หลังจากที่ในบทความที่แล้ว ผมได้ทำการวิเคราะห์ RoV แพทช์ 28 ต.ค. 64 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตั้งชื่อการอัพเดตแพทช์ใหม่นี้ว่า “แพทช์ของ Baldum” นั่นก็เพราะว่า มันเป็นการบัพให้ Baldum เก่งขึ้นแบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นตัวมันเองที่มีสกิลที่ดีขึ้น ทำดาเมจเป็นเวท และลดความเสียหายได้ทั้งกายภาพ และเวท รวมทั้งยังมีการบัพพลังแฝง และ ไอเท็มป้องกันให้เหมาะสมกับการใช้งานของ Baldum มากขึ้นไปอีก ถ้าไม่เรียกว่า เป็นการปรับแพทช์ให้ Baldum แล้ว จะเรียกว่าอะไรได้อีกล่ะครับเนี่ย แต่อย่างไรก็ตาม การบัพครั้งนี้ ก็ไม่ได้ทำให้การเล่น Baldum มันง่ายขนาดนั้น เพราะถ้า Baldum ไปตกอยู่ในมือของคนที่เล่นไม่เป็น มันก็จะบางและตายง่ายๆ อยู่ดีนั่นแหละครับ มันต้องเล่นด้วยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Baldum ด้วย ดังนั้น ในบทความนี้ผมก็จะมา สอนเล่น Baldum RoV แบบเต็มๆ ชนิดที่ว่า ต่อให้เป็นมือใหม่ ก็เข้าใจและกลายเป็นมือโปรได้ง่ายๆ เลยทีเดียวครับ
สอนเล่น Baldum RoV : แนวทางการเล่น และทำไมมันถึงเก่งขึ้นมากมายนักในแพทช์นี้?
Baldum เก่งขึ้นจริงๆ ครับ แต่ไม่ได้เก่งขนาดที่ว่า เก่งจน Solo Kill ศัตรูได้ด้วยการคอมโบชุดเดียว นั่นก็ไม่เว่อร์เกินไปครับ ยังไงซะมันก็ยังเป็นฮีโร่ประเภทแท็งค์ที่ต้องเล่นในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ของเกมอยู่ดี และการฆ่าไม่ใช่หน้าที่ของมันอยู่แล้ว (ยกเว้นว่า บางจังหวะที่สามารถทำได้) เพียงแต่ว่า ในการปรับแพทช์ที่ผ่านมา มันทำให้ Baldum เก่งขึ้น เล่นง่ายขึ้น ถึกทนขึ้น และมีการปรับในส่วนอื่นๆ ที่มันเอื้อกับการบัพความสามารถของ Baldum ไปในตัวอีกด้วย โดยภาพรวมจึงทำให้ Baldum เก่งขึ้น เล่นสนุกขึ้นกว่าเดิมมากๆ เลยทีเดียวครับ
หลายคนถามมาว่า ช่วยอธิบายหน่อยว่า Baldum มันเก่งขึ้นตรงไหน เพราะอ่านบทวิเคราะห์แพทช์ที่ผมได้เขียนแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจแบบลึกซึ้ง ได้เลยครับ ผมจะแจงออกมาเป็นข้อๆ ให้ได้พิจารณากันครับ
Passive ที่มีดาเมจเวทผสมด้วย
