แผนการเล่นใหม่ ใน ROV SS19 ช่วง 5 นาทีแรกสำคัญที่สุด และจุดปะทะจะเกิดตรงไหนบ้าง

มีหลายคนสอบถามกันเข้ามาว่า ในการปรับแพทช์ใหม่ของเกม ROV SS19 ที่มีการปรับให้ป้อมชั้นนอกในเลนมังกร Abyssal Dragon ให้ได้รับบัพลดความเสียหาย 60% เช่นเดียวกับ ป้อมในเลนกลาง และเลน Dark Slayer เป็นเวลา 5 นาทีนั้น จะทำให้แนวทางการเล่นของเกม ROV ในช่วงแรกของเกมเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน? ตรงนี้ผมก็ต้องบอกเลยว่า การปรับดังกล่าว จะทำให้เกิด แผนการเล่นใหม่ ใน ROV SS19 อย่างแน่นอนครับ รวมทั้งจะเกิดจุดปะทะตามที่ต่างๆ ในแผนที่มากขึ้นด้วย คำว่าจุดปะทะนี่ก็หมายถึง จุดที่จะมีโอกาสเกิดไฟต์ระหว่างทั้งสองทีมนั่นเอง

แผนการเล่นใหม่ ใน ROV SS19 ช่วงเวลาทอง 5 นาทีแรกของเกม

ใน ROV SS19 สังเกตในมินิแมพ จะเห็นสัญลักษณ์ชัดเจนว่า ป้อมชั้นนอกของทุกเลน แข็งแกร่งหมด
ใน ROV SS19 สังเกตในมินิแมพ จะเห็นสัญลักษณ์ชัดเจนว่า ป้อมชั้นนอกของทุกเลน แข็งแกร่งหมด เพราะได้รับบัพลดความเสียหาย 60% เป็นเวลา 5 นาทีนั่นเอง

อันที่จริง การบัพให้ป้อมชั้นนอกทั้งสามเลนแข็งแกร่งขึ้นเป็นเวลา 5 นาทีนั้น ก็ไม่ได้ทำให้แผนการเล่นมันแปลกใหม่อะไร เพราะถ้าย้อนยุคไปในสมัยก่อน ในสมัยที่ยังไม่มีการบัพป้อมนั้น มันก็จะมีแผนการเล่นแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่า สมัยนั้น ป้อมชั้นนอกมันจะบอบบางทำให้การเล่นไม่ยืดหยุ่นอย่างที่มันควรจะเป็น แต่เราก็สามารถเอาแนวทางการเล่นของยุคเก่าๆ สมัยนู้น มาปรับใช้กับการเล่นในสมัยนี้ได้เช่นเดียวกัน เพราะแผนที่มันไม่ได้เปลี่ยนไปครับ ยังคงเป็น 3 เลน เหมือนเดิม แนวทางก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนั้น เพียงแต่ฮีโร่มันจะมีตัวเลือกในการหยิบมาเล่นมากขึ้น และมีพวกที่เก่งและโหดขึ้นกว่าสมัยก่อนหลายเท่า แค่นั้นเอง

เมื่อปรับแพทช์มาใหม่ ให้ป้อมชั้นนอกของทั้ง 3 เลนแข็งแกร่งขึ้นแบบนี้ เป็นเวลา 5 นาที ก็ต้องบอกเลยว่า ในช่วง 5 นาทีแรก คือ เวลาทอง ทีมไหนที่สามารถชิงขึ้นนำในเรื่องการเงิน และเลเวลได้ในช่วง 5 นาทีแรก จะทำให้เกิดความได้เปรียบเป็นอย่างมาก พอหลังจาก 5 นาทีไปแล้ว ทีมที่ได้เปรียบ และคุมแมพได้ จะทำลายป้อมได้แบบรัวๆ และกดดันอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสชนะสูงแน่นอน เพราะในช่วง 5 นาทีแรกนี้ แครี่ และเมจ ก็มีไอเท็มชิ้นใหญ่ 1 ชิ้นแล้วนะครับ ดาเมจแรงเอาเรื่องอยู่แล้ว การฆ่า และการทำลายป้อมจะรวดเร็วขึ้นเยอะ

