วิธีแก้ทาง ไอเท็มลดการฟื้นฟู ในเกม ROV สำหรับทุกตำแหน่ง ออกตัดเลือดมาเลย ไม่ใช่ปัญหา

มีหลายคนที่ติดตามข้อมูล และเทคนิคการเล่นเกม ROV จากในเว็บไซต์แห่งนี้ ได้สอบถามผมเข้ามาเกี่ยวกับ วิธีแก้ทาง ไอเท็มลดการฟื้นฟู ในเกม ROV ว่าต้องทำยังไงได้บ้าง เพราะตอนนี้ แท็งค์เล่นได้ลำบากมากๆ เลย อันที่จริงแล้ว ไม่ใช่แค่ตำแหน่งแท็งค์โรมมิ่ง หรือ ซัพพอร์ต เท่านั้นหรอกครับ ที่ต้องใช้การแก้ทางไอเท็มลดการฟื้นฟู แต่ฮีโร่ทุกตำแหน่งในเกม ก็ต้องใช้หลักการที่ผมจะมาแนะนำต่อไปนี้ ในการแก้ทาง ไอเท็มตัดเลือด หรือ ไอเท็มลดการฟื้นฟูในเกม ROV เช่นกันครับ ใช่ครับ ทุกตำแหน่ง สามารถทำตามนี้ เพื่อแก้ทาง ไอเท็มตัดเลือด ที่ฝั่งตรงข้าม ออกมาแก้ทางตัวเรา ที่เล่นฮีโร่ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการฟื้นฟูได้ครับ

วิธีแก้ทาง ไอเท็มลดการฟื้นฟู มีหลักการยังไง?

หลักการ หรือ วิธีแก้ทาง ไอเท็มลดการฟื้นฟู แบบที่จับต้องได้ และทำได้แน่นอนก็คือ การเพิ่มอัตราการฟื้นฟูของเรา ให้มากขึ้นเป็นสองเท่านั่นเองครับ ฟังดูแล้ว อาจจะงงๆ ว่า มันเป็นหลักการ หรือวิธีการตรงไหนกัน มาครับ ผมจะอธิบายให้ได้เข้าใจกัน

หลักการทำงานของ ไอเท็มลดการฟื้นฟู เช่น Curse of Death หรือ Soul Scroll หรือที่หลายๆ คน มักจะเรียกกันว่า ไอเท็มตัดเลือด นั้น สกิลติดตัว หรือ การทำงานของมันก็คือ “ลดการฟื้นฟูของเป้าหมายลง 50% เป็นเวลา 1.5 – 3 วินาที” ขึ้นอยู่กับว่า เป็นการโจมตีแบบไหน ใช้สกิล หรือ โจมตีปกติ แต่ไม่ว่ายังไงก็ให้สูงสุดต่อเนื่องกันได้แค่ 3 วินาทีเท่านั้น

อัลติของ Taara แม้จะโดน Valhein ที่ออกไอเท็มตัดเลือด ก็ไม่มีปัญหา
อัลติของ Taara แม้จะโดน Valhein ที่ออกไอเท็มตัดเลือด ก็ไม่มีปัญหา ยังเด้งเลือดได้ในอัตราที่สูงอยู่ดี

ซึ่งนั่นแปลว่า ถ้าตัวเรามีสกิลที่ช่วยฟื้นฟู หรือ ดูดเลือดศัตรูได้ 50% ถ้าโดนฮีโร่ศัตรูที่ใส่ไอเท็มตัดเลือดโจมตีใส่ จะด้วยการโจมตีปกติ หรือ ใช้สกิล ก็ตาม จะทำให้เรา ดูดเลือดได้แค่ 25% เท่านั้น ซึ่งหลายคนก็บอกว่า แบบนี้ก็ทำให้เราดูดเลือดได้น้อยลงไปครึ่งนึง ทำให้เสียเปรียบล่ะสิ ซึ่งคำตอบก็คือ ใช่ครับ หลักการมันเป็นแบบนั้น

