ต้องบอกเลยว่า ในปัจจุบันนี้เราอยู่ในยุคที่ฮีโร่ในเกม ROV มีแต่ตัวที่ทำดาเมจรุนแรง และทำให้แท็งค์หรือไฟต์เตอร์ที่หยิบมาเล่นในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ยืนได้ยากเพราะดาเมจที่โดนตั้งแต่ช่วงต้นเกม มันรุนแรงเหลือเกิน มันก็เลยเป็นที่มาของการหยิบ Violet โรมมิ่ง กลับมาสู่วงการอีกครั้ง ถามว่า Violet ถูกหยิบมาโรมตั้งแต่สมัยไหน ก็ต้องบอกว่า มันถูกหยิบมาเล่นในการแข่งขันใหญ่ๆ เมื่อปีที่แล้วมั้งถ้าจำไม่ผิด และยังมีฮีโร่อีกหลายๆ ตัวที่ถูกหยิบมาโรมได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่า แนวทางการเล่นเกม ROV ในปัจจุบันนั้น สำหรับตำแหน่งโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต เราไม่จำเป็นต้องใช้ฮีโร่ประเภท แท็งค์, ซัพพอร์ต หรือ ไฟต์เตอร์เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว แต่เน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากการ “โซนด้วยสกิล” ของฮีโร่ที่มีดาเมจรุนแรงและไกลได้ ซึ่งนี่แหละคืออีกหนึ่งเสน่ห์ของเกม ROV ที่เหนือชั้นกว่าเกม LoL ที่สามารถเอาฮีโร่ทุกประเภทมาประยุกต์เล่นได้หลากหลายรูปแบบมากๆ ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ที่หลายๆ เกมยังคงมีอยู่ไปเลย
Violet โรมมิ่ง เหมาะกับเกมแบบไหน?
Violet โรมมิ่ง สามารถหยิบมาเล่นได้กับเกมทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเจอฝั่งตรงข้ามหยิบแต่ตัวล้วงมาเล่น หรือ เจอฝั่งตรงข้ามหยิบแท็งค์หนาๆ หลายๆ ตัวมาเล่น ก็สู้ได้หมด เพราะจุดเด่นของการเอา Violet มาโรมก็คือ การโซนด้วยดาเมจจากระยะไกล และการใส่ CC หนักๆ เข้าไปให้กับสกิล 1 ของ Violet ทำให้มันสามารถสโลว์ศัตรูได้แบบก้าวขาไม่ออกจากระยะไกลเลยทีเดียว ถ้าจะให้เปรียบให้ชัดๆ ก็คงจะเหมือนการเอา Sephera มาโรมให้กับทีมนั่นแหละครับ แต่ข้อจำกัดของ Sephera ก็คือ ระยะของสกิลมันไม่ได้ไกลอะไรมากมาย และต้องเล็งสกิลให้แม่นๆ ถึงจะโดนศัตรูได้หลายๆ ตัว (สกิล 2) แต่เมื่อเราใช้ Violet ปัญหาต่างๆ พวกนี้จะหมดไป เพราะสกิล 1 ของ Violet มันไกลมากๆ และโดนศัตรูแน่นอน ทำให้สโลว์ศัตรูได้ดั่งใจเลยทีเดียว ที่สำคัญสามารถสโลว์ได้บ่อย และถี่กว่า Sephera มากๆ
