หลังจากรีแร็งค์และเข้าสู่ ROV ซีซั่น 11 กันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่า หลายคน ก็คงจะได้มีโอกาสหยิบเจ้า Hayate มาเล่นกันมากขึ้น ในแร็งค์ระดับต่ำกว่า Diamond หรือ บางทีก็มีหลุดในแร็งค์ไดม่อนขึ้นไปได้เช่นกัน เพราะมีฮีโร่ให้แบนมากขึ้นอย่าง Zip เป็นต้น ดังนั้น ก็มีหลายคน ที่ยังงงๆ อยู่ว่า แล้วแครี่อย่าง Hayate ควรจะต้องจัดพลังแฝงเป็นแบบไหนถึงจะดี ถึงจะเข้ากับแนวทางการเล่นของ Hayate ได้มากที่สุด เพราะจะว่าไปแล้ว พลังแฝง Hayate ROV ก็ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากแครี่ตัวอื่นๆ พอสมควร ดังนั้น เพื่อความเข้าใจ เดี๋ยวผมจะมาอธิบายอย่างละเอียด ให้ทุกคนเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดระบบพลังแฝงมากขึ้นด้วยไปในตัวเลยทีเดียว
พลังแฝง Hayate ROV ต้องจัดแบบไหน ถึงจะเข้ากับสกิลของ Hayate มากที่สุด?
ก่อนอื่นเลย เราก็ต้องเลือก พลังแฝงสายหลัก สำหรับ Hayate กันซะก่อน ซึ่ง Hayate เป็นแครี่ ดังนั้น พลังแฝงสายหลัก ก็ต้องเป็น Veda อยู่แล้วครับ มันถึงจะเหมาะสม และเข้ากันได้มากที่สุด แต่ถามว่าจะดัดแปลงเอาสายสีแดงอย่าง Lokhiem มาเป็นสายหลักได้มั้ย? ตอบเลยว่า ได้ครับ แต่อันนั้น เดี๋ยวจะงงไปกันใหญ่ ขั้นต้น เอาที่ถูกต้องตามหลักการก่อนนะครับ อันนั้นมันเป็นขั้นประยุกต์ ที่ต้อง Advance ขึ้นไปอีก
ทีนี้ พอเราได้พลังแฝงสายหลักของ Hayate ซึ่งก็คือ สายสีเหลือง หรือ Veda ต่อมา เราก็ต้องทำการเลือกพลังแฝง ทั้ง 3 ขั้น ของสายสีเหลือง ที่มันจะเข้ากับรูปแบบการเล่น และสกิลของ Hayate กันทีละขั้นตอนกันเลยครับ
สำหรับขั้นแรกของสายหลัก (สีเหลือง) สำหรับ Hayate ถ้าดูจากตัวเลือก แน่นอนเลยว่า เราต้องเลือกเป็น เพิ่ม DMG อย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็คือ Axe of Sacrifice เพราะมันจะเพิ่มความเสียหายให้กับ การโจมตีของ Hayate และแม้ว่า จะได้รับความเสียหายแรงขึ้นด้วยพร้อมๆ กัน แต่ประเด็นคือ Hayate มันต้องใช้การโจมตีจากระยะไกล เพื่อตอดศัตรูอยู่แล้ว ดังนั้น มันไม่สมควรที่จะโดนโจมตีอยู่แล้วครับ ถ้ายังโดนโจมตีอยู่ แสดงว่า เรายังกะจังหวะในการออกไปกดใช้สกิล 1 เพื่อตอด HP ของศัตรูได้ไม่ดีพอแล้วล่ะครับ อันนี้ไม่ใช่ปัญหาที่พลังแฝง แต่เป็นปัญหาที่ Skill Play ของตัวผู้เล่นแล้วนะครับ
