และแล้วการปรับแพทช์ใหม่ก็มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีฮีโร่หลายตัวที่มันเก่งเกินไป (OP: Over Power) ทำให้ทางทีมงานเค้าต้องทำการปรับสมดุลเพื่อให้ฮีโร่เหล่านั้นไม่เก่งมากเกินไป ทำให้เกมเกิดความสมดุลมากขึ้น รวมทั้งมีการปรับให้ฮีโร่หลายตัวเก่งขึ้น เพื่อให้สามารถหยิบมาเล่นได้อีกครั้งนึง โดยใน ROV แพทช์ 15 ธ.ค. 63 นี้ จะเป็นการปรับสมดุลฮีโร่อย่างเดียว จำนวน 7 ตัวด้วยกัน โดยจะเป็นการบัพฮีโร่ 3 ตัว และ เนิฟฮีโร่ 4 ตัว แต่โดยภาพรวม การปรับสมดุลในครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ META ที่เล่นกันในปัจจุบัน แต่อย่างใดนะครับ (ใครที่ไม่เข้าใจคำว่า META ไปอ่านได้ที่บทความ META คืออะไร ได้เลยนะครับ)
ROV แพทช์ 15 ธ.ค. 63 ปรับสมดุลฮีโร่ 7 ตัว
Mina (บัพ)
หลังจากที่ทางทีมงานเค้าตั้งปรับมาให้ Mina มันสามารถหยิบมายืนในตำแหน่งออฟเลนได้มากขึ้น แต่พอเอามาเล่นจริงๆ แล้ว มันยังไม่เก่งในตำแหน่งออฟเลนสักเท่าไหร่ เค้าต้องต้องทำการปรับให้มันเก่งขึ้นมาอีกหน่อยนึงครับ
สกิล 1 ปรับเพิ่มดาเมจให้แรงขึ้น 150/180/210/240/270/300 (+0.5 พลังโจมตี) (6% HP สูงสุดของตัวเอง) → 200/240/280/320/360/400 (+0.5 พลังโจมตี) (8% HP สูงสุดของตัวเอง)
สกิล 2 ปรับการสโลว์เป้าหมาย 1.25 → 1 วินาที
วิเคราะห์ Mina: จากการปรับเพิ่มดาเมจให้กับ สกิล 1 แบบนี้ ชัดเจนว่า ทางทีมงานเค้าตั้งใจเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Mina ในการเล่นออฟเลนมากขึ้น เช่น การเอามายืนสู้กับ Omen จะทำได้ง่ายมากขึ้นแน่นอน (เดิมก็สู้ได้อยู่แล้ว แต่คราวนี้จะแรงขึ้นไปอีก) เพราะมีดาเมจที่แรงมากขึ้น ส่วนเรื่องการปรับลดการสโลว์ของสกิล 2 นั้น ก็มีผลแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยภาพรวมก็คือ Mina จะยืนเลนได้แข็งแกร่งขึ้น เก่งขึ้นนั่นเองครับ
Laville (บัพ)
หลังจากที่ในหลายๆ แพทช์ก่อนหน้านี้ เราได้ทำการเนิฟ Laville ไป ก็ทำให้มันเก่งน้อยลงจนหยิบมาเล่นได้ยากมากๆ ดังนั้น จึงต้องมีการบัพมันให้เก่งขึ้นมาอีกนิดนึง
ค่า Status พื้นฐาน
ความเร็วเคลื่อนที่ 340 → 350
โบนัสความเร็วโจมตี 1% → 2%
วิเคราะห์ Laville: การปรับแบบนี้ จะส่งผลให้ Laville เก่งขึ้นแน่นอนครับ แม้ว่าจะไม่เก่งเท่ากับสมัยก่อนตอนที่ยังไม่โดนเนิฟก็ตาม แต่การปรับแบบนี้ก็จะทำให้ Laville มีความคล่องตัวมากขึ้น และเอาตัวรอดได้ดีขึ้น ในขณะที่ความเร็วโจมตีก็จะเพิ่มขึ้นด้วยจากโบนัสความเร็วโจมตีที่จะเพิ่มขึ้นตอนเลเวลอัพ ซึ่งแน่นอนว่า ที่เลเวลสูงสุดจะได้เพิ่มขึ้นมามากถึง 14% ซึ่งอาจจะดูไม่ได้มากมายอะไร แต่มีผลในการเข้าไฟต์ตอนยิงรัวๆ ช่วงเลทเกมแน่นอนครับ เอาเป็นว่า การบัพครั้งนี้ ทำให้ Laville มันเก่งขึ้นนิดนึง เล่นง่ายขึ้นมาอีกนิดนึงนะครับ ก็ทำให้ตัวมันพอจะหยิบมาเล่นได้บ่อยมากขึ้นอยู่นะครับ
Lumburr (บัพ)