แต่ปัญหาในการเล่น Violet โรมก็คือ เพื่อนในทีมไม่เข้าใจ นั่นเพราะผู้เล่นในเกม ROV ส่วนใหญ่ที่เล่นแบบ Solo ตัวคนเดียว มักจะไม่สนใจศึกษาหาความรู้ใดๆ มาเพิ่มพูนให้กับตัวเอง ยึดติดแนวทางการเล่นแบบเดิมๆ โดยไม่สนใจใคร อยากเล่นแบบไหนก็เล่น พอเห็นว่าคนที่เล่นตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ของทีมหยิบ Violet มาโรม ก็อาจจะโกรธ โมโห หัวร้อน ไม่พอใจ และเริ่มด่าทอ สบประมาท ต่อว่าทันทีตั้งแต่ที่อยู่ในหน้าการดราฟตัว พอเข้าไปในเกม ก็อาจจะเริ่มเล่นแบบโยนเกมเพราะคิดว่า ยังไงก็แพ้แน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งการทำแบบนั้น อาจจะทำให้ทีมแพ้ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว คนที่เค้าหยิบ Violet มาโรม อาจจะเล่นดีมากๆ ก็เป็นได้
Violet โรมมิ่ง สามารถเล่นได้จริง และมีประโยชน์กับทีมมากๆ เพราะเมื่อเริ่มเกมมา แท็งค์มันไม่ได้ตัวหนาจนยิงไม่เข้า หรือแข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น หากโดน Violet ยิงเข้าไปยังไงก็เจ็บ ยิ่งโดนตอดเยอะๆ ยิ่งยืนเลนไม่ไหว เอาง่ายๆ หลักการหยิบ Violet มาโรม ก็คือ เอามายิงตอด หรือ Poke สกิลใส่ทั้งแครี่ และซัพพอร์ตฝั่งตรงข้ามนี่แหละครับ ซึ่ง Violet แม้จะไม่ได้ออกไอเท็มดาเมจ แต่ดาเมจในการยิงของมันก็ยังถือว่า รุนแรงอยู่นะครับ เล่นเอาแท็งค์และแครี่ฝั่งตรงข้าม ต้องกลับบ้านบ่อยๆ ในช่วงต้นเกมแน่นอน ซึ่งไอ้การที่ต้องกลับบ้านบ่อยๆ แบบนี้ จะทำให้การเงิน และเลเวล ของทั้งแครี่ และซัพพอร์ตฝั่งตรงข้าม (อาจจะรวมถึงเมจด้วย) ตามหลังแครี่ของฝ่ายเราแน่นอน (ยิ่งกลับบ้านบ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งตามหลังมากเท่านั้น) นั่นเพราะว่า การที่ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ฝั่งตรงข้ามที่ต้องกลับบ้านบ่อยๆ จากเดิมก็ต้องเป็นคนที่มีการเงินจนที่สุดในทีมอยู่แล้ว มันยิ่งแย่หนักขึ้นไปอีก กลายเป็นต้องจนลงหนักมากๆ จนกว่า Violet ของเราที่เอามาโรมแน่นอน และแครี่ฝั่งตรงข้ามก็จะมีดาเมจที่เบาหวิว เพราะการเงินก็มีน้อยกว่าที่ควรจะเป็นนั่นเอง เรียกได้ว่า เหตุผลที่เราเอา Violet มาโรมก็เพื่อกดเลน และทำให้แครี่ในเลนข้างของทีมเรา กดดันศัตรูได้ง่าย และได้ป้อมในเลนมังกร Abyssal Dragon ได้เร็วมากๆ ตั้งแต่ต้นเกมนั่นเอง
