หลังจากที่มีการปรับแพทช์ใหม่ของเกม ROV ไปในช่วงปลายเดือน พ.ค. 64 ที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียงแค่ไม่นาน ก็ได้มีการปรับสมดุลอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นการปรับสมดุล 7 ฮีโร่ และ ปรับสมดุลในสนามรบ ซึ่งถามว่า ส่งผลกระทบอะไรกับการเล่นมากมายหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายนัก อาจจะมีฮีโร่บางตัวที่ผู้เล่นต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้นเพราะระบบบอกว่า มันโดนเนิฟ แต่จริงๆ กลับเหมือนเป็นการบัพให้มันเก่งขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่ผู้เล่นว่าได้ทำความเข้าใจรายละเอียดของการปรับมากน้อยแค่ไหน แต่ฮีโร่ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากมายครับ สำหรับเหตุผลที่ว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ผมจะทำการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ 3 มิ.ย. 64 ให้ได้เข้าใจกันแบบง่ายๆ เลยครับ
วิเคราะห์ ROV แพทช์ 3 มิ.ย. 64 ปรับสมดุล 7 ฮีโร่
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเรื่องของการปรับสมดุลฮีโร่ทั้ง 7 ตัวนั้น ผมก็จะมาวิเคราะห์ในเรื่องการปรับสมดุลในสนามรบซะก่อน เพราะในแพทช์นี้มันมีการปรับอยู่ส่วนหนึ่ง นั่นคือ การปรับค่าของการเงินที่ได้จากการสังหารมังกร Abyssal Dragon โดยปรับเป็น
ค่า Gold พื้นฐานที่ได้รับจากการสังหาร: 60 → 50
อัตราของ Gold ที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของเกม: 5% → 3.5%
ถ้าเราดูจากค่า Status ตรงนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่า ทางทีมงานเค้าตั้งใจปรับลดค่าตอบแทนที่จะได้รับหลังจากที่ได้สังหารมังกร Abyssal Dragon ให้น้อยลง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ทีมที่ได้เปรียบมักจะเป็นฝ่ายที่ได้ครอบครองมังกร Abyssal Dragon มาโดยตลอด ดังนั้นเพื่อไม่ให้ทีมที่ได้เปรียบรวยเร็วมากเกินไป ทางทีมงานเค้าก็เลยได้ทำการปรับลดค่าของ Gold ที่จะได้รับจากการฆ่ามังกร Abyssal Dragon ลงมาครับ
