แค่เห็นชื่อหัวเรื่อง หลายคนก็อาจจะเริ่มสงสัยว่า ผมจะมาแนะนำอะไรที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ และไม่มีสาระหรือเปลี่ยนเนี่ย ตรงนี้ต้องบอกไว้เลยว่า เรื่องนี้เป็นสาระความรู้ที่ถูกต้อง ตรงตามหลักการแน่นอน และสามารถนำไปเล่นได้จริงๆ กดแร็งค์เก็บดาวได้จริงๆ เพียงแต่การเล่นแบบ Solo Rank อาจจะมีปัญหาตรงที่ คนในทีมซึ่งมีความรู้ความเข้าใจน้อยเกี่ยวกับเกม RoV อาจจะไม่ยอมรับ และมองว่า คนที่หยิบ Zill มายืนเลนกลางนั้น โยนเกม ในบทความนี้ ผมก็เลยจะมา สอนเล่น Zill เลนกลาง แบบจริงๆ จังๆ เพื่อเปิดโลกให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ในเกม RoV ได้เห็นกันไปเลยว่า Zill มันหยิบมายืนในตำแหน่ง Midlane ได้แบบจริงๆ จังๆ เลยนะครับ ด้วยเหตุผล และหลักการดังต่อไปนี้
สอนเล่น Zill เลนกลาง มันดียังไงถึงหยิบมาเล่นในตำแหน่งเลนกลาง?
การที่เราจะหยิบฮีโร่ตัวไหนไปยืนตำแหน่งไหนนั้น เราจะทำก็ต่อเมื่อ มันทำให้ตัวเราเองเล่นในตำแหน่งนั้นได้ง่าย และได้เปรียบฝั่งตรงข้าม ทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ในทีมเล่นได้ง่ายมากขึ้นด้วย ซึ่งการหยิบ Zill มายืนในตำแหน่งเลนกลาง ก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราจะหยิบมาให้โดนเมจฝั่งตรงข้ามกดเลนจริง แล้วผมจะเอามาแนะนำทำไมกัน นั่นเพราะว่า ในความเป็นจริงแล้ว การหยิบ Zill มายืนในตำแหน่งเลนกลาง หรือ Midlane นั้น เป็นอะไรที่ดีมากๆ และทำให้ตัวเราเล่นได้ง่าย ช่วยทีมได้เยอะอีกด้วยนะครับ
คำเตือน การเล่น Zill ในตำแหน่งเลนกลางนั้น ไม่แนะนำให้เล่นกับเกมที่ทีมเรามีเมจแอสซาซินฟาร์มป่านะครับ เพราะมันจะทำให้ฝั่งตรงข้ามรีบออกไอเท็มกันเวทเพื่อมาแก้ทางดาเมจเวท ซึ่งจะมีผลทั้งกับ Zill และป่าที่เป็นเมจ เท่ากับแก้ทางได้ 2 ใน 5 ฮีโร่ของทีมเราเลย ดังนั้น ถ้าจะเล่น Zill เลนกลาง ให้เล่นเป้นเมจคนเดียวของทีมไปเลย ที่เหลือให้เป็นดาเมจกายภาพทั้งหมด จะดีที่สุดครับ เพราะ Zill เลนกลางดาเมจเวทมันแรงจริง แต่ถ้าฝั่งตรงข้ามเลือกที่จะออกไอเท็มกันเวทมาก่อนตั้งแต่ต้นเกม ตัวก็จะบาง และโดนดาเมจกายภาพจากทีมเราแรงมากๆ แต่ถ้าเค้าเลือกจะออกไอเท็มกันกายภาพมาก่อนเยอะๆ เพราะเห็นแล้วว่า ฝั่งเรามีตัวทำดาเมจกายภาพ มากถึง 4 ตัว ตัวของเค้าก็จะบางต่อดาเมจเวทของ Zill แน่นอน ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยครับแบบนี้
ข้อดีของการเล่น Zill ในเลนกลางก็คือ