ทั้งนี้ การจะทำตามแบบที่แนะนำมานั้นหรือไม่นั้น มันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของคนที่หยิบ Violet มาโรมด้วยนะครับว่า เป็น Main ในตำแหน่งโรมมิ่งหรือเปล่า และเล่น Violet ได้เฉียบคม หรือเก่งแค่ไหน ถ้าเข้าใจหน้าที่โรมมิ่ง แต่เล่น Violet ไม่เก่ง มันก็พัง หรือ ถ้าเล่น Violet เก่งมาก แต่ไม่รู้หน้าที่ว่า โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ต้องทำอะไรตอนไหนของเกมบ้าง ก็พังอยู่ดี สรุปคือ คนที่จะเล่น Violet โรมได้ ต้องเก่งทั้งสเต็ปการเล่น Violet และต้องรู้หน้าที่ของโรมมิ่ง/ซัพพอร์ตในเกม ROV เป็นอย่างดีด้วยนั่นเอง
อีกหนึ่งปัญหาสำคัญของการหยิบ Violet มาโรมให้กับทีมก็คือ มันเป็นการปรับให้ผู้เล่นทั้งทีม ต้องดึงศักยภาพในการเล่นของตัวเองออกมาให้สูงที่สุด เพราะไม่มีแท็งค์มายืนค้ำให้อีกแล้วนั่นเอง นั่นแปลว่า ผู้เล่นแต่ละคน ต้องมี Skill Play ของฮีโร่ที่ตัวเองเล่นสูงมากๆ ควบคู่ไปกับความเข้าใจในหน้าที่ของตำแหน่งที่ตัวเองเล่นในเกมเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้น พังแน่นอน
ยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจง่ายๆ เช่น เราเอา Violet มาโรมให้กับทีม และมี Tel’Annas เป็นแครี่ คนที่เล่น Violet โรม อันนี้ฝีมือการเล่น Violet ต้องเรียกได้ว่า ยอดเยี่ยม และเป็นเมนโรมมิ่ง คือ เข้าใจหน้าที่ในการโรมเป็นอย่างดี ส่วนคนที่เล่น Tel’Annas ก็ต้องเล่น Tel’Annas ได้โคตรเก่ง และเข้าใจหน้าที่ของการเล่นแครี่เป็นอย่างดี หาตำแหน่งยืนยิงฟรีได้เก่ง รู้จังหวะว่าตอนไหนควรเติม ตอนไหนควรถอย และอ่านแมพเป็น เพราะไม่มีแท็งค์มายืนค้ำไฟต์ให้ มีแต่ Violet ที่จะทำหน้าที่โซนศัตรูด้วยดาเมจให้นั่นเอง ถ้าใครสักคนนึงในสองคนนี้ บกพร่องต่อหน้าที่ หรือ Skill Play ต่ำ ไม่ชำนาญฮีโร่ที่ตัวเองหยิบมาเล่น ก็เตรียมตัวพังได้เลย