ดังนั้น ถ้าเราไม่ต้องการให้ ไอเท็มตัดเลือด มันทำอะไรเราได้ เราก็ต้องใส่ไอเท็มเข้ามาช่วย เพิ่มให้สกิลของเรา จากดูดเลือดได้ 50% ก็กลายเป็นดูดเลือดได้ 100% ไปเลย ทีนี้พอฮีโร่ศัตรูที่ใส่ไอเท็มตัดเลือด มาโจมตีใส่เรา อัตราการดูดเลือดโดยรวมของเรา ก็จะเหลือแค่ 50% ซึ่งก็ใช่ครับ มันน้อยลงครึ่งนึง แต่อย่าลืมนะครับว่า พลังโจมตีของเรา มันไม่ได้เท่าเดิมแล้ว เพราะไอเท็มที่ช่วยเพิ่มอัตราการดูดเลือด ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มโจมตี หรือ ไอเท็มเวท มันจะให้ทั้ง พลังโจมตี หรือ พลังเวท ควบคู่กันมาด้วยเสมอ นั่นแปลว่า เราจะดูดเลือดได้แรงขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน เพื่อความเข้าใจ เรามาดูตัวอย่างกันครับ

สมมติว่า เรามีฮีโร่ตัวนึง ที่มีสกิลดูดเลือดได้ ฮีโร่ตัวนี้ พลังโจมตีติดตัว 100 ใช้สกิล ดูดเลือดได้ 50%

จากนั้นออกไอเท็ม The Beast ได้พลังโจมตีเพิ่ม 100 กับ ดูดเลือดอีก 25%

และออกไอเท็ม Fafnir’s Talon ได้พลังโจมตีเพิ่ม 60 กับ ดูดเลือดอีก 10%

เท่ากับว่า พลังโจมตีหลังจากออกไอเท็มสองชิ้นนี้ จะเป็น 260 และดูดเลือดอีก 85%

สมมติว่า เราโจมตีแบบไม่คิดค่าเจาะเกราะ เพราะมันคือตัวอย่างสมมตินะครับ เราจะไม่คิดค่าต้านทานจากเกราะหรืออะไรใดๆ เลย เพื่อให้เข้าใจหลักการการแก้ทางไอเท็มตัดเลือดแบบง่ายๆ

และสมมติว่า เราโจมตีศัตรูทำดาเมจได้ตามพลังโจมตีของเราเลย คือ โจมตีใส่ศัตรู 100 แล้วเราดูดเลือดมาได้ 50 ( จากตอนแรกที่ไม่ออกไอเท็มเลย) พอโดนศัตรูที่ออกไอเท็มตัดเลือดมาโจมตีใส่ตัวเรา เราจะโจมตีใส่ศัตรู ทำดาเมจได้ 100 เท่าเดิม แต่ดูดเลือดกลับมาได้แค่ 25 หน่วย (25% จาก 100) เท่านั้น

ทีนี้ ถ้าเราใส่ไอเท็มเพิ่มการดูดเลือดอีก 2 ชิ้นตามตัวอย่างล่ะ?

ถ้าเราใส่ไอเท็มตามตัวอย่าง แล้วโดนศัตรูที่ออกไอเท็มตัดเลือดโจมตีใส่ เราจะทำดาเมจใส่ศัตรูได้ 260 หน่วย และดูดเลือดกลับมาได้ 110 หน่วย (42.5% จาก 260) เห็นมั้ยครับว่า เราดูดเลือดได้มากขึ้น ทั้งจากเปอร์เซ็นต์ที่แม้จะลดลงไปครึ่งหนึ่งก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร เพราะมันกลายเป็นเปอร์เซ็นต์จากดาเมจที่เราทำได้เพิ่มขึ้นด้วยนั่นเอง (เปอร์เซ็นต์ดูดเลือด อาจดูว่า น้อยลง แต่พลังโจมตีมันเพิ่มขึ้นจากไอเท็ม ดาเมจที่ทำได้ก็เลยเยอะขึ้น พอดาเมจเยอะขึ้น มันก็ดูดเลือดได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง)