หลังจากที่โดนเนิฟไปในแพทช์ก่อนๆ และแม้ว่าจะมีการบัพเพิ่มขึ้นมาถึง 2 ครั้ง ก็ไม่ได้ทำให้ Lumburr กลับมาเก่งได้เหมือนเก่า ดังนั้น จึงต้องมีการบัพให้มันเก่งขึ้นมาอีกนิด จะได้ทำให้มันถูกหยิบมาเล่นกันมากขึ้น
อัลติ ยกศัตรูให้ลอยขึ้นนาน 1 → 1.5 วินาที
วิเคราะห์ Lumburr: การบัพให้อัลติของ Lumburr ยกศัตรูให้ลอยนานขึ้น ก็ถือว่า โอเคครับ ดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ Lumburr กลับมาโหดเหมือนที่มันเคยจะเป็น ยังไงซะ Lumburr ก็ยังคงเล่นยากอยู่ในแพทช์ปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นหลายๆ อย่างที่มันหายไป เช่น การพุ่งผ่านด้วยสกิล 2 ที่เคยสร้างโล่ให้กับพันธมิตรได้ ก็ไม่มีอีกแล้ว ซึ่งจุดเด่นพวกนี้คือหัวใจสำคัญของ Lumburr ดังนั้น การเพิ่มระยะเวลาการยกศัตรูให้ลอยขึ้นมานั้น ก็ไม่ได้ทำให้มันเก่งขึ้นอะไรขนาดนั้นนะครับ ยกเว้นว่า ปรับมาให้ยกลอยขึ้นจาก 1 เป็น 2 วินาที อันนี้บอกเลยว่า จะเก่งโคตรๆ แต่ปรับมาแค่ 0.5 วินาที ไม่เท่าไหร่ครับ
Ryoma (เนิฟ)
ก็เพราะว่า Ryoma มันเก่งเกินไป เราจึงต้องเนิฟมันลงมา อันนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ทุกคนเห็นกันอยู่แล้วว่า Ryoma มันเก่งเกินไปแค่ไหน
สกิลติดตัว ความเสียหายที่สุดปลายการโจมตี 50% → 40%
สกิล 2 ปรับลดดาเมจลง 400/460/520/580/640/700 (+1.8 พลังโจมตี) → 375/425/475/525/575/625 (+1.5 พลังโจมตี)
วิเคราะห์ Ryoma: การเนิฟความแรงของสกิลติดตัว และสกิล 2 ลงแบบนี้ ก็เพื่อทำให้ Ryoma มันโหดน้อยลงครับ แต่ถามว่า โดนหนักมากแค่ไหน ก็ต้องบอกว่า โดนหนักอยู่ครับ แต่ก็ยังเล่นได้อยู่นะครับ มันไม่ได้โดนหนักจนไม่สามารถหยิบมาเล่นได้อีก เพียงแต่ว่า ดาเมจมันก็จะเบาๆ ลงไปแค่นั้นเอง แต่เรายังสามารถใช้จุดเด่นหลายๆ อย่าง เข้ามาช่วยทดแทนตรงนี้ได้ ดาเมจที่หายไปก็พอประมาณ ยังไงซะเราก็ยังคงสามารถหยิบ Ryoma มาเล่นได้อยู่เหมือนเดิมครับ ในสถานการณ์ที่เหมาะสมนะครับ
Omega (เนิฟ)
เมื่อบัพ Omega มาให้มันเก่งเกินไป อันนี้ก็ชัดเจนเลยว่า ต้องโดนเนิฟ ซึ่งการเนิฟส่วนใหญ่จะเป็นการเนิฟในส่วนความเร็วเคลื่อนที่ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เรื่องของดาเมจ ยังไม่โดนเนิฟไปนะครับ
ค่า Status พื้นฐาน ความเร็วเคลื่อนที่ 380 → 360
สกิล 1 โบนัสความเร็วเคลื่อนที่ 12%~40% (เพิ่มขึ้นตามเลเวลของฮีโร่) → 5%~40% (เพิ่มขึ้นตามเลเวลของฮีโร่)
สกิล 2 ระยะเวลาการสตั้น 1 → 0.75 วินาที
วิเคราะห์ Omega: จากการเนิฟสกิลติดตัว, สกิล 1 และ สกิล 2 ตามรายละเอียดด้านบนนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า เค้าต้องการเนิฟในเรื่องความเร็วในการโยกเลน เติมไฟต์ของ Omega เป็นหลักนะครับ แต่เรื่องของดาเมจที่มันค่อนข้างจะรุนแรง เค้าก็ไม่ได้เนิฟอะไรลงไป รวมทั้งดาเมจจากสกลิ 2 ก็ไม่ได้โดนเนิฟ ดังนั้น จุดเด่นหลายๆ อย่างของ Omega ยังคงอยู่นะครับ นั่นก็แปลว่า เรายังคงสามารถหยิบ Omega มาเล่นได้อยู่เหมือนเดิม อาจจะวิ่งช้าลงบ้าง แต่โดยภาพรวม ก็ยังคงสามารถหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิมครับ
Butterfly (เนิฟ)
ชัดเจนว่า มันเก่งเกินไปหลังจากที่ปรับแพทช์ก่อนหน้านี้ ก็เลยต้องค่อยเนิฟมันลงมาหน่อย โดยจะเนิฟในส่วนของโล่ที่ได้รับจากสกิล 1 ซะก่อน เพราะมันเก่งเกินไป เลยต้องเนิฟลงมาหน่อยนึงครับ
สกิล 1 ปรับลดขนาดความหนาของโล่ลงไป 400/480/560/640/720/800 (+1.2 พลังโจมตี) → 350/420/490/560/630/700 (+0.9 พลังโจมตี)
วิเคราะห์ Butterfly: สกิล 1 ของ Butterfly ถูกเนิฟในส่วนของขนาดโล่เท่านั้น ดาเมจ และ mechanic การใช้สกิล ไม่ได้ถูกปรับอะไรแต่อย่างใด นั่นแปลว่า มันก็ยังคงเก่งอยู่เหมือนเดิมครับ เพียงแต่ปรับโล่ตอนที่กดใช้สกิล 1 แล้วได้รับโล่ ให้มันเหลือน้อยลง ซึ่งก็มีผลบ้างกับการ 1-1 หรือ การเข้าไปคอมโบสกิลในจังหวะที่เสี่ยงๆ แต่ถ้าเล่นแบบเซฟๆ เน้นเข้าให้ถูกจังหวะ การเนิฟครั้งนี้มันก็แทบจะไม่มีผลอะไรเลยนะครับ ดังนั้น แม้ว่า Butterfly จะโดนเนิฟ แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรนะครับ ยังคงต้องแบน หรือ ควรหยิบมาเล่นในตำแหน่งฟาร์มป่าทุกครั้งที่มีโอกาสอยู่ดีครับ
Ignis (เนิฟ)
ความโหดในการสตั้นของ Ignis จากสกิล 2 มันรุนแรงเกินไปทางทีมงานเค้าก็เลยต้องปรับให้มันสตั้นได้สั้นลง แต่ไปเพิ่มความแรงให้กับดาเมจเวทในสกิล 1 ชดเชยให้
สกิล 1 ปรับดาเมจเวท 325/365/405/445/485/525 (+0.45 พลังเวท) → 350/380/410/440/470/500 (+0.5 พลังเวท)
สกิล 2 ระยะเวลาการสตั้น 0.75 → 0.5 วินาที
วิเคราะห์ Ignis: ความโหดของ Ignis มันอยู่ที่สกิล 2 ที่เป็นการสตั้น ใช่แล้วครับ ถ้าจะเนิฟ ก็ต้องเนิฟที่ระยะเวลาสตั้นของสกิล 2 นี่แหละครับ แต่ถามว่า การเนิฟแบบนี้ จะทำให้เราเลิกเล่น Ignis ไปเลยมั้ย ก็ต้องตอบว่า ไม่ครับ เพราะการเนิฟให้เหลือสตั้นน้อยลงแค่ 0.25 วินาที มีผลเล็กน้อยมากๆ ครับ จุดเด่นในการคอมโบสกิลของ Ignis ก็ยังคงอยู่ แถมยังเป็นการเพิ่มดาเมจต้นให้กับ Ignis และเพิ่มตัวคูณดาเมจให้แรงขึ้นอีก 5% ด้วย ดังนั้น โดยภาพรวม เราก็ยังคงสามารถหยิบ Ignis มาเล่นได้เหมือนเดิมครับ สตั้นน้อยลง แต่ดาเมจจากสกิล 1 แรงขึ้น ก็โอเคครับ
จากที่ผมได้ทำการวิเคราะห์ ROV แพทช์ 15 ธ.ค. 63 มาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่า การปรับสมดุลฮีโร่ทั้ง 7 ตัวในครั้งนี้ ไม่มีตัวไหนที่เก่งเว่อร์เกินไป หรือ อ่อนเกินไปจนต้องเก็บเข้ากรุ และเลิกเล่นมันไปเลยนะครับ ถือเป็นการปรับสมดุลจริงๆ เพราะทุกตัว ไม่ว่าจะโดนเนิฟ หรือได้บัพ ก็ยังสามารถหยิบมาเล่นกันได้อยู่เหมือนเดิม META ต่างๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป Butterfly ก็ยังคงเก่งทะลุโลกเหมือนเดิม ควรแบนถ้าฝั่งตรงข้ามได้เลือกก่อน หรือถ้าเราได้เลือกก่อนก็ควรหยิบมาเล่น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปนะครับ ที่เก่งขึ้นก็ไม่ได้เก่งขึ้นมากมายอะไรจนเกินไป ที่อ่อนลงก็อ่อนลงนิดหน่อย แต่ไม่ได้กระทบจุดเด่นของฮีโร่ตัวนั้นๆ แต่อย่างใด
ข้อมูลแปลมาจาก https://moba.garena.tw/news/show/2831