ฮีโร่ตำแหน่งอื่นๆ ในทีม ก็ต้องใช้ทักษะการเล่นฮีโร่ที่ตัวเองถนัด และความเข้าใจในหน้าที่ของตำแหน่งที่ตัวเองรับผิดชอบอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน เพราะจะไม่มีแท็งค์มาคอยเปิดไฟต์ หรือยืนค้ำไฟต์ให้อีกแล้ว แต่จะเล่นไปในแนวทางของทีมที่เน้นการตอดด้วยสกิลแรงๆ และ CC ที่จะสโลว์เป้าหมายได้แบบหนักๆ ชนิดที่ก้าวขาไม่ออก ควบคู่ไปกับ การโถมเข้าใส่ตอนที่ศัตรูโดนตอดจนเจ็บ หรือ โดนสโลว์จนก้าวขาไม่ออก ส่วนการเปิดไฟต์แล้วมีฮีโร่เข้าไปแท็งค์อาจจะลดน้อยลง หรืออาจจะไม่มีเลย ยกเว้นว่า ตัวออฟเลน หรือ ตัวฟาร์มป่าของเราเป็นพวกไฟต์เตอร์ตัวหนาๆ เช่น Omen, Wonder Woman, Lu Bu, Mortos, Maloch อะไรพวกนี้ อันนี้ทำหน้าที่เปิดไฟต์ให้ได้ แล้วให้ Violet เข้ามาเติม CC ช่วยสโลว์ศัตรูให้หนักมากขึ้นไปอีก
ซึ่งถ้าหาก Violet ก็เล่นเก่ง Tel’Annas ก็เล่นเก่ง ช่วงต้นเกม แครี่ และ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ฝั่งตรงข้าม จะยืนเลนไม่ไหวเลยนะครับ จะเจ็บและต้องกลับบ้านบ่อยมากๆ เรียกได้ว่า แครี่ 2 ตัวนี้ ชนะเลนฝั่งตรงข้ามได้สบายๆ กดเลนยับๆ ทีนี้ถามว่า “ต้นเกม แครี่ 2 ตัว มันก็ได้เปรียบแบบนี้อยู่แล้ว แต่ระยะยาว ตั้งแต่กลางเกมเป็นต้นไป แครี่ 2 ตัว จะเล่นไหวเหรอ ดูแล้วยังไงก็คงเล่นไม่ไหวหรอก Violet โดนล้วงตายแบบยับๆ แน่นอน” ข้อความนี้มันจริงหรือไม่? ผมตอบได้เลยว่า ไม่จริงครับ
ด้วยสูตรที่ผมเอามาแนะนำนี้ เราจะเล่น Violet โรมมิ่ง Build Tank เต็มอัตรา นั่นคือ ออกไอเท็มป้องกัน จนทำให้มันมี HP ที่เยอะมากๆ และเกราะที่หนามากๆ จนฝั่งตรงข้ามเอาไม่ลงแน่นอน ต่อให้เป็นตัวล้วงแรงๆ อย่าง Paine หรือ Keera ก็ฆ่า Violet ที่ใส่เซ็ตนี้ไม่ตายในคอมโบชุดเดียวแน่นอนครับ ยิ่งรวมกับสกิล 1 ที่กลิ้งหนีได้ กับ Flicker บอกเลยว่า การจะเข้ามาล้วง Violet นั้น เป็นอะไรที่ยากมากๆ ซึ่งไอ้การที่พวกตัวล้วงเข้ามาล้วง Violet โรมมิ่ง แล้วไม่ตายเนี่ย มันคือ หายนะของพวกนั้นทันทีนะครับ เพราะมีสิทธิ์โดนรุมฆ่าตายได้แบบง่ายๆ เลยทีเดียว
เหตุผลที่ Violet มันสามารถเอามาโรมได้ก็เพราะ ระยะโจมตีที่ไกล ยิงได้ต่อเนื่อง ตอดได้ยาวๆ เคลียร์ครีปก็เร็ว ยิงก็แรง (ในระดับหนึ่ง ซึ่งดาเมจมันแรงกว่าพวกแท็งค์แน่นอนล่ะ) ยิงป้อมจากนอกเขตป้อมก็ได้ ขโมยบัพฝั่งตรงข้ามก็ได้ ตอดศัตรูที่อยู่ในป้อมก็ได้ โอ้ย.. ทำอะไรได้เยอะแยะ จุดอ่อนมีแค่ตัวบาง ซึ่งถ้าเราแก้ไขจุดอ่อนนี้ได้ มันก็จะเป็นตัวป่วนที่น่ารำคาญมากๆ ตัวนึงในเกมเลยทีเดียว
Violet โรมมิ่ง ต้องใช้ รูน ไอเท็ม และพลังแฝงอย่างไรบ้าง?
