่าไปตรงไหนแทนและไม่ได้เร็วมากเหมือนแต่ก่อน
– เอฟเฟ็กต์ใหม่: หลังจากใช้สกิลแล้ว ความเร็วในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น 30% และสามารถสะสมได้ 3 ครั้ง

สกิล 1
– เอฟเฟ็กต์ใหม่: ลดความเสียหาย 40% ขณะที่กำลังใช้สกิล
– ปรับสกิล: เมื่อกดใช้สกิลครั้งแรก จะเริ่มนับคูลดาวน์เลย → จะเริ่มนับคูลดาวน์ต่อเมื่อ กลับเป็นร่างคนปกติแล้ว

สกิล 2
– ปรับสกิล ระยะเวลาร่ายเพิ่มขึ้น +0.2 วินาที

อัลติเมทสกิล
– ยกเลิกเอฟเฟ็กต์: ลดความเสียหาย 50% ขณะที่กำลังใช้สกิล

วิเคราะห์: จากที่ได้ลองเล่นมาจริงๆ ชัดเจนเลยครับว่า Paine อ่อนลงไปเยอะ โดยเฉพาะการเนิฟ Passive ที่ไม่ให้หายตัวได้แบบนี้ มันทำให้การฟันแบบพิเศษหลังจากใช้สกิลต่างๆ ของ Paine ช้าลงไปเยอะครับ ผมบอกเลยครับว่า Paine จะมีโอกาสโดนสตั้น โดนจับล็อค และโดนขัดจังหวะสูงมากกว่าเดิมแน่นอน เพราะมันมองเห็นได้ง่าย และไม่ได้รวดเร็วเหมือนเดิมอีกแล้ว อีกทั้งระยะเวลาการร่ายสกิล 2 ก็นานขึ้น ทำให้การคอมโบสกิลโดยภาพรวม มันช้าลงไปหมดครับ ซึ่งความเก่งของ Paine ก็คือ การเข้าไปคอมโบ ตูมๆ ภายในชั่วพริบตา แตกทันที แต่เมื่อปรับแบบนี้ มันจะไม่ได้รวดเร็วแบบนั้นอีกแล้ว แต่จะถูกมองออก พวกตัวบางๆ ก็กด Flicker หนีออกไปได้ หรือกดใช้ Mark of Frost เพื่อหลบสกิลได้ พูดง่ายๆ ก็คือ จะแก้ทาง Paine ได้ง่ายมากขึ้นครับ

ส่วนการปรับให้การฟันปกติมันเร็วขึ้น จากการเก็บ Stack ที่เพิ่มความเร็วโจมตีนั้น มันก็ช่วยให้ฟาร์มได้เร็วขึ้น แนวทางการเล่นของ Paine จึงต้องเน้นไปที่ การเข้าไปคอมโบสกิลแล้วฟันต่อเนื่อง ซึ่งถ้า Stack ครบ 2 หรือ 3 ครั้ง จะทำให้ฟันได้เร็วขึ้นเยอะจริงๆ อันนี้คอนเฟิร์ม แต่ก็ควรจะต้องปรับเซ็ตไอเท็มให้เหมาะกับการยืนฟัน และทำให้ Paine แข็งแกร่งมากขึ้นในระดับหนึ่งด้วย เพราะมันถูกปรับให้ช้าลงไปเยอะ การเพิ่มเกราะเข้ามาบ้าง ก็จะทำให้การเล่น Paine ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถือได้ว่า ทำให้ Paine เก่งขึ้นมาแบบสุดๆ หรือ ชดเชยการโดนเนิฟ Passive ไปก็คือ การปรับให้สกิล 1 สามารถลดความเสียหายได้มากถึง 40% อันนี้เป็นอะไรที่โหดมากๆ คือ โดนป้อมตีเบาลงเยอะ และไม่ตายง่ายๆ ด้วย ดังนั้น สิ่งนี้จะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Paine ซึ่งดูเหมือนจะโดนเนิฟ กลับกลายเป็นเหมือนบัพทำให้เก่งขึ้นได้ทันที ตรงนี้อยู่ที่การปรับสเต็ปการเล่น Paine และจังหวะแล้วล่ะครับ

