และแล้ว หลังจากที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน เกม ROV ก็ได้มีการปรับแพทช์ใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้จะเป็นการปรับให้เมจในเกม ROV เก่งขึ้น โดยเฉพาะเมจที่ฟาร์มป่าแล้วโหดๆ ไม่ว่าจะเป็น Keera, Zill, Paine พวกนี้จะกลับมาโหดอีกครั้ง ซึ่งรายละเอียดทุกอย่าง ผมได้เขียนอธิบายและวิเคราะห์เอาไว้ให้หมดแล้วใน ข้อมูล ROV แพทช์ใหม่ 20 พ.ค. 64 ซึ่งในเซิฟไทยได้ทำการปรับไปเรียบร้อยแล้วในวันที่ 20 พ.ค. 64 เช่นเดียวกันนะครับ เรียกได้ว่า การปรับสมดุลฮีโร่ครั้งนี้ ทำให้ META ในเกม ROV เปลี่ยนแปลงไปแน่นอนครับ และถือเป็นอีกหนึ่งยุคทองของเมจที่กลับมาอีกครั้งครับ
ข้อมูล ROV แพทช์ใหม่ 20 พ.ค. 64 ยุคทองของเมจกลับมาแล้ว
ในการปรับแพทช์ใหม่ครั้งนี้ จะมีการปรับด้วยกันอยู่ 2 ส่วนนะครับ นั่นคือ การปรับสมดุลในสนามรบ เพื่อช่วยเหลือเมจเลนกลางให้เล่นได้ง่ายขึ้น และไม่จนอย่างที่ผ่านมา และการปรบสมดุลฮีโร่ให้ฮีโร่ประเภทเมจแอสซาซินเก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่เรียกยุคนี้ว่าเป็นยุคทองของเมจ แล้วเราจะเรียกว่าอะไรได้อีกล่ะ จริงมั้ยครับ
การปรับสมดุลในสนามรบ
ทางทีมงานเค้าได้รับรู้ และเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เล่นในตำแหน่งเลนกลางนะครับ ว่าโดนแย่งหรือโดนแบ่งส่วนรายได้จากครีปเลนกลางไปตลอด ดังนั้น ทางทีมงานเค้าเลยปรับให้ครีปในเลนข้างทั้งสองเลน มันเดินเร็วขึ้น ทำให้เวลาที่ครีปจะมาชนกันในเลนกลาง และเลนข้าง จะเท่ากัน ทำให้การเริ่มเกมมาแล้วมารวมกันที่เลนกลาง จะไม่ใช่แนวความคิดที่ดีอีกแล้ว เพราะครีปในเลนข้างจะชนกันในเวลาเดียวกันกับที่ครีปในเลนกลางชนกัน ถ้าออฟเลน หรือ แครี่ ไม่รีบไปเอาครีป ก็จะเสียหายเรื่อง exp และการเงินทันที รวมทั้งมีการปรับให้ครีปในเลนกลางให้แข็งแกร่งขึ้น แต่อ่อนแอกับดาเมจเวทมากๆ เพื่อเอื้อให้เมจสามารถใช้ดาเมจเวทเคลียร์ครีปในเลนกลางได้ดีกว่าฮีโร่ที่ทำดาเมจเป็นกายภาพในเลนข้าง ซึ่งแม้ว่า การปรับแบบนี้จะเอื้อให้พวกที่ทำดาเมจเวทได้เหมือนได้รับบัพทำให้เคลียร์ครีปในเลนกลางได้เร็วขึ้นก็ตาม หากมันส่งผลกระทบมากเกินไป ทางทีมงานเค้าก็จะทำการปรับอีกครั้งครับ ส่วนที่ปรับเพิ่มมาอีกเรื่องก็คือ จะปรับให้มอนสเตอร์ป่ามี HP ที่สูงขึ้นในช่วงต้นเกม เพื่อไม่ให้ตำแหน่งฟาร์มป่ามันรวยเร็วมากเกินไปนั่นเองครับ
ครีปในเลน
