วิเคราะห์ ROV แพทช์ 16 ก.ค. 63 ปรับสมดุล 6 ฮีโร่ และ 2 พลังแฝง ที่สำคัญมากๆ

หลังจากที่มีการรีแร็งค์กันมาสักพัก และปรับสมดุลไปแล้วตอนนั้น มาคราวนี้ก็ผ่านมาประมาณ 2 สัปดาห์กว่าๆ ก็ถึงเวลาที่ต้องมีการปรับสมดุลกันอีกสักรอบ โดยคราวนี้ จะมีการปรับสมดุลฮีโร่ 6 ตัว และ ปรับสมดุลพลังแฝง 2 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งรายละเอียดในการปรับครั้งนี้ ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ทางเพจ Garena ROV Thailand ซึ่งเป็นเพจหลัก ก็ได้เอาข้อมูลมาลงแล้ว แต่ผมเชื่อว่า หลายๆ คนที่ไม่ได้เล่นเกม ROV แบบหมกมุ่นอย่างผม คงจะไม่เข้าใจแน่นอนว่า การปรับแค่ตัวเลขแบบนั้น และมีสีเขียว สีแดง แทนการบัพ และเนิฟ มันมีผลยังไง ที่ว่า บัพ (ปรับให้เก่งขึ้น) มันบัพมากขึ้นแค่ไหน หรือที่ว่า เนิฟ (ปรับให้อ่อนลง) มันแย่ลงมากน้อยแค่ไหน ยังเล่นได้อยู่หรือไม่ ผมจะมาทำการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ 16 ก.ค. 63 อย่างละเอียดให้ได้เข้าใจกันครับ อ่านจบรู้เรื่อง เข้าใจทิศทางการเล่นหลังจากนี้แน่นอนครับ

วิเคราะห์ ROV แพทช์ 16 ก.ค. 63 : ปรับสมดุลพลังแฝง

Recovery+
Recovery+

ในส่วนของการปรับพลังแฝงนั้น มีการเนิฟพลังแฝง Recovery+ ให้มันฟื้นฟูได้น้อยลง เนื่องจากของเดิม มันฟื้นฟูให้มากเกินไปครับ จึงเนิฟลงไปเล็กน้อย จาก 640 (+40 per level) HP / 200 (+12 per level) มานา ก็ให้เป็น 640 (+20 per level) HP / 210 มานา ซึ่งการปรับแบบนี้ เรียกได้ว่า ปรับหนักมากๆ ทำให้การฟื้นฟู HP หายไปถึง 300 HP และ 170 มานา ที่เลเวลสูงสุด ซึ่งถือว่า มันหายไปเยอะมากๆ นะครับ เรียกได้ว่า ปรับหนักจริงๆ แต่ถามว่า ก็ยังควรหยิบมาใช้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า เมื่อเทียบกับ Mark of Frost แล้ว ยังไง Recovery+ ก็ยังน่าใช้มากกว่า และคุ้มค่ากว่าอยู่ดีครับ จึงไม่มีผลครับ ถึงเนิฟไป ยังไงเราก็ยังต้องหยิบมาใช้อยู่ดีครับ

Mana Refill
Mana Refill

ส่วนที่ปรับให้ดีขึ้น ก็คือ Mana Refill นี่แหละครับ คือ จากเดิมที่จะฟื้นฟูมานา 8% ของมานาที่เสียไป คือ มันแย่ครับ ฟื้นฟูได้น้อย แต่พอมาปรับใหม่เป็น ฟื้นฟูมานาให้ 8% ของมานาสูงสุด แบบนี้ก็เท่ากับว่า ต่อไปนี้ พลังแฝง Mana Refill จะกลายมาเป็นหนึ่งในพลังแฝงจำเป็นสำหรับฮีโร่ยืนเลนทั้งตำแหน่ง เมจ แครี่ และ ไฟต์เตอร์ ทั้ง 3 เลน ที่ต้องใช้มานาในการกดใช้สกิลอย่างแน่นอนครับ เพราะมันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน หรือแม้แต่ Zip ที่เป็นซัพพอร์ต และแท็งค์อีกหลายๆ ตัว ก็ต้องหันมาใช้ Mana Refill กันมากขึ้นอย่างแน่นอน พูดง่ายๆ คือ ถ้าคุณเล่นฮีโร่ที่ต้องใช้มานาในการกดใช้สกิล คุณก็ต้องเลือกใช้พลังแฝงนี้แล้วล่ะครับ คุ้มค่าจริงๆ เมจทุกตัวนี่ ต้องหยิบมาใช้เลยครับ แครี่อีกหลายๆ ตัวก็เช่นกัน

