วิธี Solo Rank ในเกม ROV ปัจจุบันนี้ ง่ายขึ้น หรือยากขึ้น อยู่ที่ตัวเราเอง เพราะอะไร?

หลายคนที่เลิกเล่นเกม ROV ไปแบบถาวร สาเหตุหลักสำคัญมักจะมาจากปัญหาทางด้านอารมณ์ คือ เวลาเล่นเกม ROV แล้ว มันกลายเป็นการสร้าง “ความเครียด” มากกว่า “ความสนุก” ซึ่ง “ความเครียด” ที่ว่านั้น ร้อยทั้งร้อยก็มาจากการเล่นแบบ Solo Rank หรือ กดแบบคนเดียวในโหมดจัดอันดับ แล้วให้ระบบสุ่มผู้เล่นที่กดแบบตัวคนเดียว ในแร็งค์ระดับเดียวกันมาให้ ปัญหาคือ เมื่อเล่น Solo Rank แล้ว มักจะแพ้บ่อย เจอคนเล่นไม่เป็น เล่นมั่ว ด่ากัน โยนเกม แจกกันจนน่าเกลียด และอื่นๆ อีกมากมาย ส่งผลให้เสียทั้งเวลา เสียทั้งอารมณ์ กลายเป็นเสียสุขภาพจิตไปอีก ในบทความนี้ ผมก็เลยจะมาแนะนำ วิธี Solo Rank ในเกม ROV ให้มีอัตราชนะที่สูงขึ้น และทำให้ตัวเราไม่เสียสุขภาพจิตอะไรมากมายอีกด้วยนะครับ

วิธี Solo Rank ในเกม ROV มันง่ายขึ้น หรือ ยากขึ้น มาจากตัวเราเองทั้งนั้น

การ Solo Rank ในเกม ROV สำหรับแพทช์ปัจจุบันนั้น มันจะง่ายขึ้น หรือ มันจะยากขึ้น มันอยู่ที่ตัวของเราล้วนๆ ครับ อย่าลืมนะครับว่า เรากำลังพูดถึงการ Solo หรือ กดไปคนเดียว หลายคนมักจะบ่นว่า เพื่อนในทีมตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ เล่นไม่ได้เรื่อง เล่นแย่ แบบนี้ก็มีแต่แพ้กับแพ้ ลืมไปหรือเปล่าครับว่า เรากดมาแบบตัวคนเดียว คนอื่นเค้าก็กดมาแบบตัวคนเดียวเช่นกัน ในเมื่อเราเลือกที่จะกดมาตัวคนเดียว เราก็ไม่สามารถที่จะไปกำหนด หรือ ไปล็อคสเปคได้ว่า อีก 4 คน ที่ระบบสุ่มมาให้นั้น ต้องเล่นแบบไหน เราประเมินเอาไว้ก่อนเลยก็ได้ว่า อีก 4 คน ที่ระบบสุ่มมา เล่นไม่เป็นแน่นอน เราต้องเล่นให้เต็มที่ เพื่อแบกทีม หรือสร้างโอกาสให้อีก 4 คน เล่นได้ง่ายที่สุด เพื่อให้เราชนะ แล้วได้ดาว ใช่แล้ว เราต้องคิดแบบนี้ ไม่ใช่คิดแบบอื่น

จากนั้นเราก็ต้องทำตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเล่น Solo Rank แล้วมีอัตราชนะสูงขึ้นด้วยฝีมือของตัวเราเอง