ความเร็วเคลื่อนที่ของครีปในเลนข้างทั้งสองเลน เพิ่มขึ้น 280 → 330
ค่า Status ของครีปที่ตีใกล้ถูกปรับเป็น HP 1860 → 1600 แต่เพิ่มเกราะกายภาพเข้าไปอีก 200 หน่วย
ค่า Status ของครีปที่โจมตีระยะไกลถูกปรับเป็น HP 1545 → 1350 แต่เพิ่มเกราะกายภาพเข้าไปอีก 200 หน่วย
มอนสเตอร์ในป่า
ปรับค่า Status ของลิงในหลุมที่อยู่ติดกับเลนกลาง ให้มีความใกล้เคียงกับมอนสเตอร์ในหลุมอื่นๆ
ค่าการเพิ่มขึ้นของ HP ของมอนสเตอร์ป่า ทุกๆ 30 วินาที ปรับเป็น 5.5% → 7.5%
ข้อมูล ROV แพทช์ใหม่ 20 พ.ค. 64 – การปรับสมดุลฮีโร่
Keera (เนิฟ)
Keera เป็นแอสซาซินฟาร์มป่าที่เก่งมากเกินไป ทางทีมงานเลยต้องทำการปรับให้มันเก่งน้อยลงมาหน่อย
อัลติ
ระยะเวลาที่ได้รับการบัพให้วิ่งเร็ว 8 วินาที → 6 วินาที
วิเคราะห์: สำหรับตรงนี้หลายคนอาจจะมองว่า มันเนิฟหนัก แต่บางคนที่เล่น Keera บ่อยๆ ก็อาจจะมองว่า มันเป็นการบัพ เพราะนั่นแปลว่า การรีเซ็ตสกิล 1 และ 2 ของ Keera จะทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง แต่โดยภาพรวมก็คือ ไม่ได้มีผลกับการเล่น Keera เท่าใดนัก เพียงแต่เวลาเล่นก็ต้องปรับระยะตอนกดใช้อัลตินิดนึง เพราะอีกมุมนึงก็คือ มันจะวิ่งได้ในระยะทางที่สั้นลงด้วยเช่นกัน แต่เอาเป็นว่า ยังไง Keera ก็ยังคงเก่งอยู่ดี และอาจจะเก่งขึ้นด้วย จากการปรับแบบนี้ ดังนั้น มันยังต้องโดนแบนอยู่เหมือนเดิมครับ
Thorne (เนิฟ)
ด้วยรูปแบบโครงสร้างสกิลของ Thorne เอื้อให้มันเป็นฮีโร่ในตำแหน่งฟาร์มป่าที่เก่ง ซึ่งทางทีมงานเค้าไม่ได้ตั้งใจหรือออกแบบมาให้มันเป็นแบบนั้น ดังนั้น ทางทีมงานเลยต้องปรับอีกเพื่อบังคับให้ Thorne ออกมายืนเลนให้มากขึ้น ให้มันเหมาะสมที่จะเอามายืนเลนแครี่ มากกว่าที่จะเอาไปฟาร์มป่านั่นเอง
สกิล 1
กระสุนสีเหลือง: 20/30/40% (+4/6/8% ต่อเลเวล) สโลว์เป็นเวลา 1 วินาที → 30/45/60% สโลว์ 0.5/0.75/1 วินาที
กระสุนสีม่วง: ดาเมจสูงสุดที่ทำได้กับ Epic Monster (มังกรใหญ่, มังกรเล็ก, Dark Slayer) ถูกปรับลดลง 300/450/600 → 60/90/120
สกิล 2
กระสุนสีม่วง: ดาเมจสูงสุดที่ทำได้กับ Epic Monster (มังกรใหญ่, มังกรเล็ก, Dark Slayer) ถูกปรับลดลง 300/450/600 → 120/180/240