ตรงนี้ก็ชัดเจน เพราะผมก็บอกมาตลอดอยู่แล้วว่า มังกร Abyssal Dragon ตัวแรก หรือช่วงแรกๆ ของเกมนั้น ไม่ได้สำคัญอะไรเลย แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ ยังคงคิดแค่ว่า การได้มังกร Abyssal Dragon ตั้งแต่ต้นเกม หรือ ตอนที่ตัวฟาร์มป่าเลเวล 4 แล้วไปแก๊งค์ที่เลนมังกร จะทำให้ทีมของตัวเองเกิดความได้เปรียบ ดูสิครับ Gold ที่ได้จากการสังหารมังกร Abyssal Dragon ช่วงต้นเกม มันแค่ 50+ Gold เอง แล้วจะไปอยากได้ หรือเสี่ยงชีวิตเพื่อเอามาทำไมกัน ไม่คุ้มค่าเลย ยิ่งมีการปรับลดผลตอบแทนที่ได้จากการสังหารมังกร Abyssal Dragon แบบนี้ ยิ่งทำให้การเอามังกร Abyssal Dragon ในจังหวะที่เสี่ยงๆ ไม่มีความคุ้มค่าอีกต่อไป
ในทางกลับกัน หากผู้เล่นทีมไหนที่ฉลาด จะใช้มังกร Abyssal Dragon นี่แหละ เป็นตัวล่อให้พวกที่ไม่รู้ ไม่สนใจที่จะอ่านข้อมูลการปรับแพทช์ใหม่ ที่บ้าอยากจะได้แต่มังกรตั้งแต่ต้นเกม เข้ามาเสี่ยงหรือฝืนตีมังกร เราก็แค่ปล่อยให้มันเสียสกิลไปกับการตีมังกร แล้วก็รอจังหวะที่มันฆ่ามังกรได้ เราก็เข้าไปฆ่าพวกที่บ้าอยากได้มังกรให้หมด ทีมที่ฆ่าฮีโร่ได้ จะได้เปรียบในเรื่องการเงินและเลเวลมากกว่าที่ฆ่ามังกรซะอีก เรียกได้ว่า ทีมที่รอให้อีกทีมฆ่ามังกรในช่วงต้นเกมไปก่อน แล้วรอจังหวะเข้าไปฆ่าศัตรูหลังจากที่ฆ่ามังกรไปแล้ว จะได้เปรียบมากที่สุด เพราะทีมที่เปิดเอามังกรก่อนจะเสียสกิลไปกับการเอามังกรจนหมด ไม่เหลือสกิลไว้สู้กับอีกทีมที่มาเล่นงานทีหลังได้
การปรับสมดุลฮีโร่ 7 ตัว ในแพทช์นี้
Riktor (เนิฟ)
อัลติเมทสกิล
เอาเงื่อนไขการติดสัญลักษณ์เฉพาะตอนที่ระเบิดสกิลตอนแรกออกไป ปรับใหม่ให้เป็นศัตรูที่โดนอัลติของ Riktor ตอนไหน ก็ติดสัญลักษณ์ได้หมด
ระเบิดความเสียหายจริง : 300/500/700 (+1.0 พลังโจมตี) → 200/350/500 (+0.8 พลังโจมตี)
Riktor โดนเนิฟอีกแล้ว ก็อย่างว่าแหละครับ การเนิฟสกิล 2 ในครั้งที่แล้ว ไม่ได้ทำให้ Riktor มันอ่อนลงไปอะไรขนาดนั้น มาคราวนี้ก็เลยต้องเนิฟอัลติอีก โดยเป็นการเนิฟในส่วนของดาเมจให้เบาลงนั่นเองครับ แต่ก็มีการปรับให้มันดีขึ้นทดแทนกันมา นั่นคือ ปรับในเรื่องการติดสัญลักษณ์ ตรงนี้หลายคนอาจจะงง มาครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ได้เข้าใจกัน
เดิมทีอัลติของ Riktor มันจะติดสัญลักษณ์ให้กับศัตรูตอนที่กำลังเปิดอัลติพอดีนะครับ นั่นคือ มันต้องกดใช้อัลติให้โดนศัตรูตั้งแต่ตอนแรก คือ จังหวะการระเบิดสกิลอัลติแล้วจะติดสัญลักษณ์ให้กับศัตรูที่อยู่ในรัศมีของอัลติเท่านั้น ส่วนศัตรูตัวอื่นๆ ที่เข้ามาทีหลัง หรือ เราวิ่งเข้าไปหาศัตรูตัวอื่น มันก็จะโดนอัลติของ Riktor ด้วยก็จริง แต่จะไม่ติดสัญลักษณ์และไม่ถูกสะสมสัญลักษณ์จนเกิดการระเบิดเป็นความเสียหายจริงนั่นเอง เรียกได้ว่า ถ้ากดใช้อัลติผิดจังหวะ กดใช้ตอนที่ไม่มีศัตรูอยู่ในรัศมีตอนแรก