ROV แพทช์ใหม่ 7 ส.ค. 63 ปรับหนัก อวสาน Thorne และ Dirak (ด้วยเหรอ) เพราะโดนเนิฟหนักมาก

และแล้วการปรับแพทช์ ROV ก็มาถึง หลังจากที่ Thorne เข้ามา ผมเชื่อว่า คงมีหลายคนที่รอคอยเวลานี้ที่ Thorne จะโดนเนิฟ จะได้หยิบมาเล่นสักที ซึ่งใช่ครับ Thorne โดนเนิฟลงไป แต่จะเนิฟหนักขนาดหลุดแบนเลยหรือไม่ ต้องมาดูกันครับ แต่ที่แน่ๆ ไฮไลท์จริงๆ กลับไปอยู่ที่ Dirak ครับ ที่โดนเนิฟหนักมากๆ คือ เอาสกิลติดตัวที่ช่วยให้รอดตายยามคับขันออกไปนั่นเองครับ เรียกได้ว่า ปรับใหม่ซะคนที่เล่น Dirak ต้องใจหายกันเลยทีเดียว มาดูกันครับว่า ROV แพทช์ใหม่ 7 ส.ค. 63 มีการปรับสมดุลอะไรกันบ้าง

ROV แพทช์ใหม่ 7 ส.ค. 63 ปรับสมดุลทั้งไอเท็ม และฮีโร่เยอะมาก

ปรับสมดุลไอเท็ม

Broken Spear (เนิฟหนักมาก)

ลดค่าการเจาะเกราะลง 110 (+10 per level) → 88 (+8 per level)

วิเคราะห์ : เนื่องจากที่ผ่านมา Broken Spear มันช่วยให้แอสซาซินทั้งหลาย มันโหดเกินไปครับ ทางทีมงานเค้าก็เลยลดความแรงในการเจาะเกราะของ Broken Spear ลง ส่งผลกระทบกับแอสซาซินฟาร์มป่า และพวกออฟเลนประเภท Burst Damage ทั้งหลายแบบเต็มๆ ครับ กลายเป็นการทำให้ แครี่ และเมจ พอจะมีที่ยืนมากขึ้น และมีโอกาสรอดตายสูงขึ้นนั่นเองครับ

แต่ถามว่า แล้วแบบนี้ แอสซาซินฟาร์มป่า ต้องเลิกใช้ Broken Spear ไปเลยมั้ย คำตอบคือ ก็ไม่ครับ ยังคงจำเป็นต้องใช้อยู่ดี เพียงแต่ดาเมจจะเบาลงไปแค่นั้นเองครับ ก็ต้องเน้นการเข้าแก๊งค์กับเพื่อนให้มากขึ้น เพื่อให้มีดาเมจที่เพียงพอนั่นเองครับ

Boomstick (บัพ)

ปรับเพิ่มค่าดาเมจต้น แต่ลดตัวคูณดาเมจเวทเป็น 50 (+0.5 magic attack) → 100 (+0.4 magic attack)

วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ทำให้ Boomstick มีดาเมจที่แรงขึ้นด้วยตัวมันเอง แรงตั้งแต่ตอนที่ใส่เลยว่างั้น ไม่ต้องไปรอช่วงเลทเกม และจะกลายเป็นไอเท็มที่เมจประเภทโจมตีจากระยะไกลแบบเป็นชุดๆ มองหา และเล็งที่จะรีบออกมาเป็นชิ้นที่ 2-3 ตั้งแต่ต้นเกมแน่นอนครับ เพราะมันมีดาเมจเวทที่จะมาช่วยได้เร็วและแรงขึ้นแน่นอนครับ เช่น Veera, Diao Chan, Kahlii, Azzen’Ka ถูกใจสิ่งนี้แน่นอน

Phoenix Tear (เนิฟ)

ลดราคาลง 800 → 600

ปรับการฟื้นฟูให้น้อยลงกว่าเดิม 600 (+30 per level) HP และ 20% มานา → 20% HP และ 10% มานา

วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ ทำให้ความน่าใช้ Phoenix Tear ลดลงไปเยอะครับ ถึงขั้นเรียกได้ว่า ไม่น่าใช้อีกแล้ว ยกตัวอย่างง่ายๆ การปรับให้ฟื้นฟูเป็น % เลือด มันไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง เพราะจุดเด่นของ Phoenix Tear คือ การใช้ในช่วงต้นเกม แต่ต้นเกม HP ของฮีโร่ประเภทเมจ มันมีน้อยอยู่แล้ว การฟื้นฟูเป็น % เลือดแบบนี้จึงไม่น่าใช้เลยครับ รวมทั้งยังลด % การฟื้นฟูมานาลงไปอีก เหมือนกับว่า เป็นการปรับให้ผู้เล่นเมจ เลิกใช้ไอเท็ม Phoenix Tear ชิ้นนี้ไปเลยซะงั้นแหละ