วิเคราะห์: การปรับแบบนี้ ก็อย่างที่ได้บอกไปแล้ว ทางทีมงานเค้าตั้งใจปรับให้มันเก่งกับการฟาร์มป่าน้อยลง และให้มายืนเลนได้เก่งขึ้น เอาจริงๆ การปรับแบบนี้ ก็ไม่ได้เนิฟความสามารถของ Thorne ลงไปอะไรมากมาย ไม่ได้ส่งผลที่ชัดเจนกับการหยิบ Thorne มายืนเลนแต่อย่างใด มันยังคงยิงใส่คนได้แรงแบบไส้แตกตั้งแต่ช่วงกลางเกมถึงเลทเกมอยู่ดี ดังนั้น เรายังคงต้องแบน Thorne อยู่เหมือนเดิมนะครับ ปล่อยมันหลุดแบนมาไม่ได้ ถึงยืนเลนมันก็ยังคงเก่งอยู่ดีนะครับ
The Joker (เนิฟ)
หลังจากที่มีการ Remake สกิลของ The Joker ไป ก็ทำให้มันเก่งเกินไป ดังนั้น ทางทีมงานเค้าเลยต้องปรับลดระยะการโจมตีของกระสุนพิเศษลงมา
Passive
ระยการยิงของกระสุนพิเศษ: 7.75m → 7.25m
วิเคราะห์: การปรับลดระยะการยิงกระสุนพิเศษของ The Joker แบบนี้ ก็ถือว่า ปรับลดลงมาพอสมควรครับ เพราะเอาจริงๆ 0.5m นี่ก็ถือว่า ไกลอยู่นะครับ ระยะทางแค่ 0.5m อาจจะดูเหมือนน้อย แต่มันเยอะสำหรับแครี่ ก็อาจจะส่งผลกระทบให้การเล่น The Joker ยากขึ้นเล็กน้อยเพราะระยะการยิงกระสุนพิเศษมันสั้นลง แต่ก็นั่นแหละครับ มันไม่ได้โดนปรับเรื่องของดาเมจ ดังนั้น ความแรงของดาเมจที่ The Joker ทำได้ ก็ไม่ได้แตกต่างจากก่อนหน้านี้แต่อย่างใดนะครับ โดยเฉพาะสายคริติคอลที่ใส่รูน Rage ก็ยังคงแรงอยู่เหมือนเดิมครับ
Laville (ปรับสมดุล)
ที่ผ่านมา อัตราการเร่งความเร็วหลังจากที่ Laville กดใช้สกิล 2 มันไม่ชัดเจน ดังนั้น ทางทีมงานเลยทำการปรับให้มันชัดเจนขึ้น และพยายามที่จะจำกัดความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ของ Laville ให้น้อยลง
สกิล 2
อัตราการเร่งความเร็ว : 500ms → 66ms
วิเคราะห์: การปรับแบบนี้ มีผลกับการเล่น Laville พอสมควร คือ ทำให้จังหวะการกดใช้สกิล 2 ของ Laville ไม่พลิ้วและทำให้มันวิ่งเร็วเหมือนแต่ก่อน ก็จะมีผลในจังหวะที่คับขัน หรือจังหวะใช้เพื่อหลบ CC แบบเสี้ยววินาที ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่า มันมีผลพอสมควร แต่ถ้าเล่นไปนานๆ ก็จะปรับตัวได้ แล้วก็จะชินกับมันไปเองครับ ช่วงแรกๆ อาจจะยังรู้สึกไม่ชินและหนืดๆ ไปบ้าง แต่เล่นไปสักพักก็จะดีขึ้นเองครับ
Zanis (เนิฟ)
หลังจากที่ทางทีมงานได้ปรับเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ Zanis ไปแล้ว มันค่อนข้างที่จะเก่งมากเกินไป ก็เลยต้องมีการปรับสมดุลอีกรอบ เพื่อไม่ให้มันเก่งเว่อร์จนเกินไปนั่นเอง
สกิล 1
ปรับลดการสโลว์เป้าหมาย: 50% → 30%
อัลติเมทสกิล
คูลดาวน์: 24/22/20 วินาที → 30/26/22 วินาที