วิเคราะห์ ROV แพทช์ 16 ก.ค. 63 : ปรับสมดุลฮีโร่

สำหรับฮีโร่ที่จะถูกปรับสมดุลในแพทช์นี้ ก็จะมีทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน ซึ่งถ้าถามว่า มีผลกับ META มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้มีผลอะไรนะครับ ตัวโหดๆ ที่ติด META ก็ยังคงเป็นแบบนั้นเช่นเดิม แม้จะโดนเนิฟไปบ้างก็ตาม แต่ก็ยังเก่ง และต้องหยิบมาเล่นทุกครั้งที่หลุดแบนอยู่ดีครับ ว่าแล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่า ฮีโร่ 6 ตัวที่ว่า มีตัวไหนกันบ้าง

Keera (เนิฟ)

Keera ROV
Keera

สกิล 1 เนิฟให้เบาลง

ตอนที่เป้าหมายถูกล็อค 40% → 30%

ตอนที่ไม่มีเป้าหมายถูกล็อค 60% → 45%

การปรับเนิฟตรงนี้ ถามว่า มีผลกับการเล่น Keera มากน้อยแค่ไหน ก็ถือว่า ทำให้ตัวของ Keera มันฟาร์มได้ช้าลงไปเยอะครับ และทำให้ดาเมจของ Keera มันเบาลงไป ซึ่งพูดกันตรงๆ ก็คือ มันเก่งน้อยลงแน่นอนครับ แต่ถามว่า มีผลกับเกมการเล่นมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องบอกว่า ยังไง Keera ก็ยังควรจะต้องแบนอยู่ดีครับ ถึงแม้ว่า ดาเมจในส่วนนี้จะโดนเนิฟลงไป แต่โดยภาพรวม มันก็ยังแรง และคอมโบเดียวตายได้อยู่ดีครับ มาเร็ว เคลมเร็ว อันตรายอยู่ดี ดังนั้น META ก็เลยไม่เปลี่ยน Keera ยังต้องถูกแบนในแร็งค์เหมือนเดิมครับ

Natalya (บัพ)

Natalya ROV
Natalya

สกิล 1 ปรับให้ทำดาเมจได้เต็มจำนวน และวิญญาณที่โดนฮีโร่จะไม่หายไป และจะส่งผลในเรื่องของการลดคูลดาวน์และฟื้นฟูมานา ตามจำนวนที่โดน

เอาเป็นว่า มันเป็นการปรับให้ สกิล 1 ของ Natalya นั้น ดีขึ้น คุ้มค่ากับการใช้งานมากขึ้น (ถ้าโดนเป้าหมายที่เป็นฮีโร่นะ) ซึ่งในความเป็นจริง ก็ค่อนข้างจะยาก และการปรับแบบนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ Natalya มันเก่งจนถึงขั้นโกงขึ้นแต่อย่างใด คือ มันทำให้สกิล 1 มันแรงขึ้นครับ แต่ก็ยังไม่ทำให้ Natalya ถึงขนาดติด META แน่นอนครับ แต่ทำให้ตัวมันเอง เล่นได้สนุกขึ้น ดาเมจจัดจ้านขึ้น ก็เท่านั้นเองครับ

Rouie (บัพ)

Rouie ROV
Rouie

สกิล 1 ปรับให้มีดาเมจแรงขึ้น จากตัวคูณดาเมจนะครับ

ดาเมจจากการกดใช้สกิลครั้งแรก 75/95/115/135/155/175 (+0.16 magic attack) → 75/100/125/150/175/200 (+0.2 magic attack)

ดาเมจจากการกดใช้สกิลครั้งที่สอง 300/380/460/540/620/700 (+0.64 magic attack) → 300/400/500/600/700/800 (+0.8 magic attack)

ปรับคูลดาวน์ของสกิล จาก 11/10.7/10.4/10.1/9.8/9.5 เป็น 10 วินาทีทุกเลเวล

สกิล 2 ปรับเอฟเฟกต์ การเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ 25/40/55/70/85/100 %→ 40/52/64/76/88/100%