ปรับสมดุลฮีโร่

Thorne (เนิฟหนัก)

สกิลติดตัว การลดคูลดาวน์จากบัพฟ้า จะไม่ถูกนำมาเปลี่ยนเป็นพลังโจมตีได้

สกิล 1 ปรับหลายอย่าง ดังนี้

ปรับให้กระสุนสีม่วง ไม่สามารถติดคริติคอลได้

ดาเมจของกระสุนสีม่วงจากเดิม ทุก 200 Bonus AD → ทุก 100 Bonus AD

ปรับลดอัตราการสโลว์ของกระสุนสีเหลืองลงไป 10/15/20% → 5/7.5/10% (per skill level + 1/1.5/2 %)

ปรับลดความเร็วในการโจมตีที่จะได้รับเพิ่มขึ้น 1/1.1/1.2/1.3/1.4/1.5 → 1 วินาที

วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ ทำให้ Thorne ในตำแหน่งฟาร์มป่า ทำดาเมจเบาลงไปเยอะ และลดความเก่งลงไปเยอะ แม้จะมีการปรับความถี่ในเรื่องดาเมจของกระสุนสีม่วงเพิ่มขึ้น แต่การเอาโอกาสติดคริออกไป และปรับลด CC จากกระสุนสีเหลืองอีก จึงเป็นการทำให้ดาเมจและความเก่งของ Thorne หายไปเยอะมากๆ เลยครับ ก็กลายเป็นข่าวดีเลยว่า Thorne จะมีโอกาสหลุดแบนมากขึ้นแน่นอนครับ มันไม่เก่งเหมือนเดิมแล้วนั่นเอง

Dirak (เนิฟ)

ปรับค่า Status พื้นฐาน

HP พื้นฐาน 2625 → 3000

โบนัส HP ที่ได้ตอนเลเวลอัพ 202 → 235

เอาสกิลติดตัวที่เมื่อ HP หมด จะใช้มานามารับความเสียหายแทนได้ เอาสกิลนี้ออกไป

ที่เพิ่มมาใหม่ เมื่อมีสกิล 2 จะมองเห็นแมพได้ไกลขึ้น

สกิล 2 ปรับเพิ่มให้กระเด็นถอยหลัง 2 ครั้งต่อกระสุนแต่ละนัดที่ตกลงมากระแทกใส่

วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ เหมือนจะทำให้ Dirak เก่งขึ้นด้วยจำนวน HP ที่เยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ เยอะมากจริงๆ เป็นการปรับให้ Dirak มี HP สูงมากๆ ด้วยตัวมันเอง และทำให้สกิล 2 มี CC ที่หนักมากขึ้น สร้างความรำคาญ และทำลายจังหวะของศัตรูได้มากขึ้น แต่ต้องแลกด้วยการเอาสกิลติดตัว ที่ช่วยให้ Dirak รอดตายยามคับขันออกไป

สำหรับคนที่เล่น Dirak ก็ต้องบอกว่า มีผลกระทบน้อยครับ แม้ว่าจะมีการเอาสกิลติดตัวออกไป ซึ่งฟังดูแล้วน่าตกใจมากๆ แต่การได้ HP กลับมาเยอะสุดๆ ขนาดนี้ คู่กับสกิล 2 ที่มี CC ป่วนได้หนักขึ้น มันก็ค่อนข้างที่จะคุ้มค่า และไม่ส่งผลกระทบกับการเล่นสักเท่าไหร่นะครับ รวมทั้งต่อไปนี้ Dirak ก็จะใช้เกราะเกิดหรือ Blade of Eternity ได้แล้วนะครับ

Azzen’Ka (บัพเยอะ)

สกิล 1 ระยะไกลขึ้น 8m → 9m และยกสตั้นนานขึ้น 1 → 1.5 วินาที

สกิล 2 ไกลขึ้น 7.5m → 8m

อัลติ ใช้มานาน้อยลง 150/170/190 → 100/115/130

วิเคราะห์ : ไม่อธิบายอะไรมาก ชัดเจนด้วยรายละเอียดอยู่แล้ว สรุปคือ เค้าปรับมาให้เราหยิบมาเล่นครับ เก่งขึ้นเยอะมากๆ คนที่ชอบเล่น Azzen’Ka ถูกใจสิ่งนี้ หยิบมาเล่นได้ทุกเกมแน่นอนครับ CC หนักหนาสาหัสมากๆ เลยทีเดียว

