หลักการเล่น Solo Rank ROV ในซีซั่นปัจจุบัน ต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะมีโอกาสได้ดาวง่ายที่สุด

และแล้วก็มาถึงเรื่องที่หลายคนกำลังรอคอยกันอยู่ นั่นคือ เรื่องของ หลักการเล่น Solo Rank ROV ในซีซั่นปัจจุบันแบบที่ว่า กดเดี่ยวไปคนเดียวจริงๆ คือ ตรงนี้ต้องบอกว่า ผู้เล่นแต่ละคนมีเป้าหมาย หรือความต้องการในการเล่นเกม ROV ไม่เหมือนกันนะครับ บางคนท้อแท้กับการ Solo คนเดียว อยากกดไปกับเพื่อน อยากมีทีม ซึ่งตรงนี้ทุกท่านก็สามารถเข้ามารวมกลุ่มกับผมและแฟนเพจคนอื่นๆ ได้ ผ่านทางเฟซบุ๊ค 3 เพจหลักๆ ด้วยกัน ซึ่งเดี๋ยวผมจะลงรายละเอียดเอาไว้ด้านล่างนะครับ

แต่สำหรับบางคนที่แม้จะจริงจังกับการเล่นมากอยู่ก็ตาม แต่เวลาที่ว่างพอจะเล่นได้ ก็ดันไม่ตรงกับคนอื่น หรืออาจจะไม่สามารถเล่นได้ทุกวัน ก็ต้องใช้การ Solo ตัวคนเดียวนี่แหละ ในการเล่น ซึ่งก็ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ และด้วยข้อจำกัดแบบนั้น ผมก็เลยจะมาแนะนำ หลักการเล่น Solo Rank ROV ที่เป็นหลักการง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้กับทุกคนได้มากขึ้นครับ การันตีว่า สามารถเอาไปใช้ได้จริงแน่นอนครับ

หลักการเล่น Solo Rank ROV แบบตัวคนเดียวจริงๆ ในซีซั่นปัจจุบัน

สำหรับ หลักการเล่น Solo Rank ROV ที่ผมจะมาแนะนำกันนี้ จะเป็นการกดแบบ Solo Rank ตัวคนเดียวจริงๆ ไม่ใช่การกดแบบเราเล่นคนเดียวไม่มีเพื่อน แล้วไปแจมกับคนอื่นในห้องแชทที่ไม่รู้จักให้ครบ 5 คน เพราะแบบนั้น ระบบก็จะมองว่า คุณกดไปเป็นทีม 5 คน อยู่ดีนะครับ ซึ่งนั่นไม่ถือว่า เป็นการ Solo Rank แต่อย่างใดนะครับ ดังนั้นที่ผมจะเอามาแนะนำนี่ก็คือ การกดคนเดียวจริงๆ แบบเดี่ยวๆ เลย ให้ระบบสุ่มเพื่อนมาให้อีก 4 คน ซึ่งมันมีความเสี่ยงสูงมากๆ ถ้าเราไม่เข้าใจหลักการสำคัญเหล่านี้

1. เลือกเวลาในการกด Solo Rank

เพราะช่วงเวลาในการเล่น มีผลเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น การเล่นในช่วง Peak Time ที่มีคนเล่นกันเยอะๆ มันก็มีความเสี่ยงสูง คือ มีโอกาสเจอพวกหัดเล่นถูกสุ่มมาอยู่ทีมเดียวกับเราได้บ่อยมาก หรือมีโอกาสเจอกับพวกที่ไม่สนโลก และพวกอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้จริงจังอะไรกับการเล่นเกม ROV ถ้าเรากดไปแบบนั้น มีโอกาสสูงที่จะแพ้ และหัวร้อนเพราะเสียเวลาไปแบบไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้ฝึกฝีมือ ไม่ได้ความสนุก ไม่ได้อะไรเลยสักนิดเดียว ดังนั้น ถ้าจะสุ่มให้เจอคนที่เล่นเป็นงานในระดับนึงหน่อย เล่นได้สนุกขึ้น ส่วนใหญ่จึงเลือกจะไปเล่นในช่วงดึกๆ หลัง 22.00 – 23.00 น. ไปแล้ว ยาวๆ ยันตีหนึ่ง อะไรประมาณนี้ ก็จะเจอคนเป็นงานมากน้อย เด็กๆ น้อยหน่อย และค่อนข้างจะเล่นได้สนุก ไม่ค่อยเจออะไรแปลกๆ

