และแล้ว ที่ ROV เซิฟไต้หวัน ก็ได้มีการปรับแพทช์ใหม่ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ROV แพทช์ใหม่ เดือน พ.ค. 62 ของไต้หวัน มีการปรับครั้งใหญ่ พร้อมกับโหมดใหม่ คือ 10v10 มาให้เล่นกันแบบเต็มเหนี่ยว แต่เชื่อเถอะครับว่า สิ่งที่ผู้เล่นหลายคนอยากรู้ ไม่ใช่เรื่องโหมดใหม่แน่นอน แต่ต้องเป็นเรื่องที่ว่า มีฮีโร่ตัวไหนบ้าง ที่โดนบัพ หรือโดนเนิฟ
ปรับสมดุลฮีโร่ ROV แพทช์ใหม่ เดือน พ.ค. 62
ผมเชื่อเลยว่า ในช่วงหลายวันมานี้ หลายคนที่ติดตามข่าว น่าจะได้เห็นแล้วว่า มีฮีโร่ตัวไหนบ้าง ที่ถูกปรับสมดุล แต่บางคน อาจจะไม่เข้าใจ หรืออาจจะได้รับข้อมูลที่ไม่มั่นใจว่า ถูกต้องหรือไม่ ไม่ต้องห่วงครับ มาอ่านที่นี่ มีทุกอย่างตอบให้หมดแน่นอนครับ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
Fennik (บัพเยอะเลย)
สำหรับแครี่ตัวนี้ ไม่ได้ถูกปรับมานานมากๆ เรียกได้ว่า เป็นแครี่ที่ถูกลืมไปแล้วจากทีมงาน มาคราวนี้ ก็เลยปรับใหม่ ยกเครื่องกันเลยทีเดียว ทำให้มันโหดขึ้นแบบชัดเจนไปเลย โดยมีการปรับทุกๆ สกิลเลยทีเดียว ได้แก่
สกิลติดตัว – ปรับให้การโจมตีปกติครั้งที่ 3 ของ Fennik จะแรงขึ้นอีก 40% ใส่เป้าหมายหลัก ซึ่งจะส่งผลกระทบ ไปโดนศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ ด้วย รวมทั้งป้อมก็เช่นกัน ในระยะที่ห่างจากเป้าหมาย 2.5m โดยเมื่อระเบิดศัตรูที่อยู่ใกล้ จะได้รับแรงระเบิด 50% และระยะยิงของสกิลติดตัวนี้ คือ 7.5m
แปลง่ายๆ ก็คือ การโจมตีปกติครั้งที่ 3 ของ Fennik จะแรงขึ้น และระเบิดได้กว้าง โดนทุกอย่างรอบตัวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นครีป ฮีโร่ศัตรู หรือป้อม ได้รับความเสียหายหมด หากอยู่ในระยะ
สกิล 1 – Fennik จะขว้างสัญลักษณ์ออกไป และกระโดดไปในทิศทางที่ต้องการได้ โดยสัญลักษณ์ดังกล่าว จะติดอยู่ที่ศัตรู หรือ ป้อม เป็นเวลา 4 วินาที รวมทั้งเพิ่มความเร็วโจมตีให้ Fennik (25/30/35/40/45/50)% เป็นเวลา 4 วินาที และทุกการโจมตีปกติ ที่โจมตีใส่ศัตรูที่ติดสัญลักษณ์ จะเป็นการเพิ่ม Stack สัญลักษณ์ไปในตัว (สูงสุด 4 ครั้ง) ถ้าสัญลักษณ์ศัตรูหายไป เนื่องจากหมดเวลา หรือระเบิดก็ตาม ศัตรูจะติดสตั้น เป็นเวลา 0.25~1 วินาท แต่ถ้าโจมตีจนเก็บ Stack ครบ 4 ครั้ง จะระเบิดพลังโจมตีกายภาพ 500/580/660/740/820/900 (+0.75 พลังโจมตี) และรีเซ็ตคูลดาวน์ของสกิล 2 ทันที โดยคุณสามารถวิ่งแล้วกดใช้สกิลนี้ได้ สกิล 1 นี้ มีคูลดาวน์ 7 วินาที ทุกเลเวล
