สูตรดราฟตัวให้ Butterfly ROV เล่นได้ง่าย และโหดมากที่สุด เลือกตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

แน่นอนครับว่า ถ้าเราพูดถึงฮีโร่ที่เป็นตัวโกงในยุคนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น Butterfly แน่นอนครับ อันที่จริง Butterfly หรือ น้องเนยนี่ เค้าก็มีประวัติการเป็นดาวรุ่ง หรือตัวโกงประจำยุคมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะครับ ตั้งแต่เข้ามาในเซิฟไทยครั้งแรก จากนั้นก็โดนเนิฟ แล้วก็มีบัพอีกรอบจนเก่ง จนโกงมากๆ แล้วก็โดนเนิฟ จากนั้นก็เงียบหายไป หลังๆ มาแม้จะมีการบัพอะไรให้บ้าง แต่โดยภาพรวม ก็ยังมีคนหยิบมาน้อย มาคราวนี้ ปรับรูปแบบเงื่อนไขของสกิลต่างๆ ใหม่ เพิ่มเอฟเฟกต์ใหม่ เลยทำให้มันกลับมาเก่งและโกงมากๆ อีกรอบ แต่ปัญหาก็คือ มันไม่ใช่ทุกครั้งที่เราหยิบ Butterfly ลงไปเล่นในแต่ละเกมแล้วจะชนะได้ง่ายๆ เสมอไป แม้จะถูกบัพมาให้เก่งขึ้นมากแค่ไหน แต่มันก็มีเงื่อนไขที่คนในทีมต้องเข้าใจด้วย เพื่อทำให้เวลาที่ Butterfly แล้ว มันเล่นง่าย และฆ่าได้ง่าย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เงื่อนไขในการเล่น Butterfly มันครบนั่นเองครับ ซึ่งเราอาจจะเรียกมันได้ว่า สูตรดราฟตัวให้ Butterfly ROV เล่นง่าย และเก่งที่สุด ก็ว่าได้ครับ อันนี้พูดถึงในกรณีที่ Butterfly หลุดแบนมาให้ฝ่ายเราได้เล่นนะครับ แต่ถ้าไม่หลุดแบนมา ก็เล่นตัวอื่นไปนะครับ

Aleister จับล็อค เป้าหมายให้ Butterfly คอมโบสกิลใส่แบบเต็มๆ
Aleister จับล็อค เป้าหมายให้ Butterfly คอมโบสกิลใส่แบบเต็มๆ ตายแน่นอน นั่นเพราะทีมเราดราฟตัวมาได้เหมาะสม มีตัวจับล็อคให้ Butterfly ได้ฆ่าอย่าง Aleister นั่นเอง

สูตรดราฟตัวให้ Butterfly ROV เล่นได้ง่ายขึ้นมากๆ และเก่งแบบสุดๆ

“ดราฟตัวมาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นี่คือ คติประจำใจของคนเล่นเกม ROV ระดับโปรทุกคน เพราะถ้าเราดราฟตัวมาแบบที่มีเงื่อนไขเยอะๆ มันจะเล่นยาก และการดราฟตัวมาแบบทำให้ทีมตัวเองเสียเปรียบ ก็จะทำให้มีโอกาสแพ้สูงเช่นเดียวกัน ดังนั้น การดราฟตัวของทีมเรา จึงมีผลกับการเล่นเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเราเลือกแล้วว่า เราจะหยิบ Butterfly มาเล่นในตำแหน่งฟาร์มป่า เราก็ต้องมาดูด้วยว่า แล้วจะจัด Composition หรือ เพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งต่างๆ เป็นฮีโร่ประเภทไหน มีสกิลอย่างไรมาดี มันถึงจะเหมาะสม และทำให้ Butterfly เล่นได้ง่ายมากที่สุดนั่นเองครับ

ถ้าในทีมเรามี Butterfly เป็นตำแหน่งฟาร์มป่า เราควรจะดราฟฮีโร่ในตำแหน่งอื่นๆ ดังนี้