Zip (เนิฟหนักมาก)

Zip ROV
Zip

ค่า Status พื้นฐาน
– ระยะการโจมตีปกติ: 3m → 2.5m สั้นลงกว่าเดิม
– โจมตีปกติได้เร็วขึ้น

Passive
– ปรับสกิล: หลังจากที่พองตัว จะมีดาเมจเวทเผารอบๆ ตัวของ Zip → หลังจากพองตัว จะลดความเสียหายที่ได้รับ 25%

สกิล 1
– กดใช้สกิลได้เร็วขึ้น
– ดาเมจพื้นฐาน: 200/280/360/440/520/600 (+0.5 พลังเวท) → 400/480/560/640/720/800 (+0.6 พลังเวท)
– ดาเมจต่อเนื่อง: 75/90/105/120/135/150 (+0.2 พลังเวท) → 100/120/140/160/180/200 (+0.15 พลังเวท)
– ยกเลิก: ดาเมจเวทจากการโจมตีปกติเพิ่มเติมที่เป้าหมายที่ติดสัญลักษณ์
– มานา: 75 → 60
– คูลดาวน์: 6 วินาที → 5 วินาที

สกิล 2
– ไม่สามารถอมมอนสเตอร์ป่าได้อีกต่อไปแล้ว
– ยกเลิกดาเมจที่ได้รับหลังจากที่อมเพื่อนแล้ว จะกลายมาเป็นโล่ให้กับเพื่อน
– เอฟเฟ็กต์ใหม่: เมื่อ Zip พองตัว จะมีความเร็วเคลื่อนที่ลดลง 50% อันนี้คือเรื่องใหญ่ นี่เป็นการเนิฟหนักมาก และทำให้ Zip อ่อนแอลงจนไม่ควรหยิบมาเล่นอีกต่อไปแล้ว
– หากกดใช้สกิล 2 แบบแป็บเดียว ไม่อ้าปากแบบเต็มที่: จะมีคูลดาวน์สกิล 50%
– สร้างโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีม: 400/480/560/640/720/800 (+0.4 พลังเวท) → 12% ของ HP ของ Zip
– คูลดาวน์: 10/9.4/8.8/8.2/7.6/7 วินาที → 12/11.4/10.8/10.2/9.6/9 วินาที
– มานา: 110 → 80

อัลติเมทสกิล
– ความเร็วเริ่มต้นในการกลิ้ง: 11 m/s → 12 m/s
– คูลดาวน์: 50/45/40 วินาที → 45/40/35 วินาที

วิเคราะห์: โดยภาพรวม เราไม่ต้องแบน Zip อีกต่อไปแล้วครับ เพราะมันไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว ทั้งอมมอนสเตอร์ป่าไม่ได้ และที่สำคัญเลยก็คือ เมื่อมันพองตัว มันจะเดินช้าลง 50% หรือ สโลว์ตัวเองนั่นเองครับ ซึ่งจากที่ผมได้ทดสอบดู ก็พบว่า มันช้าเกินไป ช้าจนน่าเกลียด ช้าจนกลายเป็นเป้านิ่ง ต่อให้ลดความเสียหายลงไปได้จาก Passive แต่การที่อมแล้วเดินช้า มันจะทำให้ตกเป็นเป้านิ่ง โดนรุมยำด้วยดาเมจ จะมีโอกาสตายสูงมากๆ ตรงนี้ต้องระวังครับ การหยิบ Zip มาใช้ จึงต้องระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม ถ้าอมผิดจังหวะ ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน เพราะทริคการอมสั้นๆ เพื่อสร้างโล่ให้เพื่อน ก็ใช้ไม่ได้อีกแล้ว และถ้าอมตามปกติ แล้วผิดจังหวะ ก็ต้องรอคูลดาวน์ยาวๆ เลยครับ บอกเลยว่า Zip เล่นยากขึ้น และต้องพึ่งพาความเป็นทีมมากขึ้นจริงๆ เพราะมันถูกปรับให้เล่นยากขึ้นเยอะครับ