สกิล 1 ถูกปรับให้ มันพลิ้วขึ้นกว่าเดิม คือ เมื่อกดใช้สกิลแล้ว จะกระโดดไปในทิศทางที่ต้องการได้ คล้ายๆ กับสกิลติดตัวของ Raz นั่นแหละครับ ทำให้มันพลิ้วไหวมากขึ้น จากเดิมที่ตอนใช้สกิล 1 Fennik ต้องยืนขาตาย ต่อไปนี้ ก็จะพลิ้วไหวมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว
สกิล 2 – Fennik กลิ้งไปตามทิศทางที่เลือก โดยขณะที่กลิ้งอยู่ จะไม่ตกเป็นเป้าหมายใดๆ และเมื่อกลิ้งผ่านไป จะทิ้งสายฟ้าเอาไว้ที่พื้น สร้างความเสียหายกายภาพ 100/108/116/124/132/140 (+0.4 พลังโจมตี) ทุก 0.5 วินาที และจะลดความเร็วเคลื่อนที่ของศัตรูที่วิ่งผ่านสายฟ้านี้ 25/30/35/40/45/50% เป็นเวลา 1 วินาที และดาเมจจากสายฟ้านี้ สามารถสะสม Stack ให้กับสกิล 1 ได้เช่นกัน
ดังนั้น คอมโบที่เหมาะสม จึงเป็นการกดสกิล 1 โยนใส่ศัตรูก่อน ตามด้วยกดสกิล 2 เพื่อกลิ้งผ่าน จะเป็นคอมโบที่ดีที่สุด และแรงที่สุดนั่นเอง ซึ่งเมื่อสกิล 1 ระเบิด ก็จะรีเซ็ตสกิล 2 ทำให้กดใช้ได้อีกครั้ง เพื่อหนีออกมาก็ได้เช่นกัน
สกิล 3 – Fennik โยนลูกตุ้มสร้างวงพายุสายฟ้า เป็นเวลา 6 วินาที สร้างความเสียหายกายภาพ 120/150/180 (0.4 พลังโจมตี) ทุก 0.5 วินาที ( สามารถติดคริติคอลได้ แต่ความแรงของคริจะเพิ่มแค่ 50%) โดยเราสามารถกดอีกครั้ง ให้ลูกตุ้มกลับมาอยู่ตรงตัวเราได้ โดยสกิลนี้ จะไม่สามารถสะสม Stack ให้สกิล 1 ได้ และตรงกลางวงพายุ จะไม่ทำดาเมจเป็น 2 เท่าอีกแล้ว
การที่ปรับให้ อัลติของ Fennik เป็นแบบนี้ เพื่อเอาไว้สู้กับพวกตัวล้วงได้นั่นเองครับ เป็นอะไรที่ดีมากๆ และจะแก้ปัญหาการโดนล้วงของ Fennik ได้สบายๆ เลยทีเดียวครับ ยิ่งถ้า Fennik เลเวลนำด้วย และออกไอเท็ม Bow of Slaughter ด้วย ใครก็เอาไม่ลงแน่นอนครับ ยืนยันเลย (อุ๊บ… เผลอบอกทริคเด็ดการเล่น Fennik แพทช์ใหม่ไปซะแล้วสิ)
Ilumia (เนิฟ)
สำหรับเมจตัวนี้ ไม่มีอะไรมาก แค่ปรับสกิล 1 ที่จะสตั้นได้ ให้สตั้นสั้นลงจาก 1 เป็น 0.75 วินาที ซึ่งถือว่า ค่อนข้างจะแย่พอสมควร เพราะสตั้นของสกิล 1 มันมีผลมากๆ ในการคอมโบสกิล ใครเล่น Ilumia อยู่คงจะรู้ว่า 0.25 วินาที นั้น สำคัญไฉน
Ormarr (บัพเยอะ)
สำหรับไฟต์เตอร์ตัวนี้ มีการปรับขึ้นมาเยอะพอสมควรทีเดียว ทำให้มันน่าเล่นขึ้น เพราะมันแรงมากขึ้น แต่ถามว่า การบัพครั้งนี้ มีผลทำให้มันน่าเล่นขึ้นมาทันทีเลยหรือไม่ ตอบเลยว่า ไม่ครับ เพราะยังมีฮีโร่ตัวอื่นๆ ที่เหมาะสม และน่าเล่นมากกว่า Ormarr อยู่ครับ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง โรมมิ่ง หรือ ออฟเลน ดังนั้น Ormarr ก็ต้องเก็บเข้ากรุเหมือนเดิม เพราะปรับแต่สกิลให้แรงขึ้น แต่ไม่ปรับค่า Stat พื้นฐาน ทำให้ตัวมัน ยังคงบางอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง
สกิลติดตัว – ปรับให้สร้างความเสียหายเวท แรงขึ้น เป็น 4%~8%
สกิล 1 – ปรับลดพลังโจมตีกายภาพ จาก 150+50 /เลเวล เป็น 150+30 /เลเวล แต่ปรับลดคูลดาวน์ให้ จาก 10/9/8/7/6/5 เป็น 8/7.6/7.2/6.8/6.4/6 วินาที
สกิล 2 ปรับลดระยะเวลาการร่ายให้สั้นลงนิดนึง และปรับดาเมจให้มันแรงขึ้นในช่วงต้นเกม จาก215/260/305/350/395/440 (+1.05 พลังโจมตี) เป็น 250/300/350/400/450/500 (+0.8 พลังโจมตี)
สกิล 3 ปรับให้ดูดเลือดศัตรูโดยไม่จำกัดจำนวนแล้ว (จากเดิมได้สูงสุดแค่ 3 ฮีโร่ศัตรูเท่านั้น)
Lumburr (บัพ)
สำหรับซัพพอร์ตตัวนี้ ก็เป็นที่น่ายินดี ที่มีการปรับให้สกิล 1 จากเดิม ลดพลังโจมตีของศัตรูลง 15% ซึ่งเป็นพลังโจมตีกายภาพเท่านั้น ก็ปรับมาเป็น ลดดาเมจของศัตรูที่โจมตีมา ลงไป 10 – 15% (ต้องเป็นฮีโร่ศัตรูเท่านั้นนะ ที่โจมตีมา) ซึ่งนั่นแปลว่า มันมีผลกับดาเมจเวทของพวกเมจด้วย แปลว่า ต่อไปนี้ หลังจาก Lumburr ใช้สกิล 1 ใส่พวกเมจ ก็จะโดนดาเมจเวทเบาลงด้วย เป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ เลยทีเดียว
Errol(บัพ)
สำหรับฮีโร่ตัวนี้ มีการถูกปรับสมดุลซะมากกว่า จะเป็นการบัพ หรือ เนิฟนะครับ โดย สกิล 1 จะโดนปรับลดคูลดาวน์ให้สั้นลง จาก 7 วินาที เป็น 7 – 6 วินาที
ส่วนสกิล 2 มีการปรับเพิ่มบัพเข้ามา คาดว่า น่าจะเป็นบัพที่เพิ่มความแข็งแกร่ง ประมาณว่า ไม่ตกเป็นเป้าหมายใดๆ อะไรประมาณนี้ ก็จะทำให้มันใช้สกิล 2 ได้เร็วขึ้น และไม่ถูกขัดขวางจากศัตรูด้วย CC นั่นเองครับ
Quillen (บัพ)
สำหรับนักฆ่าตัวนี้ ไม่มีอะไรมาก บัพสกิล 1 ให้มันแรงขึ้น แค่นั้นเองครับ ซึ่งแน่นอน มีผลดีกับการหยิบมันมาเล่นอีกครั้งแน่นอนครับ จาก 160/185/210/235/260/285 (+0.45 พลังโจมตี) เป็น 175/200/225/250/275/300 (+0.5 พลังโจมตี) เรียกได้ว่า แรงขึ้น ตั้งแต่ต้น จนเลทเกมเลยทีเดียว Quillen กำลังจะกลับมาแล้วจ้า
Veres (บัพ)
มันก็ต้องบัพกันหน่อยนะครับ เพราะว่าสกินใหม่ กำลังจะเข้า ดังนั้น เลยต้องบัพกันหน่อย ทั้งสกิลติดตัว ที่จะทำดาเมจได้แรงมากขึ้น จาก 250 (+25 แต่ละเลเวล) (+1.5 พลังโจมตี) เป็น 250 (+40 แต่ละเลเวล) (+1.5 พลังโจมตี) และอัลติ ที่ปรับให้ดาเมจแรงขึ้น จาก 120/170/220 เป็น 150/200/250