วิเคราะห์: การปรับครั้งนี้ก็ไม่เป็นไปตามโผที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้นะครับ อย่างเช่น Skill 1 ที่ปรับนี่ก็เป็นเรื่องของการสโลว์เป้าหมายนะครับ ไมได้ปรับให้ Zanis วิ่งช้าลงแต่อย่างใด รวมทั้งคูลดาวน์ของอัลติที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงต้นเกมและเลทเกมเล็กน้อย ซึ่งเอาจริงๆ โดยส่วนตัวบอกเลยว่า การปรับเนิฟแค่นี้ของ Zanis ไม่ได้มีผลอะไรเลยครับ เรายังคงหยิบ Zanis มาเล่นได้อย่างสนุกสนานเหมือนเดิมครับ โดยเฉพาะตำแหน่งฟาร์มป่า มันยังเก่ง และโหดเหมือนเดิมครับ แค่สโลว์น้อยลงไปนิดนึง แต่ถ้ามีบัพแดงอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
Moren (บัพ)
ที่ผ่านมา ดาเมจของ Moren มันค่อนข้างที่จะน้อยเกินไป ดังนั้น ทางทีมงานเลยทำการปรับเพิ่มดาเมจของ Moren ให้เพิ่มขึ้นมา
สกิล 1
ดาเมจกายภาพ: 50/55/60/65/70/75 (+0.7 พลังโจมตี) → 50/58/66/74/82/90 (+0.75 พลังโจมตี)
วิเคราะห์: แม้ว่าดาเมจของสกิล 1 จะถูกปรับเพิ่มขึ้นมา แต่ก็เล็กน้อยครับ โดยน้ำหนักของความแรง จะไปอยู่ตอนช่วงเลทเกมอย่างชัดเจนครับ คือ เลทเกมมันจะทำดาเมจได้แรงมากขึ้น แต่ช่วงต้นเกมจะไม่รู้สึกถึงความแรงจากการปรับตรงนี้ Moren จะเก่งขึ้น แต่เป็นตอนเลทเกมนะครับ
Qi (บัพ)
หลังจากที่มีการปรับไปครั้งก่อน มันไม่ได้ส่งผลให้ Qi เก่งขึ้นอย่างที่ทางทีมงานเค้าได้คาดหวังเอาไว้ ดังนั้น จึงต้องมีการปรับเพิ่มดาเมจ และในส่วนของโบนัสดาเมจเพิ่มเติม เพื่อทำให้ Qi ทำดาเมจในช่วงเลทเกมได้แรงขึ้นแบบเห็นผลที่ชัดเจน
สกิล 1
ดาเมจกายภาพ: 300/375/450/525/600/675 (+0.55 พลังโจมตี) → 300/375/450/525/600/675 (+0.65 พลังโจมตี)
สกิล 2
ดาเมจกายภาพ: 120/150/180/210/240/270 (+0.25 พลังโจมตี) → 120/150/180/210/240/270 (+0.35 พลังโจมตี)
อัลติเมทสกิล
ดาเมจพื้นฐาน: 300/450/600 (+0.45 พลังโจมตี) → 330/495/660 (+0.6 พลังโจมตี)
ดาเมจจากการโจมตีครั้งที่ 2: 200/300/400 (+0.25 พลังโจมตี) → 220/330/440 (+0.3 พลังโจมตี)
วิเคราะห์: ชัดเจนเลยว่า เป็นการปรับให้ Qi เก่งขึ้นในช่วงเลทเกมจริงๆ คือ เป็นการปรับตัวคูณดาเมจ ดังนั้น ในช่วงต้นเกมอาจจะยังไม่รู้สึกอะไร ต้องเริ่มมีไอเท็มโจมตีสัก 2-3 ชิ้นก่อน จะเริ่มเห็นผลในเรื่องของความแรงแน่นอน ดาเมจจะแรงขึ้นแบบชัดเจนเลยทีเดียวในช่วงเลทเกมครับ
Gildur (เนิฟ)
ในตำแหน่งซัพพอร์ต Gildur มันยิงสกิลแล้วทำดาเมจเวทแรงเกินไป ทางทีมงานเลยต้องทำการปรับค่า Status เพื่อให้มันมีค่าที่ต่ำกว่าแท็งค์ตัวอื่นๆ ในเกม เพื่อลดอัตราการหยิบ Gildur มาเล่นในตำแหน่งซัพพอร์ตนั่นเอง