แล้วพุ่งเข้าไปหาศัตรู เราก็จะเสียอัลติไปแบบไม่คุ้มค่า ดังนั้น ทางทีมงานเค้าก็เลยปรับใหม่ ให้ศัตรูที่โดนอัลติของ Riktor จะโดนตอนไหนก็ตาม จะเริ่มติดสัญลักษณ์ได้หมด ไม่จำเป็นต้องโดนระเบิดตอนแรกของอัลติอีกต่อไป โดนตอนไหนก็ติดสัญลักษณ์ได้หมด ทำให้การเล่น Riktor ง่ายขึ้นเยอะครับ นั่นจึงเป็นที่มาที่เค้าต้องปรับลดดาเมจของอัลติให้มันเบาลงครับ ไม่งั้นมันก็จะโกงเกินไปนั่นเอง
ก็ต้องบอกว่า หลังจากนี้ อัลติของ Riktor มันจะโหดขึ้นครับ คือ ใช้งานได้ง่าย และโดดเข้าไปป่วน เข้าไปไล่ฆ่าศัตรูได้ง่ายขึ้น และทำให้อัลติของ Riktor ระเบิดความเสียหายจริงได้ง่ายขึ้น เอาจริงๆ มันก็เหมือนกับเป็นการบัพให้ Riktor เก่งขึ้นเหมือนกันนะครับ เพราะอัลติของ Riktor จะน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม ล้วงแนวหลังได้ง่ายขึ้นเพราะแม้จะกดใช้อัลติก่อนที่จะเข้าไปถึงตัวแครี่ แต่เมื่อเข้าไปถึงตัวขณะที่อัลติกำลังทำงานอยู่ ก็สะสมสัญลักษณ์และระเบิดเป็นความเสียหายจริงเล่นงานแครี่ได้ด้วยเช่นกัน รวมทั้งถ้าโดดเข้าไปกลางวง ก็จะทำให้ศัตรูทุกตัวที่อยู่ในวงตรงนั้น ติดสัญลักษณ์และโดนระเบิดความเสียหายจริงได้ด้วยเช่นกัน แม้ภาพรวมดาเมจจะลดลง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เหมือนเป็นการบัพให้ Riktor ซะมากกว่านะครับเนี่ย
Zill (เนิฟ)
Passive
ดาเมจของ Zill ที่สามารถโจมตีใส่มอนสเตอร์ป่า จะถูกจำกัดสูงสุดไม่เกิน 2000
การปรับแบบนี้ เป็นการเนิฟ Zill นะครับ แต่ไม่ได้เนิฟทำให้มันเก่งน้อยลง หรือ ทำดาเมจใส่ฮีโร่น้อยลง เพียงแต่เป็นการเนิฟทำให้ Zill มันฟาร์มป่าได้ช้าลงนั่นเองครับ เพราะในช่วงกลางเกมถึงเลทเกม Zill มันจะฟาร์มป่าได้เร็วมากเกินไป ทำให้การเงินฉีกขึ้นนำได้ง่าย ทางทีมงานเค้าก็เลยต้องปรับชะลอความเก่งในการฟาร์มของ Zill ลงมาหน่อยนึง ก็เท่านั้นเอง ก็เหมือนกับการเนิฟ Wonder Woman สมัยก่อนนั่นแหละครับ ที่มีการกำหนดดาเมจสูงสุดที่ทำใส่มอนสเตอร์ป่าได้ เพื่อไม่ให้ฟาร์มได้เร็วเกินไปนั่นเองครับ
แปลว่า Zill ยังคงอันตรายอยู่ดีนะครับ เพราะนี่ไม่ใช่การเนิฟดาเมจที่โจมตีใส่ฮีโร่ แต่มันเป็นแค่การทำให้ Zill ฟาร์มป่าได้ช้าลงนิดนึงเท่านั้นเอง โดยภาพรวม Zill จึงยังคงเก่งมากๆ ในช่วงกลางเกม ถึงเลทเกมเหมือนเดิมนะครับ ยังคงฟันแท็งค์ได้ตัวแตกเหมือนเดิม