ส่วนเวลาหลังจาก ตี 1 ไปแล้ว ตรงนี้เท่าที่ลองได้ทดสอบมา และจากที่ฟังเพื่อนที่ได้เล่นมาในช่วงเวลานั้น การกดแบบตัวคนเดียว ก็เสี่ยงไม่น้อยเช่นกัน มีโอกาสเจอคนโยนเกม หรือเล่นอะไรที่มันแปลกๆ แบบมั่วซั่ว ไม่ตรงกับหลักการที่ถูกต้องเยอะมากๆ ทำให้โอกาสแพ้และเสียดาวมีสูง อีกทั้งจำนวนคนเล่นมันมีน้อย จึงมีโอกาสสุ่มเจอกับทีมที่ไม่เท่าเทียม เช่น เรากดไปแบบคนเดียว ระบบก็สุ่มคนเดียวมาให้ แต่ด้วยความที่ช่วยเวลานั้น มีคนน้อย เค้าก็เลยอาจจะสุ่มแบบ 3-1-1 มาให้เรา ทำให้เราเจอฝั่งตรงข้าม ที่มีตี้ 3 คนอยู่ในทีม ทำให้เสียเปรียบได้

2. ต้องเล่นฮีโร่ได้หลากหลาย และมีฮีโร่มากกว่า 20 ตัว ถึงจะดี

ขึ้นชื่อว่า เป็นการเล่นแบบ Solo Rank คุณจึงจำเป็นที่จะต้องเล่นได้ทุกตำแหน่ง จะมายืนยันว่า ทุกเกม จะเล่นแครี่ให้ได้นั้น มันก็ไม่ถูกต้อง เพราะระบบไม่ได้มองถึงรายละเอียดในการสุ่มเพื่อนร่วมทีมมาให้เราขนาดนั้น ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด เราจึงต้องเล่นได้ในทุกตำแหน่ง อย่าเกี่ยงว่า “ต้องเล่น โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต อีกแล้วเหรอวะ” เพราะเมื่อคุณเลือกที่จะ Solo คุณต้องพร้อมที่จะเล่นในตำแหน่งที่ทีมขาดครับ

ยิ่งไปกว่านั้น การมีฮีโร่ในมือของคุณ หรือในไอดีเกมของคุณ จะต้องมีฮีโร่มากกว่า 20 ตัวขึ้นไป และต้องครบถ้วนในทุกๆ ตำแหน่ง และเป็นฮีโร่ที่เก่ง หยิบมาเล่นได้เสมอ ไม่ใช่ว่า มีแต่ฮีโร่ฟรี แล้วจะ Solo ให้ขึ้นคอน เช่น ฮีโร่ที่เป็นประเภทแท็งค์มีอยู่แค่ 2 ตัว คือ Mina กับ Gildur แบบนี้ไม่ได้นะครับ เพราะมีโอกาสที่จะเสียเปรียบตั้งแต่ตอนดราฟตัวเลยทีเดียว เนื่องจาก ขาดฮีโร่ที่จะเอาไปแก้ทางเค้า และฮีโร่ทั้งสองตัวนี้ ถูกแก้ทางได้ง่าย และเงื่อนไขในการเล่นเยอะมากๆ เช่น Mina ถ้าไปเจอทีมที่ไม่สนโลก Mina เปิดแล้วไม่เข้าไปตาม เพื่อทำดาเมจโจมตี มันก็จะเป็นกระสอบทรายเดินได้ที่ไร้ค่าไปในทันทีเลยนะครับ ดังนั้น คุณต้องมีฮีโร่เป็นจำนวนมากในทุกๆ ตำแหน่ง จะมีแต่ฮีโร่ที่ตัวเองชอบเล่นแค่ไม่กี่ตัวไม่ได้นะครับ