บางคนอาจจะบอกว่า สกิล 1 ของ Zip มันแรงขึ้นแบบนี้ ก็เอามาเล่นแบบ แท็งค์ที่ทำดาเมจเวทไปเลยก็ได้นี่ คือ แบบนั้นก็ใช่ครับ แต่ก็จะขาดจุดเด่นของ Zip ไปนะครับ เอาเป็นว่า ไปลองเล่นเอาเองก็ได้ครับ ว่ามันอ่อนลงขนาดไหน จะได้เข้าใจครับ

Aya (บัพ)

Aya RoV
Aya

สกิล 1
– สโลว์: 30% (+1% ทุกๆ 50 พลังเวท) → 30/34/38/42/46/50% อันนี้ดีมากครับ ทำให้สกิล 1 ของ Aya เก่งมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องออกไอเท็มเวทล้วนๆ ก็โหดได้เช่นกัน ทำให้การเล่น Aya ในตำแหน่งซัพพอร์ตง่ายขึ้นเยอะ

สกิล 2
– โล่: 500/570/640/710/780/850 (+0.7 พลังเวท) (+8% โบนัสพลังชีวิตของตัวเอง) → 425/500/575/650/725/800 (+0.55 พลังเวท) (+6% โบนัสพลังชีวิตของตัวเอง)
– เมื่อฮีโร่ที่ Aya โดดไปสิง เป็นพวก แอสซาซิน/เมจ/แครี่ โล่จะเพิ่มขึ้น 50% → โล่เพิ่มขึ้นเป็น 100% เมื่อกดใช้กับฮีโร่ทุกประเภท

อัลติเมทสกิล
– ความเร็วในการเคลื่อนที่: 40% (1% เพิ่มขึ้นทุกๆ 50 พลังเวท) และลดลง 20% ภายใน 2 วินาที จนกระทั่งเอฟเฟ็กต์หมดลง → เพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 5 วินาที

วิเคราะห์: การปรับแบบนี้ ก็เพื่อทำให้เราสามารถหยิบ Aya มาเล่นในตำแหน่งซัพพอร์ตอย่างเต็มตัวได้เลย และเก่งไม่แพ้การเอาไปเล่นในตำแหน่งเลนกลาง รวมทั้งสามารถคอมโบกับฮีโร่ได้ทุกตัว เล่นได้ง่ายมากขึ้น โดยภาพรวมผมว่า เราควรจะต้องแบน Aya เหมือนเดิมครับ เพราะมันน่าจะเก่งเกินไป และน่ารำคาญมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อมันหยิบมาคอมโบกับฮีโร่ที่เก่งๆ ในแพทช์นี้หลายๆ ตัว ไม่ว่า Aya จะเล่นตำแหน่งเลนกลาง หรือ ซัพพอร์ต ก็น่ากลัวทั้งนั้นครับ

Lu Bu (เนิฟ)

Lu-Bu-ROV-new
Lu Bu

Passive
– ปรับสกิล: การโจมตีปกติและการใช้สกิลโดนศัตรูจะลดคูลดาวน์ให้กับสกิล 2 ไม่สามารถใช้กับการตีป้อมได้ และจะมีผลลดคูลดาวน์ให้แค่ 50% เมื่อเป็นการโจมตีใส่ครีปเลนและมอนสเตอร์ป่า

อัลติเมทสกิล
– ปรับสกิล: การโจมตีปกติและการใช้สกิลโดนศัตรูจะฟื้นฟู HP ให้กับตัวเอง ไม่สามารถใช้กับป้อมได้แล้ว (ดูดเลือดป้อมไม่ได้) และจะฟื้นฟูเลือดคืนมาได้แค่ 50% หากโจมตีใส่ครีปเลนและมอนสเตอร์ป่า