1. เคลียร์ครีปได้เร็วมาก และเคลียร์ได้ง่าย ปลอดภัย กว่าการเล่นเมจตัวอื่นๆ อีกด้วย เนื่องจาก Zill เป็นเมจแอสซาซินตัวเดียวที่มีสกิลไกลมาก (สกิล 1) ซึ่งการคอมโบสกิล 1 + 2 จะทำให้ใช้สกิล 2 ได้อีกครั้ง นั่นคือ สามารถปาสกิล 1 ให้โดนครีป และกดสกิล 2 เข้าไปฟันครีปตัวเดิมทันที ซึ่งสกิล 2 จะรีเซ็ตให้ใช้ได้อีกครั้ง (เป็นผลมาจาก Passive) ทำให้ใช้สกิล 2 หนีออกมาจากจุดที่เคลียร์ครีปได้
พูดง่ายๆ ก็คือ โดดเข้าไปเคลียร์ครีปหมดกอง แล้วโดดออกมาได้ทันที โดยใช้สกิล 2 เข้าไป และโดดออกมา ง่ายๆ แบบนั้นเลยครับ ทำให้การยืนเลนกลางของ Zill ไม่ได้ยากเย็น และไม่ได้เสียเปรียบเมจตัวอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย คือ มันคล่องตัว ว่องไวกว่านั่นเอง โดดไปโดดมาได้ ขอแค่มีครีป/มอนสเตอร์ป่าให้เก็บ Stack สะสมจน Passive ทำงานนั่นเแหละ
ทีนี้เมื่อ Zill เคลียร์ครีปได้เร็วกว่า ก็เดินได้ก่อน และจะทำให้ภาพรวมของ Zill รวยเร็วกว่าการเล่น Zill ในตำแหน่งฟาร์มป่า เพราะการเล่น Zill ในตำแหน่งฟาร์มป่า หากโดนก่อกวน หรือ โดนเวดป่า จะเล่นยากมากๆ เพราะ Zill ไม่มีสกิลสำหรับการฟื้นฟู HP ให้กับตัวเองเลย หากโดนตอดเลือดให้เจ็บหนักๆ ก็ไม่สามารถฟาร์มต่อ หรือสวนกลับฝั่งตรงข้ามได้แล้ว ต้องกลับบ้านสถานเดียว และการที่ Zill ต้องกลับบ้านบ่อยๆ ก็จะทำให้ฟาร์มได้ช้าลง เงินและเลเวลก็จะไม่นำป่าฝั่งตรงข้าม ต่างจาก Zill เลนกลาง ที่กลับบ้านบ่อยๆ ได้เลย เคลียร์ครีปให้หมดกอง ถ้าเลือดน้อยก็กลับบ้าน แล้วก็เดินกลับมาที่เลนกลาง พร้อมกับครีปในเวฟต่อไปได้เลย ไม่เสียหายอะไร
2. ดาเมจแรงมาก เนื่องจาก Zill จะได้เงินจากการเคลียร์ครีปในเลนกลางอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้รวยเร็ว ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า เมจเลนกลางในแพทช์นี้จะรวยเร็วกว่าตำแหน่งอื่นๆ ในเกม (เพราะในการปรับแพทช์ก่อนหน้านี้ เค้าปรับให้ครีปเลนกลางแพ้ทางดาเมจเวทมากๆ และให้ Gold เยอะกว่าในเลนอื่นๆ) รวมทั้งตำแหน่งฟาร์มป่าด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้ Zill มีดาเมจที่แรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ Zill ออกแต่ไอเท็มเวทล้วนๆ และเป็นไอเท็มเวทสาย Poke สกิล เช่น Boomstick ไม่ใช่ไอเท็มเวทสายตีเร็วอย่าง Zill ฟาร์มป่า
ในแต่ละเกมสำหรับการเล่น Zill ในตำแหน่งเลนกลาง บอกเลยว่า หากคนที่เล่นมี Skill Play ในการเล่น Zill ดีอยู่แล้ว จะสามารถฆ่าศัตรูได้ไม่ต่ำกว่า 5 ตัวต่อเกม และอาจจะทะลุ 10+ ตัว ต่อเกมได้สบายๆ ซึ่งก็ตรงกับคอนเซ็ปหรือหลักการเล่นเมจอยู่แล้ว นั่นคือ ต้องเป็นตัวทำดาเมจเวทที่รุนแรง และต้องฆ่าศัตรูให้ได้เยอะๆ ในช่วงต้นเกม ซึ่ง Zill นี่แหละที่สามารถทำแบบนี้ได้ง่ายจริงๆ ตั้งแต่ช่วงต้นเกม