1. มีตัวยืนค้ำ 1 ตัว

คำว่า “ตัวค้ำ” ก็คือ ฮีโร่ที่เข้าไปยืนไฟต์ ยืนนัวกับศัตรูได้นานๆ เพราะตัวหนา ตายยาก ยืนชน ยืนบวกกับศัตรูได้นานๆ แข็งแกร่งมากๆ เพื่อล่อซื้อทั้งสกิลต่างๆ จากศัตรู และยืนถ่วงเวลาให้แนวหลังของเรายิงใส่ศัตรูได้ฟรีๆ หรืออาจจะเรียกว่า เป็นตัวล่อเป้าให้ทีมได้รุมยิงฟรี ก็ไม่ผิด ซึ่งฮีโร่ที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ ก็ได้แก่ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต หรือ ออฟเลน ก็ได้เช่นกัน ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นฮีโร่ประเภทไฟต์เตอร์เป็นหลัก เช่น Omen, Maloch, Mortos, Roxie, Arduin, Lu Bu

2. มีตัวล้วงหรือโถม 1 ตัว

คำว่า “ตัวล้วง” หรือ “ตัวโถม” ก็คือ ฮีโร่ที่เน้นการเข้าไปทำดาเมจใส่แครี่ หรือ เมจของฝั่งตรงข้ามที่อยู่แนวหลัง โดยจะแบ่งตามลักษณะการเข้าไปถึงตัวพวกแครี่ และเมจ ได้แก่ ถ้าเป็นพวก หายตัว หรือ โดดได้ไกลๆ แล้วถึงตัวแครี่เลย เราก็จะเรียกว่า ตัวล้วง แต่ถ้าเป็นพวกที่ บุกตะลุย ฝ่าดงแนวหน้าของศัตรู พุ่งผ่าน ทะลุเข้าไปหาแครี่ และเมจฝั่งตรงข้าม พวกนี้เค้าเรียกว่า ตัวโถม

ยกตัวอย่างง่ายๆ

ตัวล้วง ก็เช่น Zuka, Batman, Wukong, Kriknak
ตัวโถม ก็เช่น Maloch, Lu Bu, Volkath

ซึ่งโดยปกติแล้ว หน้าที่ในการล้วง หรือ โถมแบบนี้ มักจะเป็นตำแหน่ง ออฟเลน เป็นหลัก แต่โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ก็ทำหน้าที่นี้ได้เช่นกัน เช่น การเอา Maloch มาโรม ก็ใช้เป็นตัวโถมชั้นดีได้เช่นกัน

Maloch โดดอัลติลงไปใส่ Grakk ทำลายอัลติของ Grakk ทันที
Maloch โถมเข้าใส่ ด้วยการโดดอัลติลงไปใส่ Grakk เพื่อทำลายอัลติของ Grakk ทันที
Butterfly ก็เข้าไปไหล เก็บงานให้เรียบร้อย ทั้ง Diao Chan และ Grakk โดนเก็บหมด
Butterfly ก็เข้าไปไหล เก็บงานให้เรียบร้อย ทั้ง Diao Chan และ Grakk โดนเก็บหมด

3. มีตัวยิงไกลดาเมจแรงๆ 2 ตัว ( หรือ แครี่ ยิงไกล และแรง 1 ตัว กับเมจที่ CC หนาๆ น่ารำคาญมากๆ อีก 1 ตัว )

ตรงนี้เราควรจะเลือกแครี่ ที่เป็นตัวทำดาเมจแรงๆ ตั้งแต่ต้นเกมไปเลย เช่น Tel’Annas จะดีที่สุด เพราะดาเมจรุนแรงตั้งแต่ต้นเกม ไปจนถึงเลทเกมเลยทีเดียว หรือ จะเลือกใช้แครี่ที่ Burst Damage และตอดเลือดฝั่งตรงข้ามได้แรงๆ เช่น Violet, The Joker แบบนี้ก็ได้เช่นเดียวกัน เป้าหมายก็คือ เพื่อทำดาเมจให้รุนแรงมากที่สุด ให้ศัตรูเจ็บหนักที่สุด เพื่อที่เวลา Butterfly เข้ามาฆ่าจะได้ตายทันที และทำให้ Butterfly ได้ไหลไปฆ่าฮีโร่ศัตรูตัวอื่นๆ ต่อไปได้อีก