ค่า Status พื้นฐาน
ค่าเกราะกายภาพ: 160 → 148
อัตราการเพิ่ม HP ต่อเลเวล: 380 → 350
อัตราการเพิ่มเกราะต่อเลเวล: 29 → 25
วิเคราะห์: ชัดเจนแล้วว่า เค้าต้องการปรับให้ Gildur มันตัวบางกว่าแท็งค์ตัวอื่นๆ คือ เค้าไม่ได้ปรับลดดาเมจเวทของ Gildur เวลาที่เล่น Gildur ซัพพอร์ตสายเวท แต่ปรับให้ตัวมันบางลง เพื่อให้เกิดทางเลือกกับผู้เล่นว่า ถ้าอยากจะเล่น Gildur สายเวท ก็ต้องรับความเสี่ยงที่ตัวมันจะบางเฉียบเลยนะ แต่ถ้าจะเล่นสายแท็งค์ ก็ต้องออกไอเท็มป้องกันมาช่วย ไม่งั้นเกราะกายภาพ มันจะไม่เพียงพอสำหรับยืนค้ำหรือยืนไฟต์ได้นะ ก็เหมือนกับเป็นการเนิฟทำให้ผู้เล่นไม่อยากที่จะหยิบ Gildur มาโรมให้ทีมอีกแล้วนั่นเอง
Lu Bu (เนิฟ)
เมื่อ Lu Bu มันเป็นฮีโร่ที่เก่งเกินไป ทางทีมงานเลยต้องปรับให้มันเก่งน้อยลงนิดนึง
อัลติเมทสกิล
คูลดาวน์: 30 วินาที → 42/36/30 วินาที
การต้านทานสถานะ: 30/40/50% → 25%
วิเคราะห์: การปรับแบบนี้ทำให้ Lu Bu เก่งน้อยลงนิดนึงครับ คือ ในเรื่องของการลดอัตราการต้านทานสถานะ ก็มีผลเล็กน้อยครับ เพราะเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่เราก็ใส่รองเท้ากันเวท Gilded Greaves ให้กับ Lu Bu อยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อเอาค่าการต้านทานสถานะมารวมกับอัลติ มันก็ได้อยู่ที่ 60% พอดี คือ อัตราการต้านทานสถานะที่สูงที่สุดในเกม ROV อยู่แล้ว ดังนั้น ตรงนี้ ไม่ได้มีผลอะไรมากมายครับ มีผลกับการเล่น Lu Bu ที่ใส่รองเท้า Sonic Boots เท่านั้น แต่ตรงนี้มันมีเหตุผลครับ เพราะปัจจุบันนี้ มีคนหยิบสกิลชาเลนเจอร์อย่าง Roar มาใส่ให้กับ Lu Bu มากขึ้น ดังนั้น หากเราต้องการเล่น Lu Bu สายรองเท้า Sonic Boots ก็ต้องใช้สกิลชาเลนเจอร์ Roar ร่วมกับพลังแฝง Bone Cutter ก็จะทำให้ได้ค่าการต้านทานสถานะตอนกดใช้อัลติอยู่ที่ 60% เหมือนเดิมครับ แต่เอาจริงๆ แค่ใส่รองเท้ากันเวทชิ้นเดียว ก็เหลือเฟือแล้วครับ ไม่ต้องไปปรับอะไรให้ยุ่งยากหรอกนะครับ
ส่วนการปรับเพิ่มคูลดาวน์ของอัลติ อันนี้มีผลแน่นอนครับ มีผลทำให้การเล่น Lu Bu จะเข้าไฟต์ได้ช้าลง ขาดความต่อเนื่อง ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน และจำเป็นต้องพึ่งพาไอเท็มลดคูลดาวน์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ก็ต้องปรับสเต็ปการเล่นกันเอานะครับ แต่โดยภาพเรา เราก็ยังหยิบ Lu Bu มาฟาร์มป่า แล้วโหดเหมือนเดิมครับ Lu Bu หยิบไปเล่นในตำแหน่งไหนก็โหดอยู่ดีครับ