หน้าที่หลักของ Zill ในฐานะเมจเลนกลางนั้น ไม่ได้แตกต่างจากการเล่น เมจเลนกลางทั่วๆ ไปเลย แต่มันจะมีพิษสงมากกว่า เพราะมันเป็นเมจแอสซาซิน ที่โดดเข้าไปล้วงแนวหลังของฝั่งตรงข้ามได้ (เป้าหมายอันดับ 1 คือ แครี่ฝั่งตรงข้าม) ซึ่งที่แสบกว่านั้นก็คือ โดดมาล้วงแล้ว ฆ่าแล้ว และก็โดดหนีหายออกไปแบบสบายๆ
เหตุผลว่าทำไม Zill เลนกลาง ต้องเน้นการล้วงแครี่ฝั่งตรงข้าม ก็เพราะว่า แครี่ส่วนใหญ่ จะไม่มีไอเท็มป้องกันเวทอยู่แล้ว และมักจะเป็นพวกแครี่ขาตาย ไม่มีสกิลหนี นั่นแปลว่า หากโดน Zill โดดเข้าไปคอมโบสกิล จะมีโอกาสตายสูงมากๆ เพราะโดนดาเมจเวทเต็มๆ และหนีไปไหนไม่ได้ เนื่องจากอัลติของ Zill จะเกาะติดหัวของแครี่ไปเรื่อยๆ ไม่ว่าแครี่จะ Flicker หลบ หรือหนีไปไหนก็ตาม (ยกเว้นว่า กด Flicker ได้ถูกจังหวะจริงๆ)
หากทีมไหนแครี่ตายก่อน โอกาสแพ้ทีมไฟต์จะสูงมากๆ และถึงแม้จะชนะไฟต์ได้ แต่ก็ดันป้อมจบบ้านไม่ได้ง่ายๆ เพราะตัวยิงป้อมที่แรงที่สุดของทีมก็คือ แครี่ (ยกเว้นว่า ในทีมมีแครี่ฟาร์มป่าอีกตัวนึง อันนี้ถือเป็นข้อยกเว้นนะครับ)
3. ได้ใช้ความเก่งของ Zill อย่างเต็มที่ เนื่องจาก Zill ในแพทช์นี้ เป็นฮีโร่ต้นเกม ดาเมจเวทต้นเกมแรงมากๆ การที่เราเอา Zill ไปฟาร์มป่า จะใช้ความเก่งในช่วงต้นเกมไม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะต้องเอาเวลาส่วนใหญ่ ไปใช้ในการฟาร์ม และบอกกันตรงๆ ว่า หลังจากที่มีการปรับ Passive ของ Zill จากครั้งก่อน ที่เปลี่ยนจากการทำดาเมจเวทเป็นเปอร์เซ็นต์ HP ของเป้าหมาย มากลายเป็นตัวคูณพลังโจมเวทธรรมดาๆ ก็เลยทำให้ Zill เก็บ Objective ได้ช้ากว่าเดิม ดังนั้น การหยิบ Zill มาเล่นในตำแหน่งเลนกลาง จะคุ้มค่ากว่า เน้นฆ่าคนเป็นหลักจะดีที่สุด
ด้วยหน้าที่การเล่นของตำแหน่งเมจในเลนกลาง ที่ต้องเดินกับโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต และเน้นการจ่ายสกิล เน้นการโจมตีใส่ฮีโร่ฝั่งตรงข้าม หรือเราจะเรียกได้ว่า เป็นตัวทำเกม ตัวเดินไล่ฆ่าศัตรูตั้งแต่ต้นเกมแบบนี้จะทำให้ Zill มีประโยชน์ต่อทีมเป็นอย่างมาก เพราะได้ใช้ความเก่งของการเป็นฮีโร่ต้นเกมอย่างเต็มที่ ใช้ความพลิ้วที่มีในการล้วงพวกเมจ และแครี่ที่ตัวบางๆ ได้ง่ายมากๆ สกิลก็แรง การเล่น Zill เลนกลาง จึงไม่ใช่เรื่องตลก และล้อเล่น แต่มันคือ ความน่ากลัวที่แท้จริงของแผงหลังฝั่งตรงข้าม และตัวป่าฝั่งตรงข้ามที่ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ
4. มีประโยชน์กับทีมในการเข้าไฟต์เป็นอย่างมาก เพราะ Zill เป็นเมจที่โดดเข้าไปล้วงพวกแครี่แนวหลังได้ง่ายที่สุดนั่นเองครับ เนื่องจากสกิลของมันวิบวับ คล่องตัว มี Mobility สูง และผลจากการปรับ Passive ทำให้ไม่ต้องโจมตีปกติเพื่อให้ Passive ทำงานอีกแล้ว แค่ใช้สกิลต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง แค่นี้ Passive ก็ทำงานแล้ว ก็เลยทำให้ Zill มีความคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม และไม่จำเป็นต้องใช้สกิลตามด้วยการโจมตีปกติอีกแล้ว แต่สามารถใช้สกิลต่อเนื่องกัน แบบที่เมจตัวอื่นๆ ใช้ได้เลยครับ แค่นี้ Passive ก็จะทำงานได้บ่อยๆ แล้ว
เราสามารถทำให้ Passive ทำงาน 2 รอบได้แบบง่ายๆ นั่นคือ การคอมโบสกิลต่อเนื่อง เช่น
สกิล 1 – สกิล 2 – อัลติ – สกิล 2 – สกิล 1 – สกิล 2 หรือจะใช้เป็น
สกิล 2 – อัลติ – สกิล 1 – สกิล 2 – สกิล 2 แบบนี้ก็ได้
อันที่จริงการคอมโบสกิลของ Zill นั้น ทำได้หลากหลายกว่านี้อีกนะครับ มันขึ้นอยู่กับจังหวะ และสถานการณ์ ณ เวลานั้น แต่โดยทั่วไป ก็จะใช้คอมสกิลพื้นฐานเป็นหลัก ระหว่าง สกิล 1 กับ สกิล 2 จะใช้สกิลไหนก่อนหลังก็ได้ขึ้นอยู่กับจังหวะ แล้วก็จะตบท้ายด้วยอัลติ แล้วก็วนมาคอมโบสกิลมาตรฐานแบบเดิมอีกรอบนั่นคือ สกิล 1 กับ สกิล 2 แบบนี้วนๆ ไป
5. เล่นง่ายกว่าเมจตัวอื่นๆ มากมาย เพราะ Zill ไม่ใช่เมจขาตาย แต่เป็นเมจที่มี Mobility สูง หรือ มีความพลิ้วเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงเหมาะกับการหยิบไปเล่นแบบ Solo Rank แน่นอนครับ
Zill สามารถเดินดักพุ่มเมจเลนกลางฝั่งตรงข้ามที่ต้องเดินโยกเลนไปช่วยเพื่อนในเลนข้างได้สบายๆ และจังหวะที่เข้าไปคอมโบสกิลก็ยากที่จะต่อต้านจากเมจฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะจังหวะที่กำลังใช้อัลติ Zill จะไม่ตกเป็นเป้าหมายหรือโดนดาเมจใดๆ เลย นั่นยิ่งทำให้ Zill สามารถใช้อัลติสวนสกิลของฝั่งตรงข้ามได้
ยกตัวอย่างเช่น Zata ที่ว่าการบินของมันนั้น ยากที่จะมีผู้ใดต่อต้าน หรือเอาตัวรอดได้ แต่เมื่อ Zata ต้องมาเจอกับ Zill ก็ต้องลำบากเลยล่ะ เพราะ Zill สามารถคอมโบสวนอัลติของ Zata ได้ หาก Zata บินเร็วไป (3 Stacks) ดาเมจก็จะไม่โดน Zill เลย เพราะ Zill จะใช้อัลติเกาะหัว Zata ตอนที่ Zata ขึ้นบิน แต่ถ้า Zata เลือกที่จะบินแบบ 5 Stacks ก็มีความเสี่ยงที่จะโดน Zill คอมโบสกิลชุดใหญ่จนตายก่อนที่จะได้ขึ้นบินเช่นกัน เรียกได้ว่า อัลติของ Zill นั้น เอาไว้สวนพวกตัว META ที่มีสกิลเจ๋งๆ ได้หมดทุกตัวเลย
