ก่อนหน้านี้ ผมเคยได้ทำการรีวิว Asus ZenPad 10 ไปแล้ว ใน Youtube ซึ่งก็มีหลายคน ติดตาม และส่งข้อความมาสอบถาม เกี่ยวกับรายละเอียดมากมาย ว่าซื้อจากที่ไหน อยากได้บ้าง รวมทั้ง ข้อดี และข้อเสีย ว่ามีอะไรบ้าง อยากได้มาใช้ วันนี้ ผมก็เลยจะมาแนะนำกันแบบเต็มๆ หลังจากใช้งานมานาน เกือบปี ว่าเจ้า ZenPad 10 เครื่องนี้ มันดีหรือไม่ อย่างไร
สเปคของ ZenPad 10
– CPU Intel Moore Quad-core 1.8 GHz
– RAM LPDDR3 2GB
– ROM 16 GB รองรับการเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 128 GB
– กล้องหน้า ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– ระบบปฏิบัติการ ZenUI แอนดรอย 6.0
– Bluetooth 4.0
– รองรับ 4G LTE เล่นเน็ตได้ รับ SMS ได้ แต่โทรออกไม่ได้
จุดเด่น จุดด้อยของ ZenPad 10
สำหรับจุดประสงค์ของผม ในการซื้อ แท็บเล็ต มาใช้งานนั้น ต้องการเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอย ที่มีขนาดไม่เกิน 10 นิ้ว พกพาสะดวก และที่สำคัญ ต้องมี คีย์บอร์ด ที่สามารถใช้งานได้ด้วย ระบบปฏิบัติการ Windows ผมไม่เอาครับ เพราะมีโน๊ตบุ๊คอยู่แล้ว ไม่รู้จะเอามาทำไม ให้มันเยอะแยะ ถ้าใช้เป็นแอนดรอย จะสามารถทำได้ทุกอย่าง ทั้งทำงาน เล่นเกม และดูหนัง ครบถ้วนได้ง่ายๆ ไม่วุ่นวาย
เครื่องเล็ก มีน้ำหนักกำลังดี พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก “ZenPad 10 คือ แท็บเล็ต Android ที่มี บลูธูทคีย์บอร์ด ติดมาให้ด้วย สามารถพิมพ์งาน หรือแชทได้แบบไร้สาย พกพาสะดวก เล่นเกมก็ได้ ดูหนังก็เพลิน”
จุดเด่นจริงๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น การเชื่อมต่อคีย์บอร์ด ที่แสนจะสะดวกสบาย รวมทั้ง ขนาดหน้าจอ และน้ำหนัก ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว โดยรวมแล้ว ตอบโจทย์ความต้องการของผมได้ทุกอย่างครับ
แต่มันก็ไม่ได้ Perfect สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง ไม่มีอะไร ที่ดีไปหมดทุกอย่างหรอกครับ เจ้า ZenPad เครื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน สำหรับจุดด้อย ก็มีดังต่อไปนี้
1. RAM ที่ให้มา น้อยเกินไป อันนี้ มันเป็นอะไรที่ช่วยไม่ได้จริงๆ แต่การใช้งานจริง 2 GB ดูเหมือนจะไม่พอนะครับ ยังมีอาการหน่วงนิดๆ ให้เห็นเหมือนกัน ถ้าจะให้ดี ควรจะให้มา 3 GB ถึงจะเลื่อนที่สุด แต่ถ้าไม่ได้ใช้งานแบบหนักหน่วงอะไรมากมาย โดยรวม มันก็ใช้งานได้ครับ อย่างทุกวันนี้ ผมก็ใช้เล่นเกม ROV โดยปรับโหมดภาพแบบ HD เต็มอัตรา ก็ยังเล่นได้ลื่นดี ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
