หนึ่งในฮีโร่ตำแหน่ง โรมมิ่ง ที่จัดได้ว่า ป่วนเกมเอาเรื่องอยู่ และเป็นหนึ่งในฮีโร่หลายๆ ตัว ที่ควรจะหยิบมาโรม ในการไต่แร็งค์ นั่นก็คือ Cresht นั่นเองครับ เจ้าหมึกตัวนี้ มีจุดเด่นมากมาย ซึ่งตำแหน่งหลักของมันคือ ซัพพอร์ต แต่ด้วยความสามารถ และอัลติที่สุดแข็งแกร่งของมัน ส่วนใหญ่ จึงนิยมหยิบมาโรมครับ แต่ก็สามารถยืนเลนได้ด้วยเช่นกันนะครับ แต่ยังมีผู้เล่นมากมาย ที่หยิบเจ้า Cresht ตัวนี้มาโรม หรือ มาเล่นแล้ว ยังไม่สามารถใช้มันเพื่อป่วนเกมได้แบบสุดๆ เพราะเค้าเหล่านั้น ยังไม่รู้ถึง สุดยอดความลับ Cresht โรมมิ่ง ที่ผมกำลังจะเอามาบอกทุกคนนี่แหละครับ
สุดยอดความลับ Cresht โรมมิ่ง คืออะไร?
สุดยอดความลับ Cresht โรมมิ่ง ก็คือ การเวดป่า ครับ บางคนอาจจะบอกว่า การเวดป่า เอา Arum ไปเวด ไม่ดีกว่าเหรอ? ดีครับ แต่เจ้าหมึก Cresht ตัวนี้ ก็เวดป่าได้เหมือนกัน และดีกว่าด้วย คือ มีสกิลสำหรับป้องกันตัว และเอาตัวรอดได้ สามารถเวดป่าได้ตลอดทั้งเกม กวนตีน และป่วนตัวป่าแบบสุดๆ จนทำให้เมจยืนเลนกลางไม่ได้ ตัวยืนเลนข้างก็ต้องคอยมาช่วยตัวป่า ทำให้ทั้งป่า ทั้งเลนของฝั่งตรงข้าม เสียรูปขบวนไปเลย
แต่แค่การเวดป่า มันไม่ใช่สุดยอดความลับครับ ไอ้ที่ผมบอกว่า มันเป็นสุดยอดความลับ ก็คือ ไอเท็ม และสกิลชาเลนเจอร์ ที่มันจะหยิบติดตัวไป เพื่อเป็นเครื่องมือ ในการเวดป่า และป่วนป่า จนตัวป่าฝั่งตรงข้าม จนลงไปถนัดตาเลยต่างหากครับ คือ สุดยอดความลับที่แท้ทรู
สกิลชาเลนเจอร์ สำหรับเจ้าหมึก Cresht ที่ต้องพกไป สำหรับเวดป่า ก็คือ Punish ครับ หลายคน ก็อาจจะไม่แปลกใจ เพราะคิดว่า มันก็เอาไว้ขโมยพวกครีปป่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็ออกเป็น Leviathan ให้มันแข็งๆ ตัวหนาๆ เลือดเยอะๆ มี Passive Damage เผาศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ อะไรประมาณนี้ ก็ไม่เห็นจะเป็นความลับอะไรตรงไหนเลย ใช่มั้ยครับ?
