Veera โรมมิ่ง มันเล่นได้จริงหรือไม่? คำตอบก็คือ เล่นได้จริงครับ การหยิบเอา Veera มาโรมให้กับทีม ก็ไม่ได้แตกต่างจากการหยิบ Aleister หรือ Raz มาโรมให้กับทีมเลยครับ เมจที่มีดาเมจรุนแรง หรือ CC ที่หนักหน่วง สามารถหยิบมาโรมให้กับทีมได้ทั้งนั้นครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย เมื่อก่อนในหลายๆ ซีซั่นที่ผ่านมา ผมก็หยิบ Veera มาโรมอยู่บ่อยๆ แต่หลังๆ มานี่ มีฮีโร่ตัวที่หยิบมาโรมแล้วสนุกกว่า ก็เลยหยิบมาเล่นแทน ก็แค่นั้น อย่างไรก็ตาม การเล่น Veera โรมมิ่งนั้น มันก็มีเงื่อนไขหลายๆ อย่างที่ผู้เล่นจำเป็นจะต้องรู้ มันไม่ใช่ฮีโร่ที่เหมาะจะหยิบมาโรมในทุกๆ เกม แต่ถ้าเงื่อนไขมันครบ ก็หยิบมาเล่นได้ ดังนั้น ในบทความนี้ ผมก็เลยจะมา สอนเล่น Veera โรมมิ่ง แบบ Solo Rank ตัวคนเดียวให้สามารถหยิบไปเล่นกันได้จริงๆ อ่านให้จบ แล้วจะเอาไปเล่นแล้วช่วยพาทีมให้ชนะจนเพื่อนในทีมร้องว้าวได้แน่นอนครับ
สอนเล่น Veera โรมมิ่ง : มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ผู้เล่นต้องรู้ก่อนหยิบมาเล่น?
ก่อนอื่นเลย เราควรจะมาทำความเข้าใจกันซะก่อนดีกว่านะครับว่า ทำไมเค้าถึงเอา Veera มาโรมให้กับทีมกัน มันไม่มีฮีโร่ตัวอื่นอีกแล้วเหรอที่จะเอามาโรมให้กับทีม เหตุผลแรกที่สำคัญที่สุดก็คือ ทีมต้องการ CC และดาเมจที่รุนแรงตั้งแต่ต้นเกม ซึ่ง Veera สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ตั้งแต่เลเวล 4 เป็นต้นไป คือ มันสามารถทำ CC ให้เพื่อนได้ ด้วยการสตั้นศัตรูได้อย่างรวดเร็ว (สตั้นได้เร็วเหมือน Valhein แต่จะสตั้นศัตรูได้นานกว่า) และจ่ายดาเมจเวท (สกิล 2 ลดเกราะเวทศัตรูอีกด้วย) และเมื่อรวมกับดาเมจจากเพื่อนที่เดินด้วยกัน ทำให้สามารถฆ่าศัตรูได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่า ตั้งแต่เลเวล 4 Veera โรมมิ่ง ก็จะเริ่มโหดและออกไล่ล่ากับเพื่อนๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว
นั่นแปลว่า แผนการเล่นของทีม ก็คือ เน้นการเดินเกมเร็ว และชิงความได้เปรียบในช่วงต้นเกม จึงใช้ Veera ที่เป็นฮีโร่ต้นเกมมาเป็นตัวโรมมิ่งของทีม
