วิธีเล่น Solo Rank ในเกม ROV ให้มีโอกาสชนะมากที่สุด ในแพทช์ปัจจุบัน เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน

ไม่ว่าจะผ่านเวลามานานแค่ไหน คนที่ยังคงเล่นเกม ROV แบบ Solo ตัวคนเดียวก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนมากอยู่เหมือนเดิม บางคนเล่น Solo คนเดียวมาปีนึงบ้าง 2 ปีบ้าง หรือ 3 ปีบ้างก็ยังมี คือ เล่นอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีทีมประจำ กด Solo ให้ระบบสุ่มเพื่อนร่วมทีมมาให้ตลอด บางคนก็ชิน บางคนก็ชอบ บางคนก็เบื่อ บางคนท้อ บางคนลบเกมทิ้งไปปีนึงแล้วก็กลับมาเล่นใหม่ มีหลากหลายอารมณ์ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีในแง่บวก หรือ ผลลัพธ์ที่ดีเลย ส่วนใหญ่จะลำบากมากๆ กว่าจะได้มาแต่ละดาว ที่สำคัญในปัจจุบันอัตราการชนะของการ Solo มันต่ำลงมากๆ ถ้าใครที่ Solo มาตลอด ก็จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของการเล่นในปัจจุบันว่า อัตราการชนะจากการกด Solo Rank ตัวคนเดียว มันมีน้อยลงมากๆ แต่ก็ไม่มีทางเลือกจะไปเล่นแบบเป็นทีมได้ เพราะไม่มีทีม แบบนี้จะทำยังไงดี? วันนี้ผมมี วิธีเล่น Solo Rank ในเกม ROV แบบที่จะช่วยทำให้คุณมีโอกาสชนะมากขึ้นมาแนะนำกันครับ

วิธีเล่น Solo Rank ในเกม ROV ให้มีโอกาสชนะมากขึ้น

หลายคนอาจจะมองว่า การ Solo Rank มันคือ การเสี่ยงดวง ซึ่งมันก็ถูกต้องตามนั้นครับ แต่บางคนก็อาจจะมองว่า มันพอจะกำหนดทิศทางหรือความน่าจะเป็นได้นะ ด้วยการกำหนดเวลาที่เราจะเลือกเข้าไปเล่นแบบ Solo Rank ว่าควรกดเล่นตอนกี่โมง ถึงจะมีโอกาสเจอผู้เล่นที่มีคุณภาพ ก็นานาจิตตังกันไปครับ แต่เอาที่แน่ๆ ชัวร์ๆ เลยก็คือ ไม่ว่าจะกดตอนกี่โมง หรือ เสี่ยงดวงมาแบบไหน สุดท้ายคุณต้องใช้หลักการเล่นทั้ง 5 ข้อนี้ เหมือนกันหมดแน่นอนครับ

1. เลือกเล่นในตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจหลักของทีม

คำว่า ตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจหลักของทีม ก็คือ ตำแหน่งทั้ง 3 นี้ ได้แก่

เมจ
แครี่
ฟาร์มป่า

เรียงตามลำดับเลยนะครับ โดยเฉพาะเมจ ยกให้เป็นตำแหน่งที่คนเล่น “เป็นงาน” ต้องหยิบมาเล่นกันเป็นอันดับแรกเลยครับ เพราะคนที่เล่นเมจ “เป็นงาน” จริงๆ มีน้อยมากๆ เพราะเมจมีผลกับการเดินเกมตั้งแต่เริ่มต้นเกมมาเลยนะครับ ถ้าเมจเดินเกมเป็น จะไปแก๊งค์ในเลนข้าง และฆ่าได้ตั้งแต่ต้นเกมแน่นอนครับ เพราะดาเมจเวทของเมจในช่วงต้นเกมสำคัญต่อการเล่นของทีมเป็นอย่างมาก ถ้าอยากจะฆ่าแท็งค์ให้ได้ หรือ ฆ่าพวกออฟเลนตัวโกงๆ ให้ได้ตั้งแต่ต้นเกม หรือต้องการจะเวดป่า ก็ต้องใช้เมจนี่แหละครับ เป็นตัวทำดาเมจหลักของทีม