การที่ Baldum โจมตีปกติแล้วมีดาเมทเวทผสมออกมาด้วยนั้น แม้จะเป็นดาเมจเวทที่เล็กน้อย แต่มันมีผลช่วยในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าครีปเลน หรือ มอนสเตอร์ป่าได้เร็วขึ้น (เข้าไปช่วยเลี้ยงตัวฟาร์มป่าทีมเรา ก็ต้องช่วยตีมอนสเตอร์ป่าให้ตายเร็วๆ) หรือ การตีปกติใส่ฮีโร่เพื่อเพิ่มดาเมจตอนคอมโบสกิลให้มีมากขึ้น ซึ่งมันก็ดีกว่าการโจมตีปกติแล้วมีแต่ดาเมจกายภาพอยู่แล้วครับ RoV แพทช์นี้ใครๆ ก็รู้ดีว่า ดาเมจเวทสำคัญขนาดไหน
สกิล 2 ที่เป็นดาเมจเวท
อันนี้เป็นไฮไลท์สำคัญของการปรับแพทช์ครั้งนี้เลยนะครับ เพราะการปรับให้สกิล 2 ของ Baldum จ่ายดาเมจเป็นเวท (แต่ตัวคูณดาเมจยังเป็นไอเท็มโจมตีกายภาพ และ HP สูงสุดของตัวเองอยู่) ซึ่งมันดีมากๆ ต่อการเข้าไฟต์ และการคอมโบสกิล คือ ทำให้ศัตรูที่โดน Baldum เปิดสกิล 2 ใส่ เจ็บหนักเอาเรื่องตั้งแต่ช่วงต้นเกมเลยนะครับ เพราะเป็นดาเมจเวท ที่สำคัญเลยก็คือ ดาเมจเวทเหล่านี้ที่ออกมานั้น มันแรงมากนะครับในการใช้เคลียร์ครีป ถามว่า มันแรงขนาดไหน?
ก็ต้องตอบเลยว่า มันแรงขนาดที่ว่า ใช้สกิล 2 ชุดเดียวเคลียร์ครีปได้หมดกองทันที (โดยเฉพาะครีปในเลนกลางที่แพ้ดาเมจเวทมากๆ แป็บเดียวหมดกอง) มีแท็งค์โรมมิ่ง/ซัพพอร์ตตัวไหนที่ทำแบบนี้ได้บ้าง ยิ่งกว่า Mortos ในสมัยก่อนอีกนะครับเนี่ย ซึ่งการปรับให้สกิล 2 ของ Baldum แรงแบบนี้ ก็เลยทำให้มันกลายเป็นแท็งค์ที่มีความอ่อนตัวสูง นั่นคือ ตัวหนา, CC หนัก, ลดความเสียหายที่ได้รับได้, มีดาเมจเวท, เคลียร์ครีปได้เร็ว จะมีแท็งค์ตัวไหนที่มีทุกอย่างครบเครื่องเท่า Baldum ณ เวลานี้ คงไม่มีอีกแล้ว
การเล่นแท็งค์โรมมิ่งใน RoV แพทช์ปัจจุบัน นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว มันต้องมีความสามารถในเรื่องการเคลียร์ครีปด้วยนะครับ เพราะในหลายๆ ครั้ง เราจำเป็นต้องไปรับเวฟครีปแทนเพื่อน เพราะเพื่อนตาย หรือ เพื่อนทิ้งเลน ซึ่งทางทีมงานเค้าก็เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ก็เลยปรับดาเมจเวทตรงนี้ให้แท็งค์หลายๆ ตัว ทำดาเมจเวทได้แรงขึ้น เคลียร์ครีปได้ง่ายขึ้น เช่น Thane ก็ได้รับการปรับในทำนองเดียวกันนี้ด้วยเช่นกัน
ทริคเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเติมครับ หากในการเล่นจริงๆ แล้ว เรามีโอกาสได้หยิบเมจที่ดีๆ เก่งๆ มาคอมโบร่วมกับ Baldum ได้ ก็จะโหดมากๆ เช่น Aya ก็เอามาเล่นเมจเลนกลางแล้วคอมโบกับ Baldum ได้ โดยสิงหัว Baldum ตลอด แค่นี้ก็โหดแล้ว เพราะ Aya ก็จ่ายดาเมจรอบตัวเป็นเวท ส่วน Baldum เอง ก็จ่ายดาเมจรอบตัวเป็นเวทด้วย เรียกได้ว่า ใครที่โดน Baldum ที่มี Aya ขี่หัวเข้าไปคอมโบสกิล มีโอกาสตายทันทีสูงมากๆ นะครับ หรือจะใช้เป็น Raz มาคอมโบคู่กับ Baldum ก็ได้ เพราะสกิล 2 ของ Raz ก็ลดเกราะเวทเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายโดนสกิล 2 ของ Baldum แรงขึ้นไปอีก