สาเหตุที่สองก็คือ ในการปรับแพทช์เมื่อไม่นานมานี้ (แพทช์ก่อนๆ) Veera มันโดนเนิฟให้สกิล 2 มีคูลดาวน์นานมากขึ้น ทำให้การหยิบ Veera มาเล่นในตำแหน่งเมจเลนกลางได้รับความนิยมน้อยลงซึ่งก็เพราะว่า คูลดาวน์ของสกิล 2 ที่นานขึ้นนี่แหละที่กลายเป็นจุดอ่อนของ Veera เลนกลาง ทำให้คนไม่ค่อยหยิบมาเล่นกันในช่วงหลังๆ แต่ถ้าเอามาโรม อันนี้โอเค เพราะจำนวนความถี่ในการจ่ายสกิลระหว่าง Veera โรมมิ่ง กับ Veera เลนกลาง แตกต่างกันนะครับ Veera โรมมิ่ง จ่ายสกิลด้วยจำนวนครั้งที่น้อยกว่า คือ สตั้นศัตรูแล้ว คอมโบสกิลแล้ว ฉากออกมาได้เลย แต่ถ้าเป็น Veera เมจ ต้องทำดาเมจให้ทีมให้ได้มากที่สุด ก็ต้องหามุมยิงฟรี หรือหาจังหวะที่จะจ่ายดาเมจต่อเนื่องเข้าไปอีก คูลดาวน์ของสกิล 2 ที่นานขึ้น ก็เลยมีผลกับ Veera ยืนเลนมากกว่า Veera โรมมิ่งนั่นเองครับ
สาเหตุต่อมา ก็คือ ก่อนหน้านี้ Aleister โรมมิ่ง ได้รับความนิยมในการหยิบมาเล่นมากเช่นกัน แต่ปัญหาก็คือ ตัวมันเองทำดาเมจไม่ได้ ทำได้แค่จ่าย CC และจับล็อค ซึ่งค่อนข้างเป็นข้อจำกัดมากเกินไปของตำแหน่งโรมมิ่ง ในทางกลับกัน การเอา Veera มาโรมจะได้ในเรื่องของการสตั้นแบบทันทีและนานในระดับหนึ่ง รวมทั้งยังมีดาเมจที่รุนแรง สามารถคอมโบสกิลได้ทันทีหลังจากที่สตั้นศัตรู ทำให้ศัตรูปางตายได้ จึงคุ้มค่าและน่าใช้กว่า Aleister นั่นเอง
สอนเล่น Veera โรมมิ่ง : รูน ไอเท็ม และพลังแฝง
รูนของ Veera โรมมิ่ง สามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน นั่นคือ
รูนเมจมาตรฐาน Desolate / Protect / Stain
รูนเมจตีเร็ว Desolate / Spirit / Stain
แต่ถ้าอยากจะพลิ้วมากๆ และคล่องตัว ผมแนะนำให้ใช้ รูนเมจตีเร็วครับ เล่นง่ายกว่า
การออกไอเท็มของ Veera โรมมิ่งนั้น เราจะไม่ออกเป็นของแท็งค์ เพราะถ้าศัตรูเข้าถึงตัว ยังไงก็ตาย ดังนั้น เราต้องเลือกใช้แต่ไอเท็มที่เน้นดาเมจเวทล้วนๆ คือ ทำให้ดาเมจมันแรงจนศัตรูต้องกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ จ่ายคอมโบสกิลชุดเดียวศัตรูต้องเจ็บหนัก และในบางครั้งหากฝั่งตรงข้ามไม่ได้มีพวกที่หายตัวได้ (ที่ต้องออกออฟชั่นเปิดแมพของไอเท็มซัพพอร์ตมาแก้ทาง) หรือพวกที่มี CC เยอะๆ (ที่ต้องออกออฟชั่นล้างสถานะของไอเท็มซัพพอร์ตมาแก้ทาง) Veera ควรใช้ออฟชั่นของไอเท็มซัพพอร์ตเป็น Eradicate (หรือบางคนอาจจะเรียกว่า ลูกไฟ) เพื่อเอาไว้ปิดงานหากใช้คอมโบสกิลจนหมดแล้วศัตรูไม่ตายและเหลือเลือดอีกนิดนึง เอาออฟชั่นนี้ไปกดใช้เพื่อปิดจ็อบได้ครับ มันจะยิงกระสุนออกไปเป็นความเสียหายจริง เพื่อฆ่าศัตรูที่เหลือเลือดน้อยๆ ได้ครับ