อย่าลืมว่า ตอนนี้เรากำลังพูดกันถึงเรื่องในแร็งค์ของเซิฟไทยนะครับ ไม่ใช่ในการแข่งขัน ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะเล่นกันแบบ Solo ตัวคนเดียว หรือ กดเป็นตี้ 2-3 คน ดังนั้น เรื่องของความสามัคคี หรือ การสื่อสาร มันไม่ได้ 100% เหมือนการแข่งขันอยู่แล้ว ดังนั้น ด้วยช่องว่างทั้งเรื่องความสามัคคีที่มีกันน้อย และปัจจัยอื่นๆ ย่อมทำให้ ทีมที่ขึ้นนำ และได้เปรียบ สามารถคุมแมพได้ตั้งแต่ต้นเกม จะพับแผนที่บุกอยู่ฝ่ายเดียว และมีโอกาสชนะสูงมากๆ แน่นอน น้อยครั้งที่จะโดนแก้เกมแล้วพลิกกลับมากลายเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ ยกเว้นว่า เล่นประมาทเอง แจกเอง ถึงแพ้ แต่ถ้าเล่นเต็มที่ มีโอกาสน้อยมากๆ ที่ทีมซึ่งตกเป็นรอง จะพลิกกลับมาได้

ดังนั้น การเดินเกมเร็วจะทำให้ได้เปรียบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 5 นาทีแรก คำว่า เดินเกมเร็ว ไม่ได้หมายถึงการรวมตัวกันเพื่อไล่ฆ่าศัตรูตั้งแต่ต้นเกม แบบเดินเปิดหน้าวิ่งเข้าใส่นะครับ และไม่ใช่การเดินเกมเร็วด้วยการเน้นตีป้อมในเลน Abyssal Dragon อีกต่อไปแล้ว (เพราะป้อมมันแข็งขึ้น ถ้ายังมีแครี่ตัวไหนบ้าไปเสียเวลายืนตีอยู่ ด่าได้เลยครับ แสดงว่า ไม่ได้ศึกษาหาความรู้อะไรมาเลย) แต่เป็นการเดินเกมเร็วเพื่อเวดป่า หรือ ตัดป่าฝั่งตรงข้าม แย่งชิงทรัพยากรให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้การเงินตามหลังทีมเรามากที่สุด ถ้ามีจังหวะ หรือ สบโอกาสที่จะฆ่าได้ ถึงค่อยรุมฆ่า

ทีนี้เมื่อป้อมชั้นนอกของทุกเลน มันแข็งแกร่งและตีไม่เข้าหมดเลย ในช่วง 5 นาทีแรกของเกม ผู้เล่นจะทำอะไรกัน? คำตอบก็คือ ฟาร์มไงครับ ทุกคน ทุกตำแหน่ง ต้องช่วยกันฟาร์มให้ทีม ย้ำว่า ฟาร์มให้ทีมนะ ไม่ใช่ฟาร์มให้ตัวเองรวยคนเดียว แต่ต้องช่วยกันฟาร์มเพื่อทำให้ทุกคนรวยไปด้วยกัน และการจะทำให้เราฟาร์มแล้วรวยเร็ว ก็คือ เคลียร์ครีป แต่ที่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ และรวยเร็วกว่าเคลียร์ครีป ก็คือ ฆ่าคนครับ แต่การจะไปเข้าไฟต์ ฆ่าฮีโร่ในแต่ละเลน มันก็ยากลำบากครับ เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะกอดป้อมกันน่าดู ป้อมก็ยิงแรง แถมหนาขึ้นอีก ทำให้การเข้าไปฆ่าคนในป้อมมันทำได้ยาก การไฟต์ส่วนใหญ่ที่จะเกิดขึ้นใน ROV SS19 นี้ ก็จะเกิดที่จุดปะทะเหล่านี้ ในช่วง 5 นาทีแรกของเกม