2. Bluetooth Keyboard ที่ติดมาด้วยนั้น สำหรับรุ่นที่นำมาขายในเมืองไทย เป็นที่น่าเสียดาย ที่ไม่มีลำโพงใส่มาด้วย ( แต่ตัวรูปร่างของคีย์บอร์ด ยังมีรูช่องเสียง เหมือนว่ามีลำโพงใส่อยู่มาให้ ) ไม่เหมือนกับรุ่นที่ขายในต่างประเทศ ที่มีลำโพง ที่มากับระบบเสียง DTS ใส่มาให้ด้วย อันนี้ น่าเสียดายมากครับ แต่ก็อย่างว่า ถ้าเอาลำโพงใส่มาด้วย คงไม่สามารถขายได้ ในราคา 10,990 บาท อย่างแน่นอนครับ มันต้องอัพขึ้นไปอีก เป็น 12,990 อย่างแน่นอน
3. ระบบปฏิบัติการ ไม่เสถียรเท่าที่ควร และดูท่าว่า น่าจะไม่ได้รับการอัปเกรดเป็น แอนดรอย 7.0 อย่างแน่นอน อันนี้ เป็นที่คาใจมากครับ คือ เฟิร์มแวร์เดิมๆ ที่ให้มา ทำงานได้ดีมาก แต่พออัพเกรดไปแล้ว กลับทำให้เครื่องช้าลง คงโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษเจ้า ZenUI ที่ทำมาไม่ดีเท่าที่ควร ทุกวันนี้ ผมจึงไม่อัพเดตครับ ใช้แบบเดิมๆ อย่างที่มากับเครื่องเลย จะดีที่สุดครับ
ข้อเสียที่ว่ามา ถ้ารับได้เหมือนผม ก็ไม่มีปัญหาครับ สามารถซื้อเจ้า ZenPad ตัวนี้ มาใช้งานได้เลย ผมเอง จำเป็นต้องใช้แท็บเล็ต แบบที่มีคีย์บอร์ด เป็นอย่างมาก เพราะผมเป็นบล็อกเกอร์ ที่ต้องมาเขียนบทความแบบนี้อยู่ตลอดเวลา เจ้า ZenPad เครื่องนี้ ช่วยให้ผม สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องพกเจ้า Notebook ติดตัวไปให้หนักอีกต่อไปแล้ว
จากการใช้งานมา เป็นระยะเวลาหลายเดือน สรุปได้เลยครับ ว่ามันดีจริงๆ ไม่พบว่า มีปัญหา เครื่องแฮงค์ หรือว่าค้างแต่อย่างใด ใช้งานได้ลื่นดี เป็นปกติ ส่วนใหญ่ ถ้าผมเบื่อๆ ผมก็จะทำการ ล้างเครื่องใหม่แบบ Factory Reset มันก็เลยมักจะกลับมาทำงานเร็ว เหมือนเมื่อตอนที่ซื้อเครื่องมาใหม่ๆ อยู่เสมอๆ ครับ
สำหรับร้านที่ขาย ณ ตอนนี้ ผมก็เห็นว่า มีแต่ที่ร้านขายมือถือ สมาร์ทโฟน ของ Asus ที่ชั้น 4 ห้างฟอร์จูนทาวน์ เท่านั้นแหละครับ ที่มี นอกนั้น ยังไม่เห็นว่า มีขายครับ ขนาดผมไปถามที่พันทิพย์ ประตูน้ำ หลายๆ ร้าน ยังคงเลยครับ ว่ามีด้วยเหรอ รุ่น ZenPad 10 ที่ว่าเนี่ย ก็อาจจะหายากสักหน่อยนะครับ แต่สำหรับคนชอบ ก็ต้องขวนขวายกันสักหน่อยครับ แต่ถ้าใคร ไม่ชอบคีย์บอร์ด ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นนี้นะครับ ผมแนะนำให้ไปซื้อ Huawei MediaPad M3 ดีกว่าครับ ลื่นกว่าเยอะ แรมก็ให้มาเยอะกว่า ราคาถูกกว่า คุ้มกว่าแน่นอนครับ