การมีเพียงฮีโร่แค่ไม่กี่ตัวในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ เพราะฮีโร่แต่ละตัวในเกม ROV มันมีจุดเด่น และจุดด้อยที่แตกต่างกันไป และจุดเด่น จุดด้อยที่ว่ามานี้นี่แหละครับ ที่เอาไว้แก้ทางฮีโร่ตัวอื่นๆ ในเกม ROV ยิ่งคุณมีฮีโร่ในมือมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีวิธีการแก้ทางฮีโร่ฝั่งตรงข้ามได้มากขึ้นเท่านั้น เช่น ถ้าฝั่งตรงข้ามมี Y’bneth เป็นโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต แต่คุณเอง ซึ่งจำเป็นต้องเล่นในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ตของทีม แต่ดันมีแค่ Mina กับ Gildur ถามว่า คุณจะเอาอะไรไปสู้ครับ เพราะทั้งสองตัวนี้ แพ้ทาง Y’bneth ทั้งคู่ครับ โดยเฉพาะอัลติของ Y’bneth จะเป็นอุปสรรคกับการเล่นของทั้งคุณ และทั้งเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าคุณมีฮีโร่เยอะ คุณก็สามารถเลือกได้เลยว่า จะหยิบ Baldum หรือ Arum มาแก้ทาง ก็ได้หมด ขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการเอามาทำอะไรอีกนอกจากแก้ทาง Y’bneth แล้วนั่นเองครับ

3. มีมารยาท พูดกันดีๆ รักษาน้ำใจเพื่อนร่วมทีมเอาไว้ อย่าพิมพ์ด่ากัน

สิ่งแรกที่จะทำลายความเป็นทีม หรือทำให้ทีมพังตั้งแต่ยังไม่ทันได้เล่นก็คือ มารยาทในการเล่น ของผู้เล่นแต่ละคนในทีมนั่นแหละครับ โดยเฉพาะตั้งแต่ตอนที่แบนตัว หรือ เลือกตัว บางทีมีคนแบนไม่เป็น แบนไม่ถูกใจ แบนฮีโร่ที่ตัวเราเองอยากจะเล่น และบอกแล้วว่าจะเล่น แต่ก็โดนแบน หรือ โดนเพื่อนในทีมแย่งเล่นในตำแหน่งที่เราเองก็บอกไปแล้วนะว่าจะเล่น เช่น แครี่ แบบนี้ เราก็ต้องอดทนครับ เพราะการเล่นแบบ Solo Rank คุณต้องเล่นได้ทุกตำแหน่ง และพร้อมที่จะเจอกับอะไรแบบนี้ ไม่ต้องพูด ไม่ต้องแชท ไม่ต้องบ่นอะไร ทำใจ แล้วใช้ความรู้ที่ได้ศึกษามาจากในเพจนี้ กลั่นกรองออกมาว่า เราควรเลือกฮีโร่ตัวไหน มาเล่นในตำแหน่งที่เพื่อนในทีมเหลือให้เรา

ในเกม เวลาที่เล่นกัน ถ้าไม่ชัวร์ว่าจะคุมตัวเองไม่อยู่ ก็ปิดไมค์ ปิดแชท ไปเลยครับ จบข่าว เพราะถ้าเปิดไว้ ก็อาจจะทนไม่ไหว พิมพ์ด่า และ พูดด่าคนในทีม ซึ่งนั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์มันแย่ลงไปอีก ทางที่ดีที่สุดก็คือ ทำใจ และ ใจเย็น ก้มหน้าก้มตาเล่นไปครับ พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วทุกอย่างมันก็จะออกมาดีเองครับ