เอาล่ะครับ อ่านมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่า หลายท่านคงจะพอเข้าใจหลักการ และเห็นภาพ วิธีแก้ทาง ไอเท็มลดการฟื้นฟู กันบ้างแล้ว แต่หลักการนี้ ใช้ได้กับบางตำแหน่ง 100% แต่กับบางตำแหน่ง ก็ต้องปรับใช้ผสมผสานกับสเต็ปการเล่น มาครับ ผมจะแนะนำแบบทุกตำแหน่งให้ได้เข้าใจ

สำหรับเมจที่มีจุดเด่นเรื่องการฟื้นฟู

วิธีการไม่มีอะไรยากเลยครับ ก็แค่ ออกไอเท็ม Rhea’s Blessing กับ The Beast คู่กัน เท่านี้ ก็จะทำให้อัตราการดูดเลือดของ เวทแวมไพร์ มันสูงขึ้นเป็น 50% แล้วครับ ทีนี้พอโดนตัดเลือด ก็จะเลือดเวทแวมไพร์แค่ 25% แต่เป็น 25% ซึ่งก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร ก็เหมือนกับเราใส่ Rhea’s Blessing ชิ้นเดียวนั่นแหละครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลย

สำหรับประเด็นเรื่อง จุดอ่อนจุดแข็ง จากการใช้สูตรนี้กับเมจ เดี๋ยวผมจะมาอธิบายให้ละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้งนะครับ

สำหรับแครี่ และไฟต์เตอร์

สามารถใช้หลักการ เพิ่มอัตราการฟื้นฟู หรือ ดูดเลือดเป็นสองเท่า มาใช้ได้เลยครับ ด้วยการออกไอเท็ม Bow of Slaughter หรือ จะออกเป็น The Beast คู่กับ Fafnir’s Talon หรือ Omni Arms ก็ได้ เพื่อทำให้ อัตราการดูดเลือด มันสูงที่สุด (ถ้าออก Bow of Slaughter มาแล้ว ไม่ควรออกไอเท็มดูดเลือดชิ้นอื่นอีก เพราะเวลากดใช้งาน มันดูดเลือดได้ 100% อยู่แล้ว แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ คือ ต้องปะทะกับศัตรูที่ออกตัดเลือด และโจมตีปกติมาใส่ตลอดเวลา ก็ออกมาร่วมกันทั้งหมดได้เลย ทั้ง Bow of Slaughter และ The Beast)

แครี่ ต้องใช้ Bow of Slaughter มาเป็นไอเท็มหลักอยู่แล้ว
แครี่ ต้องใช้ Bow of Slaughter มาเป็นไอเท็มหลักอยู่แล้ว ต่อให้โดนตัดเลือด ก็ไม่กลัว

สำหรับไฟต์เตอร์ตีใกล้ สามารถออกไอเท็มได้หลายชิ้น ได้แก่

Gaia’s Standard เอาไว้เด้งเลือดตอนที่โดนโจมตี เหมาะกับแท็งค์ไฟต์เตอร์ ที่ตัวหนาหน่อย เน้นยืนไฟต์ยืนบวกนานๆ ดาเมจไม่แรง ออกไอเท็มชิ้นนี้ จะช่วยได้เยอะ

Omni Arms

The Beast

Fafnir’s Talon

คนที่เล่นไฟต์เตอร์ตีใกล้ ห้ามออกไอเท็ม Bow of Slaughter เด็ดขาด เพราะมันจะไม่มีผลกับฮีโร่ที่โจมตีระยะใกล้ พูดง่ายๆ คือ Bow of Slaughter มันเป็นไอเท็มสำหรับแครี่เท่านั้นนั่นเองครับ

