แครี่ที่ถือได้ว่า มีความพลิ้วมากที่สุดในเกม ROV ณ ตอนนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น Eland’orr (อ่านว่า อีแลนดอร์ หรือ อีแลนด์-ออร์ ออกเสียงคล้ายกัน) แน่นอนครับ เพราะมันมีสกิลที่สามารถหายตัวกลับไปจุดเริ่มต้นที่ใช้สกิลได้ เหมือนกับ Murad เลยทีเดียว แต่ไม่เพียงเท่านั้น เพราะ Murad มีแค่สกิลเดียวที่ทำแบบนั้นได้ แต่ Eland’orr มีถึง 3 สกิล ที่ใช้กดอีกครั้ง เพื่อไปยังจุดที่มีผีเสื้อบินอยู่ เรียกได้ว่า พลิ้วจนหาตัวกันไม่เจอเลยทีเดียวครับ และเมื่อมันพลิ้วแบบนี้ ผู้เล่นก็ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับ หลักการเล่น Eland’orr ROV ให้มากขึ้นกว่าแครี่ตัวอื่นๆ ด้วย เพราะเงื่อนไข หรือ จังหวะในการใช้สกิลของมัน สัมพันธ์กับการโจมตีของ Eland’orr พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าอยากเล่น Eland’orr ให้พลิ้วๆ ก็ต้องเข้าใจเรื่องพวกนี้ให้หมดครับ
จุดเด่นโดยทั่วไปของ Eland’orr นั้น ถ้าให้เปรียบเทียบ ก็คงต้องบอกว่า เรื่องของการทำดาเมจนั้น มีความคล้ายกับ Tel’Annas เป็นอย่างมาก (ก็เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกันอ่ะนะ) นั่นคือ ทำความเสียหาย ทั้งดาเมจเวท และดาเมจกายภาพ ควบคู่กันไป และมีโอกาสติดคริติคอล เช่นเดียวกับ Tel’Annas ด้วย แต่จะมีความพลิ้วมากกว่า เรียกได้ว่า เหมือนเอา Tel’Annas กับ Murad มาผสมผสานกัน ทำให้สามารถรับมือ และแก้ทางพวกตัวล้วง ที่เน้นการโจมตีแบบประชิดตัว หรือ ตีใกล้ได้ ทำให้ตัวล้วงต้องหัวหมุน และยังสามารถหลบสกิลดาเมจที่เป็นรูปแบบเส้นตรงได้สบายๆ อีกด้วย
โดยธรรมชาติของ Eland’orr นั้น มันเป็นฮีโร่ที่เน้นการทำ DPS คือ ยิงใส่ไปเรื่อยๆ แล้วดาเมจที่ทำได้มันจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เอง โดยในช่วงต้นเกม ต้องอาศัยการยิงให้มากหน่อย ดาเมจมันถึงจะแรง แต่ในช่วงเลทเกมที่ไอเท็มครบ โดนแค่ยิงไม่กี่ที ก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว เพราะมีโอกาสติดคริติคอล และดาเมจมันจะแรงเว่อร์ๆ เลยทีเดียวครับ
หลักการเล่น Eland’orr ROV : รูน ไอเท็ม และ พลังแฝง
รูนของ Eland’orr นั้น เราจะเน้นไปที่ รูนคริติคอลเป็นหลักครับ โดยสามารถใช้รูนได้ 3 แบบ แล้วแต่ความชอบ และสไตล์การเล่นของแต่ละคนเลยครับ โดยใช้การปรับเปลี่ยนที่รูนสีแดงเป็นหลักล้วนๆ เลยครับ ส่วนรูนสีม่วง กับสีเขียว ไม่ต้องเปลี่ยนครับ นั่นคือ
Awake หรือ Rage หรือ Rampage 10 ชิ้น
Spirit 10 ชิ้น