4. เลือกเล่นตัวทำดาเมจไว้ก่อน

การเล่นฮีโร่ที่ไม่มีดาเมจเลย จะแบกทีมไม่ได้ครับ เพราะส่วนใหญ่คนที่เล่น แครี่ และ เมจ มักจะ “มือไม่ถึง” กล่าวคือ เล่นเพราะคิดว่า มันง่าย เล่นเพราะไม่รู้ว่า มันเป็นตำแหน่งที่สำคัญกับทีมมากๆ และต้องใช้ Skill Play สูง เมื่อไม่รู้ เล่นเพราะความไม่รู้ ก็มักจะกลายเป็นจุดอ่อน และโดนเล่นงานจนตายได้ง่ายๆ เสมอ และตำแหน่งที่มักจะเหลือให้กับเรา ก็มักจะเป็น ตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัจจุบัน ผมไม่แนะนำให้หยิบพวกแท็งค์มาเล่นนะครับ

ถ้าจะต้องเล่น โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ให้เล่นตัวที่มีดาเมจ เช่น Maloch, Riktor, Amily แบบนี้จะสามารถแบกทีมได้ เพราะตัวมันเอง แข็งแกร่ง และมี CC ที่สามารถช่วยเหลือทีมได้ รวมทั้งมีดาเมจเพียงพอที่จะเติมดาเมจให้กับทีมไฟต์ได้ ไม่ได้เป็นแค่กระสอบทรายเดินได้อีกต่อไป

5. เลือกประเภทฮีโร่ให้เติมเต็มทีม

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าทีมเรา มีแท็งค์เป็น โรมมิ่ง/ซัพพอร์ตแล้ว มีป่าเป็นตัวล้วง และเราเป็นคนที่ต้องเล่นตำแหน่งออฟเลน แบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องหยิบ Maloch หรือ Riktor อีกแล้ว เพราะความแข็งแกร่ง และตัวล้วงของทีมมีแล้ว ที่ทีมต้องการก็คือ ตัวแยกดัน ดังนั้น ให้เราหยิบฮีโร่ที่เก่งในการแยกดัน ได้แก่ Kil’Groth หรือ Omen มาเล่นครับ แค่นี้ก็จะเติมเต็มความสมดุลให้กับทีมได้แล้วครับ เพราะในทีมต้องมีความสมดุลทั้งเรื่อง CC, ดาเมจต้นเกม, ระยะการโจมตี, ดาเมจเวท, ความแข็งแกร่ง และ ความสามารถในการแยกดัน

6. อ่านแผนที่ตลอดเวลา

การเล่นแบบ Solo Rank น้อยมากที่จะมีการเปิดไมค์สื่อสารกัน ส่วนใหญ่ก็เล่นกันแบบ อ่านมินิแมพ แล้วดูว่า เพื่อนในทีมวิ่งไปไหน แล้วคาดเดาแผนการเดินเกมของเพื่อน และจังหวะการเล่นของเพื่อนเอา แต่ก็ยังมีผู้เล่นที่เล่น Solo Rank จำนวนไม่น้อย อ่านมินิแมพไม่เป็นหรือไม่อ่านตลอดเวลา ทำให้โดนแก๊งค์ดักฆ่า เดินผิดทาง เดินไปให้เค้าฆ่าได้แบบง่ายๆ ทั้งๆ ที่ทุกคนในทีมก็เห็นอยู่แล้วว่า ไม่ควรวิ่งไป ถ้าทีมไหนมีผู้เล่นที่ไม่อ่านมินิแมพ ทีมนั้นจะมีโอกาสแพ้สูงมากๆ เพราะเล่นไม่เข้าขา ต่างคนต่างเล่น และไม่ได้ปรับการเดินของตนเองให้สอดคล้องกับคนในทีมได้เลย ก็จะเสียเปรียบฝั่งตรงข้ามแน่นอน

การอ่านแมพ หรือ ดูแผนที่ มินิแมพ ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้เราเห็นแล้วว่า เราต้องเดินไปช่วยเพื่อนตอนไหน เรายังเห็นการเคลื่อนไหวของฝั่งตรงข้าม และรู้อีกด้วยว่า เราไม่ควรไปตรงไหน ก็จะทำให้เรารอดจากการโดนดักซุ่มโจมตี หรือ เดินๆ ไปแล้วโดนศัตรูโผล่ออกมาฆ่าได้อย่างแน่นอนครับ