Kriknak (บัพ)
การใช้ Kriknak ฟาร์มป่าในปัจจุบันหลังจากที่ Soulreaver โดนเนิฟให้ดูดเลือดไม่ได้ ก็ค่อนข้างที่จะลำบากสำหรับ Kriknak ดังนั้น ทางทีมงานเค้าเลยต้องปรับให้มันดูดเลือดจากครีปป่าได้
สกิล 2
ได้รับการฟื้นฟูเมื่อโจมตีใส่ฮีโร่: 190/230/270/310/350/390 (+0.6 โบนัสพลังโจมตี) → 250/300/350/400/450/500 (+1.2 โบนัสพลังโจมตี) และเป้าหมายหลายๆ ตัวจะไม่ถูกสะสมเพิ่มเติมหรือนับรวม
ปรับเพิ่มให้ฟื้นฟู HP ได้เมื่อโจมตีใส่สิ่งที่ไม่ใช่ฮีโร่: 125/150/175/200/225/250 (+0.6 โบนัสพลังโจมตี) และเป้าหมายหลายๆ ตัวจะไม่ถูกสะสมเพิ่มเติมหรือนับรวม
เมื่อโจมตีใส่เป้าหมายที่เป็นทั้งฮีโร่และไม่ใช่ฮีโร่พร้อมๆ กัน ก็จะได้รับการฟื้นฟูทั้งสองแบบพร้อมๆ กันด้วย
วิเคราะห์: การบัพแบบนี้ จะทำให้ Kriknak เก่งขึ้นครับ คือ ฟาร์มในป่าได้ง่ายขึ้น และเล่นง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะสามารถฟื้นฟู HP ให้กับตัวเองได้โดยไม่ต้องกลับบ้าน คือ ฟื้นฟูกับครีปเลน หรือครีปป่าได้เลย แบบนี้เราก็คงจะได้เห็น Kriknak หวนคืนสู่ตำแหน่งฟาร์มป่าเหมือนเดิมแน่นอนครับ
Zill (บัพ)
ที่ผ่านมาแม้ว่า Zill จะเป็นตัวฟาร์มป่าที่เก่ง แต่มันยากที่จะจบเกมได้ เพราะช่วงเลทเกมค่อนข้างที่จะเล่นยาก และทำดาเมจได้ไม่เพียงพอที่จะฆ่าพวกแท็งค์ตัวหนาๆ ได้ ดังนั้น ทางทีมงานเค้าเลยทำการปรับให้ Zill มันเก่งขึ้น เพื่อให้สามารถเอาชนะพวกแท็งค์ในช่วงเลทเกมได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
Passive
ดาเมจจากการโจมตีปกติ: 40 (+10 ต่อเลเวล) → 60 (+10 ต่อเลเวล)
ดาเมจเมื่อทำการโจมตีครบ 3 ครั้ง และระเบิดขึ้น : 150 (+30 ต่อเลเวล) (+0.4 พลังเวท) → 8% ของพลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมาย +1% ต่อ 200 พลังเวท
อัลติเมทสกิล
ระยะเวลาคูลดาวน์: 40/36/32 วินาที → 40/32/24 วินาที
วิเคราะห์: การปรับแบบนี้ ก็เหมือนเป็นการปรับให้ช่วงเวลาที่ Zill จะเก่งนั้น เปลี่ยนไป คือ จากเดิมที่เก่งตอนต้นเกมถึงกลางเกม ก็ปรับมาเป็น เก่งตอนกลางเกม ถึงเลทเกม และฟันแท็งค์เข้าเนื้อแน่นอน ตรงนี้ก็จะทำให้การเล่น Zill นั้น สนุกมากขึ้น และย้ำอีกครั้งว่า การปรับแบบนี้ จะทำให้มันเก่งขึ้นในช่วงกลางเกมถึงเลทเกมนะครับ ต้นเกมจะห้าวเหมือนแต่ก่อนไม่ได้นะครับ มีโอกาสร่วงเอาได้ง่ายๆ นะ