Dragon’s Claw 10 ชิ้น
รูน Awake ใช้เพื่อเน้นทำให้ Eland’orr มันยิงได้เร็วสุดๆ เพื่อทำให้สกิลติดตัวทำงานได้บ่อยๆ เน้นการทำ DPS ให้มันสูงสุดๆ ไปเลย ส่วน Rage เราไม่เน้นยิงเร็วสักเท่าไหร่ แต่เน้นโอกาสติดคริติคอล ซึ่งจะมีผลเป็นอย่างมากในช่วงกลางเกม และเลทเกม ที่ Eland’orr เริ่มมีไอเท็มคริติคอลแล้ว ส่วน Rampage นั้น สำหรับการเล่น Eland’orr สายคริติคอลล้วนๆ คือ ถ้าติดคริติคอลเมื่อไหร่ ไส้แตกแน่นอน โดยการใส่รูน Rampage สามารถทำได้ เนื่องจาก Eland’orr นั้น ใช้การโจมตีปกติถี่มากๆ ทำให้มีจำนวนครั้งในการโจมตีสูง ก็เลยมีโอกาสที่จะติดคริติคอลได้สูงมากๆ เช่นเดียวกัน ติดคริทีนี่ ไส้แตกจริงครับ โดยเฉพาะช่วงเลทเกม มันโหดมากๆ
ในส่วนของ ไอเท็ม Eland’orr นั้น เราจะต้องเน้นไปที่ เพิ่มความเร็วในการโจมตี และคริติคอลเป็นหลัก ซึ่งจากที่ผมได้ทดสอบมา ช่วงต้นเกม ความเร็วในการโจมตี มีผลจริงๆ ครับ ทำให้ Eland’orr ทำดาเมจได้มากขึ้นจริงๆ
สำหรับรองเท้า โดยส่วนตัว จากที่เล่นรู้สึกไม่ชอบรองเท้าตีเร็วสักเท่าไหร่ครับ ชอบรองเท้าต้านทานสถานะอย่าง Gilded Greaves มากกว่าครับ เพราะมันมีผลตอนจังหวะชุลมุน หากเราโดนสถานะเข้าไป จะทำให้ความพลิ้วลดลงทันที อย่าลืมนะครับว่า แม้ Eland’orr มันจะพลิ้วเหมือน Murad แต่มันไม่เหมือนกับ Florentino ที่ทุกครั้งที่แว็บไปมา มันต้านทานสถานะด้วย การหายตัวของ Eland’orr ยังคงโดนสถานะได้อยู่ดี และนั่นจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะลดความพลิ้วไหวของ Eland’orr ลงไป ซึ่งเมื่อ Eland’orr มันไม่พลิ้วแล้ว ก็จะถูกฆ่าได้ง่ายมากๆ ครับ
การออกไอเท็มของ Eland’orr นั้น ถ้าให้พูดจริงๆ แล้วล่ะก็ บอกได้เลยครับว่า ไม่มีอะไรที่ตายตัวครับ ต้องไปว่ากันหน้างานล้วนๆ ว่าเกมนั้น เราได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ หรือเจอกับคู่ต่อสู้อย่างไร เพราะเอาจริงๆ แล้ว มันสามารถออกไอเท็มได้ทุกแบบ จะเหมือนกับ Tel’Annas ก็ได้ หรือจะเหมือนกับ Lindis หรือ Violet ก็ได้ มันอยู่ที่ว่า ในเกมนั้น ไอเท็มแบบไหน เหมาะสมกับการเล่นมากที่สุด หรือใช้หลัก การออกไอเท็มตามสถานการณ์ เข้ามาช่วยนั่นเองครับ
สำหรับ พลังแฝง Eland’orr นั้น เราสามารถใช้พลังแฝงได้หลากหลายรูปแบบมากๆ อยู่ที่สไตล์การเล่น และความชอบของแต่ละคน ซึ่งตรงนี้ เอาไปลองเล่น แล้วเลือกกันเอาเองดีกว่า เพราะจากที่ผมได้ลองมา พลังแฝงแต่ละแบบ ก็มีข้อดีสำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าทีมเรามีแท็งค์ และไฟต์เตอร์หลายตัว น่าจะโซนพื้นที่ได้ดี ทำให้ Eland’orr มีจังหวะยิงฟรีเยอะ ก็ควรเลือกใช้ พลังแฝงอย่าง Holy Summoner เป็นหลักครับ จะส่งผลดีมากๆ กับการทำดาเมจ DPS แต่ถ้าดูทรงแล้ว เราต้องยืนเลนคนเดียว และเดินคนเดียวบ่อยๆ ก็อาจจะเลือกใช้เป็น Curse of Death ได้