วิเคราะห์: Lu Bu โดนเนิฟหนักมากครับ เพราะเป็นการเนิฟ “จุดแข็ง” ของ Lu Bu เต็มๆ แบบนี้ก็จะทำให้ Lu Bu เก่งน้อยลงแน่นอนทั้งตำแหน่งออฟเลน และฟาร์มป่า แต่ถามว่า เรายังสามารถหยิบ Lu Bu มาเล่นเหมือนเดิมได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ทำได้ครับ เรายังคงสามารถหยิบ Lu Bu มาเล่นเหมือนเดิมได้แน่นอนครับ แต่อาจจะปรับในส่วนของไอเท็มเพื่อชดเชยในสิ่งที่โดนเนิฟไปบ้าง เพื่อให้เล่นง่ายขึ้น และเก่งมากขึ้น

Thorne (เนิฟ)

Thorne ROV
Thorne

สกิล 2
– เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่: 30% เป็นเวลา 2 วินาที → 20% เป็นเวลา 1 วินาที

วิเคราะห์: การเนิฟแบบนี้ทำให้ Thorne เก่งน้อยลงจริงครับ แต่ก็ไม่ได้มีผลมากมายอะไรกับ Thorne นะครับ มีผลเล็กน้อย มันกระทบจังหวะที่ Thorne ไล่ฆ่าอย่างต่อเนื่องซะมากกว่า แต่โดยภาพรวม ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายครับ ไม่ได้ทำให้ Thorne อ่อนลงจนถึงขั้นที่เล่นไม่ได้ ไม่เลยครับ เรายังเล่น Thorne ได้เหมือนเดิม แค่ต้องทำความเข้าใจ และปรับจังหวะการเล่นเล็กน้อยครับ

Annette (เนิฟ)

Annette ROV
Annette

Passive
– ปรับสกิลใหม่: ปรับลดอัตราการลดคูลดาวน์และการฟื้นฟูมานาขณะที่ Annette กำลังเคลื่อนที่ ให้น้อยลงไป 20%

สกิล 1
– สโลว์: 20/24/28/32/36/40 % → 5/6/7/8/9/10% และสามารถสะสมได้

วิเคราะห์: การหยิบ Annette มาเล่นในตำแหน่งเลนกลาง มันมีมากเกินไป เกินความตั้งใจของทีมงานเค้านะครับ เค้าเลยต้องเนิฟ เพื่อปรับให้ Annette เหมาะกับตำแหน่งซัพพอร์ต ไม่ใช่เลนกลาง ซึ่งการเนิฟแบบนี้ก็ทำให้ Annette อ่อนลง เรียกว่า ลดความเหมาะสมกับการหยิบมาเล่นในตำแหน่งเลนกลางลงไป และเพิ่มความเหมาะสมในการหยิบมาเล่นในตำแหน่งซัพพอร์ตให้มากขึ้น ก็เท่านั้นเองครับ แต่ใครจะหยิบไปเล่นในตำแหน่งเลนกลางเหมือนเดิม อันนี้ก็ไม่ว่ากันครับ แต่จะเล่นยากขึ้นกว่าเดิมพอสมควรนะครับ

Lauriel (บัพ)

Lauriel ROV
Lauriel

Passive
– การฟื้นฟู HP: 110 (+8 ต่อเลเวล) → 120 (+10 ต่อเลเวล)

วิเคราะห์: อีกหนึ่งการปรับเล็กๆ ให้กับ Lauriel แต่รับรองได้ว่า จะมีผลต่อการเล่นแน่นอนครับ เพราะหลังจากนี้เราจะได้เห็น Lauriel เลนกลางกันมากขึ้นแน่นอน เพราะคนที่เล่นเป็นเมน Lauriel รู้ดีว่า การปรับเพิ่มดูดเลือดให้มากขนาดนี้ จะทำให้ Lauriel มันโหดขึ้นขนาดไหน จริงมั้ยครับ?