ตรงนี้ผมอยากให้ทุกคนได้เข้าใจนะครับ คือ ก่อนหน้านี้ Zill มันเก็บ Objective ต่างๆ ได้เร็วมาก ไม่ว่าจะเป็น Abyssal Dragon หรือ Dark Slayer เพราะ Passive ของมันที่ทำดาเมจได้เป็นเปอร์เซ็นต์เลือดนั่นเอง มันเก่งกับมอนสเตอร์มากเกินไป เค้าเลยต้องปรับลดความเก่งของมันกับมอนสเตอร์ลงมา พิจารณาให้ดีๆ ย้ำอีกรอบว่า มันเก่งกับมอนสเตอร์น้อยลง แต่ไม่ได้แปลว่า จะฟันฮีโร่ฝั่งตรงข้ามเบาลงนะครับ ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจเอาไว้ Zill อาจจะฟาร์มได้ช้าลง แต่มันก็เหมาะสมอยู่แล้ว และต้องปรับสไตล์การเล่นให้เป็นการเล่นกับเพื่อนให้มากขึ้น ตอนเอา Objective ใหญ่ๆ ก็ช่วยๆ กัน แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ เกมนี้เค้าให้เล่นกันเป็นทีม ให้สามัคคีกัน อย่าไปหลงเชื่ออะไรที่ใครแนะนำมาง่ายๆ ไม่มีหรอกครับเก่งคนเดียวน่ะ โดยเฉพาะการ Solo Rank ถ้าขาดความเป็นทีม อยากจะโชว์เก่งคนเดียวเมื่อไหร่ แพ้ทันทีครับ แถมยังเสียเวลาอีกด้วย Zill โดนเนิฟ แต่หยิบมาเล่นได้เหมือนเดิมนะครับ
Arum (เนิฟ)
Passive
ฟื้นฟู HP ให้ตัวเอง ตอนที่หัวสิงโตที่บินอยู่รอบๆ โดนศัตรู: 20 (+5 ต่อเลเวล) (+0.4 พลังเวท) (+3% HP สูงสุด) → 5 (+2 ต่อเลเวล) (+0.4 พลังเวท) (+3% HP สูงสุด)
สาเหตุของการที่ทีมงานเค้าต้องมาเนิฟสกิลติดตัวของ Arum แบบนี้ เพื่อให้ Arum ฟื้นฟู HP ให้ตัวเองได้น้อยลง นั่นก็มาจาก พลังแฝง Explosive Shield นั่นแหละครับ ด้วยความที่พลังแฝง Explosive Shield มันจะเด้งเลือดให้กับ Arum ได้ในจังหวะที่ Arum เข้าไปคลุกวงใน หรือโดนดาเมจอยู่แล้ว หากยังคงปล่อยให้ Arum มันฟื้นฟู HP ด้วยการเอาตัวเข้าไปแนบกับศัตรูได้อีกด้วย มันก็จะโกงมากเกินไป เค้าก็เลยปรับลดอัตราการฟื้นฟู HP ให้น้อยลงครับ ทำให้ Arum เก่งน้อยลงไปพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ถามว่า โดยภาพรวม Arum โดนเนิฟแบบนี้แล้ว ยังคงหยิบมาเล่นได้อยู่หรือไม่ ถ้าคนที่เล่น Arum ช่ำๆ หรือ เป็นเมน Arum จริงๆ ก็จะรู้เลยว่า การเนิฟแบบนี้ มีผลในช่วงต้นเกมแค่นั้นเอง และมันก็เป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก เพราะการเล่นในปัจจุบัน Arum สามารถฟื้นฟู HP ให้ตัวเองจากพลังแฝง Explosive Shield และสกิลติดตัวจากไอเท็ม Gaia’s Standard ได้มากกว่า Passive ของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้น คนที่ชอบเล่น Arum ก็สามารถเล่นต่อไปได้ครับ มันโดนเนิฟจริง แต่ก็ยังสามารถหยิบมาเล่นได้อยู่นะครับ
Iggy (เนิฟ)
สกิล 1
ระยะของสกิล: 9m → 8.5m