1. ศึกษาฮีโร่ที่เราเล่นให้เข้าใจ และศึกษาฮีโร่ตัวอื่นๆ ให้เข้าใจด้วย

นั่นเพราะว่ายิ่งเรารู้จักและเข้าใจฮีโร่ตัวอื่นๆ มากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเล่นออกมาได้ดีมากขึ้นเท่านั้น ข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการ Solo Rank เราต้องเล่นฮีโร่ได้หลากหลาย ได้ทุกตำแหน่ง จะได้ไม่มีปัญหาเรื่อง ตำแหน่งนี้ขาดคน หรือ ตำแหน่งนั้นขาดคน เราต้องเล่น “เป็นงาน” ในทุกๆ ตำแหน่ง เล่นฮีโร่ให้ “เป็นงาน” หลายๆ ตัว คำว่า “เป็นงาน” ในที่นี้ หมายถึง เล่นได้คล่อง มี Skill Play อยู่ในระดับที่ดี และเข้าใจจุดเด่นจุดด้อยของฮีโร่ที่เราถนัดเล่นด้วยนะครับ

ส่วนฮีโร่ตัวไหนที่เราเล่นไม่ถนัด หรือไม่ค่อยได้หยิบมาเล่น ก็ต้องศึกษาเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้เข้าใจถึงจุดเด่น จุดด้อยของฮีโร่ตัวนั้นๆ เพราะอะไร? เพราะเรามีโอกาสที่จะได้เจอกับฮีโร่ตัวนั้นๆ ทั้งในฐานะเพื่อนร่วมทีมเดียวกับเรา หรือ ฮีโร่ศัตรูที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หากเราเข้าใจจุดเด่นและจุดด้อยของฮีโร่ตัวนั้นได้ เวลาที่เราต้อง “เล่นร่วมกัน” หรือ “ต่อสู้ด้วย” เราก็จะรู้วิธีการรับมือได้นั่นเอง ถ้าเราได้เล่นด้วยกัน เราก็จะรู้ว่า ต้องเล่นแบบไหน ต้องคอมโบสกิลในจังหวะไหน ต้องดูแลกันและกันยังไง อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ แต่ถ้าเจอมันอยู่ฝั่งตรงข้าม เราก็จะรู้ว่า จุดอ่อนของมันคืออะไร มันจะเสียเปรียบหลังจากที่ใช้สกิลนั้นไปแล้ว เราก็รอที่จะเข้าไปเล่นงานในจังหวะนั้น เรื่องแบบนี้ อยู่ที่ ความรู้ ความเข้าใจ และการใส่ใจในรายละเอียดของผู้เล่นแต่ละคน ซึ่งนั่นทำให้ ขีดความสามารถในการแบกทีมของแต่ละคนเวลา Solo Rank มันแตกต่างกันไป

2. เพื่อนแจก แต่เราต้องไม่แจก

เราต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ดีนะครับ ในการเล่นแบบ Solo Rank จะแตกต่างจากการเล่นแบบ กดเป็นตี้ หรือ กดเป็นทีมมากๆ ก็เพราะเรื่องนี้นี่แหละครับ การเล่นแบบ Solo Rank เราต้องเล่นแบบ เห็นแก่ตัวนิดๆ ครับ คือ ต้องเอาตัวเองให้รอดไว้ก่อน ต่างคนต่างต้องดูแลตัวเองให้มากๆ จะหวังพึ่งพาใครไม่ได้ ตัวเราเอง ก็ต้องเล่นแบบว่า ถ้าช่วยได้ก็ช่วย แต่ถ้าแหลมเกินไป หรือ เล่นแบบ โง่เกินไป เราก็ไม่ต้องเข้าไปช่วยครับ เพราะถ้าเราดันห่วงแต่จะไปช่วยเค้า ก็อาจจะเป็นการไปตายเพิ่ม ทำให้ฝั่งตรงข้ามเก่งและได้เปรียบมากขึ้นไปอีก