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Veera โรมมิ่ง คอมโบสกิลแล้ว ศัตรูไม่ตายในคอมโบชุดเดียวเหมือนกับ Veera เลนกลาง นั่นก็เพราะว่า Veera โรมมิ่ง จะมีเลเวลและการเงินที่น้อยกว่าฮีโร่ฝั่งตรงข้ามที่ยืนเลน (ถ้าเกมฝ่ายเรานำ และ Veera โรมมิ่งได้ฆ่า หรือช่วยฆ่าได้เยอะ การเงินก็จะเท่ากัน หรือ ขึ้นนำ อันนี้คอมโบชุดเดียวตายแน่นอน) ทำให้การคอมโบสกิลมันจะไม่แรงเท่าที่ควร จึงต้องใช้สกิล Eradicate หรือ ลูกไฟ จากไอเท็มซัพพอร์ตเข้ามาช่วยเติมดาเมจ เพื่อการันตีว่าจะปิดจ็อบศัตรูได้ในคอมโบเดียวแน่นอน
สำหรับพลังแฝงของ Veera นั้น แนะนำให้ใช้เป็น Forest Wanderer ครับ จะช่วยสโลว์ และทำดาเมจตอดศัตรูได้ รวมทั้งในบางครั้งสามารถช่วยปิดจ็อบศัตรูที่เหลือเลือดน้อยๆ ได้ครับ ส่วนสกิลชาเลนเจอร์ก็แน่นอนว่า ต้องเป็น Flicker อยู่แล้ว เพราะ Veera เป็นเมจขาตายนั่นเองครับ
Veera โรมมิ่ง เป็นตัวเซ็ตจังหวะให้เพื่อนได้ดีมากๆ ทั้งสตั้นและคอมโบสกิลเพื่อจ่ายดาเมจใส่เป้าหมายร่วมกับดาเมจจากเพื่อนในทีมเรา ดังนั้นเวลาที่เล่น Veera ต้องเน้นการเดินกับเพื่อนเป็นหลัก เพราะต่อให้เล่น Veera โรมมิ่ง แต่เราไม่ได้ออกของแท็งค์ ตัวมันก็ยังคงบางอยู่เหมือนเดิมนะครับ และการจ่ายดาเมจของ Veera โรมมิ่ง ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือน Veera เลนกลาง การไปกับเพื่อนตลอดเวลา ถือเป็นแผนการเล่นที่ดีที่สุดครับ ส่วนการเลือกเป้าหมาย ในช่วงต้นเกมถึงกลางเกม ให้เน้นเป้าหมายที่อยู่ตัวเดียว หรือ เล็งสตั้นเป้าหมายที่ตัวบางที่สุดก่อนนะครับ จะทำให้ฝ่ายเรามีโอกาสชนะไฟต์มากขึ้น เมื่อจ่ายสกิลออกไปหมดแล้ว ให้ฉากออกมานิดนึง เพื่อหามุมเข้าไปใหม่และรอคูลดาวน์ของสกิลอีกครั้ง ค่อยกลับเข้าไปจ่ายสกิลอีกรอบ อย่าเข้าจนสุดนะครับ เพราะการทำดาเมจของ Veera จะเล่นแบบคอมโบสกิลเป็นชุดๆ นั่นเอง
จุดอ่อนสำคัญของการเล่น Veera โรมมิ่ง ก็คือ ทีมไม่เข้าใจ ตรงนี้สำคัญมากๆ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการเล่นแบบ Solo Rank ตัวคนเดียว ผู้เล่นส่วนมาก มักจะคิดว่า ตำแหน่งซัพพอร์ต (หรือโรมมิ่ง) ต้องเป็นฮีโร่ประเภทแท็งค์ที่ตัวหนาๆ หรือ ฮีโร่ประเภทซัพพอร์ตเท่านั้น (พวกไฟต์เตอร์กึ่งแท็งค์ก็พอรับได้อยู่) แต่พอมีการหยิบ Veera มาโรม ก็อาจจะทำให้เพื่อนร่วมทีมไม่เข้าใจและอาจจะหัวร้อน โยนเกมทันทีที่เริ่มเล่นก็เป็นได้ ตรงนี้เป็นเรื่องที่อันตรายพอสมควร ถ้าอยากจะเล่นก็ควรจะอธิบายกับเพื่อนในทีมและบอกเพื่อนในทีมซะก่อน เพื่อนจะได้ช่วยกันดราฟตัวเพื่อมาทำให้ทีมสมดุลได้ และที่สำคัญ คุณเองก็ต้องเล่น Veera โรมมิ่ง เป็นจริงๆ ด้วยนะครับ ถ้าแค่อยากจะเอาไปลองเล่น จบเกมมาโดนรายงานแน่นอนครับ