และถ้าเราเห็นว่า ฝั่งตรงข้าม มีตัวล้วงแรงๆ มากกว่า 1 ตัว ซึ่งดูทรงแล้ว เรามีโอกาสตายสูงมากๆ ก็อาจจะเลือกเอา Endless Cycle มาใช้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งตรงนี้ มันต้องพิจารณาจากการดราฟตัวของฝ่ายเรา และฮีโร่ที่ฝั่งตรงข้ามเลือกมาเล่น แล้วเราก็จะตัดสินใจเลือกใช้พลังแฝงได้อย่างเหมาะสมครับ
หลักการเล่น Eland’orr ROV : สกิลสำคัญของ Eland’orr
หลักการใช้สกิลของ Eland’orr นั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ เพราะจุดเด่นจริงๆ หรือหัวใจของทุกอย่าง จะอยู่ที่สกิลติดตัวล้วนๆ เลยครับ ซึ่งถ้าเราสังเกตดูให้ดีๆ จะเห็นว่า วิธีการทำให้ Eland’orr มันทำดาเมจได้แรงๆ นั้น จะมีอยู่ 2 อย่าง นั่นคือ เน้นการโจมตีปกติให้ครบ 3 ครั้ง เพื่อทำดาเมจเวท และใช้การกดใช้สกิลเดิมซ้ำ เพื่อให้กลับมาที่เดิม และเพิ่มดาเมจของการโจมตีปกติครั้งต่อไปเข้าไปอีก ซึ่งมันสามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น โจมตีปกติไป 2 ครั้ง แล้วกดใช้สกิลการโจมตีปกติครั้งที่ 3 ก็จะแรงขึ้น และทำดาเมจเวทแบบ AOE อีกด้วย ซึ่งตรงนี้เข้าใจได้ไม่ยาก สรุปง่ายๆ คือ เน้นการยิงรัวๆ เข้าไว้ สลับกับการใช้สกิล แล้วดาเมจมันจะแรงเอง
ทริคการใช้สกิลของ Eland’orr ก็คือ ควรใช้สกิลทุกสกิล ให้ใกล้กับ พุ่มไม้ หรือ ใกล้กับกำแพงให้มากๆ เพราะเวลาเข้าไฟต์ เราสามารถใช้สกิลต่างๆ เพื่อพุ่งข้ามกำแพง ทำให้ศัตรูเข้าถึงตัวเราได้ยาก หรือ เข้าไปในพุ่มไม้ ทำให้ศัตรูตามมาโจมตีได้ลำบาก แต่ก็ต้องเลือกด้วยว่า กำแพงอันไหนมันหนาเกินไป ก็ระวังจะกดข้ามไม่พ้นด้วยนะครับ
การใช้สกิล 1 กับ 2 ไม่ควรใช้พร้อมกัน แต่ควรใช้ต่อเนื่องกัน เพื่อให้สามารถหายตัวไปมาได้อย่างต่อเนื่อง หรืออีกนัยนึงก็คือ เมื่อกดใช้สกิลใดๆ ก็ตาม ควรกดใช้อีกครั้ง หรือรอให้คูลดาวน์หมด แล้วค่อยกดใช้สกิลใหม่ จะดีที่สุด ยกเว้นบางครั้ง มันฉุกเฉิน จวนตัว ก็สามารถกดใช้สกิลคอมโบกันได้ ทำไมถึงแนะนำแบบนี้