สำหรับความเหมาะสมของเซ็ต รูน ไอเท็ม และพลังแฝง สำหรับ Violet โรมมิ่ง นั้น เราต้องเน้นที่ เกราะป้องกัน และ HP ครับ เพื่อ Build ให้ Violet มันตายยากมากที่สุด เราจะไม่เน้นการเพิ่มพลังโจมตี หรือเน้นทำให้ Violet ยิงแรงนะครับ แต่จะเน้นทำให้ Violet ตายยาก ยืนทน และเป็นตัวล่อให้โดนล้วงแทนเพื่อนแต่ไม่ตาย (แน่นอน) จากนั้นก็เป็นการสวนกลับของฝ่ายเรา
รูนที่ใช้สำหรับ Violet ที่ต้องมาโรมให้กับทีม เราสามารถใช้ได้หลายแบบ แต่ต้องไม่ใช่รูนแท็งค์ เพราะมันจะทำให้ดาเมจของ Violet มันเบาเกินไป หลักๆ ก็ได้แก่
รูนคริเรท +16% : Rage 10 / Spirit 10 หรือ Assassinate 10 / Dragon’s Claw 10
รูนเจาะ100ห้อยคริ : Rage 2 / Onslaught 8 / Spirit 10 หรือ Assassinate 10 / Dragon’s Claw 10
ในส่วนของไอเท็ม เราจะใช้ Core Items หรือ ไอเท็มหลักๆ เป็น รองเท้ากันสถานะ Gilded Greaves ตามด้วย Frost Cape และ Hyoga’s Edge เพื่อเน้นการป้องกันที่ดีเยี่ยม และการสโลว์เป้าหมายที่หนักมากๆ ใครโดน Violet ที่ใส่ไอเท็มพวกนี้ครบทั้ง 3 ชิ้น กลิ้งยิงด้วยสกิล 1 ทีนึง เดินไม่ออกเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเจอ Violet ที่มีไอเท็มพวกนี้ + Might Buff เพิ่มเข้ามา กลิ้งยิงด้วยสกิล 1 ทีนึง ก้าวขาไม่ออกแน่นอน มันเป็นอะไรที่สโลว์หนักมากๆ ซึ่งเดี๋ยวจะต้องเอามารวมกับการสโลว์ของพลังแฝงผีเสื้อหรือ Forest Wanderer อีกด้วยนะครับ
สำหรับลำดับในการออกไอเท็มนั้น ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ถ้าเกมไหนดาเมจฝั่งตรงข้ามไม่ได้หนักมาก ทีมเราคุมแมพ และโซนพื้นที่ได้ดี เล่นง่าย ได้เปรียบ ให้ออกเป็น Muramasa มาก่อน Hyoga’s Edge ก็ได้ครับ เพื่อทำให้การยิงของ Violet มีดาเมจเพิ่มมากขึ้นและเจาะพวกแท็งค์ที่เริ่มใส่ไอเท็มป้องกันชิ้นใหญ่ๆ เข้ามากขึ้น ทั้งนี้ ลำดับของไอเท็มต่างๆ ที่แนะนำมานี้ ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมครับ
ถามว่า ไอเท็มชิ้นที่ 5-6 ถ้าไม่เอาดาบคริ Claves Sancti กับ Muramasa แล้วออกไอเท็มล้วนๆ ไปเลยอย่าง Gaia’s Standard กับ เกราะเกิด Blade of Eternity ไปเลยได้มั้ย เน้นแท็งค์สุดๆ ก็ต้องตอบว่า ได้อยู่แล้วครับ เพราะเมื่อเราหยิบ Violet มาโรม เราไม่ได้หวังดาเมจจากมันเป็นหลักอยู่แล้ว แต่แค่มีดาเมจช่วยเสริม และมีระยะการโจมตีที่ไกล + สโลว์เป้าหมายหนักๆ และใช้ความเป็นแครี่ตัวบางๆ ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจแบบนั้น ล่อเป้าให้โดนล้วงก่อน แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องออกของเพิ่มพลังโจมตีก็ได้ แต่ที่แนะนำเซ็ตนี้เพราะมันคือ เซ็ตมาตรฐานที่เอาไว้ Solo และเอาไว้แบกทีมได้ครับ คือ แข็งแกร่งด้วย ดาเมจก็มีด้วย ควบคู่กันไปนั่นเองครับ