พื้นที่ป่าทั้งสองฝั่ง ทั้งในป่าฝั่งเราและป่าฝั่งตรงข้าม

พื้นที่ป่าฝั่งเรา และฝั่งตรงข้าม คือ จุดที่จะเกิดการปะทะ
พื้นที่ป่าฝั่งเรา และฝั่งตรงข้าม คือ จุดที่จะเกิดการปะทะแน่นอน ตั้งแต่เริ่มเกมเลยทีเดียว และตลอดห้วงเวลา 5 นาทีแรก

การเข้ามาเวดป่า หรือ ตัดป่าฝั่งตรงข้าม จะกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติทันทีของทุกๆ เกม เพราะในช่วง 5 นาทีแรก ไม่มีใครในเลนไหนต้องห่วงป้อมอีกแล้ว การแย่งชิงพื้นที่ป่าเพื่อให้ฝ่ายตนเองมีการเงินที่ขึ้นนำ และทำให้ป่าฝั่งตรงข้ามจนลง คือ แผนการเล่นที่ดีที่สุด ดังนั้น การเข้าไปแย่งบัพ เวดป่าเพื่อไล่ฆ่าตัวฟาร์มป่า หรือ การเข้าไปในป่าฝั่งตรงข้ามกับที่ตัวฟาร์มป่ากำลังฟาร์มอยู่ เพื่อขโมยบัพ จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ แน่นอน หากทีมไหน โรมมิ่ง และเมจ ไม่ดูแลให้ดี จะถูกขโมยมอนสเตอร์ป่าไปง่ายๆ อย่างแน่นอน และทีมไหนที่โดนตัดทรัพยากรในป่า จะทำให้เสียเปรียบเรื่องการเงินทันที

การโดนตัดทรัพยากรในป่า หากโดนแค่ครั้งเดียวช่วงแรกของเกม ก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่หากโดนขโมยบัพ หรือตัดมอนสเตอร์ป่าไป 2-3 รอบ จะทำให้การเงินตกต่ำแบบสุดๆ โดนทิ้งห่างจากฝั่งตรงข้ามทันที ทีนี้ตัวฟาร์มป่าก็จะไม่เก่ง และไม่เกิด ดาเมจไม่แรง สู้อะไรใครเค้าก็ไม่ได้ และมีโอกาสโดนไล่ถลุง ไล่ฆ่ายาวๆ ตลอด 5 นาทีแรกแน่นอน

แปลว่า ต่อไปนี้เราต้องเลือกใช้ฮีโร่ที่เก่งในช่วงต้นเกม มีดาเมจ และช่วยรับมือการเวดป่าของฝั่งตรงข้ามได้เป็นอย่างดีด้วย ยังไม่พอ ฮีโร่ดังกล่าว นอกจากเก่งในการป้องกันการเวดป่าแล้ว ตัวมันเองก็ควรจะเก่งในการเข้าไปเวดป่าฝั่งตรงข้ามด้วย ก็คือ ฮีโร่ต้นเกมที่ดาเมจแรงๆ หรืออึดๆ หนาๆ ฟื้นฟูเก่งๆ เช่น Florentino, Veres, Maloch, Aoi, Iggy เป็นต้น

Objective : Abyssal Dragon และ Spirit Sentinel

จุด Objective อย่าง Abyssal Dragon และ Spirit Sentinel คือ จุดที่จะเกิดการปะทะ
จุด Objective อย่าง Abyssal Dragon และ Spirit Sentinel คือ จุดที่จะเกิดการปะทะ

พื้นที่ตรงจุดที่ Objective สำคัญในช่วง 5 นาทีแรก จะมีอยู่ 2 จุด ก็คือ มังกร Abyssal Dragon และ มังกรเล็ก Spirit Sentinel มีแค่ 2 จุดนี้เท่านั้น ที่ตัวฟาร์มป่านิยมมาเก็บหลังจากที่ฟาร์มจบในรอบแรกจนได้เลเวล 4 แล้ว ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว ในช่วงแรกของเกม มังกรเล็ก Spirit Sentinel จะมีความคุ้มค่ามากกว่า ในเรื่องของ Exp และการเงินนะครับ แต่เราจะไม่เน้นในเรื่องนี้ เพราะส่วนใหญ่ ก็จะอยากได้มันทั้งสองจุดนั่นแหละ แปลว่า หากทีมไหนเข้าไปโซนพื้นที่รอบๆ Objective ทั้งสองจุดนี้ได้ก่อน ก็จะได้เปรียบ หากฝั่งตรงข้ามมาด้วยจำนวนที่น้อยกว่า ก็อาจจะโดนฆ่าตาย แล้วเสีย Objective ให้กับฝ่ายเราไปด้วยพร้อมๆ กัน