สำหรับเมจ จะใช้เป็นเมจที่มีดาเมจแรงๆ ตั้งแต่ต้นเกม เช่น Raz ก็ได้ หรือ จะใช้เป็น Krixi ก็ได้ หรือจะเน้น CC หนาๆ มาช่วยจับล็อตศัตรูก็ได้เช่น Ignis, Aleister, Lorion ได้หมดครับ เพราะการ Burst Damage แรงๆ ให้ศัตรูเจ็บหนัก ก็มีผลดีเวลาที่ Butterfly เข้ามาฆ่า จะไหลได้ง่าย หรือจับล็อคศัตรูให้อยู่กับที่เอาไว้ ก็ทำให้ Butterfly เข้าไปฆ่าศัตรูได้ง่ายๆ โดยที่ไม่โดนสวน ไม่บาดเจ็บ ก็ถือเป็นผลดีเช่นกัน

ถามว่า ทำไมต้องจัดตามนี้ด้วย หลักการง่ายๆ ก็คือ Butterfly ต้องเข้าไปปิดงานทีหลัง โดยเพื่อนร่วมทีมทุกตำแหน่งต้องคอยเซ็ตไฟต์ หรือ เซ็ต “เงื่อนไข” ให้กับ Butterfly ได้ไหลไปฆ่าศัตรูต่อเนื่องได้ง่ายๆ แม้ว่าในปัจจุบันแนวทางการใช้สกิลของ Butterfly จะเปลี่ยนไปแต่มันก็ยังไหลได้อยู่ดีนะครับ ดังนั้น เราต้องใช้การดราฟตัวฮีโร่ในทีมแบบนี้ ( วิธีไหลของ Butterfly ผมเขียนไว้แล้วใน ทริคการเล่น Butterfly แพทช์ใหม่ เข้าไปอ่านกันได้ครับ )

ตัวยืนค้ำต้องเข้าไปเปิดไฟต์ พร้อมกับการยิงสนับสนุนจากตัวยิงไกลด้านหลังทั้งสองตัว ส่วนตัวล้วงหรือตัวโถมมีหน้าที่เข้าไปทำลายแนวหลัง คือ ตัวยิงไกลของฝั่งตรงข้าม เพื่อโดดเดี่ยวแผงหน้าของฝั่งตรงข้ามให้โดนเล่นงานแบบไม่มีใครช่วย รวมทั้งต้องทำให้พวกแผงหลังที่ยิงสนับสนุนของฝั่งตรงข้ามต้องเจ็บหนักอีกด้วย จากนั้น Butterfly จึงเข้ามาไหลฆ่าพวกที่เจ็บหนักทุกตัวให้ตาย นั่นแหละครับคือแนวทางการเล่นที่ถูกต้อง

ถามว่า การทำแบบนี้ มันเหมือนกับเป็นการทำทุกอย่าง หรือ ปูทางให้ตัวฟาร์มป่าของทีมมากเกินไปหรือเปล่า คือ ทุ่มเททุกอย่างให้กับป่าหมดเลย ก็ต้องตอบว่า ใช่ครับ เพราะนั่นคือหน้าที่ของตำแหน่งฟาร์มป่า ก็คือ เป็นตัวทำดาเมจที่รุนแรงที่สุดของทีม และยิ่งเป็น Buttefly ด้วยแล้วเงื่อนไขมันชัดเจนมากๆ ว่า ต้องเข้าไปทีหลังเสมอ เพราะเมื่อเข้าไปคอมโบสกิลแล้ว ศัตรูต้องตาย ถ้าไม่ตาย Butterfly เองนั่นแหละที่จะตาย และถึงแม้ว่า Butterfly จะได้รับการบัพมาให้เก่งขึ้น มีสกิลที่สร้างโล่ให้ตัวเองได้ก็ตาม แต่ตัวมันเองบางเกินไปที่จะเข้าไปเปิดไฟต์ ยืนไฟต์นานๆ และโล่ที่เค้าบัพมาให้ ก็ทนรับสกิลต่างๆ จากฮีโร่หลายๆ ตัวไม่ไหวหรอกครับ ดังนั้น เราต้องเล่นให้ถูกหลักการ และทำให้เงื่อนไขมันครบถ้วน Butterfly ก็จะโหดเองครับ