แต่ถ้าตำแหน่งเมจมีคนแย่งไปเล่นแล้ว เราก็ต้องเล่นในตำแหน่งแครี่ครับ ตำแหน่งนี้สำคัญมากๆ เพราะคนที่เล่น “แครี่” เป็นงานจริงๆ มีน้อยมากๆ มักจะมีแต่มือใหม่หัดเล่นที่มาแย่งเล่นในตำแหน่งแครี่กันทั้งนั้น เพราะคิดว่า แครี่มันเล่นง่าย ยืนยิงยังไงก็ชนะ แต่เค้าลืมคิดไปว่า เวลาที่เล่นจริงๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น และมันไม่ได้มีโอกาสยืนยิงฟรีขนาด อย่าลืมว่า แครี่ นี่คือเป้าหมายอันดับหนึ่งของพวกตัวล้วงเลยนะครับ ไม่ว่าใครก็จ้องที่จะเข้ามาล้วง หรือเข้ามาฆ่าแครี่ก่อน เพราะตัวมันบางที่สุด และสำคัญที่สุดกับทีม ถ้าแครี่ตาย ก็ขาดคนยิงสนับสนุน อย่างที่ผมได้เขียนไปในบทความที่แล้วที่เป็นการ สอนเล่น Wukong ว่าให้ล้วงแครี่ก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้น อย่าคิดว่า แครี่ เป็นตำแหน่งที่หมูๆ ใครๆ ก็เล่นได้นะครับ ถ้าคิดแบบนั้น แสดงว่า คุณยังไม่เข้าใจหลักการเล่นในตำแหน่งต่างๆ ของเกม ROV ดีพอนะครับ

สรุปง่ายๆ ก็คือ ตำแหน่งหลักที่เป็นตัวทำดาเมจหลักของทีม ทั้ง 3 ตำแหน่งนี้ คุณต้องเล่นครับ อย่าไปเล่น ออฟเลน อย่าไปเล่น ซัพพอร์ต เพราะตำแหน่งพวกนั้นมันไม่มีดาเมจมากเพียงพอที่จะแบกทีมได้นะครับ อันนี้ว่ากันตามข้อมูลในแพทช์ปัจจุบันเลยนะครับ ถ้าเป็นสมัยก่อน ย้อนไป 4-5 ซีซั่นที่แล้ว ต้องเล่นโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต เพราะคนเล่นเป็นมีน้อยครับ แต่สมัยนี้ คนเล่นซัพพอร์ตมั่วๆ มีเยอะ แต่ก็พอไปได้ เพราะมีไอเท็มซัพพอร์ตแบบที่เหมาะสมเข้ามาช่วย แต่ในทางกลับกัน คนที่เล่น “เป็นงาน” ในตำแหน่ง เมจ กับแครี่ ที่มา Solo มีน้อยลงมากๆ ดังนั้น ถ้าเราเล่นในตำแหน่ง เมจ แครี่ และ ฟาร์มป่า จะทำให้ทีมเรามีโอกาสชนะสูงแน่นอนครับ อันนี้พูดถึงว่า ตัวเราเองเล่น “เป็นงาน” อยู่แล้วในตำแหน่ง แครี่ และเมจ นะครับ แต่ถ้าเล่นไม่เป็นจริงๆ ก็ไปเล่นตำแหน่งที่ตัวเองถนัดเช่น ซัพพอร์ต หรือ ออฟเลน ต่อไปนะครับ

อย่าให้คนที่ไม่เป็นงาน มาเล่นในตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจหลักของทีม เราควรจะเล่นตำแหน่งพวกนี้เองจะดีกว่า การันตีชัยชนะได้ชัวร์ๆ