เมื่อเปรียบเทียบกับเมจตัวอื่นๆ แล้ว Iggy มันได้เปรียบในเรื่องระยะการโจมตีมากเกินไป ดังนั้น Iggy จึงสามารถกดเลนศัตรูได้หนักมาก ดังนั้น ทางทีมงานจึงจำเป็นต้องปรับลดระยะของสกิล 1 ให้สั้นลง แต่ยังคงรักษาระยะการโจมตีแบบโคตรไกลของอัลติเอาไว้นั่นเอง
การปรับแบบนี้ทำให้ Iggy เล่นยากขึ้นมั้ย? โดยส่วนตัวก็ต้องบอกว่า การปรับลดลงแค่ 0.5m ไม่ได้มีผลอะไรมากมายขนาดนั้นนะครับ ที่สำคัญดาเมจก็ไม่ได้ถูกปรับลดอะไรลงไปด้วย ดังนั้น โดยภาพรวม Iggy ยังคงสามารถหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิมครับ ไม่ได้มีผลอะไรมากมายนักครับ
Ata (บัพ)
สกิล 1
ดาเมจกายภาพ: 125/140/155/170/185/200 → 150/165/180/195/210/225
คูลดาวน์: 8 → 8/7.7/7.4/7.1/6.8/6.5 วินาที
Ata มันโดนเนิฟมาหลายรอบ เรียกได้ว่า เนิฟจนไม่มีใครอยากจะหยิบมาเล่น ทางทีมงานเค้าก็เลยต้องทำการปรับให้มันเก่งขึ้นมาอีกหน่อย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนอยากหยิบ Ata ไปเล่นกันมากขึ้น ซึ่งเอาจริงๆ Ata มันก็ไม่ได้มีดีแค่เอาไว้แก้ทาง Zip อย่างเดียวนะครับ แต่มันยังเล่นงานพวกฮีโร่ขาตายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ยิ่งปรับให้ดาเมจแรงขึ้นแบบนี้ ยิ่งน่าเล่นมากขึ้นไปอีก โดยส่วนตัว ผมก็หยิบ Ata มาเล่นอยู่เรื่อยๆ นะครับ ยิ่งปรับแบบนี้ ยิ่งน่าเล่นมากขึ้นไปอีก
Airi (เนิฟ)
อัลติเมทสกิล
ยกเลิกการต้านทานสถานะออกไป
การที่อัลติของ Airi ช่วยลดความเสียหายที่ได้รับลงได้ และยังมีเรื่องของการรีเซ็ตสกิล 2 ทำให้กดใช้ได้ถึง 2 ครั้ง ก็ช่วยทำให้ Airi มีโอกาสรอดตายสูงอยู่แล้ว ดังนั้น ทางทีมงานจึงตัดสินใจเอาเอฟเฟ็กต์การป้องกันสถานะออกไป เพื่อทำให้เกิดความสมดุลในเกมมากขึ้น เรียกได้ว่า ค่อยๆ เนิฟ Airi ลงไปทีละนิดๆ ลดความเก่งของมันลงไปทีละหน่อยๆ นั่นเอง
การเนิฟ Airi แบบนี้ มีผลอะไรหรือไม่? ตอบเลยว่า ไม่มีผลครับ Airi ยังคงเก่งในตำแหน่งออฟเลน และฟาร์มป่าอยู่ดีครับ เรายังคงสามารถหยิบ Airi มาเล่นได้เหมือนเดิม เพียงแต่จังหวะการกดใช้อัลติต้องระมัดระวังมากขึ้นเพราะมันไม่มีเรื่องของการป้องกันสถานะอีกต่อไปแล้ว ก็ต้องเล่นแบบระวังจังหวะการกดอัลติให้มากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการเจอกับฮีโร่ที่มี CC เยอะๆ เพราะ Airi ไม่มีอัลติช่วยป้องกันสถานะควบคุมต่างๆ อีกแล้วนั่นเองครับ
Azzen’Ka (บัพ)
สกิล 2
ดาเมจเวท: 275/330/385/440/495/550 (+0.55 พลังเวท) → 325/385/445/505/565/625 (+0.6 พลังเวท)