Paine (บัพ)
หลังจากที่ได้ทำการแก้ไขดาเมจที่เป็นบัคของอัลติ Paine ก็ทำให้ Paine กลับคืนสู่สังเวียนได้ แต่ทางทีมงานเค้ายังไม่พอใจ เลยปรับเพิ่มให้ Paine มันเก่งขึ้นกว่านี้อีก
สกิล 2
ดาเมจเวท: 300/350/400/450/500/550 (+0.35 พลังเวท) → 350/400/450/500/550/600 (+0.4 พลังเวท)
อัลติเมทสกิล
ดาเมจเวท: 600/800/1000 (+1.0 พลังเวท) → 750/1000/1250 (+1.25 พลังเวท)
วิเคราะห์: การปรับแบบนี้ ทำให้ Paine ดาเมจแรงขึ้นแบบเห็นผลตั้งแต่ต้นเกมเลยนะครับ คือ หยิบมาเล่นในตำแหน่งไหนก็โหดแน่นอน ดังนั้น ต่อไปนี้ เราจะได้เจอกับ Paine บ่อยขึ้นแน่นอน ทั้งตำแหน่งเลนกลาง และตำแหน่งฟาร์มป่า ดาเมจแรงขนาดนี้ ไม่เล่นได้ยังไง
Lauriel (เนิฟ)
หลังจากการปรับแพทช์ในครั้งที่แล้ว Lauriel มันเก่งขึ้นจากการที่มีสกิลชาเลนเจอร์ Roar จริงๆ ดังนั้น ทางทีมงานเลยต้องปรับลดความเก่งของ Lauriel ลงไปสักหน่อย
Passive
ความเสียหายจริง : 160 (+5 ต่อเลเวล) (+0.64 พลังเวท) → 140 (+5 ต่อเลเวล) (+0.55 พลังเวท)
วิเคราะห์: การปรับลดความเสียหายจริงของ Lauriel แบบนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ Lauriel เก่งน้อยลงอะไรมากมายนะครับ มันยังคงเก่งและสามารถละลายแท็งค์ได้เหมือนเดิมครับ ดาเมจจริงอาจจะเบาลงไปบ้างเล็กน้อย แต่โดยภาพรวม เราก็ยังสามารถหยิบ Lauriel มา Counter กับพวกแอสซาซิน หรือ เอามาละลายแท็งค์ได้สบายๆ อยู่นะครับ
จะเห็นได้ว่า จากที่ผมได้ทำการสรุปและวิเคราะห์ ข้อมูล ROV แพทช์ใหม่ 20 พ.ค. 64 มาจนถึงตรงนี้ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า มันเป็นยุคทองของเมจแอสซาซินจริงๆ นั่นก็คือ เมจแอสซาซินอย่าง Keera, Zill, Paine เก่งขึ้นจริงๆ และครีปในเลนก็แพ้ดาเมจเวทอย่างหนัก นั่นจะส่งผลให้ การหยิบเมจแอสซาซินมาฟาร์มป่า จะรวยเร็วมากขึ้นด้วยการมาเอาครีปในเลนบ่อยๆ และด้วยดาเมจเวทที่รุนแรงมากขึ้นจากการบัพอยู่แล้ว และยังมารวยเร็วเพราะได้ครีปในเลนบ่อยๆ นั่นจะทำให้เมจแอสซาซินพวกนี้ ติด META และกลายเป็นตัวอันตรายประจำแพทช์นี้อย่างแน่นอน บอกเลยว่า แครี่ ในแพทช์นี้ เล่นยากมากๆ อย่างแน่นอนครับ ยืนลำบากสุดๆ เพราะตัวล้วงที่เป็นเมจแอสซาซินพวกนี้ เข้าง่าย ออกง่าย และ Burst Damage ชุดเดียว หายวับไปกับตาแน่นอน
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
ข้อมูลแปลจาก https://moba.garena.tw/news/show/3092