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรากดใช้สกิล 1 และยังไม่ได้กดสกิล 1 อีกครั้ง เพื่อวาร์ปกลับมา แล้วกดใช้สกิล 2 ทันที มันจะไม่มีผีเสื้อจากสกิล 2 ออกมาครับ และสกิล 1 จะหมดเวลาให้กดใช้อีกครั้ง ทำให้ Eland’orr ไม่มีสกิลให้กดใช้สำหรับวาร์ปหนีอีกแล้ว ซึ่งไม่ดีแน่นอน กับการเข้าไฟต์ ดังนั้น วิธีที่เหมาะสมก็คือ กดใช้สกิล 1 ไปโจมตีก่อน แล้วกดสกิล 1 อีกครั้ง เพื่อกลับมา แล้วถึงค่อยกดใช้สกิล 2 แบบนี้จะทำให้มีจังหวะหายตัวถึง 2 ครั้ง คือ จากทั้งสกิล 1 และสกิล 2 นั่นเอง
แนวทางการโจมตีของ Eland’orr ควรใช้การตอด โจมตีตอดไปเรื่อยๆ โดยใช้สกิล 1 ที่เข้าเร็ว ออกเร็ว แต่อย่าเป็นตัวเปิดไฟต์ Eland’orr ไม่ใช่ตัวเปิดไฟต์ เพราะมันเป็นแครี่ ยังไงก็ยังคงมีความบางของตัวมากเหมือนกับแครี่ทั่วไปอยู่ดีครับ ดังนั้น Eland’orr ควรเข้าไฟต์ในจังหวะสอง นั่นคือ หลังจากที่เพื่อนเปิด เราก็ตามได้เลย จะชัวร์ที่สุด อารมณ์จะคล้ายๆ กับ Lindis + Florentino นั่นแหละครับ คือ ยิงแล้วหนี แล้วยิงต่อ อะไรแบบนี้
การใช้สกิลของ Eland’orr นั้น จริงๆ แล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องสับสนครับ สรุปง่ายๆ คือ ทุกสกิลของ Eland’orr จะเหมือนกับสกิลของ Murad คือ สามารถกดอีกครั้ง แล้วกลับมาที่จุดเดิม หรือ จุดที่ผีเสื้อมันบินอยู่ได้เลย ซึ่งเมื่อใช้สกิลพวกนี้อย่างต่อเนื่อง คอมโบกัน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ศัตรูจะหัวหมุน และงงว่า ตกลง Eland’orr มันอยู่ตรงไหนกันแน่ เดี๋ยวไปตรงนั้น โผล่ตรงนี้ ซึ่งตรงนี้ คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวครับ เพราะจุดที่ Eland’orr จะไปโผล่นั้น ถ้าเล่นไปสักพักจะรู้ว่า ต้องไปดักที่ ผีเสื้อ ที่กำลังบินอยู่นั่นเองครับ แต่มันจะยากหน่อย เพราะมันไม่ได้มีสกิลสำหรับวาร์ป หรือ หายตัวแว้บๆ แบบนี้ แค่สกิลเดียว แต่มันมีทั้ง 3 สกิล ดังนั้น แม้เราจะดักที่ผีเสื้อ เช่น ดักที่ผีเสื้อจากสกิล 1 ตัวของ Eland’orr ก็สามารถใช้สกิล 2 เพื่อหนีโดยไม่ต้องกดใช้สกิล 1 ซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้กลับไปโดนดักเล่นงานก็ได้ มันเลยค่อนข้างมีความพลิ้วมากกว่า Murad อีกนะครับ
หลักการเล่น Eland’orr ROV : จุดเด่น จุดด้อย
จุดเด่น
– มีความพลิ้วสูงมาก ยิ่งผู้เล่นมีความชำนาญมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งฆ่ามันได้ยากมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งถ้า 1-1 ด้วยแล้ว ยิ่งฆ่าได้ยากมากๆ สวนกลับ หรือ หนีพวกตัวล้วงได้สบายๆ
– มีดาเมจต่อเนื่อง ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งแรงมาก มากจนรู้สึกว่า ดาเมจมันเว่อร์ไปจริงๆ ในช่วงเลทเกม หรือเกมนำมากๆ