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเนิฟสกิล 2 ของ Azzen’Ka ไป ทำให้ความเก่งของ Azzen’Ka หายไปเยอะเลยทีเดียว กลายเป็นฮีโร่ที่โลกลืมไปซะอย่างนั้น ทางทีมงานเค้าก็เลยทำการปรับสมดุลใหม่ เพิ่มความแรงให้กับสกิล 2 เข้ามาทดแทน ซึ่งก็ถือว่า เพิ่มดาเมจเวทมาให้แรงขึ้นเยอะทีเดียวนะครับ อันนี้ถือว่า น่าสนใจทีเดียวครับ เพราะดาเมจเพิ่มมาเยอะมากทั้งดาเมจพื้นฐานและตัวคูณดาเมจ
อย่างไรก็ตาม การจะหยิบ Azzen’Ka มาเล่น ก็ต้องระวังให้มากหน่อยนะครับ แม้ว่าดาเมจเวทของสกิล 2 จะเพิ่มขึ้น แต่จุดอ่อนของ Azzen’Ka เมจขาตาย ก็มีอยู่ไม่น้อย ดังนั้น ควรจะดูก่อนว่า ฝั่งตรงข้ามดราฟตัวมาแบบไหน เพราะ Azzen’Ka ไม่เก่งกับเกมที่เจอกับพวกตัวล้วงที่ดาเมจแรงๆ แต่มันจะเก่งกับการพวกที่โจมตีระยะไกล เช่น เมจ หรือ แครี่ ควรพิจารณาให้ดีก่อนหยิบมาเล่นนะครับ ไม่ใช่ว่า พอเห็นว่า Azzen’Ka บัพ ก็จะหยิบมาเล่นอย่างเดียว มันไม่ถูกต้องตามหลักการนะครับ ต้องดูความเหมาะสมของการดราฟตัวในแต่ละเกมด้วย
จากที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ 3 มิ.ย. 64 มาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า นี่เป็นการปรับแพทช์เล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้มีผลกับการเล่นสักเท่าไหร่นะครับ จะมีฮีโร่ที่ถูกปรับแบบเด่นๆ และน่าสนใจ ก็แค่ Riktor เท่านั้นเอง ที่ถูกเนิฟดาเมจให้เบาลง แต่บัพให้เล่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่า ถ้าเอาแต่อ่านเผินๆ ไม่ใส่ใจในรายละเอียด ก็จะดูถูกและมองว่า Riktor มันกากลงทันที ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว มันเก่งขึ้นนะครับ ส่วนฮีโร่ตัวอื่นๆ ก็เป็นการปรับสมดุลเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้มีผลอะไรมากมายนัก แค่ปรับสไตล์การเล่นเล็กๆ น้อยๆ ก็เล่นได้เหมือนเดิมแล้ว แม้แต่ Arum ที่ดูเหมือนจะโดนเนิฟไปเยอะๆ แต่เอาจริงๆ แล้ว ก็ยังเล่นได้อยู่ดีนะครับ
แต่ถ้าหลังจากนี้มีการเนิฟพลังแฝง Explosive Shield ล่ะก็ Arum ก็จะถูกเก็บเข้ากรุทันที เพราะจะไม่สามารถหยิบมาเล่นได้อีกต่อไปแล้วนะครับ รวมทั้งแท็งค์อีกหลายๆ ตัว ก็คงจะแย่ตามๆ กันเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องห่วง ถ้ามีอะไรผมจะรีบเอามาบอก ทั้งวิธีแก้ไข และวิธีเล่นให้มันเทพขึ้น รอติดตามกันได้เลยครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก https://moba.garena.tw/news/show/3112
