ส่งไฟล์ ให้เพื่อนทั่วโลกด้วย WeTransfer ไม่ว่าใหญ่แค่ไหน ส่งได้หมด

มีใครเคยมีปัญหาแบบว่า อยากจะ ส่งไฟล์ คลิปวีดีโอ ที่ถ่ายไว้ให้เพื่อนดูบ้าง แต่มันมีขนาดเกิน 25 MB ทำให้ส่งทาง Email ไม่ได้ จะส่งทาง LINE มันก็ช้าเกินไป เพราะไฟล์วีดีโอ มันนานหลายนาที ไม่รู้ว่า จะส่งไปให้ยังไง? มีใครเจอปัญหาแบบนี้บ้างมั้ยครับ? ปัญหาแบบนี้ สามารถแก้ได้ ด้วยการ อัปโหลดไฟล์ ขึ้นไปที่ตัวกลาง จะเป็นระบบ Cloud หรือ เซิฟเวอร์ที่ไหนก็ได้ ที่มันเร็วๆ แล้วก็ส่งลิงค์ไปให้ผู้รับปลายทาง เพื่อให้เค้า ไปคลิกดาวน์โหลดเอาเอง ง่ายแสนง่าย และสะดวกมากๆ เพราะไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเลย นั่นคือ WeTransfer ครับ

WeTransfer เป็นเว็บสำหรับให้บริการ ส่งไฟล์ขนาดใหญ่ ไปให้ใครก็ได้ ทั่วโลก โดยขนาดไฟล์ที่จะส่งนั้น จะเป็นไฟล์ชนิดไหนก็ได้ แต่ต้องมีขนาดไม่เกิน 2GB ซึ่งนับว่า ใหญ่โตมโหฬารมากๆ นะครับ เพียงพอต่อการใช้งานเลยทีเดียว แถมไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเลย แม้แต่อย่างเดียว ใน PC ของเรา จะส่งผ่านทาง PC ก็ได้ หรือจะส่งผ่านทาง มือถือ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ก็ได้ ทำได้หมด แต่ส่วนใหญ่ นิยมทำใน PC หรือ โน้ตบุ๊คมากกว่านะครับ เพราะถ้าอัปโหลดไฟล์ใหญ่ มันต้องเปิดคอมเอาไว้นานๆ ถ้าส่งในสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต จะเปลืองแบตโดยใช่เหตุครับ

ขั้นตอนการ ส่งไฟล์ ด้วย WeTransfer

1. เริ่มแรก ก็ทำการเลือกไฟล์

2. เสร็จแล้ว ก็ใส่ข้อมูล ว่าต้องการให้อีเมลลิงค์สำหรับดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าว ไปที่อีเมลไหน ( อีเมลปลายทาง ของเพื่อนเรา )

3. จากนั้น กรอกอีเมลของเราด้วย

4. สำหรับช่องข้อความ จะกรอกหรือไม่ก็ได้

ส่งไฟล์ ให้เพื่อนทั่วโลกด้วย WeTransfer

ข้อดีของการ ส่งไฟล์ ด้วย WeTransfer

– ส่งง่าย ผ่านทาง เว็บบราวเซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่มเติม

– ขนาดไฟล์ ในการส่ง สามารถส่งได้ใหญ่ถึง 2GB ต่อไฟล์ นับว่าดีมากๆ

– ใช้ส่งไฟล์ ให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศได้ดีมากๆ ในเมืองไทยด้วยกัน แนะนำให้ใช้การส่งไฟล์ด้วย วิธีส่งไฟล์ ระหว่างมือถือ แท็บเล็ต และ PC ง่ายๆ โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ ดีกว่า เร็วกว่า และปลอดภัยกว่าเยอะ

– ให้เพื่อนส่งไฟล์จากต่างประเทศมาให้ จะดีที่สุด เพราะความเร็วในการดาวน์โหลดไฟล์จากต่างประเทศ มาในเมืองไทย จะค่อนข้างเร็ว กว่าการอัปโหลดเยอะ

ข้อเสียของการ ส่งไฟล์ ด้วย WeTransfer

– ไม่ปลอดภัย เพราะไฟล์ที่เราอัปโหลดขึ้นไป จะไปอยู่ในเซิฟเวอร์ของทาง WeTransfer และถูกเก็บเอาไว้ที่นั่น ไม่รู้นานแค่ไหน

– ถ้าต้องการตั้งเวลา สำหรับอายุของไฟล์ที่เราอัปโหลดขึ้นไป ว่าให้ระบบลบเมื่อไหร่ หรือต้องการตั้งรหัสผ่าน ( password ) เพื่อป้องกันอีกชั้นนึง ก็ต้องทำการอัพเกรดเป็น PLUS ซึ่งต้องเสียเงินจริงๆ จ่ายไปให้ทาง WeTransfer ซึ่งไม่คุ้มแน่นอน ถ้าไม่ได้ทำการอัปโหลดไฟล์อะไรมากมายทุกวัน

– ในเมืองไทย อัปโหลดได้ค่อนข้างช้ามาก เพราะเน็ตที่วิ่งออกจากประเทศไทยไป มีความเร็วค่อนข้างต่ำ

จากการใช้งานจริงๆ พบว่า ถ้าหากเรา ส่งไฟล์ ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณไม่เกิน 500 MB ไม่พบว่า มีปัญหามากสักเท่าไหร่ ไม่เสียเวลาในการอัปโหลดมากนัก แต่ถ้าส่งไฟล์ขนาดใหญ่มากๆ อันนี้ ไม่แนะนำครับ ยกเว้นส่งไปต่างประเทศ อันนี้ ก็ต้องอดทนรอกันนิดนึง ถ้าส่งในประเทศ ใช้วิธีอื่น จะดีกว่าครับ เร็วกว่ากันเยอะ ทั้งความเร็วในการดาวน์โหลด และอัปโหลด

เหตุผลที่ความเร็วในการ อัปโหลด ของเราไปที่ WeTransfer นั้นไม่เร็ว ต้องดูที่ความเร็วเน็ตของเราครับ ว่าเป็นแพคเกจไหน ถ้าเป็น Fiber Optic ก็จะไวหน่อย แต่ถ้าเป็นเน็ตบ้านธรรมดาๆ ก็จะช้าเป็นเต่าอยู่แล้วครับ แต่สำหรับความเร็วในการดาวน์โหลดไฟล์จาก WeTransfer ถือว่าเร็วใช้ได้ครับ ลองพิจารณาเลือกกันเอาเองครับ ว่าจะใช้ WeTransfer เพื่อทำอะไร สำหรับผม เน้นใช้เพื่ออัปโหลดไฟล์ ส่งไปให้เพื่อน หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ส่งมาให้เท่านั้นครับ

เรื่องก่อนหน้านี้สเปคมือถือ ปี 2017 ขั้นต่ำ ที่ควรซื้อ ต้องเป็นอย่างไร ถึงจะคุ้มค่า และไม่เสียใจทีหลัง
เรื่องถัดไปวิธีส่งไฟล์ ระหว่างมือถือ แท็บเล็ต และ PC ง่ายๆ โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