เรียกได้ว่า การปะทะในช่วงแรกของเกม มีโอกาสเกิดขึ้นที่มังกรทั้งสองตัวนี้อยู่ สูงมากๆ ทีมไหนที่เข้าไปโซนพื้นที่ได้ก่อน มีจำนวนคนที่มากกว่า เป็นฮีโร่ต้นเกมที่มีดาเมจแรงกว่า ก็จะได้เปรียบทันที ทีมไหนที่ห่วงแต่จะเอาจุด Objective เหล่านี้มากเกินไป โดยที่ไม่ได้ดูแมพ เดินดุ่ยๆ เข้าไปคนเดียว ก็มีโอกาสโดนดักพุ่ม รุมยำจนตาย แถมไปพร้อมๆ กับ Objective เหล่านั้นได้สูงด้วยเช่นกัน

ทุกเลนอันตรายทั้งหมด

ทุกเลนจะมีความอันตรายทั้งหมด โดยเฉพาะเลนกลาง
ทุกเลนจะมีความอันตรายทั้งหมด โดยเฉพาะเลนกลาง จะกลายเป็นจุดเสี่ยงที่จะมีการปะทะเกิดขึ้น บ่อยที่สุด

ในช่วง 5 นาทีแรก การยืนเลนคนเดียวถือเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ เพราะมีโอกาสโดนศัตรูรวมแก๊งค์กันเข้ามารุมฆ่าสูงมากๆ เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า ในช่วง 5 นาทีแรก ไม่จำเป็นต้องเน้นป้อม ดังนั้น การที่ยืนกอดป้อม หรือยืนเลนตัวคนเดียว มีโอกาสที่จะโดนศัตรูรวมตัวกันเข้ามาไดร์ฟเพื่อเข้าไปฆ่าในป้อม หรือถ้าขึ้นไปเคลียร์ครีปสูงเกินไป ยืนห่างจากป้อมตัวเองมากๆ ก็อาจจะโดนศัตรูรวมแก๊งค์กันมารุมปิดแล้วฆ่าตายก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าป้อมได้เช่นกัน

พูดง่ายๆ ก็คือ ใน ROV SS19 นี้ ใครที่เล่นแบบ ตัวคนเดียว ยืนเลนคนเดียว ไม่เดินตามใคร ไม่เดินไปรวมกับเพื่อน เล่นคนเดียวไม่สนโลก มีโอกาสโดนรุมฆ่าตายในเลนสูงมากๆ ครับ เพราะเป้าหมายมันชัดเจนอยู่แล้วว่า ในช่วง 5 นาที การฆ่าคนสำคัญกว่าการตีป้อม การรุมฆ่าตั้งแต่ช่วงต้นเกมก่อนเลเวล 4 จะเกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะตำแหน่งออฟเลน จะมีโอกาสโดนเมจขึ้นไปแก๊งค์ฆ่าสูงแน่ๆ เพราะฮีโร่ในตำแหน่งออฟเลน จะยืนตัวคนเดียวเสมอ หากพลาดพลั้งไม่ระวัง โดนศัตรูมาดักรุมฆ่าตาย ก็จะเสียเปรียบทันที เพราะเมื่อออฟเลนตาย ป่าฝั่งที่ออฟเลนคุมอยู่ ก็จะเปิดโล่งให้ฝั่งตรงข้ามที่ฆ่าออฟเลนได้ เข้าไปเวดทันที พูดง่ายๆ ว่า ออฟเลน และ แครี่ ต้องระวังตัวให้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะครับ โดยเฉพาะออฟเลน มีโอกาสโดนรุมสูงมากๆ เพราะแครี่ไม่จำเป็นต้องยืนกอดป้อมอีกแล้ว เนื่องจากในช่วง 5 นาทีแรก ป้อมไม่ได้แตกอะไรง่ายๆ

อีกเรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือ การสลับเลนเพื่อแก้ทางฮีโร่ เช่น เอา Hayate สลับไปกดออฟเลนอย่าง Roxie เป็นต้น จะมีการสลับเลนกันตลอดเวลา เพราะในช่วง 5 นาทีแรก ป้อมทั้งเลนบนและล่าง มันแข็งแกร่งเท่าๆ กัน ดังนั้น สามารถสลับกันได้ตลอดตามที่ต้องการ เรียกได้ว่า แผนการเล่นจะมีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ความเป็นทีม และต้องเข้าใจหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่อย่างนั้น จะเสียเปรียบฝั่งตรงข้ามแน่นอน

โดยเฉพาะในตำแหน่งเลนกลาง ถือว่าเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ เรียกได้ว่า เป็นจุดกึ่งกลางของการปะทะกันก็เป็นได้ เพราะฮีโร่ในทุกๆ เลน หลังจากเคลียร์ครีปเสร็จแล้ว มักจะมาแก๊งค์กันที่เลนกลาง เพื่อหาจังหวะฆ่าฝั่งตรงข้ามให้ได้ เพื่อสร้างความได้เปรียบ และชิงขึ้นนำในเรื่องการเงิน และเลเวลในช่วง 5 นาทีแรก ทันที

ดังนั้น เตรียมใจเอาไว้เลยว่า สมรภูมิของการปะทะหนักๆ ที่จะเกิดขึ้น ก็คือ ตรงเลนกลางนั่นเองครับ เมจต้องไม่แหลม และต้องอ่านแมพด้วย เพราะมีโอกาสโดนดักเล่นงานจากพุ่มตัว L ที่ขนาบทั้งสองด้านแน่นอนครับ

พื้นที่กลางแม่น้ำ

เส้นทางตามแนวแม่น้ำ จะกลายเป็นจุดปะทะสำคัญ ในช่วง 5 นาทีแรก
เส้นทางตามแนวแม่น้ำ จะกลายเป็นจุดปะทะสำคัญ ในช่วง 5 นาทีแรก มีโอกาสเดินมาเจอกัน และบวก หรือ รุมฆ่าสูงมากๆ

แนวทางการเล่นในช่วง 5 นาทีแรก ใน ROV SS19 ที่นิยมกันก็จะเป็นการเดินกันเป็นกลุ่ม 3-4 คนเป็นหลัก ทีมไหนที่ยังเล่นแบบตัวใครตัวมัน เลนใครเลนมัน หากเดินตัวคนเดียวโดยใช้เส้นทางแม่น้ำ ก็อาจจะมีสิทธิ์โดยรุมฆ่าตายตรงนั้น หรือ หากต่างฝ่ายต่างยกแก๊งค์กันมา ก็มีโอกาสที่จะปะทะกันในพื้นที่กลางแม่น้ำได้แน่นอน

การเดินกลางแม่น้ำ หรือ ใช้แม่น้ำเป็นเส้นทางในการโยกเลน จะเป็นทางตรงที่ย่นระยะเวลาในการโยกเลน แต่การเดินเพียงลำพัง หรือ เดินกันแค่ 2 คน โดยไม่ได้อ่านแมพก่อนเดินว่าศัตรูอยู่ตรงไหนกัน ก็อาจจะกลายเป็นจุดพลาด โดนดักฆ่าตายได้ง่ายๆ หากต้องการคุมพื้นที่ หรือ เส้นทางแม่น้ำตรงกลางแมพแบบนี้ ต้องเดินกันอย่างน้อย 3 คนครับ คือ โรม, แครี่, เมจ จะทำให้มีกำลังเพียงพอที่จะยึดและคุมเส้นทางแม่น้ำนี้ได้ครับ