ลดความเสียหายได้ทั้งดาเมจเวท และดาเมจกายภาพ
ตรงนี้สำคัญที่สุดในการปรับแพทช์ครั้งนี้ คือ เมื่อก่อนนี้ จุดอ่อนของ Baldum มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือ แพ้ทางดาเมจเวท หรือ ทีมที่มีเมจหรือดาเมจเวทหลายๆ ตัว Baldum จะไม่ชอบครับ เพราะจุดเด่นของ Baldum คือ การออกไอเท็มและรูนที่มีค่าเกราะเยอะๆ เนื่องจากตัวคูณดาเมจในหลายๆ สกิลของ Baldum จะคูณด้วยค่าของเกราะกายภาพ นั่นจึงทำให้เซ็ตไอเท็มมาตรฐานส่วนใหญ่ของ Baldum จะเน้นไปที่เกราะกายภาพ เพื่อให้คอมโบสกิลแล้ว แรงจัดๆ อีกทั้งสกิล 2 ของ Baldum ในสมัยก่อน ก็จะลดความเสียหายให้เฉพาะดาเมจกายภาพเท่านั้น ซึ่งนั่นแปลว่า ถ้าฝั่งตรงข้ามมีตัวป่าเป็นเวท และมีเมจเลนกลางที่ดาเมจเวทแรงๆ จะสามารถกดดัน Baldum ได้สบายๆ ตลอดทั้งเกมเลยทีเดียว Baldum สู้กับพวกดาเมจเวทเหล่านี้ได้ยากมากๆ เรียกว่าแพ้ทางทีมที่มีเมจหลายๆ ตัวเลยก็ได้
แต่จากการปรับแพทช์ในครั้งนี้ ได้มีการปรับใหม่ให้ สกิล 2 ของ Baldum ลดความเสียหายได้ทั้ง ดาเมจกายภาพ และดาเมจเวท เหมือนกับการลดความเสียหายจากสกิลของ Yena หรือ Omen เลยครับ มันก็เลยกลายเป็นการลบจุดอ่อนของ Baldum ไปเลย ทีนี้เราก็สามารถหยิบ Baldum มาเล่นในเกมที่ฝั่งตรงข้ามมีเมจหลายๆ ตัวได้แล้ว เพราะนอกจากไอเท็มเวทที่เราจะใช้หลายชิ้นแล้ว เรายังมีสกิล 2 ที่ช่วยลดความเสียหายเวทที่จะได้รับลงไปอีกด้วย เป็นไงล่ะครับ เจ๋งมั้ยแบบนี้ ซึ่งอัตราการลดความเสียหาย ก็จะมีตั้งแต่ 20 – 40% ตามเลเวลของสกิล 2 นะครับ ซึ่ง 40% นี่ผมว่า โอเคแล้วนะครับ ไม่ต้องถึง 60 – 70% หรอกครับ อันนั้นให้พวกไฟต์เตอร์เค้าใช้เถอะ แต่ Baldum เป็นแท็งค์ ได้ลดความเสียหายไปถึง 40% นี่ก็โคตรจะโกงแล้วครับ เพราะจากค่า Status พื้นฐาน และเซ็ตไอเท็มที่ออก มันก็โคตรจะแข็งแกร่งแล้ว ยิ่งได้ลดความเสียหายแบบนี้ร่วมด้วยอีก ยิ่งแข็งแกร่งไปกันใหญ่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Baldum จะได้รับการปรับให้เก่งขึ้นขนาดไหน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ วิธีเล่น Baldum ครับ ต่อให้มันถูกปรับมาอึดขึ้นกว่าเดิมมากแค่ไหน มีดาเมจเวทแรงแค่ไหน แต่ถ้าไปอยู่ในมือคนที่เล่นไม่เป็น มันก็จะอ่อนแอ และบางเหมือนกระดาษทิชชู่ทันทีครับ หลักการเล่น Baldum มีง่ายๆ ดังนี้ครับ (เอาสั้นๆ ง่ายๆ เลย)