Murad (เนิฟ)
สำหรับ Murad เอง ก็โดนเนิฟลงไปเล็กน้อย สำหรับอัลติ ซึ่งถามว่า มีผลมั้ย ก็มีในระดับหนึ่งนะครับ โดยเฉพาะในช่วงต้นเกม แต่เลทเกม จะไม่เห็นผลสักเท่าไหร่ครับ โดยปรับดาเมจลดลงจาก 150~280 (+0.68 พลังโจมตี) เป็น 140~250 (+0.68 พลังโจมตี)
Nakroth (เนิฟ)
ยังคงโดนเนิฟอย่างต่อเนื่องกับ แอสซาซิน ยอดฮิต พิมพ์นิยมตัวนี้ โดยคราวนี้ ก็ยังเป็นการเนิฟสกิล 2 ต่อเนื่องจากแพทช์ที่แล้ว คราวนี้ ปรับลดดาเมจลงไปเลย จาก 150~300 (+1.2 พลังโจมตี) เป็น 150~300 (+1.0 พลังโจมตี)
Hayate (เนิฟ)
สำหรับแครี่ที่โดนแบนตลอดกาลอย่าง Hayate ก็ยังคงโดนเนิฟอีกเช่นกัน โดยเป็นการเนิฟที่สกิล 1 ทุกครั้งที่ปาดาวกระจายทะลุศัตรูที่ไม่ใช่ฮีโร่ ความเสียหายจะเบาลง 30% (จากเดิมแค่ 20%) และอัลติ ก็ปรับคูลดาวน์ ให้ต้นเกม นานขึ้น จาก 40 วินาทีตลอด ก็ปรับเป็น 50/45/40 วินาที
Violet (เนิฟ)
สำหรับ Violet นั้น ก็มีการปรับหลายอย่างเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้งบัพ และเนิฟ แต่โดยรวม จะค่อนข้างเนิฟนิดหน่อย โดยปรับหลายอย่าง ได้แก่
ระยะการโจมตีปกติ ปรับเพิ่มจาก 6.75 เป็น 7m
สกิลติดตัว มีการปรับใหม่ ให้เป็น การโจมตีปกติ และการใช้สกิลทุกสกิล ในแต่ละครั้ง หากโดนฮีโร่ศัตรู จะลดคูลดาวน์สกิล 1 ลง 0.5 วินาที (จากเดิม นับแต่การโจมตีปกติเท่านั้น )
สกิล 1 ปรับดาเมจให้เบาลง จาก 275/305/335/365/395/425 (+1.0 พลังโจมตี) เป็น 250/270/290/310/330/350 (+1.0 พลังโจมตี) และระยะการโจมตีสั้นลง จาก 10 เป็น 9.5m แต่ลดมานาของสกิลให้แทน จาก 45/50/55/60/65/70 เป็น 30/35/40/45/50/55 วินาที
สกิล 2 ปรับลดคูลดาวน์ของสกิลลง จาก 10/9.2/8.4/7.6/6.8/6 เป็น 9/8.4/7.8/7.2/6.6/6 วินาที
จะเห็นได้ว่า พระเอกในการปรับแพทช์ ROV แพทช์ใหม่ เดือน พ.ค. 62 ครั้งนี้จริงๆ จะอยู่ที่ Fennik ตัวเดียวเลยนะครับ รองลงมา ก็เป็น Veres แน่นอน รวมทั้ง Lumburr และ Quillen ที่เราจะได้เห็นคนหยิบมาเล่นกันมากขึ้น หลังจากที่มีการปรับแพทช์แล้วแน่นอน สำหรับตัวอื่นๆ เป็นเพียงแค่การปรับเล็กๆ น้อยๆ และยังไม่มีผลต่อการเล่นสักเท่าใดนัก
สำหรับเรื่องของ การปรับไอเท็ม ในแพทช์ใหม่ เดี๋ยวผมจะมาอธิบายอีกทีนะครับ รวมทั้งระบบต่างๆ ในเกมที่จะเปลี่ยนไปด้วย เพื่อให้ทุกคน ได้มีความเข้าใจเอาไว้ซะก่อน ที่จะมีการปรับแพทช์เร็วๆ นี้ ในเซิฟไทย
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