Omega (บัพ)

Omega ROV ใหม่
Omega ROV

สกิล 2
– ดาเมจของเครื่องบินที่บินรอบตัวแต่ละครั้ง: 1% ของ HP สูงสุด (+0.2 พลังโจมตี) → 1% ของ HP สูงสุด ( +0.25 พลังโจมตี)
– ดาเมจพิเศษตอนฟัน: 25/65/105/145/185/225 (+1.0 พลังโจมตี) (+3/4/5/6/7/8% HP สูงสุด) → 50/100/150/200/250/300 (+1.0 พลังโจมตี) (+4/5/6/7/8/9% HP สูงสุด)
– คูลดาวน์: 10/9.4/8.8/8.2/7.6/7 วินาที → 9/8.6/8.2/7.8/7.4/7 วินาที

วิเคราะห์: นี่เป็นการปรับเพื่อให้ Omega กลับมาเป็นตัว “ดับป้อม” หรือ “หยุดป้อม” แทนที่ สกิลชาเลนเจอร์ Disturb นั่นเองครับ เพราะ Omega เป็นแท็งค์เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่มีสกิลใช้สตั้นป้อมได้จริงๆ ดังนั้น หากคุณต้องการเล่นแบบเดิม คือ เน้นโถม เน้นไล่ฆ่าศัตรูถึงในป้อม เป็นสายบู๊ ก็ต้องใช้ Omega แทนสกิลชาเลนเจอร์ Disturb ที่ถูกเอาออกไปนี่แหละครับ สตั้นป้อมต่อเนื่องได้ยาวๆ แน่นอน

ที่สำคัญไม่ใช่แค่การหยุดป้อม แต่ดาเมจในการทำลายป้อมของ Omega ยังถูกปรับให้แรงขึ้นอีกด้วย จากการบัพสกิล 2 ดังนั้น ในแพทช์นี้ Omega จะกลับมาเป็นตัวกินป้อมที่น่ากลัวอีกครั้ง ใครเผลอ ใครไม่สนใจ ใครชอบทิ้งป้อม ระวังให้ดี Omega แพทช์นี้ ทุบป้อมแรงขึ้นมากนะครับ

Ignis (บัพ)

IGNIS ROV
IGNIS

Passive
– โบนัสดาเมจเวทจากการโจมตีปกติ: 24 (+4 ต่อเลเวล) (+0.1 พลังเวท) → 50 (+5 ต่อเลเวล) (+0.15 พลังเวท)

สกิล 1
– ดาเมจเวท: 375/420/465/510/555/600(+0.55 พลังเวท) → 425/475/525/575/625/675(+0.6 พลังเวท)

อัลติเมทสกิล
– คูลดาวน์: 24/20/16 วินาที → คงที่ 24 วินาที

วิเคราะห์: นี่เป็นการบัพให้ Ignis เก่งมากขึ้นในช่วงต้นเกมถึงกลางเกม โดยเพิ่มดาเมจให้แบบชุดใหญ่ ซึ่งชัดเจนอยู่แล้วว่า Ignis มันก็จะเก่งขึ้นจริงๆ ตามนั้น ในแพทช์ที่แล้ว Ignis ที่ถูกปรับมาใหม่ก็แค่เป็นที่ฮือฮาสร้างกระแสกันแป็บเดียว เพราะดาเมจที่เพิ่มมา มันไม่ได้แรงอะไร และเล่นยาก แต่พอปรับแบบนี้ บัพดาเมจเวทให้แบบนี้ แน่นอนว่า การเล่น Ignis ในแพทช์นี้จะไม่ใช่เพียงแค่กระแสอีกต่อไป แต่จะเป็นการทำดาเมจเวทที่น่ากลัวมากขึ้นจริงๆ แน่นอนครับ

Taara (บัพ)