1. งัดศัตรูมาให้เพื่อน ในจังหวะที่งัดได้ และมีเพื่อนรอซ้ำ อย่างัดไปเรื่อยเปื่อน เดินไปคนเดียว เพื่อนก็ไม่ได้ตาม แต่เจอหน้าศัตรูเป็นงัด ทำไปทำไม ไม่มีประโยชน์ครับ
2. งัดศัตรูที่จะเข้ามาล้วงเพื่อนเราให้ออกไป อย่างัดตัวล้วงเข้ามาหาเพื่อนเราเด็ดขาด
3. ฝังในจังหวะที่เหมาะสม คือ ฝังแล้วต้องฆ่าได้ เพราะถ้าฝังแล้วฆ่าไม่ได้ จะไม่น่ากลัว การเล่น Baldum จะมีความคล้ายคลึงกับ Arum นั่นคือ ต้องเล่นแบบใช้จิตวิทยาครับ อย่าเล่นแบบ เดินๆ มา ก็ใช้อัลติฝังศัตรูทันที แบบนั้นมันไร้ประโยชน์ครับ ควรปล่อยให้มีการไฟต์กันเกิดขึ้น หรือ ฝังตอนที่ศัตรูกำลังเข้าไฟต์ แบบนี้จะดีกว่า โดนชัวร์ ส่วนจะฝังไปเพื่ออะไร เช่น ฝังเพื่อหนี, ฝังเพื่อรอเพื่อนเรามาเติม แล้วรุมยำศัตรู หรือ ฝังเพื่อเซ็ตจังหวะ ไม่ให้ศัตรูหนีจากเราไปได้ ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการตัดสินใจขณะที่เล่นครับ
การเล่น Baldum ต้องไม่ใจร้อน ต้องประเมินดาเมจของศัตรูให้เป็น และเล่นด้วยความเข้าใจ ใช้สมอง อย่าเล่นโดยใช้อารมณ์เด็ดขาด ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ เล่น แล้วจะเก่งและโหดเองครับ ยิ่งใช้ รูน ไอเท็ม พลังแฝงตามนี้ ยิ่งโหดไปกันใหญ่
สอนเล่น Baldum RoV : รูน ไอเท็ม พลังแฝง
รูนสำหรับ Baldum นั้น ต้องใช้เป็นรูนที่เน้นเกราะล้วนๆ เพื่อทำให้ดาเมจจากสกิลทุกๆ สกิลของ Baldum แรงที่สุด สังเกตให้ดีๆ นะครับ ทุกสกิลของ Baldum จะมีตัวคูณดาเมจเป็นโบนัสเกราะกายภาพ นั่นแปลว่า ยิ่ง Baldum มีเกราะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำดาเมจจากสกิลต่างๆ ได้แรงขึ้นมากเท่านั้น อันนี้พูดถึงในกรณีทั่วไป ที่เราต้องการให้ Baldum มีดาเมจจากสกิลที่แรงขึ้นด้วย และตัวหนาขึ้นด้วยนะครับ รูนที่ใช้ก็จะได้เป็น
Golden Body / Protect / Great Wall อย่างละ 10 ชิ้น
เซ็ตนี้จะทำให้ Baldum มีเกราะติดตัวตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม +113 หน่วย ซึ่งถือว่า เยอะมากๆ นะครับ และเมื่อจัดเซ็ตไอเท็มตามภาพด้านบนประกอบเข้าไปด้วย จะยิ่งทำให้ Baldum แข็งแกร่งแบบสุดๆ และมีค่าเกราะกายภาพที่สูงมากๆ เลยนะครับ