หากเราดราฟตัวแบบนี้ ทีมเราที่มี Butterfly จะเล่นได้ง่ายมากๆ และสามารถสู้กับทีมที่ดราฟตัวกันมาแบบโกงๆ ได้ เพราะทีมเรามีความหลากหลาย และสมดุลของสกิลต่างๆ ดาเมจ และ CC ที่เรียกได้ว่า ครบถ้วนเลยทีเดียว

ยกตัวอย่าง สูตรดราฟตัวให้ Butterfly ROV เล่นง่ายสุดๆ แบบที่จัดง่ายๆ คนที่สมัครไอดีใหม่ มีตัวน้อยๆ ก็เอาไปเล่นกันได้ทุกคน เช่น

Maloch (โรม)
Tel’Annas (แครี่)
Aleister (เมจ)
Omen (ออฟเลน)
Butterfly (ฟาร์มป่า)

Maloch เปิดไฟต์ Aleister จับ TelAnnas อัลติสตั้นโดนทุกตัว Butterly เข้าไปปิดงาน
Maloch เปิดไฟต์ Aleister จับ TelAnnas อัลติสตั้นโดนทุกตัว Butterly เข้าไปปิดงาน
ศัตรูทั้ง 3 ตัว ตายเรียบ ฝ่ายเราไม่มีใครตายเลย
ศัตรูทั้ง 3 ตัว ตายเรียบ ฝ่ายเราไม่มีใครตายเลย

จะเห็นได้ว่า การจัด Composition แบบนี้ ตรงกับ สูตรดราฟตัวให้ Butterfly ROV เล่นง่ายมากๆ ที่ผมได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้เลยนะครับ ยังไงน่ะเหรอ?

ลองดูการดราฟตัวนะครับ สูตรนี้ค่อนข้างที่จะมีความสมดุลในทุกอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ดาเมจที่รุนแรงตั้งแต่ต้นเกม จาก Tel’Annas และการปาดแรงๆ ของ Maloch ตามด้วยดาเมจเวท + ความเสียหายจริง และ CC ที่หนาสุดๆ จาก Aleister ทั้งสตั้น และจับล็อค แค่ 3 ตัวนี้ ต้นเกมก็เดินป่วนได้หมดแล้วล่ะครับ สามารถเดินเล่นกันได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมี Omen หรือ Butterfly ไปเติมไฟต์ หรือ ไปช่วยแต่อย่างใด

ในเรื่องของการแยกดัน เราก็มี Omen อยู่แล้ว รวมทั้งจังหวะการเข้าไฟต์ เราก็มี Omen เป็นตัวเปิดไฟต์ และยืนค้ำให้กับทีมได้ ด้วยการกดอัลติ + Flicker เข้าไปล่ามโซ่เป้าหมายไว้ แล้วพวกเราก็รุมฆ่า เสร็จแล้ว Omen ก็กลับไปแยกดันต่อ

Omen แยกดัน และเมื่อมีโอกาส ก็จับล็อคศัตรูล่ามโซ่ไว้ ให้ Butterfly เข้าไปฆ่า
Omen แยกดัน และเมื่อมีโอกาส ก็จับล็อคศัตรูล่ามโซ่ไว้ ให้ Butterfly เข้าไปฆ่า