จุดอ่อนอีกอย่างก็คือ การขึ้นบ้าน เพราะ Veera มันเป็นเมจที่เน้นการจ่ายดาเมจเป็นหลัก และการสตั้นศัตรูให้เพื่อนฆ่า ตัวมันไม่ได้หนาอะไร และสกิลก็ไม่ได้ไกลอะไรมากนัก (สกิล 1) ดังนั้น จังหวะขึ้นบ้านมันไม่สามารถเข้าไปเปิดไฟต์ในป้อม หรือ เข้าไปไล่ศัตรูได้ถึงหลังป้อม ตรงนี้ก็ต้องเล่นแบบเมจมาตรฐานทั่วๆ ไป และคอยเติมจังหวะเอาครับ การขึ้นบ้านก็ต้องพึ่งพาแครี่ที่ยิงไกลๆ เป็นหลักครับ Veera โรมมิ่ง มีหน้าที่ชงให้เพื่อน และฆ่าศัตรูเป็นหลัก ไม่ได้เป็นแท็งค์ให้ทีม และไม่ได้เป็นตัวเปิดไฟต์ที่จะไปยืนรับดาเมจ หรือ เข้าไปไดร์ฟป้อมได้ (ยกเว้นบางจังหวะที่เข้าไป Burst Damage ฆ่าศัตรูในป้อม อันนี้เป็นงานถนัดของ Veera)
เงื่อนไขในการเล่น Veera โรมมิ่ง ที่ดีที่สุด จะมีอยู่ 2 ข้อดังนี้
1. เพื่อนในทีมเข้าใจ และเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมมาเล่นในตำแหน่งเลนกลาง โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ออฟชั่น ได้แก่
– เอา Veres หรือ Wonder Woman มายืนเลนกลาง และเดินคู่กับ Veera หรือ..
– เลือกออฟเลนเป็นไฟต์เตอร์แท็งค์ที่ตัวหนาๆ เพื่อให้ช่วยยืนค้ำให้กับทีมไฟต์ในช่วงกลางเกมไปแล้วที่จะมีการไฟต์นอกป้อมเป็นหลัก หรือ..
– เลือกตัวฟาร์มป่าที่หนาๆ และสามารถแท็งค์ให้ทีมได้ เช่น Skud, Wonder Woman เป็นต้น
เหตุผลว่า ทำไมต้องมีพวกไฟต์เตอร์ตัวหนาๆ หรือมี Sustain สูงๆ มาประกอบในทีมด้วย นั่นก็เพราะว่า ในช่วงต้นเกม ตอนที่เรายังไฟต์กันในเลนใครเลนมัน และมักจะไฟต์กันหน้าป้อม การเข้าไฟต์แบบใหญ่ๆ ไม่ค่อยมี และตำแหน่งการหลบหนีเพื่อวิ่งเข้าป้อม หรือ หนีเอาตัวรอด ก็ทำได้ง่าย แผนที่ก็มองเห็นการเคลื่อนไหวของศัตรูได้ดี เพราะมีป้อมของเราอยู่เยอะ การมีตัวยืนค้ำในแต่ละไฟต์จะมีหรือไม่ จึงไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเกม ที่ป้อมชั้นนอกเริ่มแตกไปแล้ว หรือ บางเกมแตกถึงป้อมชั้นกลาง จะทำให้แมพมืด มองอะไรไม่เห็น และการเข้าไฟต์จะเป็นแบบยืนบวกกันกลางแมพ ไม่มีป้อมเป็นหลังให้พิง หรือ ให้เมจ กับ แครี่ ได้วิ่งเข้าไปแอบ เข้าไปหลบอีกแล้ว ตรงนี้แหละที่สำคัญ เพราะถ้าทีมเราไม่มีตัวยืนค้ำเลยสักตัว มีแต่ตัวที่จ่ายดาเมจ แต่ตัวบางๆ อย่างเดียว จะแพ้ทางพวกศัตรูที่เป็นตัวล้วงและมี Mobility สูงๆ เข้ามาล้วงได้สบายๆ