เพื่อนในทีมคนไหนจะแจก ก็ปล่อยเค้าแจกไป แต่เราต้องไม่แจก ต้องไม่ตายง่ายๆ ไม่ตายบ่อยๆ ฟาร์มหาเงินให้ตัวเองไป ทำให้ตัวเองรวยเร็วมากที่สุด และคอยมองดูด้วยว่า มีเพื่อนร่วมทีมคนไหนที่เล่นพอที่จะ “เป็นงาน” มากที่สุดในทีม แล้วคอยช่วยเหลือ สนับสนุนคนๆ นั้น ให้มากที่สุด ให้ความสำคัญกับคนที่เล่น “เป็นงาน” และเล่นเก่งที่สุดในทีมไว้ก่อน ตามลำดับ ส่วนคนที่ชอบแจก เอาแต่ตายๆ ตายๆ แล้วก็ตายอย่างเดียว ไม่ต้องไปสนใจมัน ไม่ต้องไปดูแลอะไรมันมากมาย ช่วยได้ก็ช่วย ถ้าช่วยไม่ได้แล้วต้องเสี่ยง ก็ไม่ต้องไปช่วย ปล่อยๆ ไปครับ

การเล่น Solo Rank ตัวคนเดียวมันแบกทีมไม่ได้หรอกครับ ต่อให้เราเล่นเก่ง รวยสุดในทีม ก็แบกทีมไม่ได้ อย่างน้อยๆ ต้องมี 3 คน ถึงจะแบกทีมได้ ผมถึงได้บอกไงครับว่า เราต้องเล่นไป ดูแลและปกป้องตัวเองไปด้วย ให้อยู่รอดปลอดภัย จะได้รวยเร็วๆ และในขณะเดียวกันก็ต้องมองหาไปด้วยว่า เพื่อนในทีมเราคนไหนบ้างที่เล่นดี คนไหนที่เล่นแย่ เล่นห่วย เราต้องส่งเสริมคนที่เล่นดี เล่นเป็นงาน ให้เค้าอยู่รอดปลอดภัยเช่นเดียวกับเรา เพื่อให้คนเหล่านั้นมาช่วยกันแบกทีมได้นั่นเอง

3. อย่าถอดใจ อย่าท้อแท้ อย่ายอมแพ้ง่ายๆ

ผู้เล่นส่วนใหญ่ พอเจอคนในทีมตายเยอะๆ เข้า ก็เริ่มถอดใจ เริ่มพิมพ์ด่า เปิดไมค์ด่ากันแล้ว คือ ต้องบอกเลยว่า การเสียเปรียบตั้งแต่ต้นเกม การโดนฆ่าเยอะๆ มันไม่ได้แปลว่า ทีมนั้นต้องแพ้แน่นอนเสมอไปนะครับ ในทุกๆ เกม มันมีจังหวะ หรือมีโอกาสพลิกเกมได้เสมอ อยู่ที่ว่า คนในทีมที่เสียเปรียบ ถอดใจกันแล้วหรือยัง ถ้าแค่โดนฆ่าไปหลายตัว เสียป้อมไปก่อนในช่วงต้นเกม แล้วทุกคนถอดใจ ไม่อยากเล่นต่อ รีบกดยอมแพ้กันแล้ว เล่นไปยังไงมันก็แพ้อยู่ดี เพราะคนในทีมไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นต่อแล้ว แต่ถ้าคนในทีมไม่ยอมแพ้ ให้กำลังใจกัน ช่วยกันเล่น สามัคคีกัน เกมที่เสียเปรียบก็ไม่ได้แปลว่าจะแพ้เสมอไป หาจังหวะฆ่าศัตรูให้ได้ แล้วสวนกลับดันทีเดียวบ้านแตก ก็มีให้เห็นกันเยอะแยะ

ดังนั้น การที่เริ่มเกมมา เราเจอคนแจกในทีมจนทีมเสียเปรียบตั้งแต่ต้นเกม อย่าคิดมาก อย่าท้อแท้ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจยอมแพ้ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดกันได้ครับ โดนนำก่อนไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เพราะฝีมือการเล่นของทุกคนในทีมเราห่วย แต่อาจจะเป็นเพราะเราเลือกฮีโร่เลทเกมมา ต้นเกมก็เลยไม่เก่ง เสียเปรียบไปบ้าง มันก็เป็นของธรรมดา ก็ไม่ใช่เวลาเก่งของฮีโร่ที่พวกเราในทีมเลือกกันมานี่นา ก็ต้องรอไปก่อน รอเลเวล รอเงิน รอไอเท็ม แล้วมันก็จะเก่งแบบสุดๆ ในช่วงเลทเกมเอง ที่เราต้องทำก็แค่ เล่นประคองรอเวลาไปเรื่อยๆ อย่าถอดใจ อย่ายอมแพ้ เดี๋ยวจังหวะพลิกเกมมันก็มีมาให้เห็นเองแน่นอน