สำหรับไอเท็มซัพพอร์ต บางคนอาจจะอยากใช้สีแดงให้ยิงได้แรงๆ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นะครับ ถ้าเกมนำก็ใส่สีแดงได้ครับ แต่ถ้าเกมตาม หรือเกมสูสี แนะนำให้ใส่ ไอเท็มซัพพอร์ตสีเหลือง และเลือกออฟชั่นตามความจำเป็นเอาครับ (โล่, ดวงตา หรือ ล้างสถานะ) เพื่อทำให้ Violet มี HP มากขึ้นไปอีก
พลังแฝงของ Violet จะใช้เป็นสายสีเขียว หรือ Forest Wanderer เป็นหลัก เพื่อเน้นการยิงตอดด้วยสกิล 1 จะทำให้ศัตรูติดสโลว์และเสีย HP ไปด้วย ซึ่งมีผลมากๆ ในช่วงต้นเกมนะครับ กดเลนฝั่งตรงข้ามได้สบายๆ เลยทีเดียวล่ะครับ ส่วน Nature’s Gift ก็มีเอาไว้เพิ่ม HP ให้มากที่สุด ซึ่งเมื่อฆ่าครีปครบ 100 ตัว ก็จะได้ HP เพิ่มขึ้นมาอีก 800 เมื่อรวมกับไอเท็มป้องกันที่ใส่แล้ว Violet จะมี HP เยอะมากๆ เลยทีเดียวครับ ส่งผลดีในเรื่องการโดนล้วง เกราะเยอะ + HP เยอะ ล้วงยังไงก็ไม่ตาย รอดแน่นอนจ้า
Violet สายนี้ จะได้รับการสโลว์จาก 2 ไอเท็ม และ 1 พลังแฝง ได้แก่ Frost Cape, Hyoga’s Edge และ Forest Wanderer ซึ่งการสโลว์ทั้งหมด จะออกมาพร้อมกับการกลิ้งแล้วยิงสกิล 1 ของ Violet (ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งแรกใส่ศัตรู) จะได้ทั้งดาเมจ และ การสโลว์ (การตีปกติ ก็จะสโลว์ด้วยผลของ Hyoga’s Edge เช่นกัน ส่วนที่ว่า การโจมตีครั้งแรกก็มาจากพลังแฝง Forest Wanderer ซึ่งจะทำงานให้พร้อมใช้เมื่อไม่ได้ต่อสู้ในระยะเวลาหนึ่ง ก็ประมาณ 6-7 วินาทีนั่นแหละครับ เอาเป็นว่า วิ่งไปวิ่งมาหามุมยิง แล้วกลิ้งไปยิงโบ๊ะแรกใส่ฮีโร่ปุ๊บ ฮีโร่ตัวนั้นจะติดสโลว์แบบโคตรหนัก ก้าวขาไม่ออกเลยทีเดียว ถามว่า ลดความเร็วได้เท่าไหร่ ตอบง่ายๆ ว่า ก้าวไม่ออกชัวร์ๆ แบบนี้ดีกว่า ยิ่งถ้า Violet มีบัพแดงด้วยนะ หนืดยิ่งกว่าอัลติของ Alice ซะอีก ต่อให้ใส่รองเท้าต้านทานสถานะ ก็ยังสโลว์หนักๆ อยู่ดี นี่ยังไม่รวมสกิล 2 ของ Violet ที่มีผลในเรื่องการสโลว์ด้วยนะครับ พูดง่ายๆ ก็คือ Violet สายนี้ จะสโลว์ยับๆ เลยทีเดียว สโลว์หนัก และบ่อยกว่า Sephera ซะอีกนะครับ