ความลับ มันอยู่ตรงนี้ครับ ผมจะเอา Punish ติดตัวมาให้ Cresht โรมมิ่ง แต่จะไม่อัพเกรดให้มันขึ้นเป็น Frostbite เด็ดขาดครับ จะคงที่ให้มันอยู่แค่ Punish แบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ
ความแตกต่างระหว่าง Punish กับ Frostbite ก็คือ
1. Punish เป็นสกิลชาเลนเจอร์ ที่เป็นต้นกำเนิดของ Frostbite อธิบายง่ายๆ คือ Punish จะกลายเป็น Frostbite เมื่อผู้เล่น ทำการอัพเกรด Hunter’s Knife เป็นขั้นที่ 2 แล้ว
2. Punish มีผลกับเฉพาะกับมอนสเตอร์ หรือ ครีป เท่านั้น ไม่มีผลกับฮีโร่ฝั่งตรงข้าม แต่ Frostbite มีผลกับทั้งฮีโร่ฝั่งตรงข้าม และ มอนสเตอร์ป่า หรือครีปเลนด้วย
ดังนั้น การเลือกที่จะหยิบเอา Punish มาให้ Cresht โรมมิ่ง ก็เพื่อให้มันเน้นไปที่การขโมยบัพ หรือครีปป่าจากตัวป่าฝั่งตรงข้ามเป็นหลักนั่นเอง คือ เมื่อเข้าไปใกล้ๆ มอนสเตอร์ป่าที่เป็นบัพฟ้า หรือ บัพแดง ที่กำลังโดนตัวป่า หรือใครที่ตีอยู่แล้วใกล้ตาย หากกด Punish ไป มันจะโดนแต่มอนสเตอร์ป่าตัวนั้น ที่อยู่ใกล้เราที่สุด และทำให้เรา ลาสช็อต หรือกลายเป็นคนฆ่ามอนสเตอร์ป่าตัวนั้น ทำให้บัพ เลเวล และเงินมาทันทีครับ เป็นการล็อคเลยว่า มันจะต้องโดนแต่มอนสเตอร์ป่าอย่างเดียวเท่านั้น ไม่โดนฮีโร่ฝั่งตรงข้ามแน่นอน
ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว หากเราเอา Frostbite ไป เวลาที่กดใช้ หากก่อนหน้านั้น เราโจมตีใส่ฮีโร่ก่อน หรือ Passive Damage จากเกราะไฟของเราดันไปโดนฮีโร่ก่อน เวลากด Frostbite มันก็จะไปลงที่ตัวฮีโร่ศัตรู ไม่โดนมอนสเตอร์ป่า ทำให้เราลาสช็อตบัพนั้นจากมอนสเตอร์ป่าไม่ได้นั่นเอง
การเอา Cresht โรมมิ่ง ใส่สกิลชาเลนเจอร์ Punish มา และให้คงไว้แค่นั้น ก็เพื่อเอาไว้ขโมยบัพ หรือ ลาสช็อตมอนสเตอร์ทุกตัวจากศัตรูจริงๆ แม้แต่มังกร Abyssal Dragon หรือ Dark Slayer มันก็ใช้ได้แบบชัวร์ๆ แน่นอนครับ เพราะมันเป็น Punish มีผลกับมอนสเตอร์อย่างเดียวนั่นเอง คือ ถ้าเห็นว่า ศัตรูกำลังรุมตีมังกร Abyssal Dragon อยู่ แล้วมีเราคนเดียว เราโดดลงไปกลางวง ตอนพลังชีวิตของมังกรเหลือน้อยๆ แล้วกด Punish ลาสช็อตได้สบายๆ เลย เสร็จแล้วก็แปลงร่างบู๊กับพวกศัตรูต่อได้เลย โหดสัดรัสเซียแน่นอน ( ซึ่งผมทำแบบนี้บ่อยครับ เล่นเอาฝั่งตรงข้ามหัวร้อนกันเป็นประจำเลยทีเดียว )
ทีนี้ ถ้าดูในเซ็ตไอเท็ม ด้านบน จะเห็นว่า ผมได้ออกเป็น Hunter’s Knife เอาไว้ บางคนอาจจะสงสัยว่า ก็ในเมื่อเรามี Punish มาอยู่แล้ว ไม่ต้องออกไอเท็มป่าเลยสักชิ้น เราก็ใช้งานสกิล Punish ได้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเปลืองเงิน หรือ เปลืองช่อง เพื่อซื้อไอเท็มป่าชิ้นนี้มาใส่เลย ผมจะอธิบายให้ฟังแบบนี้ครับ
แม้ว่า Cresht โรมมิ่ง จะเอา Punish มา และกดใช้งานมันได้ตลอดเวลา สบายๆ อยู่แล้ว แต่ก็จำเป็นต้องออกไอเท็มป่าชิ้นแรก หรือ Hunter’s Knife มาไว้นะครับ เหตุผลก็มาจาก สกิลติดตัวของไอเท็มป่าชิ้นนี้แหละครับ นั่นคือ..