Kil'Groth ออกไอเท็มดูดเลือดเต็มสูบ ไม่กลัวโดนตัดเลือด
Kil’Groth ออกไอเท็มดูดเลือดเต็มสูบ ไม่กลัวโดนตัดเลือด ดูดเลือดได้เยอะอยู่แล้ว โดนตัดไปครึ่งนึง ก็ไม่ใช่ปัญหา

สำหรับแท็งค์ หรือ ซัพพอร์ต

แท็งค์ หรือ ซัพพอร์ต ที่ทำหน้าที่ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ให้กับทีม จะต้องใช้หลายอย่างในการแก้ทาง ไอเท็มตัดเลือด ที่ฝั่งตรงข้ามหยิบมาใช้ เพราะตัวของแท็งค์ หรือซัพพอร์ตเหล่านี้ ต้องเน้นที่ เกราะป้องกัน ทำให้มีพลังโจมตี หรือ พลังเวทไม่แรง การออกไอเท็มที่ช่วยเพิ่มการดูดเลือด จึงทำไม่ได้ ต้องใช้วิธีการอื่นเข้ามาช่วยแทน ได้แก่

1. ใช้ Gaia’s Standard ช่วยเด้งเลือดได้ 8% ทุกๆ 10 วินาที ตรงนี้ใช้ได้แน่นอน แม้จะโดนโจมตีจากฮีโร่ที่ใส่ไอเท็มตัดเลือด แต่ก็ยังฟื้นฟูได้ 4% ซึ่งก็ไม่ได้ตลอดเวลา ค่อนข้างคุ้มค่า และนำมาใช้แก้ทางได้จริง เพียงแต่อย่ายืนรับดาเมจนานเกินไปจากฮีโร่ที่ใส่ไอเท็มตัดเลือด แค่นั้นเอง

2. ใช้พลังแฝง Regrowth ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มเอฟเฟกต์ การฟื้นฟูให้อีก 10% และถ้าศัตรูเลือดน้อยกว่า 50% จะทำให้ได้รับเอฟเฟกต์ฟื้นฟูเพิ่มขึ้นอีก 10% ได้เลย

Regrowth
Regrowth

3. ใช้ Amulet of Longevity เมื่อก่อนนี้ ไอเท็มชิ้นนี้ ถือเป็นไอเท็มที่เอาไว้แก้ทาง ไอเท็มตัดเลือด หรือ ไอเท็มลดการฟื้นฟู แต่หลังจากที่มันโดนปรับมา ก็ทำให้อ่อนแอลง จนนำมาใช้ช่วยฟื้นฟูยามที่ไม่ได้ต่อสู้เท่านั้น เป็นการทำให้แท็งค์ หรือ ซัพพอร์ต ไม่ต้องกลับบ้าน แค่ถอยออกมาจากไฟต์ แล้วหลบก่อน ใช้การโซน หลีกเลี่ยงการปะทะ รอ HP มันฟื้นฟูเอง ซึ่งปกติ แท็งค์จะใส่รูน Protect อยู่แล้ว เมื่อรวมกับ ค่า Status และ สกิลติดตัวจากไอเท็มชิ้นนี้ จะทำให้อัตราการฟื้นฟู HP ของแท็งค์ดีขึ้นแน่นอน ยืนพัก หรือวิ่งโยกเลน แป็บเดียวเลือดก็กลับมาเกือบเต็มแล้ว

4. ใช้ Mantle of Ra ไอเท็มชิ้นนี้ มีจุดเด่นตรงที่ มีอัตราการฟื้นฟู HP ต่อ 5 วินาทีมาให้ จะช่วยเสริมไอเท็มอีก 2 ชิ้นที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำให้แท็งค์ของเรา มีเลือดเด้งตลอดเวลา ยิ่งเวลาที่ไม่ได้ต่อสู้ จะฟื้นฟู HP ได้เยอะมากๆ