Ilumia (บัพ)

สกิล 1

ปรับเพิ่มดาเมจต้นเกมเล็กน้อย 350/410/470/530/590/650 (+0.45 magic attack) → 400/450/500/550/600/650 (+0.4 magic attack)

ปรับลดการใช้มานาลง 40/45/50/55/60/65 → 30/35/40/45/50/55

ปรับเพิ่มเอฟเฟกต์สกิล ถ้าโดนระหว่างทาง จะสตั้น 0.5 วินาที ถ้าโดนตรงสุดปลายของสกิล ถึงจะสตั้น 0.75 ก็ปรับใหม่เป็น สตั้นทุกแบบบ 0.75 วินาที

สกิลนี้จากเดิมจะแรงขึ้น 1.6 และสร้างความเสียหาย 2 เท่า เมื่อไปสุดทาง จะปรับเป็น แรงขึ้น 1.8 เท่าตลอดทาง

สกิล 2

ปรับการสโลว์เป้าหมาย 30% นาน 1 วินาที → 30/34/38/42/46/50% นาน 1.5 วินาที

เพิ่มความเร็วให้ตัวเอง 30% → 30/ 34/38/42/46/50%

ระยะกว้างของสกิล 6m → 5m

ระยะที่ผลักศัตรูแล้วกระเด็น 10m → 7.5m

ค่าการใช้มานา 120 → 100

อัลติ ร่ายเร็วขึ้น 0.1 วินาที และปรับการใช้มานา 90/120/150 → 100/125/150

วิเคราะห์ : ทางทีมงานเค้าตั้งใจจะปรับให้ Ilumia มี CC ที่เยอะมากขึ้น และเอาตัวรอดได้มากขึ้น ก็ถือว่า ดีครับ สามารถหยิบมาเล่นได้เลยครับ บัพมาได้ค่อนข้างดี และน่าสนใจมากๆ สามารถหยิบมาเล่นได้ครับ

Kahlii (บัพ)

สกิล 2 เพิ่มเอฟเฟกต์ใหม่ จะวิ่งเร็วขึ้นอีก 30% เมื่อกดใช้โล่เป็นเวลา 1 วินาที

ลดคูลดาวน์ต้นเกม 12/11/10/9/8/7 → 11/10.4/9.8/9.2/8.6/8 วินาที

อัลติ

เพิ่มเอฟเฟกต์ใหม่ 2 อย่าง คือ ขณะที่กำลังกดใช้อัลติ จะไม่สามารถถูกขัดจังหวะหรือยกเลิกสกิลได้ และ ระหว่างที่ใช้อัลติ สามารถกดใช้สกิลอื่นๆ และ กดใช้ Recovery ฟื้นฟูให้ตัวเองได้

วิเคราะห์ : Kahlii เนี่ย ถึงไม่บัพ ก็น่าเล่นอยู่แล้ว แต่ยิ่งบัพมาแบบนี้ ยิ่งน่าเล่นมากขึ้นไปอีก ไม่บรรยายเยอะ มันเก่งอยู่แล้ว ไม่เชื่อก็ไปอ่าน แนวทางการเล่น Kahlii ที่ผมเขียนเอาไว้ได้เลยครับ เป็นอีกหนึ่งเมจที่แนะนำให้หยิบมาเล่นในการ Solo Rank เลยครับ เล่นง่าย ดาเมจแรง

Mganga (บัพ)

สกิล 1 ปรับดาเมจเวท 60/66/72/78/84/90 (+0.16 magic attack) → 65/72/79/86/93/100 (+0.12 magic attack) คูลดาวน์สกิล จาก 12/11.4/10.8/10.2/9.3/9 และใช้ได้ 2 ครั้ง ก็ปรับเป็น 14/13.2/12.4/11.6/10.8/10 และใช้ได้ 3 ครั้ง

สกิล 2 ปรับดาเมจเวท 90/103/116/129/142/155 (+0.4 magic attack) → 100/120/140/160/180/200 (+0.3 magic attack)

อัลติ ปรับดาเมจเวท 120/180/240 (+0.65 magic attack) → 180/270/360 (+0.6 magic attack) ปรับดาเมจของสัญลักษณ์แต่ละขั้น 120/180/240 (+0.32 magic attack) → 90/135/180 (+0.3 magic attack)

วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ ทำให้ Mganga พึ่งพาดาเมจเวทจากไอเท็มน้อยลง คือ ดาเมจต้นมันแรงขึ้น แม้จะยังไม่มีไอเท็มก็แรงขึ้น ทำให้ตัวมันเองน่าเล่นขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ และสามารถใส่ไอเท็มป้องกันเข้ามาเสริมได้ เปิดช่องให้เราสามารถหยิบ Mganga มาเล่นในตำแหน่งซัพพอร์ต ให้กับทีมได้มากขึ้นนั่นเองครับ ตัวนี้บอกเลยว่า เด็ดแน่นอนครับ เอามาเดินโรมได้สบายๆ เลยทีเดียว ดาเมจเวทแรงขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาไอเท็มเวทมากเท่าเมื่อก่อนอีกแล้ว

Liliana (บัพ)

สกิล 1 แก้ไขบักที่ทำให้ระยะของดาเมจมันไกลเกินระยะ

ในร่างมนุษย์ ดาเมจเวท 500/560/620/680/740/800 (+0.7 magic attack) → 600/660/720/780/840/900 (+0.7 magic attack)

ในร่างจิ้งจอก ดาเมจเวท 0.5 physical attack + 0.5 magic attack → 100/125/150/175/200/225 (+0.4 magic attack)

สกิล 2 ดาเมจในร่างมนุษย์ 400/440/480/520/560/600 (+0.65 magic attack) → 450/500/550/600/650/700 (+0.5 magic attack)

วิเคราะห์ : เป็นการปรับให้ Liliana เก่งขึ้นในช่วงต้นเกม น่าเล่นขึ้นครับ แต่เทียบกับเมจตัวอื่นๆ แล้ว เมจตัวอื่นๆ ได้รับการปรับมาน่าสนใจ และเร้าใจกว่านั่นเองครับ

Nakroth (บัพ)

สกิล 1 ปรับให้ลื่นไหลขึ้น โดยจังหวะแรกที่กดใช้ จะเร็วขึ้น 0.133 วินาที และการโจมตีปกติ หรือ การเคลื่อนที่จะลื่นไหลขึ้น

ปรับแก้ไขบักในเรื่องของ การใช้พลังแฝง Endless Cycle ที่แม้จะใช้ไปแล้ว ก็ยังจะได้รับ Gold หลังจากนาทีที่ 12 อยู่ดี (มันต้องไม่ได้รับถ้าใช้ Endless Cycle ไปครบแล้ว) และปรับแก้ไขระยะการโจมตีของสกิล 1 ในสกิน Tel’Annas Dimension Breaker ที่มันไกลเกินไป

จะเห็นได้ว่า ในการปรับครั้งนี้ของ ROV แพทช์ใหม่ 7 ส.ค. 63 จะเน้นที่การบัพ และเนิฟเมจซะเป็นส่วนใหญ่ เรียกได้ว่า จัด META เมจกันใหม่เลยทีเดียว ที่แน่ๆ Dirak ก็ยังสามารถเล่นได้อยู่ และทำให้สามารถใช้ไอเท็มอย่าง Blade of Eternity หรือ ตายเกิด ได้แล้ว และจำเป็นมากๆ เลยล่ะครับ ส่วนเมจตัวเก่าๆ ก็จะกลับมาเก๋ากันมากขึ้น เช่น Azzen’Ka ก็หยิบกลับมาเล่นได้แล้ว หรือ Mganga ที่สามารถเอามาเล่นเป็นซัพพอร์ตได้ง่ายมากขึ้น พอๆ กับการเอามายืนเลนกลาง บอกเลยว่า งานนี้กระทบกับตำแหน่งเมจเลนกลางแบบสุดๆ

ส่วนที่โดนหนักจริงๆ ก็คือ Thorne ตามคาดนั่นแหละครับ โดนหนักจริงๆ ต่อไปเราคงจะเห็น Thorne หลุดแบน และถูกหยิบมาเล่นในตำแหน่งเลนแครี่กันมากขึ้นครับ ส่วนตำแหน่งฟาร์มป่า ก็ยังเล่นได้ แต่ไม่คุ้มค่า และไม่เก่งเท่าเมื่อก่อนแล้วครับ ใครที่ซื้อ Thorne ไว้ ก็หยิบมาซ้อมปัดฝุ่นกันได้เลย หลุดแบนบ่อยแน่นอนครับ

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ 1Kilo6 กันได้นะครับ ในเพจ 1Kilo6 (อ่านว่า One Kilo Six) จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ 1Kilo6 นะครับ

ข้อมูลจาก https://moba.garena.tw/news/show/2595