การปรับแบบนี้ แม้ว่าจะเพิ่มเติมดาเมจให้ Rouie มันแรงขึ้น แต่มันเป็นการปรับให้แรงขึ้นที่ตัวพลังเวทนะครับ นั่นแปลว่า ถ้าอยากจะให้ดาเมจมันแรงจริงๆ Rouie ก็ต้องออกไอเท็มเวทเยอะๆ หน่อย ก็จะทำให้สกิลนี้มันแรงขึ้นมาแบบเยอะมากๆ เลยทีเดียวครับ ส่วนการปรับในเรื่องของ ความเร็วเคลื่อนที่ ที่ได้จากสกิล 2 นั้น ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากมายนักครับ แค่ทำให้ฮีโร่ที่ได้วาร์ปวิ่งออกตัวจากฐานได้เร็วขึ้น เท่านั้นเองครับ โดยภาพรวม ก็ยังไม่ได้ทำให้ Rouie จะได้รับความนิยมในการหยิบมาเล่นสักเท่าไหร่ครับ เพราะความยากในเรื่อง ความพร้อมเพรียง และพร้อมใจในการเล่นของเพื่อนร่วมทีม ที่ต้องมีความสามัคคี และมีความเป็นทีมสูงมากๆ ในการเล่นนั่นเองครับ

Wonder Woman (บัพ)

Wonder Woman ROV
Wonder Woman

สกิลติดตัว ตอนที่การโจมตีครั้งที่ 3 ที่จะเป็นการปาโล่ออกไปนั้น พร้อมใช้งาน จะมีสัญลักษณ์ไอคอนขึ้นมาแสดงให้เห็น จะได้กะจังหวะในการกดใช้ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

สกิล 1 ปรับให้ลื่นไหลมากขึ้น

สกิล 2 ปรับคูลดาวน์ของสกิล 12/11.6/11.2/10.8/10.4/10 → 10/9.5/9/8.5/8/7.5 วินาที และปรับให้เอาเรื่องการลดคูลดาวน์ 3 วินาที ออกไป

อัลติ ปรับระยะของโล่ตอนที่กดใช้อัลติ ให้ใหญ่ขึ้น 5×5 → 6×6

การปรับแบบนี้ ก็ทำให้ Wonder Woman มันเก่งขึ้นมานิดนึงครับ แค่นิดนึงนะครับ ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย เพราะโดยภาพรวมแล้ว มันก็ยังเป็นออฟเลนที่เล่นได้ยาก เพราะปัจจุบัน มีตัวออฟเลนที่เก่งกว่า และมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน เช่น Wonder Woman อาจจะยืนไฟต์ในเลนได้เก่ง ยืนทน ดูดเลือดให้ตัวเองได้ แต่เสียในเรื่องของการแยกดัน ดังนั้น โดยภาพรวม ก็ยังไม่ได้ทำให้ Wonder Woman ขยับขึ้นมาในระดับที่ต้องหยิบมาเล่นทุกเกมได้อยู่ดีครับ

Enzo (เนิฟ)

Enzo ROV
Enzo

ปรับเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่พื้นฐาน 370 → 380

สกิล 1 ปรับระยะการดึงศัตรูให้กลับมา ให้สั้นลง 3.5m → 2.5m

สกิล 2 ปรับระยะเวลาการสตั้นให้น้อยลง 0.5 → 0.25 วินาที

การปรับเนิฟแบบนี้ ยิ่งทำให้ Enzo มันเก่งน้อยลงไปมากๆ เลยนะครับ เพราะสกิลหากินทั้งสองสกิลโดนเนิฟลงไป ซึ่งเรียกได้ว่า เนิฟหนักมากๆ นะครับ ค่าที่ถูกปรับ มันค่อนข้างเยอะ จนส่งผลกับการเล่นมากทีเดียวนะครับ ทำให้การหยิบ Enzo มาเล่น มันเล่นยากขึ้นกว่าเดิม จังหวะการเข้าไฟต์ มันลำบากมากขึ้น เข้าใจว่า ทางทีมงานเค้าคงมองว่า ในปัจจุบัน Enzo มันเก่งเกินไป โดยเฉพาะในช่วงเลทเกมที่มันเกิดแล้ว จะเก่งเกินไป แต่โดยส่วนตัว ผมยังมองว่า Enzo มันยังถูกแก้ทางง่ายเกินไป และการเนิฟแบบนี้ ยิ่งเหมือนเป็นการปิดผนึก ไม่ให้เอา Enzo มาเล่นได้อีกแล้วนั่นเองครับ

Dirak (เนิฟ)

Dirak ROV
Dirak ROV

สกิล 1 ปรับลดความเสียหายในวงเขตของสกิล ทั้งฮีโร่ และไม่ใช่ฮีโร่ ได้รับความเสียหายเท่ากัน คือ 100/125/150/175/200/225 → 100/120/140/160/180/200