ถามว่า Violet สายโรมแบบนี้ ควรหยิบมาเดินคู่กับเมจแบบไหน ก็ต้องตอบว่า ควรจะหยิบมาคู่กับเมจที่เด่นในเรื่องของการสตั้นครับ เพราะจะเห็นได้ว่า Violet มันเก่งในเรื่องการสโลว์อยู่แล้ว แต่ที่มันขาดก็คือ เรื่องของการสตั้น หรือ จับล็อค หรือหยุดเป้าหมาย ซึ่งถ้ามีเมจที่เด่นในเรื่องนี้ ก็จะเล่นเข้าขากับ Violet แล้วโหดมากๆ เช่น Krixi, Diao Chan, Aleister, Raz, Gildur, Ignis, Veera, Natalya, Azzen’Ka, Lorion, Dirak หรือถ้าทีมเรามีสตั้นแล้วจากฮีโร่ตัวอื่น ก็อาจจะเลือกเอาเมจที่มันมีดาเมจต่อเนื่องและน่ารำคาญที่สุดในยุคนี้อย่าง Mganga ก็ได้เช่นเดียวกัน
สรุปง่ายๆ เลยละกัน ถามว่า Violet โรมมิ่ง มันเอามาเล่นได้จริงๆ หรือไม่ ผมก็ต้องตอบว่า ทำได้ครับ ทั้งการเล่นแบบ Solo Rank ตัวคนเดียว หรือ กดเป็นทีม 5 คน ก็หยิบมาเล่นได้เช่นกันครับ แต่เงื่อนไขก็อย่างที่บอกไปแล้ว สั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ คนที่หยิบ Violet มาโรม ฝีมือ “เข้าขั้น” แค่ไหนทั้งเรื่องการใช้สกิลของ Violet เสต็ป/ชั้นเชิง และ ความเก๋าเกมในการ โรมมิ่งให้ทีม มีมากน้อยแค่ไหน ตรงนี้คือ ปัจจัยสำคัญ ส่วนระดับแร็งค์ที่หยิบมาเล่นได้ โดยส่วนตัวพบว่า มันเล่นได้ทุกๆ ระดับนั่นแหละครับ ขึ้นอยู่กับเพื่อนในทีมของเรามากกว่า ส่วนใหญ่ในแร็งค์สูงๆ ที่ดาวเยอะๆ สามารถหยิบ Violet มาโรมได้แน่นอน เพราะมันเล่นง่าย เพื่อนในทีมเป็นงาน และเล่นกันเก่งอยู่แล้ว จึงเข้าใจ และปรับตัวได้ง่าย แต่ในแร็งค์ระดับล่างๆ ถ้าหยิบ Violet มาโรม แล้วไปเจอเพื่อนร่วมทีมที่เล่นไม่เป็น ไม่รู้เรื่อง ก็มีโอกาสแพ้สูง เพราะแร็งค์ในระดับนั้นเค้านิยมบวกกันตรงๆ สู้กันตรงๆ เข้าไฟต์แบบเปิดหน้าวิ่งชนเหมือนสมัยสงครามโรมมันอะไรแบบนั้น ไม่มีชั้นเชิง ทำให้การหยิบตัว Violet มาโรมมิ่ง ที่ต้องใช้เรื่องการเล่นแบบมีชั้นเชิง ไม่มีแท็งค์ในทีม เล่นได้ลำบาก และอาจจะโดนด่าแบบหนักๆ จากเพื่อนร่วมทีมได้ (ส่วนใหญ่เค้าถนัดแต่การเล่นแบบเดิมๆ คือ มีแท็งค์ในทีม แล้วเปิดไฟต์ให้)
ก็พิจารณาเอาตามความเหมาะสมก็แล้วกันนะครับ ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการดราฟตัวของฮีโร่ฝั่งตรงข้ามหรอกนะครับ เพราะ Violet โรมมิ่ง มันสู้ได้หมดอยู่แล้ว แต่ปัญหาจะอยู่ที่การดราฟตัวของฝ่ายเรานี่แหละ ก็ดูเอาตามความเหมาะสมก็แล้วกันนะครับ แต่ผมจะกระซิบบอกไว้นิดนึงว่า Violet โรมมิ่ง ที่แนะนำเนี่ย มันแบกทีมได้นะครับ คือ ถ้าเราเล่นแท็งค์ตัวหนาๆ เลทเกมมา แบกทีมไม่ได้ครับ เพราะไม่มีดาเมจ มีแต่ความแข็งแกร่ง แต่ Violet เซ็ตนี้ที่เอามาโรม แบกทีมได้ เพราะไอเท็มอีก 2 ช่องที่เหลือ เราใส่ไอเท็มดาเมจเพื่อแบกทีมได้ครับ เช่น Muramasa + Fenrir’s Tooth หรือ Claves Sancti ก็ได้ครับ รับรองว่า ดาเมจโอเค ความหนาของตัวโอเค แบกทีมได้แน่นอนครับ MVP แบบสบายๆ เลยล่ะ