เงื่อนไขสำคัญก็คือ การเล่น Zill ไม่ว่าจะเล่นตำแหน่งไหนก็ตาม ต้องเลือกเป้าหมายที่อยู่ตัวคนเดียว หรือ เปิดใช้อัลติในจังหวะที่มั่นใจว่าจะปิดดาเมจได้ เช่น ศัตรูหลายตัวเดินด้วยกัน แล้วเลือดใกล้จะหมดแล้ว ก็สามารถกดอัลติเข้าไปปิดงานได้เลย แต่ถ้าดูแล้วไม่มั่นใจว่าจะปิดได้ ก็อย่าเพิ่งเข้าไปครับ ใช้แค่สกิล 1 + 2 ไปเรื่อยๆ ก่อนก็พอครับ
สอนเล่น Zill เลนกลาง : รูน ไอเท็ม พลังแฝง
สำหรับรูน ไอเท็ม และพลังแฝงของ Zill นั้น เราจะใช้แบบเดียวกับที่เมจขาตาย ที่ยืนเลนกลางทั่วๆ ไปใช้กันเลยนะครับ คือ เน้นไปที่ดาเมจเวท ไม่เน้นในเรื่องของการตีเร็วอีกต่อไปแล้ว นั่นคือ Desolate / Spirit / Stain
ในส่วนของไอเท็มนั้น ต้นเกมเราจะใช้เป็นรองเท้าเจาะเกราะเวท Enchanted Kicks ก่อนนะครับ จากนั้น ในช่วงเลทเกม เราจะขาทิ้งเพื่อออกเป็นไอเท็มเวทอย่างอื่นก็ได้ หรือ ถ้าจำเป็นต้องวิ่งให้เร็ว ก็ใส่เป็นรองเท้ากันเวท Gilded Greaves ได้เช่นกันครับ เพื่อต้านทานสถานะเวลาโดน CC จากฝั่งตรงข้ามนั่นเอง (ช่วงเลทเกม ฮีโร่แต่ละตัวจะมี CC เยอะมากๆ ถ้าโดน CC เข้าไปเต็มๆ Zill ก็อาจจะตายก่อนที่จะได้ใช้อัลติก็ได้เช่นกัน)
ในส่วนของเซ็ตพลังแฝงนั้น บางคนอาจจะชื่นชอบ Curse of Death แต่โดยส่วนตัว ผมชอบที่จะใช้เป็น Holy Thunder มากกว่าครับ มันแรงสะใจกว่ากันเยอะเลยทีเดียว โดนเข้าไปแต่ละดอกนี่ เห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะตอนช่วงเลทเกม ดาเมจเวทของเมจที่ใส่ไอเท็มเวทแรงๆ เพียวๆ และใช้พลังแฝง Holy Thunder จะทำดาเมจเวทได้แรงมากๆ จากการ Poke สกิลเพียงแค่ครั้งเดียว
สกิลชาเลนเจอร์ แนะนำให้ใช้เป็น Execute จะดีที่สุด เนื่องจากว่า Zill มีสกิลเคลื่อนที่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ Flicker แต่อย่างใด และจังหวะการคอมโบสกิลของ Zill นั้น หลายครั้งที่ดาเมจปิดไม่ลง เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น การใช้ Execute จึงช่วยทำให้ดาเมจมันพอดีที่จะฆ่าศัตรูได้นั่นเอง โดยเฉพาะการสู้กับพวกไฟต์เตอร์/แท็งค์ Execute ถือว่าจำเป็นมากเลยทีเดียว
จากที่ผมได้ สอนเล่น Zill เลนกลาง มาจนถึงตรงนี้ จะเห็นได้เลยว่า รูน ไอเท็ม พลังแฝง ส่วนใหญ่ไม่แตกต่างจากเมจยืนเลนปกติโดยทั่วไปเลยใช่มั้ยครับ นั่นถูกต้องแล้วครับ เพราะการเล่น Zill เลนกลางนั้น เราจะไม่เล่นแบบสายตีเร็ว ที่ใช้รูนเจาะเกราะเวทตีเร็ว +32% มาใช้แน่นอน เพราะเงื่อนไขการทำ Passive ของ Zill มันเปลี่ยนไปแล้ว แค่ใช้สกิลเฉยๆ ให้โดนเป้าหมาย 3 สกิล แค่นี้ Passive ก็จะทำงานแล้ว ไม่จำเป็นต้องฟันปกติเพิ่มหลังจากใช้สกิลไปแล้วแต่อย่างใด และการฟันแต่ละครั้งของอัลติ (ที่ฟันรัวๆ ทั้งหมด 5 ครั้ง) ก็จะนับเป็น 1 สกิลด้วยนะครับ
ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ สมมติว่า ศัตรูยืนอยู่นิ่งๆ และมีแค่ตัวเดียว การใช้แต่ละสกิลจะสะสม Stack ได้ดังนี้ (สมมติว่าโจมตีโดนศัตรูตัวเดียวเต็มๆ หมดทุกสกิลนะครับ)
สกิล 1 – ได้ 2 Stacks มีดบินไปนับเป็น 1 และ กลับมาอีก 1 Stack
สกิล 2 – ได้ 1 Stack
อัลติ ได้ 5 Stacks
เห็นมั้ยครับว่า แค่เราใช้สกิล 1 + สกิล 2 จบปุ๊บ Passive เราก็ทำงานแล้วครับ ถ้าเราใช้แบบรัวๆ ต่อเนื่องกันเป็นคอมโบ มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ
สกิล 1 (2) + สกิล 2 (1) + อัลติ (5) = Passive จะทำงาน 2 ครั้ง และมี Stack รออยู่อีก 2 Stack ซึ่งถ้าเรากดใช้สกิล 1 หรือ สกิล 2 ตามไปอีกครั้งนึง Passive ก็จะทำงานอีก 1 ครั้งพอดี แล้วเราก็จ่ายสกิลสะสม Stack ไปเรื่อยๆ ง่ายๆ แบบนี้เองครับ
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ การคำนวณแบบนี้จะไม่สามารถใช้ได้กับการเข้าไปอัลติใส่เป้าหมายที่ยืนใกล้ๆ กันหลายๆ ตัว เพราะ Zill จะสุ่มฟันเป้าหมายหลายๆ ตัว กระโดดไปฟันตัวนั้นตัวนี้ไปเรื่อยจนรวมทั้งหมดครบ 5 ครั้ง ก็จะหยุด ซึ่งนั่นจะทำให้เป้าหมายที่เราเล็งอยู่จริงๆ Stack ไม่ครบ และ Passive ไม่ทำงาน ซึ่งนี่แหละครับ ที่เค้าบอกว่า เวลาเจอ Zill ให้เดินด้วยกันเป็นกลุ่ม อยู่ใกล้ๆ กันไว้ (แต่ไม่ถึงกับตัวชิดติดกันนะครับ ถ้าตัวชิด แนบติดกัน ก็จะโดนดาเมจไปด้วยกันได้นะครับ) เวลา Zill อัลติมาใส่ จะได้เฉลี่ยดาเมจกัน ทำให้ Passive ของ Zill ไม่ทำงาน และอาจจะไม่มีสกิล 2 ไว้หนีออกไปหลังจากใช้อัลติเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้ ผมถึงบอกไงครับว่า ให้เล็งเป้าหมายเดี่ยวๆ เอาไว้ก่อน เป้าหมายที่มีหลายๆ ตัว อย่าเพิ่งไปสนใจ
การเล่น Zill ในตำแหน่งเลนกลาง ผู้เล่นต้องมี Skill Play ในการเล่น Zill ที่ดีในระดับหนึ่งนะครับ ใครที่ยังเล่น Zill ไม่คล่อง ผมไม่แนะนำให้เล่นนะครับ เพราะมันต้องใช้ทักษะหลายๆ อย่างจากการเล่น Zill เช่น การดักซุ่มโจมตี การคำนวณระยะของสกิล และจังหวะการเข้า-ออกไฟต์ ทั้งหมดนี้จะทำแบบมั่วๆ ไม่ได้ ช้าเกินไปก็ไม่ดี เร็วเกินไปก็ไม่ได้ จังหวะมันต้องพอดีจริงๆ นั่นเองครับ
เอาไปลองเล่นกันดูได้ครับ รับรองว่าจะติดใจแน่นอน เพราะดาเมจมันแรงเว่อร์ๆ เลยล่ะครับ แรงจนฝั่งตรงข้ามต้องงงเลยว่า ทำไม Zill เลนกลาง ถึงมีดาเมจเวทที่รุนแรงขนาดนี้
หากชื่นชมในสิ่งที่ผมทำ ไม่ต้องทำอะไรมากครับ แค่กดไลค์และกดติดตามที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return แค่นี้ผู้เขียนก็จะรู้สึกปลื้มใจ และมีกำลังใจในการเขียนข้อมูลดีๆ แบบนี้ออกมาให้เรื่อยๆ แล้วครับ