สกิลอัลติเมทของ Hayate ไม่จำเป็นต้องลดคูลดาวน์มากๆ เพราะมันไม่ได้มีโอกาสให้ใช้อัลติได้ง่ายๆ และตลอดเวลา จังหวะมันต้องสวย เหมาะสม และปลอดภัยจริงๆ ถึงจะใช้ได้ ดังนั้น ตัวเลือกของการลดคูลดาวน์จึงตัดออกไปได้ครับ ส่วนเรื่องการฟื้นฟู MP ก็ตัดออกไปได้จากตัวเลือกของพลังแฝงขั้นแรกของสายสีเหลืองได้เลย เพราะ Hayate ไม่ได้ใช้ มานา ในการใช้สกิลนั่นเองครับ
สำหรับขั้นที่ 2 ของสายหลัก สายสีเหลือง เราจะเน้นไปที่ อัตราคริติคอลครับ เพราะความเสียหายจริง ที่ Hayate ทำได้ สามารถติดคริติคอลได้ ดังนั้น เราจึงควรเน้นคริติคอล มากกว่า การเจาะเกราะครับ แต่ถ้าในเซ็ตไอเท็มของ Hayate คุณไม่ออกดาบคริเลย ไม่ว่าจะเป็น Slikk’s Sting หรือ Claves Sancti ผมบอกเลยว่า คุณต้องปรับใหม่ ไปใช้พลังแฝง เจาะเกราะแทนนะครับ สำหรับขั้นที่ 2 นี้ เพราะ Blessing มันเน้นที่การเพิ่มคริ ตามเปอร์เซ็นต์ของไอเท็มคริติคอลที่สวมใส่ แต่ถ้าคุณไม่ใส่ไอเท็มคริเลย ก็อย่าเลือก Blessing มาใช้เด็ดขาดครับ
สำหรับขั้นที่ 3 หรือขั้นสูงสุด มันต้องเป็น Holy Thunder อย่างเดียวอยู่แล้วครับ เพราะการโจมตีของ Hayate จะเหมือนกับเป็นการตอด หรือ การ Poke Skill ใส่ศัตรู เพียงแต่มันจะโดนหลายครั้งหน่อย ดังนั้น เพื่อให้มันเหมาะสมที่สุด จึงควรใช้ Holy Thunder จะทำให้มีดาเมจเวท แถมติดไปโดนศัตรูด้วยเสมอครับ มีผลมากๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเกมมาเลยนะครับ และดาเมจเวทนี้ มีผลกับคู่ต่อสู้ในเลน ที่เป็นแครี่เหมือนกันแน่นอนครับ เพราะแครี่ไม่นิยมออกไอเท็มกันเวท อยู่แล้ว โดนดาเมจเวทที่แถมไปจาก Holy Thunder สัก 2 – 3 ครั้ง กลับบ่อได้แน่นอนครับ
ส่วนเรื่องของ สกิลที่เพิ่มเกราะ หรือ เพิ่ม DMG อย่าง Sacred Protection หรือ Holy Summoner ที่ถือเป็นขั้นสูงสุดของ สายสีเหลือง หรือ Veda เช่นเดียวกัน มันไม่เหมาะกับ Hayate ครับ เพราะ Hayate ไม่ได้ยิงเร็ว หรือ ยิงรัวๆ แบบต่อเนื่องใส่ศัตรู จนสามารถเรียกแฟรี่ออกมาช่วยยิงได้ คือ เรียกออกมาได้ แต่ไม่รู้จะไปยิงอะไร เพราะสไตล์ Hayate คือ เข้าไปยิงตอดด้วยสกิล 1 แล้วออกมาเลย ไม่ยืนแช่ยิงนานๆ แต่ใช้ความพลิ้ว หรือการเพิ่มเกราะ และให้เวทแวมไพร์ มันก็ไม่เหมาะสำหรับ Hayate ที่โจมตีเป็นดาเมจกายภาพอยู่แล้วครับ ดังนั้น ตัวเลือกสำหรับ Hayate จึงมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ Holy Thunder เท่านั้นครับ
