OKER K84 Mechanical Keyboard ราคาเบาๆ ที่คอเกม ไม่ควรพลาด

หลังจากที่ผม ได้เล็งๆ ว่าจะซื้อเจ้า Mechanical Keyboard อยู่นานสองนาน ในที่สุด เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ผมก็ได้ฤกษ์เสียเงิน ซื้อมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับ OKER K84 เป็นเมคานิคอล คีย์บอร์ด ที่คอเกม ย่อมรู้จักกันดีอยู่แล้ว ราคาในท้องตลาด สำหรับ Mechanical Keyboard ทั่วไป จะเริ่มต้นอยู่ที่ 2,500 บาท ขึ้นไป จนถึง 6 พันบาท ก็มี เรียกได้ว่า แพงจนเหลือเชื่อเลยทีเดียว แต่จุดเด่นคีย์บอร์ดที่แพงๆ แบบนี้ ของมันนั้น ยากที่จะอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้ ถ้าไม่ใช่คอเกม ย่อมไม่เข้าใจ ถึง Feeling หรือความรู้สึกเวลาเล่นเกม ผ่านคีย์บอร์ด อย่างแน่นอน ว่าความแม่นยำ เพียงเสี้ยววินาที มันมีผลกับเกมมากแค่ไหน ยิ่งเป็นเกมแนว FPS ด้วยแล้ว ยิ่งส่งผลถึงความแม่นยำ และความรวดเร็ว ได้อย่างชัดเจน แต่ด้วยราคาที่แสนจะแพงนี้ จึงทำให้มีน้อยคนนัก ที่จะมีกำลังทรัพย์ หรือใจกล้าพอที่จะซื้อมาใช้งานได้ แต่ด้วย  OKER K84 ทำให้ Mechanical Keyboard กลายเป็นของที่ไม่แพงเกินเอื้อม สำหรับคอเกมอีกต่อไปแล้วครับ ( และสำหรับผม ซึ่งเป็นทั้ง เกมเมอร์ โปรแกรมเมอร์ และ Blogger ด้วย )

OKER K84 Mechanical Keyboard ราคาเบาๆ

สำหรับท่านใด ที่ยังไม่รู้จักว่า Mechanical Keyboard คืออะไร ผมแนะนำให้ลองค้นหาใน Google ดูครับ มีคนอธิบายเอาไว้มากมายแล้ว ผมไม่อยากจะกล่าวซ้ำ แต่ถ้าจะให้ผมสรุปง่ายๆ ก็คือ คีย์บอร์ดสำหรับคอเกม ที่มีราคาแพงมาก มีจุดเด่นในเรื่องของ ความเร็ว ในการส่งสัญญาณ แค่สัมผัสนิดเดียว ไม่ต้องกดลงไปสุด มันก็ส่งสัญญาณเข้าไปที่เกมแล้วครับ ไม่เหมือนกับคีย์บอร์ดทั่วไป ที่ต้องกดจนสุด สัญญาณมันถึงจะส่งไป รวมทั้งเวลาที่ปุ่มใดปุ่มหนึ่งเสีย ก็ให้ถอดออกมาซ่อม เป็นปุ่มๆ ไปได้ครับ ไม่จำเป็นต้องซื้อคีย์บอร์ดใหม่ทั้งอัน นี่คือสรุปความหมายสั้นๆ นะครับ

จุดเด่นที่สำคัญของ OKER K84 Mechanical Keyboard ราคาแสนถูก

สำหรับเจ้า OKER K84 ตัวนี้ ผมต้องซื้อมาใช้งานก่อน อย่างน้อย 2 เดือน แล้วถึงจะมารีวิวได้ว่า Mechanical Keyboard รุ่นนี้ มีจุดเด่นอะไร ดียังไง เพื่อให้ได้ คุณภาพจริงๆ และแน่นอนว่า อันนี้ผมควักกระเป๋าซื้อมาเอง ไม่ได้รับการสนับสนุน หรือ Sponsor จากร้านไหนๆ เหมือนกับเว็บอื่นๆ ที่รับจ้างรีวิว แต่อันนี้ เอามาบอกกันตามความเป็นจริงครับ ดีก็ว่ากันตรงๆ ว่าดี แต่ถ้าไม่ดี ก็ต้องเอามาบอกกัน คนอื่นๆ จะได้ไม่ต้องซื้อไป แล้วเสียใจเหมือนผม