เมจ คือ หัวใจสำคัญ

ในช่วง 5 นาทีแรก เมจมีความสำคัญกับทีมเป็นอย่างมาก เพราะดาเมจเวทที่รุนแรง จะช่วยทำให้ทีมเราสามารถฆ่าศัตรูได้ง่ายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเวดป่า การตอดเลือดเพื่อทำให้เจ็บ ต้องอาศัยดาเมจเวทของเมจเป็นหลักทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Iggy, Raz, Lorion, Krixi ฮีโร่พวกนี้ดาเมจรุนแรงมากๆ หลังจากที่เลเวล 2 ไปแล้ว และเก่งมากๆ ตอนที่เลเวล 4 ไปแล้ว ซึ่งดาเมจเวทจากเมจเหล่านี้ จะมีผลกับการเวดป่า และการตอดเลือดฝั่งตรงข้ามเป็นอย่างมาก และคำว่า “เมจ” ตรงนี้ ไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็น เมจในตำแหน่งเลนกลางอย่างเดียว เพราะเลนกลางอาจจะเป็นไฟต์เตอร์ เช่น Veres, Maloch ก็ได้ (ทั้งสองตัวนี้ เก่งในเรื่องการเวดป่าต้นเกมมากๆ) แล้วเมจอย่าง Iggy หรือ Krixi ก็มาทำหน้าที่ในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ให้กับทีมแทน ขอให้เป็นเมจ ที่ทำดาเมจเป็นเวทได้ แค่นี้ก็มีประโยชน์กับทีมเป็นอย่างมากแล้วครับ

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกก็คือ ทีมเราจะยึดครองพื้นที่ป่าฝั่งตรงข้าม หรือจะชนะไฟต์ในช่วง 5 นาทีแรกได้หรือไม่ อยู่ที่เมจของทีมเราเลยครับ ถ้าเมจทีมเราอ่อน เดินเกมไม่เป็น ไม่มีลูกล่อลูกชน หยิบเมจตัวที่ไม่แรงมาเล่น เช่น Marja หรือ Skill Play ในการเล่นเมจตัวนั้นๆ ต่ำมาก จะทำให้ทีมเราไม่ชนะไฟต์ และไม่สามารถเวดป่าได้ครับ แต่ถ้าเมจทีมเราเก่ง เล่นฮีโร่ตัวนั้นจนช่ำ Skill Play สูง ชั้นเชิงดี มีความเก๋าเกม ก็จะทำให้การยึดพื้นที่ป่าฝั่งตรงข้ามตั้งแต่ต้นเกม รวมทั้งการเข้าไฟต์ ทีมเราจะชนะ และได้เปรียบยาวๆ แน่นอนครับ – เมจคือ หัวใจสำคัญของทีมเลยนะครับ ในช่วง 5 นาทีแรก

แครี่ในช่วง 5 นาทีแรก ไม่ได้มีบทบาท หรือ ดาเมจรุนแรงอะไรขนาดนั้น เป็นแค่ตัวเติมดาเมจให้กับทีมไฟต์เท่านั้นเอง แครี่จะเก่งจริงๆ และแบกทีมได้จริงๆ ในช่วงเลทเกมครับ แครี่ส่วนใหญ่เกือบทุกตัวจะเป็นแบบนั้นครับ คือ เก่งมากๆ ในช่วงเลทเกม ถ้าอยากโหดตอนต้นเกม ต้องเล่นเมจครับ

จุดตัดครีปหลังป้อมของเลน Dark Slayer (ออฟเลน)

จุดตัดครีปหลังป้อมของ ออฟเลน จะเป็นจุดที่มีการปะทะเกิดขึ้นได้
จุดตัดครีปหลังป้อมของ ออฟเลน จะเป็นจุดที่มีการปะทะเกิดขึ้นได้ ทั้งในป่าฝั่งเรา และป่าฝั่งตรงข้าม

แม้ว่าในปัจจุบัน ช่วง 5 นาทีแรก การตีป้อมจะไม่สำคัญอีกแล้วก็ตาม แต่การที่ออฟเลน มักจะต้องยืนเลนคนเดียว มากกว่าแครี่ ก็ทำให้การตัดครีปหลังป้อม จะทำให้ออฟเลนของเราได้เดินก่อน รวมทั้งยังสามารถเวดป่าฝั่งตรงข้ามได้อีกด้วย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดการปะทะกันขึ้นแน่นอน ถามว่า แล้วทำไมหลังป้อมในเลน Abyssal Dragon จึงไม่ใช่จุดเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันล่ะ?