5. ใช้พลังแฝง Forest Wanderer ปกติเราจะเห็นพลังแฝงนี้กับ Alice แต่จริงๆ แล้ว แท็งค์ก็ใช้ได้นะครับ มันจะทำงานร่วมกับ สกิลติดตัวของ Amulet of Longevity ทำให้เวลาที่แท็งค์ของเราไม่ได้เข้าไฟต์ จะเด้งเลือดได้ดีแบบสุดๆ ไปเลยนั่นเอง

Forest Wanderer
Forest Wanderer

6. ใช้สเต็ปการเล่น นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญกว่าบรรดาไอเท็มหรือพลังแฝงที่ผมได้กล่าวมา นั่นคือ เวลาที่เล่น เราต้องไม่ไปโดนศัตรูตัวที่มีไอเท็มตัดเลือดเล่นงาน หรือถ้าจะต้องเข้าไปปะทะ ก็ต้องมีเพื่อนตามเรามา เพื่อฆ่าศัตรูตัวนั้นให้เร็วที่สุด เพราะสกิลติดตัวของ ไอเท็มตัดเลือดพวกนี้ มันจะลดการฟื้นฟูได้แค่ 1.5 วินาที ต่อการโจมตีด้วยสกิล 1 ครั้ง (ลดได้ 3 วินาที ต่อการโจมตีปกติ)

พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราโดนเมจ ที่ออกไอเท็มตัดเลือดใช้สกิลโจมตีใส่ เราก็ต้องเดินออกมา เพื่อให้มันหมดระยะเวลา 1.5 วินาทีก่อน อย่ายืนรับสกิลของมันต่อเนื่องหลายๆ ครั้ง จะกลายเป็นการรับการตัดเลือดอย่างต่อเนื่อง หรือถ้าเป็นการโจมตีจากแครี่ ที่ออกไอเท็มตัดเลือด ก็ให้รีบหนีออกมา เพราะการโจมตีของแครี่ ส่วนใหญ่จะเป็นการโจมตีปกติ ระยะเวลาการลดอัตราการฟื้นฟู มันนานถึง 3 วินาที เรียกได้ว่า พอโดนปุ๊บ ให้รีบถอยออกมาทันที บางคนอาจจะบอกว่า แนะนำให้ถอยอย่างเดียว แบบนี้จะสู้ยังไง?

ผมแนะนำแบบนี้คือ ให้เล่นแบบ ซุ่มโจมตีจากในพุ่มไม้ เพราะถ้าเจอแครี่ หรือเมจ ที่มีไอเท็มตัดเลือด จะเปิดหน้าสู้ลำบาก ให้ใช้การเล่นแบบ ซุ่มโจมตีจากในพุ่มไม้ หรือ Flicker เข้าไปให้ถึงตัวแครี่ หรือ เมจพวกนี้เลย เช่น ถ้าเราเล่น Arum และ Tel’Annas ฝั่งตรงข้ามออกตัดเลือด สิ่งที่เราต้องทำก็คือ หลบในพุ่มไม้พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม ที่เป็นตัวทำดาเมจ รอให้ Tel’Annas เดินมาใกล้ๆ ก็ออกไปจับล็อคด้วยอัลติ ให้เพื่อนเราฆ่า หรือ หาจังหวะกด Flicker เข้าไปให้ถึงตัว Tel’Annas แล้วจับล็อคด้วยอัลติเลย แบบนี้จะทำให้ Tel’Annas ไม่ทันได้โจมตี หรือถ้าโจมตีมา ก็เจ็บเล็กน้อย เพราะสามารถจับล็อคและฆ่าได้นั่นเอง

Arum ปรับสเต็ปการเล่น เน้นจับล็อคตัวที่มีไอเท็มตัดเลือดก่อนเลย
Arum ปรับสเต็ปการเล่น เน้นจับล็อคตัวที่มีไอเท็มตัดเลือดก่อนเลย อย่างในเกมนี้ Tulen มีไอเท็มตัดเลือด Arum ก็ต้อง Flicker เข้าไปอัลติจับล็อคก่อนเลย