– การโจมตีมีทั้งดาเมจเวท และกายภาพ แถมยังสามารถติดคริติคอลได้ทั้งดาเมจเวท และกายภาพอีกด้วย
– ทำลายป้อมได้เร็ว เพราะมีดาเมจ DPS ที่สูง รัวแป็บเดียวป้อมก็แตกแล้ว
– สามารถแยกดัน หรือ เดินเกมคนเดียวได้ เพราะมีสกิลสำหรับหนีเยอะสุดๆ
จุดด้อย
– เสียเปรียบเรื่องระยะโจมตี เนื่องจากมันมีระยะโจมตีที่ค่อนข้างสั้นกว่า แครี่ตัวอื่นๆ จึงทำให้เวลาที่จะโจมตีศัตรูต้องเข้าไปค่อนข้างลึกทีเดียว
– แพ้ทาง CC ทุกชนิด ตามสไตล์แครี่นั่นแหละครับ
– ตัวบาง ไม่ต่างจากแครี่ตัวอื่นๆ ในเกม
– ต้องเอาตัวเข้าแลก เวลาโจมตี แม้จะมีสกิลที่กดใช้ เพื่อกลับมาจุดเริ่มต้น หรือจุดที่มีผีเสื้อได้ก็ตาม แต่การเข้าไปโจมตี ก็เหมือนกับการเอาตัวเข้าไปอยู่ในระยะการโจมตีของศัตรู เหมือนต้องเอาตัวเข้าไปแลกอยู่บ่อยครั้ง
– ผู้เล่นต้องชำนาญในการกดใช้สกิล ถึงจะทำให้การเล่น Eland’orr มีความพลิ้วจริงๆ
– ต้องมีเพื่อนช่วยโซนให้ หรือยืนค้ำให้ ถึงจะทำดาเมจได้เต็มที่
จากที่ผมได้แนะนำเกี่ยวกับ หลักการเล่น Eland’orr ROV มาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ชัดเลยว่า มันเป็นแครี่ที่มีความพลิ้ว และเล่นแบบแยกดันคนเดียวได้ง่ายกว่า Hayate ซะอีก ยิ่งถ้าทีมมีแท็งค์ที่โซนพื้นที่ได้เก่งๆ จะทำให้ Eland’orr นั้น น่ากลัวมากๆ สำหรับฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะดาเมจช่วงเลทเกม ที่มีไอเท็มหลายๆ ชิ้น ดาเมจของ Eland’orr มันโอเว่อร์มากๆ จริงๆ ติดคริติคอลแรงสุดๆ ที่สำคัญ แท็งค์หรือไฟต์เตอร์ ก็รับมือ Eland’orr ได้ค่อนข้างยาก เพราะมีทั้งดาเมจเวท และดาเมจกายภาพมาคู่กัน มีผลมากๆ ในช่วงต้นเกม ที่พวกแท็งค์ และไฟต์เตอร์ ยังไม่มีเกราะกันเวทหนาๆ สักเท่าไหร่ อารมณ์คล้ายๆ กับ Tel’Annas นั่นแหละครับ
คนที่ควรจะซื้อมาเล่น ผมแนะนำให้เป็นผู้เล่นในตำแหน่งแครี่อาชีพ จะเหมาะสมที่สุดครับ เพราะยังไงมันก็ยังต้องใช้พื้นฐานการเล่นแครี่เป็นหลักอยู่ดีครับ ทั้งการ Kite และการอ่านแมพ รวมทั้งตำแหน่งการยืนยิงฟรี จำเป็นมากๆ สำหรับการเล่น Eland’orr แครี่ตัวนี้ ก่อนจะหยิบไปเล่นในโหมดปกติ ควรฝึกกับบอทหลายๆ ครั้ง ให้มีความชำนาญก่อนนะครับ โดยเฉพาะในโหมด 1-1 และ 3-3 กับบอท ถ้าฝึกจนคล่องแล้ว เวลามาเล่นกับคน ก็จะเล่นได้ง่าย และทำให้คนในทีม เห็นความเทพในตัวคุณได้แน่นอนครับ อย่าซื้อแล้ว หยิบมาเล่นเลย เพราะ Eland’orr เป็นแครี่ ที่ต้องใช้ทักษะในการกดใช้สกิลสูงมากๆ นะครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