นั่นก็เพราะว่า ในเลนแครี่ มักจะมีโรมมิ่ง หรือ ซัพพอร์ต คอยดูแลอยู่แล้ว (แครี่บางตัว ปล่อยให้ยืนตัวคนเดียวไม่ได้ เพราะเป็นแครี่ขาตาย เช่น Tel’Annas, Yorn, Thorne) ไม่เหมือนออฟเลนที่มักจะถูกทิ้งให้ยืนเลนคนเดียวตลอด การเล่นในแร็งค์ จะไม่เหมือนในการแข่งขัน ที่ตัวฟาร์มป่า มักจะไปช่วยออฟเลนเสมอๆ สำหรับในแร็งค์นั้น มีน้อยครั้งมากๆ ที่ป่าจะมาช่วยออฟเลน ส่วนใหญ่แล้ว ออฟเลนจะถูกทิ้งเพียงลำพังแบบยาวๆ การมาตัดครีปหลังป้อมของฝั่งออฟเลน จึงมีความได้เปรียบสูง เพราะยังไงซะ ถ้าเกิดไฟต์ขึ้นมา มันก็จะมีแค่ออฟเลนตัวเดียว แต่ฝ่ายเราจะมีจำนวนที่มากกว่าอยู่แล้ว ก็ย่อมรุมฆ่าฮีโร่ในตำแหน่งออฟเลนได้สบายๆ แน่นอน เมื่อฆ่าออฟเลนได้ แม้จะไม่ได้ป้อม แต่เราจะได้เรื่องการเงินที่ขึ้นนำ, โอกาสในการเวดป่าตรงนั้น และที่สำคัญก็คือ ออฟเลนที่โดนฆ่า จะมีการเงิน และเลเวลน้อยกว่าออฟเลนฝ่ายเราทันที

จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า แผนการเล่นใหม่ ใน ROV SS19 ก็คือ การแย่งชิงทรัพยากร เพื่อทำให้ฝ่ายเรารวยขึ้น และฝั่งตรงข้ามจนลง ซึ่งวิธีการก็คือ ต้องคุมแมพ แย่งชิงพื้นที่ให้ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าฝั่งตรงข้าม และ Objective หากในช่วง 5 นาทีแรก เราสามารถครอบครองสิ่งเหล่านี้ได้ จะทำให้ฝ่ายเราได้เปรียบแน่นอน การเงินจะขึ้นนำทันที และทำให้ฝั่งตรงข้ามมีเงินช้าลง ดังนั้น เราจึงต้องเล่นแบบเดินเกมเร็ว คือ ใช้ฮีโร่ต้นเกมที่เวดป่าเก่งๆ หรือมีดาเมจแรงๆ มาช่วยกดดัน ตอดเลือด ทำให้ศัตรูเจ็บ และตัดป่าฝั่งตรงข้ามตั้งแต่ต้นเกม เช่น Veres, Maloch, Iggy, Florentino, Aoi, Nakroth ฮีโร่เหล่านี้จะเก่งมากๆ ตั้งแต่เลเวล 2 ทำให้การเวดป่า และคุมแมพในช่วงต้นเกม ทำได้ง่ายมากๆ เราสามารถเน้นการเวดป่า และเข้าไฟต์แบบต่อเนื่องได้เลย เพราะป้อมชั้นนอกของทุกๆ เลน จะได้รับการบัพลดความเสียหาย 60% อยู่แล้ว ทำให้ช่วง 5 นาทีแรก ป้อมจะแข็งมากๆ ไม่ต้องกลัวว่าฝั่งตรงข้ามจะเข้ามาตีป้อมให้แตกได้ง่ายๆ และการที่เราเข้าไปเวดป่าแบบนั้น ก็เป็นการบังคับให้ศัตรูที่อยู่ในเลน ต้องวิ่งมาช่วยเพื่อนในป่าโดยปริยายอยู่แล้ว