สำหรับจุดเด่นสำคัญของเจ้า K84 ตัวนี้ ก็ได้แก่

  1. ใช้เทคโนโลยี Blue Switch เหมือนกับยี่ห้อที่แพงๆ เค้าใช้กันเลยครับ บวกกับ เทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่อีกด้วย
  2. ปุ่มกดที่มีความสูง นูนขึ้นมา มากพอสมควร สำหรับผม ถูกใจมากๆ ครับ ผมไม่ชอบปุ่มกดแบบแบนๆ เพราะเวลาพิมพ์แล้ว มันเพลิน และนิ้วมักจะพิมพ์ผิดตลอดครับ แต่ด้วยปุ่มกดสูง จึงทำให้พิมพ์แบบสัมผัสได้แม่นยำมากขึ้นครับ
  3. มีสีให้เลือกหลากหลาย รู้สึกว่า จะมี ดำ แดง และ ขาว ครับ สำหรับผม ผมเลือกสีขาวครับ
  4. สามารถปรับเปลี่ยนสี ที่แป้นคีย์บอร์ดได้ เป็นไฟ LED ได้หลายโหมดมากๆ ( ไม่ได้นับ แต่เยอะครับ )
  5. มีประกัน เคลมง่าย แบรนด์เชื่อถือได้
  6. มีความแม่นยำ และตอบสนองได้เร็ว เวลาเล่นเกม รู้สึกได้เลยว่ากดลงไปแล้ว ตอบสนองได้เร็วจริงๆ
  7. เหมาะกับการใช้ เล่นเกมก็ได้ พิมพ์งานก็ดีเช่นกัน สรุปก็คือ ใช้ได้หลากหลาย ครอบจักรวาล

สำหรับข้อเสียที่เห็นได้ชัดๆ ก็น่าจะเป็นในเรื่องของ เสียงเวลาพิมพ์ครับ มันจะดังแต๊กๆ ซึ่งหลายๆ คน อาจจะมองว่า เสียงมันดังจนน่ารำคาญ แต่สำหรับผม ผมชอบมากครับ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนเวลาที่เราพิมพ์บนเครื่องพิมพ์ดีด ให้ Feeling เดียวกันเป๊ะๆ ส่วนจุดด้อยอีกอย่าง ที่หลายๆ คน อาจจะมองกัน ก็คือ ต้องใช้การเชื่อมต่อทาง สาย USB อย่างเดียว ( บลูธูท ไม่ได้ ) และน้ำหนักตัวที่มาก อันนี้ เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ครับ มันจำเป็นต้องใช้สายอย่างเดียว เพื่อความแม่นยำ ในการส่งสัญญาณ จะเป็น wireless ไม่ได้ และน้ำหนักมันก็ต้องหนักอยู่แล้ว ก็ตามชื่อครับ เพราะมันเป็น Mechanical Keyboard นั่นเอง

แม้ว่าในตลาดอุปกรณ์ไอที ในบ้านเรา จะมีการนำเข้า คีย์บอร์ด ที่เป็นกึ่ง Mechanical Keyboard คือ เป็นคีย์บอร์ดธรรมดานี่แหละครับ แต่เลียนแบบ ให้มีความรู้สึก เวลาที่พิมพ์ลงไป ให้มีเสียงออกมา คล้ายๆ กับ Mechanical Keyboard โดยวางขายอยู่ในราคา ประมาณ 900 บาท ( ผมเห็นมีขายอยู่ใน พันทิพย์ ประตูน้ำ ราคา 900 บาท ) ซึ่งแน่นอนว่า ราคาขนาดนี้ ผมว่า เพิ่มอีกเท่าตัว แล้วซื้อ Mechanical Keyboard แท้ๆ อย่าง OKER K84 ตัวนี้ มาใช้งานเลย ไม่ดีกว่าเหรอครับ ถูกกว่า และยังเป็นรุ่นใหม่กว่า แถมยังได้คุณภาพดีเทียบเท่า หรืออาจจะดีกว่า Blue Switch Mechanical Keyboard รุ่นต่ำสุดที่วางขายในราคา 2,500 บาท ก็ได้ เพราะ K84 จะได้ในเรื่องของ ความสดใหม่ และแบรนด์ที่มั่นใจได้อีก ( OKER ถือว่า มั่นใจได้ ในเรื่องของ Accessories ไอที เช่น เม้าส์ กับ คีย์บอร์ด หรือ ไมโครโฟน นะครับ ) มีประกันด้วย แต่จากการใช้งานมา 2 เดือน ผมมั่นใจครับ ว่าคงไม่พังง่ายๆ อย่างที่คิดแน่นอน และใช้งานได้ดี คุ้มค่ากับราคาจริงๆ ครับ สำหรับท่านใดที่สนใจ ก็ไปซื้อ ตามลิงค์นี้ ได้เลยครับ ผมก็ซื้อจากที่นี่เหมือนกัน มาส่งและเก็บเงินถึงหน้าบ้านเลย

เรื่องก่อนหน้านี้เทคนิคการเล่น เกม Heroes of Incredible Tales – HIT ให้เทพง่ายๆ แบบไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องโกง
เรื่องถัดไปCabal 2 Review น่าโหลดมาเล่น หรือ เล่นภาคแรกอย่างเดิมดีกว่า