พูดง่ายๆ ก็คือ หลีกเลี่ยงการรับการโจมตีจากศัตรูที่มีไอเท็มลดการฟื้นฟู และ ใช้การซุ่มโจมตี หรือ หาจังหวะเข้าไปฆ่าศัตรูคนที่มีไอเท็มตัดเลือดก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็น เมจ กับแครี่ เท่านั้นแหละครับ ที่ออกไอเท็มตัดเลือด ก็อย่างที่บอก ถ้าให้แครี่ จะคุ้มที่สุด เพราะเมื่อโจมตีปกติ จะทำให้สกิลติดตัวที่ลดการฟื้นฟูมันทำงานนานถึง 3 วินาทีต่อครั้งเลยทีเดียว

คนที่เล่นแท็งค์ หรือซัพพอร์ต แล้วเห็นฝั่งตรงข้าม ออกไอเท็มตัดเลือด ไม่ต้องไปกังวลมากนักหรอกครับ เพราะเรื่องของการฟื้นฟู เราก็ไม่ได้ฟื้นฟูอะไรมากมายอยู่แล้ว แต่เราควรจะเน้นที่จังหวะในการเข้าไฟต์ หรือ เสต็ปการโซน การเล่นแท็งค์หรือซัพพอร์ตที่ดี แม้จะมีจุดเด่นในเรื่องของการฟื้นฟู HP ให้ตัวเอง เช่น Arum หรือ Y’bneth ก็ตาม แต่ก็ไม่ควรประมาท หรือห้าว เดินไปล่อให้โดนศัตรูยิงฟรีใส่เรื่อยๆ เพราะนั่นเท่ากับการเข้าไปเสียเลือดฟรีๆ โดยไม่จำเป็น ควรเล่นแบบเซฟตัวเอง และบุกในจังหวะที่ควรบุก ถ้าโซน ก็ต้องไม่เจ็บตัวฟรี ไม่เดินไปไหนคนเดียว แต่เน้นไปกับเพื่อนที่เป็นตัวทำดาเมจ เน้นทำจังหวะให้เพื่อนได้ฆ่า แบบนี้ต่อให้ศัตรูออกไอเท็มลดการฟื้นฟูมา ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะศัตรูจะตายก่อนที่จะได้ใช้ประโยชน์จากการลดการฟื้นฟูนั่นเอง

เห็นมั้ยครับว่า วิธีแก้ทาง ไอเท็มลดการฟื้นฟู ในเกม ROV ของฮีโร่แต่ละตำแหน่ง จะแตกต่างกันไป แต่หลักการจะคล้ายกัน นั่นคือ เพิ่มอัตราการฟื้นฟู ให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีก ถ้าทำได้ ให้เพิ่มขึ้นไปเป็นสองเท่าเลย จะทำให้การตัดเลือด หรือ การลดการฟื้นฟู 50% ของศัตรูมันไม่ได้ส่งผลเสียอะไรมากมายกับฮีโร่ของเรา และทำให้เราเล่นฮีโร่ตัวนั้นได้อย่างสบายใจมากขึ้น ตำแหน่งที่ค่อนข้างละเอียด และยากหน่อย ก็จะเป็น แท็งค์หรือ ซัพพอร์ต ที่ต้องใช้หลายเรื่องมาผสมผสาน เพื่อแก้ทางไอเท็มตัดเลือดของฝั่งตรงข้าม ซึ่งถ้าทำตามนี้ รับรองว่า การที่ฝั่งตรงข้ามออกไอเท็มตัดเลือดมา จะไม่ใช่ปัญหา หรือสิ่งที่คุณจะต้องหวั่นเกรงใดๆ เลย

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้ไอเท็มเวท ใน ROV SS13 ที่เปลี่ยนไป ที่คุณต้องรู้ และเข้าใจ จัดแบ่งกลุ่มให้ดูง่ายขึ้น
เรื่องถัดไปRaz ROV SS13 รูน ไอเท็ม พลังแฝง สายดาเมจหนัก ต่อยทีเดียวอ้วกแตก แรงจัดชัดเจน