4. เล่นในตำแหน่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เล่น

อย่าไปเล่นในตำแหน่งที่คนแย่งกันเล่นเยอะๆ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร อย่างที่ผมบอกไปแล้วในข้อ 1 นั่นคือ ถ้าคุณจะเล่นแบบ Solo Rank ตัวคนเดียว คุณต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถเล่นได้ในทุกๆ ตำแหน่ง ไม่ผูกขาดกับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งตำแหน่งที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมเล่นกันเวลา Solo Rank นั่นก็คือ โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต หลายคนไม่รู้ว่า ตำแหน่งโรมมิ่ง/ซัพพอร์ตนั้น สำคัญกับทีมขนาดไหน ผมเคยเขียนอธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของตำแหน่งนี้หลายรอบแล้ว ก็จะไม่พูดซ้ำอะไรให้ยาวเกินไป ใครอยากรู้ก็เข้าไปอ่านเพิ่มได้ที่ หน้าที่ของโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ในเกม ROV ได้เลยครับ และมีอีกหลายบทความที่อธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของตำแหน่งโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต เอาไว้อย่างละเอียดอยู่แล้ว

ความได้เปรียบเวลาที่เราเล่นในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ในการ Solo Rank ก็คือ ฝั่งตรงข้ามก็มีคนที่ไม่อยากจะเล่นในตำแหน่งโรมมิ่ง/ซัพพอร์ตเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่ก็จะโดนโบ้ยให้เล่นบ้าง ไม่ถนัดบ้าง แต่ต้องมาเจอกับเราที่เล่น โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ที่ “เป็นงาน” ระดับความสามารถในการโรมตอนที่เจอกัน มันก็จะแตกต่างกันอย่างแน่นอน ทำให้เราเล่นง่าย กดดันเค้าได้ และคุมแมพได้ เมื่อเราเล่นแล้ว เราคุมแมพได้ เก๋าเกมกว่า เพื่อนร่วมทีมเราที่เหลือก็จะเล่นง่ายตามไปด้วย

ใช่แล้วครับ สิ่งที่ผมกำลังจะบอกก็คือว่า ตำแหน่งโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต เป็นตำแหน่งที่มีคนเกี่ยงกันเล่นมากที่สุด แต่มันคือตำแหน่งที่สำคัญที่สุด เพราะมันคือ คนที่ต้องคุมแมพ คุมเกม คุมทุกอย่างตั้งแต่เริ่มเกมมาเลย แต่ดันโบ้ยให้คนที่เลือกช้า หรือ ไม่ถนัดมาเล่น ทุกทีมเวลาสุ่มมาจะเป็นแบบนี้หมด ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจ และเล่นโรมมิ่ง/ซัพพอร์ต “เป็นงาน” อะไรๆ มันก็จะง่ายมากๆ ครับ เพราะเราจะเจอกับฝั่งตรงข้ามที่โรมไม่เป็น โรมได้ไม่เก่งเท่าเรา เราก็สามารถคุมแมพ เล่นงานฝั่งตรงข้ามได้ง่าย เมื่อโรมมิ่งคุมทุกอย่างได้ เพื่อนในทีมในทุกๆ ตำแหน่งก็จะเล่นง่ายขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