Taara ROV
Taara

สกิล 1
– เอฟเฟ็กต์ใหม่: การโจมตีปกติของ Taara หากโดนฮีโร่ศัตรูจะลดคูลดาวน์ของสกิล 1 ได้ 1 วินาที
– คูลดาวน์: 11/10.4/9.8/9.2/8.6/8 วินาที → 13/12.4/11.8/11.2/10.6/10 วินาที

วิเคราะห์: Taara เก่งขึ้น แต่ไม่ได้เก่งมากมายชนิดที่ว่า ผิดหูผิดตาอะไรขนาดนั้น แต่มันจะทำให้ Taara เล่นง่ายขึ้นกว่าเดิม เข้าและออกไฟต์ได้ง่าย กล้าที่จะยืนชน ยืนบวก และเข้าไปล้วงแนวหลังของฝั่งตรงข้ามมากขึ้น คือ สมัยก่อน เวลาที่ Taara ใช้สกิล 1 โดดเข้าไปโจมตีใส่ฮีโร่ตัวไหน จะมีปัญหาก็คือ โดดใส่เค้าแล้ว ออกไม่ได้ หรือ ไม่มีสกิลสำหรับหนีออกมา แต่เมื่อมีการปรับแบบนี้ ก็จะทำให้การโดดเข้าไปโจมตีของ Taara มีสกิลสำหรับหนีออกมาได้ ขอแค่โดดเข้าไปแล้ว ทุบๆ ตีๆ ก็จะมีสกิล 1 ไว้โดดหนีได้อีกรอบ ดังนั้น Taara ในแพทช์นี้จะต้องการเรื่องการลดคูลดาวน์มากที่สุด เพื่อทำให้เสต็ปการเล่นมันง่าย และไร้เทียมทานที่สุดในเกมนั่นเอง อย่าลืมนะครับว่า ก่อนหน้านี้หลายๆ แพทช์ Taara มันโดนปรับให้มีดาเมจกายภาพแรงขึ้น ดังนั้น การเข้าไปล้วงแครี่และเมจหลังจากนี้ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ

จากที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์ RoV แพทช์ 24 ม.ค.65 มาถึงตรงนี้ จะพบเลยว่า นี่เป็นการปรับสมดุลฮีโร่ครั้งใหญ่จริงๆ ครับ มีฮีโร่จำนวนมากที่ถูกปรับให้เก่งขึ้นแบบสุดๆ น่าเล่นมากขึ้นเยอะ บางตัวมีการปรับทุกๆ สกิล หรือ ปรับใหญ่เลย เพื่อทำให้เก่งขึ้น แต่บางตัว อาจจะปรับเพียงแค่เล็กน้อย แต่ก็ส่งผลให้เก่งขึ้นมากๆ เช่นกัน เรียกได้ว่า META ในเกม RoV หลังจากนี้จะต้องถูกปรับเปลี่ยนแน่นอนครับ โดยเฉพาะตำแหน่ง ซัพพอร์ต/โรมมิ่ง ที่ถือได้ว่า เป็นไฮไลท์ในการปรับแพทช์ครั้งนี้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะซัพพอร์ตเก่าๆ ที่จะกลับมาเก๋าอีกครั้ง ใครที่เป็นมือใหม่ก็ต้องฝึกกันเยอะๆ นะครับ ส่วนใหญ่ที่เป็นมือเก่า ก็ต้องเอามาปัดฝุ่น ทบทวนกันสักหน่อย เวลากลับมาเล่นจะได้โหดๆ และเฉียบคมกว่าเดิมนะครับ

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ

เรื่องก่อนหน้านี้Moren RoV แพทช์ 24 ม.ค 65 บัพมาเก่งขึ้น ต้นเกมแรง ยืนเลนง่าย สตั้นได้ดั่งใจ เล่นง่ายกว่าเดิม
เรื่องถัดไปวิเคราะห์ไอเท็ม และพลังแฝง ที่ถูกปรับสมดุลใน RoV แพทช์ 24 ม.ค.65 มีผลกับการจัดเซ็ตเดิมๆ หรือไม่