การเล่น Veera โรมมิ่งก็เช่นเดียวกัน ช่วงต้นเกมถึงกลางเกม จะเล่นได้ง่ายมาก ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะมองเห็นแมพหมด และมีป้อมให้วิ่งเข้าไปหลบได้สบายๆ แค่ Flicker แล้ววิ่งนิดเดียวก็เข้าป้อมได้แล้ว แต่เมื่อเราทำลายป้อมชั้นนอกของศัตรูได้ หรือ ป้อมชั้นนอกของเราเองถูกทำลาย แมพจะเริ่มมืด หลังของ Veera จะไม่มีอะไรให้พิงอีกแล้ว มีความเสี่ยงที่จะโดนโถม และโดนล้วงได้ง่ายๆ ในจังหวะที่มีการไฟต์เกิดขึ้น และการจ่ายสกิล 2 ของ Veera เพื่อสตั้น มันก็มีผลกับเป้าหมายเดี่ยวๆ เท่านั้น หากศัตรูมากันหลายตัว Veera ตายทันทีแน่นอน ดังนั้น ไฟต์เตอร์ตามรายชื่อที่กล่าวมา จึงมีความจำเป็นครับ ไฟต์เตอร์พวกนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นฮีโร่ประเภทแท็งค์จ๋า แต่ต้องเป็นฮีโร่ที่สามารถยืนได้นานและมีดาเมจ มี Sustain ที่สูง ยืนค้ำได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะมาทำหน้าที่เหมือนเป็นแท็งค์ให้กับทีมตั้งแต่ช่วงกลางเกม ถึงเลทเกม
ก็เหมือนการสลับหน้าที่กันนั่นแหละครับ ต้นเกมถึงกลางเกม Veera ทำหน้าที่เป็นโรมมิ่งแถวหน้า เน้นเซ็ตจังหวะ จ่ายดาเมจ คอมโบสกิลเพื่อฆ่าศัตรู วิ่งนำเพื่อนเข้าไปสตั้นได้เลย แต่พอหลังจากกลางเกมไปแล้ว ไฟต์เตอร์ต้องมาทำหน้าที่เดินนำ และ Veera เดินตามแทน คอยทำหน้าที่ช่วยสตั้น และเติมดาเมจให้ เพราะตัวทำดาเมจฝั่งตรงข้ามจะเริ่มมีดาเมจที่รุนแรงมากขึ้นแล้ว อย่างแครี่ก็จะยิงแรงขึ้น ถ้ายังเอา Veera วิ่งนำล่ะก็ โดนยิง 2-3 ทีตายแน่นอนครับ ตายก่อนที่จะได้เข้าไปฆ่าศัตรูซะอีก นี่แหละจึงเป็นที่มากในเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อที่ได้กล่าวไปแล้ว ขอให้มีตัวยืนค้ำให้หน่อยในช่วงกลางเกมถึงเลทเกม ทำหน้าที่เหมือนเป็นโรมให้ทีมแทน Veera ส่วน Veera ก็จะกลายเป็นเมจซัพพอร์ตสนับสนุนไฟต์เตอร์ที่มาทำหน้าที่โรมมิ่งให้ทีมอีกทีนึงว่างั้น
2. ตัวของผู้ที่เล่น Veera โรมมิ่ง ต้องมีความชำนาญในการเล่น Veera และเป็นมืออาชีพในการเล่นตำแหน่งโรมมิ่ง/ซัพพอร์ตของทีม เพราะต้องพาเพื่อนเดินเกมด้วย ไม่ใช่แค่เข้าไฟต์กับเพื่อนอย่างเดียวเท่านั้น ผู้เล่นในตำแหน่งโรมมิ่ง ไม่ว่าจะหยิบฮีโร่ตัวไหนมาเล่น ในช่วงต้นเกมถึงกลางเกม ก็ต้องพาเพื่อนเดิน พาเพื่อนไปไล่ฆ่าศัตรู จะเล่นแบบเดินกอดแครี่ ประกบแครี่ตลอดเวลาไม่ได้ คุณต้องรู้ว่า ในแต่ละเกม ในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ คุณควรไปไหน และทำอะไร ต้องคิดและตัดสินใจให้ดี เพราะการที่เดินมั่วๆ จะทำให้เสียป้อม หรือ เพื่อนโดนฆ่าได้ง่ายๆ ทันที โรมมิ่งที่เล่น “เป็นงาน” ต้องไปให้ถูกที่ถูกเวลาเสมอ