ความเสียหายนอกวงสกิล ทั้งฮีโร่ และไม่ใช่ฮีโร่ ได้รับความเสียหายเท่ากัน คือ 60/75/90/105/120/135 → 60/72/84/96/108/120

ก็เป็นการเนิฟดาเมจเล็กน้อยของ Dirak นะครับ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรรุนแรง เรายังคงสามารถหยิบ Dirak มาเล่นได้เหมือนเดิมครับ ดาเมจเบาลงไปบ้างเพียงเล็กน้อย ไม่ได้กระทบอะไรมากมายครับ

Hayate (บัพเยอะมาก)

Hayate ROV
Hayate ROV

โบนัสความเร็วในการโจมตี ตอนเลเวลอัพ 3% → 3.5%

การปรับแบบนี้ จะช่วยทำให้เซ็ตไอเท็มของ Hayate เปลี่ยนแปลงไป นั่นคือ สามารถออกไอเท็มโจมตีอย่างอื่นได้ นอกจากไอเท็มที่เน้นการเพิ่มความเร็วในการโจมตี เนื่องจาก ได้รับโบนัสความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้นมา 7.5% ( 15 เลเวล) ตอนที่เลเวลสูงสุด ทำให้เราสามารถปรับแต่งเซ็ตไอเท็ม และรูน ให้สอดคล้องกัน และให้จบที่ +150% แบบพอดีๆ โดยที่ได้ไอเท็มโจมตีมาทดแทนจากเดิม เป็นการสร้างทางเลือกทำให้ Hayate ยิงได้แรงขึ้นนั่นเองครับ ถามว่า แบบนี้จะทำให้ Hayate เก่งขึ้นมากแค่ไหน ก็ต้องบอกว่า มันจะเก่งขึ้นในช่วงกลางเกมไปแล้วครับ จากที่เดิมจะเก่งตอนเลทเกม คราวนี้ก็จะเก่งขึ้นในช่วงกลางเกม และสามารถทำดาเมจได้แรงขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ ซึ่งเซ็ตไอเท็มใหม่ เดี๋ยวผมจะเอามาบอกกันแน่นอนครับ

จากที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ 16 ก.ค. 63 จะเห็นได้ว่า สำหรับไฮไลท์ของการปรับแพทช์ในครั้งนี้จริงๆ ก็จะอยู่ที่ การเนิฟ Recovery+ ให้มันฟื้นฟูได้น้อยลง (แต่ก็ต้องใช้อยู่ดี) และการปรับให้ Mana Refill มันฟื้นฟูมานาได้เยอะขึ้นแบบเป็นรูปธรรม และเห็นผลอย่างชัดเจน (ถูกใจ Dirak มากๆ) ทำให้แนวทางการจัดพลังแฝง สำหรับฮีโร่จำนวนมากในเกม ROV ทั้ง แครี่ เมจ และ ไฟต์เตอร์ ที่ต้องมายืนเลน และที่จำเป็นต้องใช้สกิลบ่อยๆ ต้องปรับเซ็ตพลังแฝงใหม่ โดยการเอา Mana Refill เข้ามาประจำการ เพราะมันดีขึ้นจริงๆ ครับ

ส่วนการปรับสมดุลฮีโร่นั้น ที่โดนเนิฟหนักๆ ก็จะมี Enzo ตัวเดียว นอกนั้น ก็ได้รับการบัพให้เก่งขึ้นแบบนิดๆ หน่อยๆ แต่ที่เห็นได้ชัดว่า บัพมาแล้ว เก่งขึ้นเยอะจริงๆ ก็คือ Hayate นะครับ อันนี้เก่งขึ้นแบบเห็นผลชัดเจน และมีผลกับการจัดเซ็ตรูน และพลังแฝง ซึ่งตรงนี้ เดี๋ยวผมจะเอามาแนะนำกันเพิ่มเติมในบทความต่อๆ ไปนะครับ โปรดรอติดตามครับ

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV School by หลวงป๊า กันได้นะครับ ในเพจ ROV School by หลวงป๊า จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV School by หลวงป๊า นะครับ

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://moba.garena.tw/news/show/2567

เรื่องก่อนหน้านี้วิเคราะห์ Lu Bu ROV เหมาะกับเกมแบบไหน ควรหยิบมาเมื่อไหร่ และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
เรื่องถัดไปสอนใช้สกิล Thorne ROV แบบเข้าใจง่ายๆ อ่านจบเอาไปเล่น โหดทันที (แถมเซ็ตไอเท็ม รูน พลังแฝงให้ด้วย)