2. เลือกฮีโร่ที่เล่นง่าย อย่าหยิบตัวที่เงื่อนไขเยอะๆ มาเล่น

การเล่นแบบ Solo ตัวคนเดียว จะต้องเลือกใช้ฮีโร่ที่เล่นง่าย ฮีโร่พื้นๆ ที่คนในทีมจะเข้าใจวิธีการเล่นร่วมกันได้ง่ายๆ อย่าเลือกฮีโร่ที่มีเงื่อนไขเยอะๆ หรือกดใช้สกิลได้ยากๆ เพราะฮีโร่พวกนั้นมันเท่ห์ แต่มันไม่ได้เก่งสำหรับการ Solo เพราะถ้าเพื่อนร่วมทีมแจกเยอะ หรือ เงื่อนไขไม่สอดคล้อง จะทำดาเมจอะไรไม่ได้เลยนะครับ และกลายเป็นโดนกดดันจนไม่สามารถเล่น หรือ ใช้สกิลอะไรที่มันเท่ห์ๆ อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ได้เลยนะครับ ยกตัวอย่างเช่น Zata, Florentino, Mganga และฮีโร่ตัวอื่นๆ อีกหลายตัว พวกนี้เงื่อนไขในการเล่นมันเยอะครับ ต้องทำให้ครบตามเงื่อนไขดาเมจมันถึงจะแรง ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้น เค้าก็จ้องจะรอให้เรากดใช้สกิลพลาด หรือเค้าก็เลือกฮีโร่ที่จะมาแก้ทาง และทำให้พลาด ก็จะทำให้คุณเล่นอะไรไม่ได้แล้ว

ดังนั้นควรเล่นฮีโร่ที่มันง่ายๆ พื้นๆ แต่มีประสิทธิภาพสูงมากๆ จะดีกว่า เล่นง่าย แต่แรง แล้วก็ชัวร์ เช่น Tel’Annas, Krixi, Omen พวกนี้เล่นง่าย ดาเมจแรง กดใช้สกิลพลาดยาก และคอมโบสกิลต่อกับเพื่อนได้ง่าย เพราะเพื่อนในทีมก็คุ้นเคยกับฮีโร่พื้นๆ พวกนี้ดีอยู่แล้ว ปรับจูนสไตล์การเล่นเข้าหากันได้ง่าย

เล่นฮีโร่ตัวที่ใช้สกิลง่ายๆ แต่ดาเมจรุนแรง เงื่อนไขไม่เยอะ

3. อย่าเข้าไปเปิดไฟต์ก่อน

จำไว้เสมอว่า เมื่อเราเล่นในตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจของทีม เราก็ต้องมีหน้าที่ทำดาเมจให้กับทีม และตัวทำดาเมจส่วนใหญ่จะเป็นตัวทำดาเมจจากระยะไกล และตัวบาง ตายง่าย ดังนั้น การยืนตำแหน่งจึงสำคัญ อย่าวิ่งนำเพื่อน อย่าเดินนำหน้า อย่าเข้าไปเปิดไฟต์ ให้ยืนอยู่ข้างหลัง และมองดูในมินิแมพให้ดีก่อน มองหาตำแหน่งของตัวล้วงฝั่งตรงข้ามว่าอยู่ตรงไหน จะได้เตรียมยืนให้ห่างไกลที่สุด ให้เค้าเข้ามาล้วงยากที่สุด และอยู่ในจุดที่เราจะหนีได้ง่ายที่สุด