สกิลติดตัว Hunting: โจมตีมอนสเตอร์ป่าแรงขึ้น 20% และได้รับ XP เมื่อฆ่ามอนสเตอร์ป่าเพิ่มขึ้น 20%
เห็นมั้ยครับ กับแค่เงิน 250 โกล์ด เพื่อซื้อไอเท็มป่าชิ้นนี้ แต่สิ่งที่เราจะได้กลับมาก็คือ การโจมตีใส่มอนสเตอร์ป่าแรงขึ้น และเราได้รับค่าประสบการณ์ XP มากขึ้นกว่าเดิม นั่นแปลว่า จะทำให้ Cresht โรมมิ่ง มีเลเวลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเองครับ
ยิ่งไปกว่านั้น โดยปกติแล้ว เวลาที่เล่น Cresht หลังจากแปลงร่างเสร็จ การเก็บเกจให้ดีที่สุด และเร็วที่สุด เพื่อจะแปลงร่างครั้งต่อไป ก็คือ การมาตีมอนสเตอร์ป่า ทีนี้ หากเรามีไอเท็มป่าชิ้นนี้ เราก็จะฆ่ามอนสเตอร์ป่าได้เร็วขึ้น และได้รับ XP เยอะขึ้นด้วย และการกดใช้สกิล Punish มันก็จะแรงขึ้นมาอีกนิดนึงด้วยนะครับ
ส่วนไอเท็มชิ้นอื่นๆ ก็ออกตามลำดับที่ผมแสดงให้ดูในภาพได้เลยครับ สำหรับไอเท็มซัพพอร์ต ผมจะให้ออกเป็นแค่ Wind Gem ไปก่อนนะครับ เพราะมีหลายเกม ที่เวลาเล่นจริงๆ แล้ว สามารถเวดป่าศัตรูได้ตั้งแต่ต้นเกม และป่วนเกมได้เรื่อยๆ ก็เลยทำให้เลเวลไม่ตามหลังเพื่อนในทีมมากนัก เราก็เอาเงินไปออกเป็นไอเท็มหลักชิ้นอื่นๆ ก่อน เพื่อเพิ่มดาเมจก็ได้ เช่น รีบไปออกเป็นรองเท้ามาก่อน แล้วพอมีเงินเหลือ ค่อยอัพเกรดเป็น Soul Storm Badge อีกทีครับ
ยังไงก็ต้องอัพเกรดเป็น Soul Storm Badge เพียงแต่จะตอนไหน ก็เท่านั้นเองครับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าเกมตึงมากๆ ตั้งแต่ต้นเกม ก็ควรจะรีบออก Soul Storm Badge มาให้เร็วที่สุดเลยครับ
และนี่คือ สุดยอดความลับ Cresht โรมมิ่ง ที่ผมการันตีเลยว่า ไม่มีใครที่ไหนจะเอามาบอกให้คุณรู้ละเอียดขนาดนี้อีกแล้วแน่นอนครับ ซึ่งในช่วงเลทเกม หากเกินมันโคตรตึงแบบสุดๆ จริงๆ ก็ให้เราอัพเกรดเจ้า Punish ได้เลยครับ เพราะการขโมยบัพ เวดป่า จะไม่มีอีกแล้ว แต่เราต้องการความแข็งแกร่ง ก็ขึ้นเป็น Leviathan ได้เลยครับ เลือดของหมึก Cresht จะได้มหาศาล เรียกได้ว่า ต้นเกมก็ป่วนป่า ขโมยบัพ เลทเกม ก็เลือดมหาศาล จนศัตรูตีไม่เข้า ฆ่าไม่ตาย จะมีฮีโร่ตัวไหน ที่โหดกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย
สูตรไอเท็มและความลับนี้ ผมคิดขึ้นเองจากการที่เล่นมานาน ลองผิดลองถูก จนมาประยุกต์ใช้ จนได้เซ็ตนี้ขึ้นมา ถ้าจะเอาไปเผยแพร่ อย่าลืมเครดิตด้วยนะครับ ว่าสูตรนี้มาจากที่เว็บไซต์แห่งนี้
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