5. ควบคุมตัวเองให้สงบ และนิ่งที่สุด

เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะการเล่นแบบ Solo Rank ผู้เล่นส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์นำสมอง ไม่คิดก่อนทำ ไม่อ่านแมพก่อนเดิน ทำให้ตายง่าย ตายบ่อย ตัวเราเองต้องไม่เป็นแบบนั้น เราต้องทำตัวให้เป็นเสาหลักของทีม คือ เราต้องนิ่ง ควบคุมอารมณ์ให้สงบที่สุด เมื่อเราสงบ สมองมันก็เปิด สมาธิก็มา การเล่นก็จะเป็นไปตามหลักการและความรู้ที่เคยได้อ่านมา ทำให้เล่นแล้วงานออกมาดี ซึ่งวิธีการควบคุมปัจจัยต่างๆ ไม่ให้มันมาทำให้อารมณ์ของเราต้องสั่นไหว ก็ง่ายมากๆ นั่นคือ ไม่เปิดแชท ไม่เปิดไมค์ เล่นแบบอ่านแมพอย่างเดียว เล่นแบบใจเย็นๆ อย่าปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองไหลไปกับรูปเกม เล่นตามหลักการ เดินเกมให้ถูกต้อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ แล้วรอคอยจังหวะสวยๆ ที่จะพลิกเกมกลับมาได้

ความสนุกของการเล่นเกม ROV ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า มันมาจากการที่เล่น เราชนะ เราได้รู้สึกถึงชัยชนะ มันทำให้เรามีความสุข แต่อีกส่วนหนึ่งที่เวลาคุณเล่นแล้ว ก็จะรู้สึกได้เช่นกันนั่นก็คือ การได้เล่นอย่างเต็มความสามารถแล้ว เล่นอย่างเต็มที่ ทำเต็มที่แล้ว แต่แพ้ อันนี้ก็จะไม่รู้สึกเสียใจอะไรมากมาย เพราะเราเล่นสุดฝีมือแล้ว แต่ถ้าแพ้ด้วย และยังเล่นไม่ได้เต็มที่ ไม่ได้มีโอกาสใช้สกิล หรือ ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริงออกมา มันจะทำให้คนที่เล่น รู้สึกพ่ายแพ้อย่างหมดรูป และหัวร้อนแบบสุดๆ แต่ถ้าเราทำตามที่ผมได้แนะนำมาทั้ง 5 ข้อ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปครับ

เพราะเราจะเล่นอย่างเต็มที่ มีสมาธิ และรอคอยจังหวะสวยๆ ที่จะพลิกเกม ทัศนคติของเราก็จะเปลี่ยน พอเกมเริ่มเสียเปรียบ เกมตาม เราจะไม่มองว่า เราต้องแพ้แน่นอน แต่เราจะมองว่า งั้นเราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินเกมของตัวเรา เน้นการตั้งรับ และรอคอยเวลา มันคือ การคิดแบบการแก้ปัญหา ไม่ใช่คิดแบบท้อแท้ เพื่อทำให้ตัวเราหมดกำลังใจ แต่เราเลือกที่จะมองหาจุดเปลี่ยน จุดพลิกผัน เพื่อแก้เกมฝั่งตรงข้ามนั่นเอง มันก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่เวลาเล่นเป็นทีม 5 คน จะไม่ได้เจอแบบนี้ เพราะการเล่นเป็นทีม 5 คน เราจะช่วยกัน คอลเกม บอกกัน แนะนำกัน เดินเกมกันเป็นทีม แต่การเล่นแบบ Solo คุณต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ต้องเล่นฮีโร่ของตัวเองออกมาให้ดีซะก่อน แล้วค่อยพยายามที่จะช่วยทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ด้วยเทคนิคการเล่น ทริคต่างๆ ต้องใส่ใจ และเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ทีมเรามีโอกาสชนะมากที่สุด