แต่ส่วนใหญ่เวลาที่เกมนำ พวกตัวทำดาเมจนี่แหละ พอดาเมจแรงแล้ว มีไอเท็มเยอะแล้ว ยิงใครก็ตายหมด ก็มักจะห้าว เดินนำเลย เจอหน้าเป็นวิ่งเข้าไปใส่ กดใช้สกิลเปิดหน้าลุยเลย (ซึ่งผมก็เคยเป็นแบบนั้นประจำ) ผลคือ มีโอกาสตายสูงมากๆ โดนล้วงตายแบบง่ายๆ และงงๆ ทันที เพราะลืมไปว่า ดาเมจเราแรง แต่ตัวเรามันบาง ห้าวมากไป ก็ตายได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน และเมื่อตัวทำดาเมจอย่างเราตาย ฝั่งตรงข้ามจะโถมใส่ทันที หรือ ถ้าไม่โถมใส่ ฝ่ายเราก็บุกต่อไม่ได้ เพราะขาดตัวทำดาเมจที่สำคัญของทีมไปนั่นเอง

ดังนั้น เราต้องเล่นอย่างใจเย็น อย่าเสี่ยง อย่าหิว อย่าห้าว เพราะถ้าตัวทำดาเมจอย่างเราตาย ใครจะแบกทีม อย่าลืมว่า ที่เราเลือกมาเล่นในตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจของทีม ก็เพื่อให้มีดาเมจที่รุนแรง และสามารถแบกทีมได้นะ ดังนั้น ตัวเราต้องไม่ล้ำหน้า ไม่เสี่ยงตายโดยไม่จำเป็น รักษาชีวิตของเราไว้ ยิ่งเราตายน้อยมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเก่งเร็วมากขึ้นเท่านั้น

เลือกเล่นในตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจของทีม และหาตำแหน่งยืนยิงฟรีให้ได้ ไม่แหลม ไม่ล้ำหน้า แล้วทุกอย่างจะออกมาดีเอง

4. ปิดแชท ปิดลำโพง

เรื่องนี้สำคัญมากๆ นะครับ โดยเฉพาะการเปิดลำโพง อันนี้สำคัญมากๆ ทางที่ดีที่สุด ของการเล่นแบบ Solo ตัวคนเดียว คือ ปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมให้หมดเลยครับ จะทำให้เรามีสมาธิในการเล่นมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่ ไม่มีเรื่องดีๆ จะสื่อสารกันหรอกครับ มีแต่ด่าและต่อว่ากันอย่างเดียว ซึ่งการไปรับฟังคำด่า หรืออ่านข้อความอะไรที่มันไม่โอเค มันจะเป็นการทำลายสมาธิในการของเรา ใช่ครับ อารมณ์ของเรามีผลกับการเล่นนะครับ ถ้าภูมิต้านทานทางอารมณ์ของเรายังไม่แข็ง อย่าเปิดอะไรพวกนี้เด็ดขาด มันจะบั่นทอนกำลังใจของตัวเอง และทำให้อารมณ์ของเราไม่คงที่ ยิ่งเราควบคุมอารมณ์ของตัวเราเองได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เรามีสมาธิกับการเล่นมากยิ่งขึ้นเท่านั้นนะครับ

5. อย่าบ้าบวกตามเพื่อน

ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากๆ ส่วนใหญ่มักจะพลาดกันก็ตรงที่ ตามเพื่อนเข้าไปบวก หรือ เพื่อนไปไหนเราไปด้วยตลอดเวลา จนลืมไปว่า การเล่นเกมนี้ มันต้องใช้ Gold ในเกม ที่ได้จากการเคลียร์ครีปในเลน หรือ ฆ่ามอนสเตอร์ป่านะครับ การไล่ฆ่าศัตรูอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้เงินเพิ่มอะไรมากขนาดนั้น ดังนั้น ยิ่งเราตามเพื่อนที่บ้าบวก ชวนไฟต์อยู่ตลอดเวลา จะทำให้เราเสียโอกาสที่จะได้เงินจากครีปเลน หรือ มอนสเตอร์ป่าไปมากเท่านั้น เมื่อไม่มีเงิน ก็ไม่มีไอเท็ม เมื่อไม่มีไอเท็ม ดาเมจมันก็จะไม่แรง ในขณะเดียวกัน ถ้าฝั่งตรงข้ามไม่มาบ้าบวกด้วย แต่กลับฟาร์มในป่า ฟาร์มในเลนไปเรื่อยๆ การเงินของเค้าก็จะเริ่มขึ้นนำมากขึ้นๆ จนมีไอเท็มเยอะมากกว่า และเมื่อมีไอเท็มากกว่า เลเวลมากกว่า ดาเมจก็จะแรงแบบเว่อร์ๆ เลยทีเดียว ทีนี้ล่ะ ยิ่งบ้าบวก ก็ยิ่งแพ้ เพราะดาเมจก็สู้ไม่ได้ เลเวลก็ตามหลัง