หรือจะใช้ Maloch เป็นตัวโถม โดดเข้าไปใส่ฝั่งตรงข้าม โดยจะเน้นเป้าหมายไปที่การโดดใส่หัวของ แครี่ และเมจ ฝั่งตรงข้ามเป็นหลัก เพื่อทำดาเมจ และสโลว์พื้นที่ที่เมจ กับแครี่ยืนอยู่ เพื่อให้ Butterfly เข้าไปฆ่าได้ง่ายมากๆ ส่วน Aleister ก็เป็นตัวแก้ทางพวกตัวโกงๆ ทั้งหลาย เพราะถ้าเข้ามาก็โดนอัลติจับล็อค แล้วให้ Tel’Annas กับ Butterfly รุมฆ่าได้สบายๆ ดาเมจล้นเหลือแน่นอน

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การจัด Composition ตามตัวอย่างนี้ มีความสมดุลในทุกๆ เรื่อง และรับมือกับการดราฟตัวทุกรูปแบบของฝั่งตรงข้ามแน่นอน เพราะเรามีทั้ง ดาเมจที่รุนแรงตั้งแต่ต้นเกม CC ที่หนา แท็งค์ที่ยืนค้ำได้ ไฟต์เตอร์และเมจที่จับล็อคเป้าหมายได้ และตัวทำดาเมจที่ไหลได้ยาวๆ อย่าง Butterfly

แต่ถ้าเราดราฟตัวแบบอื่น ที่ทำให้ Butterfly มันเล่นยากขึ้น เช่น ทีมขาดดาเมจ, ทีมมี CC น้อยเกินไป หรือ ทีมมีแต่ตัวบางๆ ไม่มีแท็งค์ ไม่มีตัวยืนค้ำ หรือ ทีมขาดตัวแยกดัน จะเกิดปัญหากับการเล่น Butterfly แน่นอนครับ เพราะ Butterfly มันแยกดันไม่ดีเลย และถ้าไม่มีตัวค้ำ Butterfly ก็เข้าไปคนเดียวไม่ไหว เพราะถ้าเข้าไปแล้ว ศัตรูกดใช้ Arctic Orb สวนกลับ แล้วดันไม่ตาย Butterfly เองนั่นแหละที่จะโดนรุมฆ่าจนตาย

เห็นมั้ยครับว่า ถึงแม้ Butterfly จะถูกปรับมาให้เก่ง แต่มันก็มีเงื่อนไขในการเล่นอยู่ นั่นก็คือ ตอนที่เข้าไปคอมโบสกิล เป้าหมายต้องตาย และดาเมจของ Butterfly จะแรงได้ ก็ต้องรอไอเท็ม ซึ่งถ้าฝั่งเราปกป้องป่าให้ Butterfly ได้ฟาร์มอย่างเต็มที่ไม่ได้ หรือ ยืนเลนไม่แข็ง Butterfly ก็จะขาดเงินที่เพียงพอจะซื้อไอเท็ม หรือ จนกว่าป่าฝั่งตรงข้าม ทีนี้ดาเมจก็จะไม่แรง แล้วก็จะไม่โกงอีกนะครับ ดังนั้น ถ้าจะเล่น Butterfly ฟาร์มป่า ต้องมั่นใจว่า ทีมดราฟตัวมาดี และในช่วงต้นเกมถึงกลางเกมสามารถเดินเกมกันได้ ยืนเลนกันไหว โดยที่ไม่ต้องมี Butterfly เข้าไปช่วยตลอดเวลา เพื่อเปิดโอกาสให้ Butterfly ได้ฟาร์มอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งให้มีไอเท็มเร็วที่สุด และมีดาเมจแรงที่สุดในทีมจริงๆ รวมทั้งมีการเงินและเลเวลที่นำตัวฟาร์มป่าฝั่งตรงข้ามอีกด้วย

ย้ำอีกครั้งนะครับว่า การลงแร็งค์ในเกม ROV นั้น “การเลือกตัวมาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง”

เรื่องก่อนหน้านี้ROV แพทช์ 15 ธ.ค. 63 ปรับสมดุล 7 ฮีโร่ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของ META ปัจจุบัน
เรื่องถัดไปเจาะลึก Dextra ROV รูน ไอเท็ม พลังแฝง และแนวทางการเล่น ในซีซั่นปัจจุบัน