การเล่นแบบเดิมๆ ประเภทที่ แครี่ และออฟเลน ยืนกอดเลน คอยห่วงแต่การเคลียร์ครีปในช่วงต้นเกม จะทำให้เกิดการเสียเปรียบทันที และเสี่ยงต่อการโดนเวดป่าได้ง่ายๆ หากทีมไหนโดนเวดป่า โดนฆ่า และเสียมอนสเตอร์ป่าไป จะทำให้ป่าฝั่งตรงข้ามจน การเงินของทั้งทีมจะน้อยกว่าฝั่งตรงข้าม และทำให้เสียเปรียบในเรื่องการคุมแมพ เมื่อครบเวลา 5 นาที การสโนว์บอลเพื่อทำลายป้อมก็จะตามมาทันที เพราะป้อมจะไม่แข็งแกร่งอีกต่อไปแล้ว จากนั้นก็จะแพ้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ เกิดจากการเล่นในช่วง 5 นาทีแรกของเกมทั้งสิ้น หากเราเล่นได้ไม่ดี โดนฝั่งตรงข้ามคุมเกมได้หมดตั้งแต่ต้นเกม โอกาสแพ้จะสูงมากๆ ทันที

ใช่ครับ ผู้เล่นที่ชอบบวก ชอบไฟต์ ย่อมถูกใจกับแนวทางการเล่นแบบใหม่ใน ROV SS19 แบบนี้แน่นอน แต่ก็ต้องเลือกฮีโร่ให้มันเก่งในช่วงต้นเกมด้วยนะครับ เพื่อให้การเวดป่าในช่วงต้นเกม เกิดความได้เปรียบ และทำให้เราชนะไฟต์ได้จริงๆ รวมทั้งต้องมีความสามัคคีด้วย

ดูเหมือนว่า แนวทางการเล่นในช่วงต้นเกม ของ ROV SS19 แพทช์นี้ จะต้องพึ่งพาความสมัครสมานสามัคคีมากกว่าแพทช์ไหนๆ ถ้าต่างคนต่างเล่น จะเสียเปรียบทันที ทีมไหนที่สามัคคี เดินไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จะทำให้เกิดความได้เปรียบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 5 นาทีแรก ใครที่ไม่ปรับตัว และยังเล่นแบบ “เห็นแก่ตัว” เหมือนสมัยก่อน ก็เตรียมแพ้ได้เลยครับ ส่วนคนที่เล่นแบบ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เช่น เป็นแครี่ก็ต้องไม่ไปแยกดัน และต้องไม่เดินนำแท็งค์ ไม่เดินไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ต้องคอยเดินตามแท็งค์ แท็งค์ไปไหนก็คอยเดินตาม หากเข้าใจและทำตามหน้าที่ที่เหมาะสมกับตำแหน่งและฮีโร่ที่ตัวเองเล่นได้ คำนึงถึงประโยชน์ของทีมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน จะทำให้ทีมเราได้เปรียบ และมีโอกาสชนะสูงมากๆ แน่นอน

เกม ROV ต้องสามัคคีถึงจะชนะ ต่อให้ Solo ไปคนเดียว ก็ต้องใช้ความสามัคคีอยู่ดี หากหยิ่ง ทะนง อวดเก่ง อวดดี ไม่ทำตามหน้าที่ที่ตัวเองเล่น ทีมจะมีปัญหา ด่ากันยับ และแพ้แบบยับๆ ในที่สุด นี่คือ สัจธรรมของการเล่นเกม ROV ในปัจจุบันนี้

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ

เรื่องก่อนหน้านี้รูนคริของแครี่ ใน ROV แพทช์ปัจจุบัน ควรใช้แบบไหนดีกว่ากัน คริบ่อย (Rage) หรือคริแรง (Rampage)
เรื่องถัดไปบัคเด้งเลือดซัพพอร์ต ในเกม ROV รีบใช้ก่อนโดนปรับด่วนๆ ดาวฟรีแน่นอน เรียกว่า โกงก็ไม่ผิด