สำหรับพลังแฝงสายรอง ของ Hayate นั้น เนื่องจาก ตัวของมัน มีหน้าที่เป็นตัวทำดาเมจให้กับทีมจากระยะไกล และมีความพลิ้วไหวในตัวเอง ว่องไวอยู่แล้ว ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องใช้สายสีเขียว แบบแท็งค์ หรือ สายสีฟ้า Human เข้ามาช่วยเลยครับ พลังแฝงสายรอง จึงควรเป็นสายสีแดง Lokheim ที่เน้นไปที่การเพิ่มพลังโจมตีและดาเมจให้กับ Hayate มากขึ้นไปอีกซะมากกว่า เวลาตอดทีนึง มันจะได้แรงๆ ยังไงล่ะครับ
สำหรับพลังแฝงสายรองขั้นที่ 1 อันแรก ก็ควรจะเป็น Raging Inferno ครับ เป็นการเพิ่มความเสียหายเวท ต่อเนื่อง เพิ่มเติมเข้าไปอีก เมื่อรวมกับ Holy Thunder จะยิ่งทำให้ดาเมจเวทที่เกิดขึ้นจากการตอดของ Hayate มันรุนแรงมากขึ้นไปอีกนั่นเองครับ
สำหรับ Shadow Blade แม้ว่าจะมีรูปแบบการทำงาน หรือ Mechanism ที่สามารถเอามาใช้กับ Hayate ได้ แต่มันก็ไม่เหมาะครับ ส่วน Devourer นั้น มันก็ดี แต่มันการันตีไม่ได้ครับ ว่า Hayate จะได้ฆ่า หรือช่วยฆ่าตอนไหน ดังนั้น เอาที่มันชัวร์ๆ และส่งผลตั้งแต่เริ่มเกมเลยดีกว่า นั่นคือ Raging Inferno ที่ช่วยเพิ่มดาเมจเวท ให้กับการโจมตีของ Hayate ตั้งแต่เลเวล 1 ไปเลย อันนี้ได้ใช้งานแน่ๆ และเห็นผลชัดเจน
ส่วนพลังแฝงสายรอง ช่องที่สอง เราก็เลือกสายสีแดง หรือ Lokheim อีก แต่เป็นขั้นที่สอง ซึ่งมีตัวเลือกระหว่าง ต้านสถานะ กับ เพิ่มดาเมจ แน่นอนว่า เราต้องเลือกเป็นเพิ่มดาเมจอยู่แล้ว นั่นคือ Deadly Claw ที่จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้กับ Hayate ไปเลย 12 – 40 หน่วย ตามเลเวลของ Hayate นั่นเองครับ
จะเห็นได้ว่า พลังแฝง Hayate ROV นั้น เราจะเน้นไปที่เรื่องของการ ทำดาเมจมากกว่า และเป็นการทำดาเมจแบบเพิ่มเติมเข้ามา โดยเป็นดาเมจเวท ที่เกิดจากการโจมตีด้วยสกิล หรือ การโจมตีปกติ เพื่อให้มันเข้ากับแนวทางการเล่น Hayate ที่ต้องใช้สกิลตอดศัตรูเรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ใช่การยืนขาตายยิงรัวๆ ใส่ศัตรู ดังนั้น ก็ต้องมีการปรับพลังแฝง ให้มันเข้ากับหลักการใช้สกิลของฮีโร่ที่เล่นด้วย อย่าง Hayate ก็ต้องใช้แบบนี้แหละครับ เท่ากับว่า มันจะเป็นแครี่ ที่ทำความเสียหายได้ 3 อย่าง พร้อมกันในเวลาเดียวกัน ได้แก่ ความเสียหายจริง ความเสียหายเวท และความเสียหายกายภาพ ส่วนสัดส่วน อันไหนมากกว่า น้อยกว่า ก็ไม่สำคัญครับ เอาเป็นว่า โดนแบบนี้เข้าไป ก็ป้องกันได้ยากอยู่ล่ะครับ ยิ่งเลทเกม ยิ่งเห็นผลชัดเจน ในเรื่องของ ดาเมจที่ได้จากพลังแฝงเซ็ตนี้นะครับ
อ่านจบแล้วอย่าลืมแวะเข้ามาพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