จากเซ็ตไอเท็มที่เห็นในภาพ หลายคนอาจจะรู้สึกสงสัยว่า ทำไมต้องเป็น The Aegis ด้วย? ไม่ใช่เพราะมันได้รับการบัพให้มีรัศมีของ Passive ที่กว้างขึ้นหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะค่าเกราะที่จะได้จาก The Aegis มันสูงมากที่สุดในบรรดาไอเท็มป้องกันแล้ว นั่นคือ +360 เกราะ และแม้จะไม่ได้เพิ่ม HP มาให้ Baldum มากมายอะไรนักก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นแปลว่า Baldum จะไม่แพ้ทางไอเท็ม Fafnir’s Talon แน่นอน เพราะไม่ได้มี Max HP ที่สูงมากอะไรขนาดนั้น เนื่องจากมีไอเท็มช่องนึงต้องใช้ The Aegis
การคอมโบสกิลของ Baldum ส่วนใหญ่จะประชิดตัวศัตรูอยู่แล้ว ดังนั้น Passive ของ The Aegis จะได้ทำงานตลอดอยู่แล้ว โดยภาพรวมจึงถือว่า The Aegis ให้ความคุ้มค่ากับ Baldum มากๆ เลยทีเดียวครับ อย่างไรก็ตาม Shield of the Lost ก็ดีเช่นกัน สำหรับการใช้เพื่อแก้ทางพวกยิงจากระยะไกล และเหมาะกับ Baldum เหมือนกัน ซึ่งเราสามารถออกทั้ง The Aegis และ Shield of the Lost คู่กันได้เลยนะครับ Passive ไม่ได้ทับกันแต่อย่างใดครับ อ่านในบทความ การใช้ The Aegis และ Shield of the Lost ร่วมกัน ที่ผมเขียนไว้แล้วก่อนหน้านี้ ได้เลยครับ
สำหรับไอเท็ม Mantle of Ra นั้น ผมไม่ถือว่า นี่เป็นไอเท็มหลักของ Baldum นะครับ แต่ถ้าคุณเล่น Baldum แล้วรู้สึกว่า อยากมีดาเมจ อยากคอมโบสกิลใส่ศัตรูแล้ว ดาเมจแรงๆ ทำให้ศัตรูเจ็บหนักๆ ได้ แนะนำให้หยิบ Mantle of Ra มาใส่ครับ ถ้าศัตรูเจอคอมโบสกิลเต็มๆ ของ Baldum นั่นคือ ยกด้วยสกิล 1 เพื่อให้ศัตรูติดสตั้นและสโลว์ จากนั้น พลังแฝง Nature’s Rage จะทำงาน และโดนสกิล 2 ของ Baldum ต่อไปอีก ก็ว่าแรงแล้วนะครับ แต่ถ้าขณะที่ Baldum กำลังใช้คอมโบสกิลเหล่านี้อยู่ ได้มีไอเท็ม Mantle of Ra อยู่แล้ว จะยิ่งทำดาเมจเวทได้แรงมากขึ้นไปอีก ดาเมจเล็กๆ น้อยๆ ซ้อนทับกันมากมาย และเป็นดาเมจเวท ฝั่งตรงข้ามที่โดนเข้าไป จะตัวบาง ตัวหนา ก็เจ็บเหมือนกันหมดแน่นอนครับ