ย้ำอีกครั้งจากที่ผมได้ สอนเล่น Veera โรมมิ่ง มาจนถึงตรงนี้ การที่เราจะเล่น Veera โรมมิ่งให้ชนะในเกมนั้นๆ ได้ ต้องเล่นให้ตัวเองน่ากลัวครับ เล่นให้กดดันศัตรูได้ เพราะเราไม่ใช่แท็งค์ ตัวไม่หนา เราก็ต้องเล่นให้น่ากลัว อะไรคือการเล่นให้น่ากลัว? ก็คือ การดักพุ่ม ดักเล่นงานศัตรูในจุดที่คาดไม่ถึง หากทำแบบนี้ได้บ่อยๆ ศัตรูจะหวาดกลัวและไม่กล้าเดินไปไหน ยิ่งเป็นการเล่นแบบ Solo Rank ด้วยแล้ว ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะแยกกันเดิน ทำให้การดักพุ่มของ Veera มีประสิทธิภาพสูงมาก คือ คอมโบชุดเดียวศัตรูปางตายทันที ถ้ามีเพื่อนมาซ้ำก็คือ ตายได้เลย
พูดง่ายๆ ก็คือ การเล่น Veera โรมมิ่ง ต้องเล่นให้ Aggressive ครับ อย่าเล่นแบบติ๋มๆ กลัวๆ ไม่ได้ แต่ก็ต้องไม่ตายนะครับ เพราะถ้าเราเล่นแบบ Aggressive กดดันศัตรูได้ และไม่ตาย จะทำให้ศัตรูขวัญกระเจิง และกลัว Veera ไปเลยครับ ชนิดที่ว่า แค่เห็น Veera วิ่งมา ก็วิ่งหนีกันแล้ว เพราะกลัวโดนสตั้นนั่นเอง
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ อย่าเดินคนเดียวครับ การเล่น Veera โรมมิ่ง มันจะมีปัญหาตรงที่ ดาเมจของเรามันไม่พอที่จะปิดจ็อบได้ด้วยตัวคนเดียว และการสตั้นของ Veera จะน่ากลัวมากๆ ถ้ามีเพื่อนเดินมาด้วย ศัตรูที่โดนสตั้นจะตายลงในทันที โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะโดน Burst Damage ที่รุนแรงมากๆ จากทั้ง Veera และเพื่อนร่วมทีมที่มาด้วยกัน ดังนั้น อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ให้เล่นแบบซัพพอร์ตเพื่อนร่วมทีมตอนเข้าไฟต์ แล้วอะไรๆ มันก็จะง่ายขึ้นเองครับ
ส่วนการเล่น Veera โรมมิ่ง แบบเป็นทีม 5 คน อันนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ต้องปรับจูน และซ้อมแผนการเล่นกันมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญก็ต้องมีการ คอลเกม สื่อสารกันตลอดเวลานะครับ ส่วนหลักการเล่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น รูน ไอเท็ม และพลังแฝง ก็จะไม่ต่างจากนี้ครับ ใช้แบบเดียวกันนี้ได้เลยครับ แตกต่างกันในเรื่องของแผนการเล่น และการเดินเกมมากกว่าครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