ดังนั้น เมื่อเราเล่นในตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจ เราต้องเน้นการฟาร์มเข้าไว้ เพราะถ้าเราไม่มีเงิน เราก็จะไม่มีไอเท็ม และเมื่อเราขาดไอเท็ม เราก็ขาดดาเมจ เมื่อไม่มีดาเมจ เราก็แบกทีมไม่ได้ หลักการมันง่ายๆ แบบนั้นเลยครับ อย่าไปบ้าบวกตามเพื่อน บวกเมื่อจำเป็น และบวกในตอนที่เราได้เปรียบในเรื่องจำนวนคน เช่น ตัวฟาร์มป่ามาแก๊งค์กับเรา คนเรามากกว่า แบบนี้บวกได้ครับ แต่ถ้าดูทรงแล้ว ตัวฟาร์มป่าฝั่งเราก็ยังไม่มา คนเราก็มีน้อยกว่า จะเข้าไปบวกทำไม เราก็ถอยมา และรอเคลียร์ครีป รอเพื่อนมาเติมอย่างเดียว ก็พอแล้วครับ อย่าไปเสี่ยงตายโดยไม่จำเป็น เพราะยิ่งเราตายน้อยมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรวย และยิ่งเก่งมากขึ้น จนเลทเกมเราสามารถแบกเพื่อนร่วมทีมได้สบายๆ ด้วยดาเมจอันมหาศาลของเรานะครับ

จะเห็นได้ว่า แนวทาง หรือ วิธีเล่น Solo Rank ในเกม ROV ของแพทช์ปัจจุบันนี้ มันมีความแตกต่างจากเมื่อก่อนค่อนข้างเยอะ คือ ถ้าเป็นสมัยก่อน ตำแหน่งที่สามารถแบกทีม หรือพาให้ทีมชนะได้ง่ายๆ ก็คือ ตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต แต่ในปัจจุบัน ตำแหน่งดังกล่าวแบกอะไรทีมไม่ได้อีกแล้ว แม้ว่าการเล่นในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ปัจจุบันจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ คือ สามารถออกไอเท็มที่มีดาเมจ ทำให้เราหยิบฮีโร่ที่เป็นตัวทำดาเมจมาโรมให้กับทีมได้ก็ตาม แต่นั่นก็ยิ่งต้องการความเข้าใจ หรือพึ่งพาการเล่นเป็นทีมมากขึ้นไปอีก สุดท้ายตำแหน่งที่จะแบกทีมได้จริงๆ ก็จึงกลายเป็นพวกตัวทำดาเมจหลักของทีม ไม่ว่าจะเป็น แครี่ เมจ หรือ ฟาร์มป่า