สำหรับไอเท็มกันเวท ก็เลือกใช้ตามสถานการณ์ได้เลยครับ แต่ส่วนใหญ่ผมจะเลือกใช้ Gaia’s Standard เป็นหลักก่อนในช่วงต้นเกม เพราะ Baldum ไม่มีสกิลใดๆ ช่วยฟื้นฟู HP ให้ตัวเองได้เลยครับ ทำให้ต้องกลับบ้านบ่อย และการเข้าไปงัดศัตรู ต้องใช้ความเร็วในการเคลื่อนที่ ซึ่งตรงนี้ Gaia’s Standard ค่อนข้างตอบโจทย์ตรงนี้ครับ อย่างไรก็ตาม ถ้าดาเมจเวทช่วงเลทเกมมันแรงมาก ก็สามารถเปลี่ยนจาก Gaia’s Standard มาเป็น Medallion of Troy ได้ครับ ว่ากันตามสถานการณ์ไปเลย
สำหรับพลังแฝงของ Baldum นั้น เราสามารถเลือกใช้ได้ 2 อย่าง นั่นคือ Explosive Shield หรือ Nature’s Rage ก็ได้ครับ โดยมีหลักในการเลือกใช้ ดังนี้
ถ้าเจอเกมที่ฝั่งตรงข้ามมีแท็งค์ตัวหนาๆ หรือไฟต์เตอร์หลายตัว Nature’s Rage เหมาะสมที่สุดครับ เพราะดาเมจจาก Nature’s Rage นั้น จะสร้างความเสียหายจาก %HP ของเป้าหมาย และพวกแท็งค์ตัวหนาๆ หรือ ไฟต์เตอร์ มันมักจะมีระยะการโจมตีแบบตีใกล้ ที่เข้ามาคลุกวงในกับ Baldum อยู่แล้ว ทำให้โดนดาเมจจากพลังแฝง Nature’s Rage แน่นอนครับ
ถ้าเจอเกมที่มีแต่ตัวบางๆ สาย Poke สกิลเยอะๆ ก็สามารถใช้เป็น Explosive Shield ได้ ไม่ผิดครับ จะช่วยทำให้ Baldum ยืนค้ำได้ง่าย แข็งแกร่งมากขึ้น คือ ถ้าต้องการความแข็งแกร่ง เน้นการป้องกันตัว Explosive Shield คือ คำตอบครับ
สำหรับเกมที่เราต้องการเล่น Baldum สาย Aggressive เน้นทำดาเมจมากๆ ผมแนะนำให้ใช้ Nature’s Rage ครับ เพราะมันไมได้แก้ทางแค่แท็งค์กับไฟต์เตอร์ แต่พวกตัวฟาร์มป่าที่ออกไอเท็มป่าเป็น Leviathan ก็แพ้ทางพลังแฝงนี้ของ Baldum ด้วยเช่นกัน
สำหรับสกิลชาเลนเจอร์ แนะนำให้ใช้เป็น Flicker อย่างเดียวนะครับ ไม่จำเป็นต้องเอา Disturb มาครับ เพราะการใช้สกิล 1 + Flicker ของ Baldum มีประโยชน์ต่อทีม และน่ากลัวกว่าเยอะครับ
เป็นยังไงบ้างครับกับการ สอนเล่น Baldum RoV แบบละเอียดสุดๆ อย่างนี้ ทำให้เห็นภาพการเล่น Baldum ชัดเจนมากขึ้นมั้ยครับ ทีนี้ก็ถึงเวลาไปหยิบ Baldum แล้วเอาไปลองเล่นจริงๆ ตามหลักการที่ผมได้เขียนแนะนำไปแล้ว พร้อมด้วย รูน ไอเท็ม และพลังแฝง ตามนี้ได้เลยครับ สำหรับข้อเน้นย้ำก็จะมีแค่ เรื่องของไอเท็มที่ต้องทำการปรับเปลี่ยนเอาตรงหน้างานอีกครั้งนะครับ อย่าออกตามนี้เป๊ะๆ เพราะในแต่ละเกม เราไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับฝั่งตรงข้ามแบบไหน ให้ปรับไอเท็มตามสถานการณ์ จะทำให้การเล่น Baldum ง่ายขึ้น และสนุกขึ้นอย่างแน่อนครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