7. เดินรวมกันเป็นกลุ่มเสมอ

สามัคคีคือพลัง ถ้ารู้ว่า เกมตาม เกมเป็นรอง ให้รวมตัวกันทันทีครับ ใช้แผนการเล่นแบบ 4-1 คิดไว้ในใจเลยว่า เมื่อเราแยกไปคนเดียว ก็จะเสียเปรียบ ดังนั้น ต้องรวมตัวกันเอาไว้ แล้วจะสู้ได้แน่นอน ยืนเกาะกลุ่มกันเอาไว้ จะต่อสู้กับศัตรูได้แน่ๆ หรือเกมไหนได้เปรียบ ก็ยิ่งต้องรวมกันเดิน เพื่อทำให้ได้เปรียบแบบสุดๆ หรือ สร้าง Snow Ball ทีเดียวให้จบเกมไปเลย อย่าได้เปรียบแล้วแยกไปฟาร์ม ต่างคนต่างไป แบบนั้นจะโดนสวนกลับได้ง่ายๆ นะครับ

8. อย่าทำอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง

ส่วนใหญ่ ที่มักจะทำให้ทีมแพ้กันตลอดก็เพราะว่า ผู้เล่นแต่ละตำแหน่ง ไม่เข้าใจหน้าที่ของตัวเอง มัวแต่ไปทำอะไรที่มันไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง เช่น ตัวเองเป็น โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต แต่ดันไปแยกดัน ทั้งๆ ที่เพื่อนก็ไม่ได้ตายอะไร ยังอยู่กันครบทีม แบบนี้คือ มั่วหน้าที่ เพราะมันต้องไปยืนตีนานมากๆ ว่าที่จะฆ่าครีปตายหมดเวฟ และทำให้ทีมเสีย Vision ที่โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ควรจะเดินเปิดแมพให้กับเพื่อน ไม่ใช่มายืนตีครีปแบบนี้ สกิลทั้งหมดของ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ควรเก็บไว้ใช้เพื่อเล่นงานศัตรู ไม่ใช่เอามาตีครีป

9. ออกไอเท็มให้ถูกต้อง

อีกหนึ่งหลักการเล่นพื้นฐานที่ทุกวันนี้ ยังมั่วกันอยู่เลยครับ และการออกไอเท็มมั่วๆ แบบนี้แหละ คือ การทำร้ายทีมตัวเองให้เสียเปรียบฝั่งตรงข้ามตั้งแต่ต้นเกม เช่น ตัวเองเล่นเป็น โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต แต่เริ่มเกมมา ดันไม่ออกไอเท็มซัพพอร์ต เป็นชิ้นแรก แต่ออกรองเท้า (จะไปวิ่งแข่งกับใคร) แล้วก็ไปยืนเลนกับเพื่อน กลายเป็นการดูดเลเวล และเงินของเพื่อนในเลนนั้นไป เป็นการทำร้ายเพื่อนร่วมทีมของตัวเองอย่างแท้จริง

10. ยืนในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการเข้าไฟต์ แครี่ ต้องไม่แหลม ไม่ออกไปล้ำหน้าให้โดนยิงฟรี

เหตุผลหลักๆ ที่พวกแครี่ และเมจ มักจะโดนฆ่าตายบ่อยๆ ที่เราเห็นในการ Solo Rank ก็มาจาก การยืนแหลม หรือ ล้ำหน้า ห้าว เพราะคิดว่า ได้เปรียบ และฆ่าได้แน่ๆ ผลคือ โดนสกิลสวนกลับมาหน้าแหก ไส้แตกตายคาที่ นั่นคือ การยืนในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมครับ การเล่นแครี่ หรือ เมจ ต้องยืนยิงฟรีในตำแหน่งที่ได้เปรียบ ไม่ใช่ยืนแหลม ล้ำหน้า วิ่งนำแท็งค์ แบบนั้น จะทำให้ตัวเองตายเร็ว และทำให้ทีมเสียเปรียบ เพราะแครี่และเมจเป็นตัวทำดาเมจของทีม ถ้าโดนฆ่าตายก่อนเป็นคนแรกๆ ทีมจะเสียเปรียบทันที