วิธี Solo Rank ในเกม ROV แพทช์ปัจจุบันนั้น มันไม่ได้ยากเหมือนกับสมัยก่อนอีกแล้ว นั่นเพราะว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เล่นเก่งๆ เล่นเป็นงาน ก็จะรวมกันเป็นตี้ กดแบบ 2-3 คน หรือ รวมกันเป็นทีม กดแบบ 5 คน ทำให้เหลือแต่พวกที่ไม่มีตี้ ไม่มีทีม และมักจะเป็นมือใหม่ หรือ มือเก่าที่เพิ่งจะกลับมาเล่นใหม่ ความรู้ ความเข้าใจ จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างปานกลางลงไปจนถึงต่ำ ทำให้เราสามารถเล่นแล้ว แบกทีมได้ง่ายมากขึ้น คือ แม้ว่า เพื่อนร่วมทีมของเราจะไม่ได้เล่นเก่งอะไร แต่ศัตรูเองก็จะไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่ มันก็จะมีพวกที่ไม่สนโลก หยิบฮีโร่มาลองหัดเล่น โดนโบ้ยให้เล่น โยนเกม AFK ทะเลาะกัน แชทด่ากันจนทีมแตกความสามัคคี เรื่องพวกนี้ก็มีให้เห็นในทีมฝั่งตรงข้ามได้ไม่ต่างไปจากทีมของฝ่ายเรา

ดังนั้น ทุกอย่างของการ Solo Rank มันอยู่ที่ตัวเรา เรารู้อยู่แก่ใจว่าเรากดไปคนเดียว เราก็ต้องทำใจ ก็อย่างที่บอกไปแล้ว คนที่เล่นเก่งมากๆ ส่วนใหญ่เค้าก็จะมีตี้ มีเพื่อน มีทีมที่กดไปด้วยกันอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเล่น “เป็นงาน” ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นที่ต้องการของทีม แต่ถ้าเป็นพวกที่เล่นไมได้เรื่อง ก็อาจจะมีตี้ มีทีมอยู่แป็บๆ ไม่นานก็ต้องเลิกรากันไป เพราะเพื่อนร่วมทีมเค้าทนไม่ได้กับฝีมือการเล่นที่อ่อนๆ ของคนๆ นั้น (หรืออาจจะเป็นที่นิสัยส่วนตัวเวลาที่เล่น หรือ ทัศนคติที่ไม่ตรงกัน) สุดท้ายเค้าก็ต้องออกมาเล่นตัวคนเดียว มาร่วมอยู่ในวัฏจักรการ Solo Rank กับพวกเราอยู่ดี นั่นแปลว่า เรามีโอกาสได้เจอกับคนทุกประเภท ตั้งแต่คนเล่น “เป็นงาน” ไปจนถึง คนที่เล่น “ไม่เป็นเลย” ในทุกๆ ระดับแร็งค์ ดังนั้น ถ้าเราเอาแต่ใส่ใจคนอื่นๆ ในทีมมากเกินไป เราก็จะเสียสมาธิในการเล่นของตัวเราเอง ทำให้เราเองเล่นได้ไม่ดี และทำให้เราอารมณ์เสีย หงุดหงิด หัวร้อน หรือท้อแท้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอารมณ์แบบไหน มันก็ไม่ดีกับเราทั้งนั้น มันไม่สนุกเลยสักนิด ที่เล่นเกมแล้วต้องรู้สึกถึงเรื่องอะไรพวกนี้

งั้นเราก็ต้องหยุดโฟกัสที่คนอื่น แล้วหันมาโฟกัสที่ตัวเราเองครับ การเล่น Solo Rank ในเกม ROV ก็เหมือนกับการบำเพ็ญเพียร ฝึกฝนตบะนั่นแหละครับ เราต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ก่อน เราถึงจะสามารถเอาชนะคนอื่นๆ ได้ เราต้องควบคุมตัวเอง ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ข้อมูลต่างๆ ในเกม ROV เป็นอย่างดี และที่สำคัญต้องฝึกฝน ควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้มั่นคง ไม่หวั่นไหวไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม เพื่อให้เรามีสติ และใช้สมองคิดวิธีการแก้ไข แบบนี้จะทำให้เราเล่นเกม ROV ได้สนุกขึ้น และลดโอกาสเกิดการหัวร้อนเวลาเล่นเกม ROV ทำให้ไม่เครียดอีกต่อไปนั่นเอง

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