เนื่องจากการเล่น Solo ในปัจจุบัน ผู้เล่นที่มีความเข้าใจในเกม ROV จริงๆ และมีประสบการณ์ เล่นดี มีผลงานดี ก็มักจะกดแบบเป็นทีมซะส่วนใหญ่ เนื่องจากเค้าจะกำหนดแผนการเล่นได้ และการันตีดาวได้ค่อนข้างที่จะแน่นอน (ชัวร์กว่าการกดแบบ 2-3 คนซะอีก) และด้วยความที่เกม ROV ในปัจจุบัน มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเล่นมากขึ้น และผู้เล่นหน้าเดิมที่ห่างหายไปนาน หายไปหลายซีซั่น ก็กลับมาเล่นใหม่ โดยในระหว่างนั้นก็ไม่ได้ศึกษาเลยว่า อะไรๆ มันเปลี่ยนแปลงไปบ้างในเกม ROV ผลก็คือ ทำให้ผู้เล่น Solo ส่วนใหญ่ที่เราสุ่มมาเจอ จะขาดความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในตำแหน่ง แครี่ เมจ และฟาร์มป่า ดังนั้นเราจึงไม่ควรจะปล่อยให้คนที่ไม่เข้าใจ หรือขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ มาเล่นในตำแหน่งที่เป็นตัวทำดาเมจแบบนี้ไม่ได้ เราต้องเป็นคนเล่นเอง ถึงจะคุมสถานการณ์ได้และแบกทีมได้จริงๆ

มันอาจจะฟังดูแล้วน่าเศร้าไปสักหน่อยที่การ Solo มักจะเจอแต่คนที่เล่นไม่เป็นเยอะมากๆ แต่ก็นั่นแหละครับ คนที่ยังไม่มีทีม ไม่มีเพื่อน ก็ต้องเจอกับปัญหานี้ต่อไป แต่สำหรับใครที่เข้าใจ ก็จะเริ่มมองหาเพื่อนร่วมทีม และทีมของตัวเอง เพื่อให้การเล่นเกม ROV มันสนุกมากขึ้นกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่า การที่คุณจะมีทีมประจำ มีเพื่อนประจำที่จะชวนคุณเล่นเสมอๆ ได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณเองด้วย ถ้าคุณเล่น “ไม่เป็นงาน” ก็จะไม่มีใครอยากชวนคุณเล่นหรอกครับ ใครๆ ก็อยากเล่นกับคนที่มีฝีมือ เล่นเป็นงานกันทั้งนั้น เพราะมันจะทำให้เกมสนุกมากขึ้น การเล่นกับคนที่เล่นไปเรื่อยเปื่อย ไม่เป็นงาน มันไม่สนุกเลยสักนิดครับ แถมยังทำให้เราหัวร้อน และเสียเวลาอีกด้วย

ดังนั้น อ่าน ฝึก และ ศึกษาข้อมูลต่างๆ ในเว็บไซต์นี้ให้เยอะๆ ครับ ว่างเมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมาอ่าน ผมเขียนข้อมูลเอาไว้มากมาย หลายร้อยเรื่อง ไม่ต้องกลัวว่า เรื่องไหนมันจะเก่า ถ้ามันเก่า ก็เก่าแค่รายละเอียดสกิล และไอเท็มบางอย่าง ซึ่งตรงนั้นก็ปรับแก้ได้อยู่แล้ว แต่ทริคการเล่น หลักการเล่นต่างๆ มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลยนะครับ ยังคงนำมาใช้ได้อยู่เหมือนเดิม ขนาดทริคบางเรื่องที่ผมเขียนไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปัจจุบันก็ยังนำมาใช้เล่นได้อยู่เลย มันเป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเกม ROV อยู่แล้วครับ บอกเลยว่า ยิ่งคุณอ่านเยอะ คุณก็จะยิ่งเก่งมากขึ้นครับ ของแบบนี้ไม่มีใครช่วยคุณได้ คุณต้องช่วยตัวคุณเอง ผมทำเป็นสรุปมาให้หมดทุกอย่างแล้ว บทความละไม่เกิน 5 นาที อ่านเพลินๆ แป็บเดียวก็จบ แถมยังจะเข้าใจข้อมูล ทริค และเทคนิคการเล่นเกม ROV ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะครับ

error: Content is protected !!