11. ช่วยเพื่อนเคลียร์ครีปในเลนก่อนเพราะครีปสำคัญที่สุด

ถ้าเราเล่นในตำแหน่ง ออฟเลน ต้องเน้นการดันครีปเป็นหลักครับ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่จะบ้าบวก บ้าเข้าไฟต์กันมากๆ จนไม่ดันครีป พอฆ่าได้ ไม่มีครีป ก็ตีป้อมไม่ได้ ปัญหาพวกนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในการเล่นแบบ Solo ตัวคนเดียว ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือ คนที่เล่น ออฟเลน ต้องเน้นการเคลียร์ครีป ในทุกๆ เลน ย้ำว่า ทุกๆ เลนเลยนะครับ แบบนี้ ทีมเราถึงจะมีโอกาสชนะครับ เคลียร์ครีปก่อน ไปแก๊งค์ฆ่าคนไว้ทีหลัง ที่สำคัญ การเน้นเคลียร์ครีป จะทำให้ออฟเลนรวยมากๆ อย่างรวดเร็วอีกด้วย พอรวยแล้ว ก็จะเก่ง และฆ่าศัตรูได้ง่ายแน่นอนครับ

จริงอยู่ว่า การกด Solo Rank ด้วยตัวคนเดียวนั้น เราไม่สามารถกำหนดได้เลยว่า เราจะได้เพื่อนแบบไหนมาร่วมทีม ระบบจะสุ่มมาให้ ซึ่งไม่อาจขาดเดาได้เลยว่า ในวินาทีนั้นๆ ระบบจะสุ่มผู้เล่นแบบไหนมาให้ แต่สิ่งที่เรากำหนดได้ก็คือ หลักการเล่น Solo Rank ROV ซึ่งตรงนี้ ถ้าเราทำตามนี้ เราจะมีโอกาสชนะสูงมากขึ้น และช่วยทำให้เกมที่ดูเหมือนมันจะแย่ ให้ดีขึ้นได้ ใช่ครับ เมื่อเรากดมาคนเดียว ฝั่งตรงข้ามเค้าก็มักจะกดมาคนเดียวด้วยเช่นกัน ทีมเรามีคนมั่ว ฝั่งเค้าก็มีคนมั่ว แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่มั่วไปกับเค้า และต้องเอาหลักการมาจับ มันถึงจะช่วยแบกทีมได้ คำว่า แบกทีม ไม่ได้แปลว่า คนนั้นต้องฆ่าเยอะ แต่คนนั้นต้องช่วยเพื่อนได้เยอะ ช่วยทำให้สถานการณ์ของทีมมันดีขึ้น และทำให้ทีมได้เปรียบ

สำหรับใครที่ท้อแท้กับการกด Solo ตัวคนเดียว และมองว่า ไม่ไหวแล้วกับการเล่นคนเดียว อยากมีเพื่อนเล่น อยากมีทีม อยากพัฒนาฝีมือตัวเอง ด้วยการเล่น 5 คน เพื่อดึงเอาความสามารถในการเล่นเกม ROV ของตัวเองให้ออกมาถึงขีดสุด ก็เข้ามาร่วมเล่นกับผม และลูกเพจได้ โดยเข้าไปที่เพจหลัก 2 เพจ ดังนี้ครับ

Facebook ส่วนตัว : https://www.facebook.com/luangpafb/

Facebook ROV 101 by Prof. หลวงป๊า : https://www.facebook.com/rov101th/

แล้วเรามาพูดคุย รวมทีมกันครับ จะได้ไม่ต้องกดเล่นแบบตัวคนเดียวอีกต่อไป การกดแบบตี้ 3 คน หรือ ทีม 5 คน สนุกกว่า การกดแบบตัวคนเดียวแน่นอนครับ โดยเฉพาะการกดแบบเป็นทีม 5 คน เป็นอะไรที่มันสนุกมากๆ เลยครับ และมีโอกาสชนะได้ง่ายสุดๆ เลยทีเดียว

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand Return จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ รวมทั้งเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand Return นะครับ