หลังจากที่มีการปรับแพทช์ ROV เป็น ซีซั่น 4 ทำให้หลายคน รู้สึกว่า Taara อ่อนลงไปหรือเปล่า เก่งน้อยลงหรือเปล่า จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้เก่งน้อยลงอะไรเลยนะครับ เพียงแต่หลายคน คิดไปเองมากกว่า และด้วยความที่คิดไปเองแบบนี้ จึงมีคนที่เสนอ Taara สายฟาร์ม ขึ้นมา ซึ่งกำลังได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าคิดกันมาได้อย่างไร ผมเอง เป็นคนที่เล่น Taara มาตั้งแต่แรกๆ จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่เคยคิดเลย ว่าจะเล่นสายฟาร์ม เพราะอะไร และทำไมถึงมีคนคิดสายฟาร์มแบบนี้ขึ้นมา ผมจะมาวิเคราะห์ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
Taara สายฟาร์ม โหดจริง หรือคิดไปเอง ว่ามันโหด?
ถ้าเทียบกันในเรื่องของความโหดแล้ว มันก็โหดครับ แต่ไม่มาก ไม่เท่ากับ การออกไอเท็มป้องกัน ตามปกติ เพราะถึงแม้ว่า Leviathan จะช่วยในเรื่องของของเลือดที่จะเพิ่มขึ้น และพลังโจมตีแบบ passive ก็ตาม แต่มันก็ยังขาดในเรื่องของ เกราะ ซึ่งจำเป็นมากๆ นั่นแปลว่า เลือดเยอะขึ้นมาอีกนิดหน่อย และพลังโจมตีแบบ passive เบาๆ อีกนิดหน่อย แต่เรื่องเกราะ ยังเท่าเดิม ซึ่งในการเล่นจริงๆ แล้ว เกราะ และเลือด มีความจำเป็นกับ Taara ทั้งคู่ จะเพิ่มแต่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ต้องเพิ่มทั้งสองอย่าง ควบคู่กันไป ส่วนจะเกราะเวท หรือ เกราะกายภาพ นั้น ก็ต้องดูอีกที ว่าคู่ต่อสู้ เป็นฮีโร่ในตำแหน่งไหน
ในเมื่อ Taara สายป่า หรือ สายฟาร์ม มันไม่ได้โหดอะไรมากมาย แล้วทำไม ยังมีคนชอบเล่นกันอยู่ล่ะ เหตุผลก็คือ มันสามารถ ขโมยบัพของศัตรูได้ ตั้งแต่ต้นเกม นั่นเองครับ เพราะถ้าเทียบกับแล้ว ฮีโร่ที่เหมาะจะไปขโมยบัพในป่าของศัตรูมากที่สุด ก็คือ Taara เพราะในช่วงต้นเกม จะได้ความถึกมากกว่า ฮีโร่ในตำแหน่ง แอสซาซิน ของฝ่ายตรงข้ามแน่นอน ยิ่งถ้าใช้เทคนิค หรือ กลยุทธ์การรบ ขโมยบัพ คือ รอให้ศัตรู ตีโกเล็มฟ้า จนใกล้จะตาย แล้วเราก็กดใช้สกิล punish แย่งบัพมา พร้อมกับโดดเข้าไปไล่ฆ่า ศัตรู ซึ่งเลือดจะลดลงไปเยอะอยู่แล้ว ยิ่งทำให้มีโอกาสฆ่าได้อีกด้วย
การเล่นแนวขโมยบัพ หรือ ฟาร์มบัพในป่าของศัตรูทั้งหมด จะเป็นประโยชน์กับทีมเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่า ในช่วงต้นเกม ไล่ตามจับ Taara ยากมากๆ ยิ่งถ้าได้สกิลอัลติเมท ยิ่งตามจับ หรือตามฆ่าได้ยากมากๆ ต้องรวมกลุ่ม หรือเดินแก๊งค์ อย่างเดียว ถึงจะไล่ฆ่าได้ ซึ่งถ้าทำแบบนั้น จะเปิดเลนให้ว่าง และทำให้เพื่อนเรา ซึ่งยืนเลนอยู่ สามารถดันป้อม และเพิ่มเวลของตัวเอง ได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงกล่าวได้ว่า จุดประสงค์หลักจริงๆ ของ Taara สายฟาร์ม ก็คือ “ขโมยบัพ” และ “Abyssal Dragon” ครับ ประเด็นมีแค่นี้จริงๆ
ถ้าถามว่า สายไหนโหดกว่า ระหว่าง Taara สายปกติ กับ Taara สายฟาร์ม คำตอบสำหรับผม ก็ยังยืนยันว่า สายปกติ ครับ เพราะไอเท็มโจมตีสายปกติ จะให้เกราะ และเลือดพร้อมๆ กัน โหดกว่าเยอะครับ และส่วนใหญ่ Taara มักจะเป็น แท็งค์ ตัวหลัก ตัวเดียวในเกม
แต่ถ้าอยากได้สายโหดสุดขีดจริงๆ ผมแนะนำให้เป็นสายผสมครับ คือ ใส่มันทั้ง เกราะไฟ Mantle of Ra และ Leviathan ไปพร้อมกันเลยครับ รับรองได้ว่า เผาศัตรูด้วยดาเมทเวท จนศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ เรา เลือดลดเป็นน้ำแน่นอนครับ ยิ่งไปกว่านั้น ยังใช้สกิลติดตัวของ Taara ได้อย่างเต็มที่ด้วย เพราะทำให้มีเลือดเยอะมากขึ้น
การที่จะเล่น Taara สายป่า หรือ สายฟาร์ม จะเล่นได้ ก็ต่อเมื่อ ในทีม มีแท็งค์อีกหนึ่งตัวอยู่แล้ว คอยช่วยเพื่อนในทีมอยู่ หรือเดินแก๊งค์ ส่วน Taara จะทำหน้าที่ คล้ายๆ กับ แอสซาซิน คือ หรอยป้อม ขโมยบัพ แล้วหนี ไม่ปะทะกับศัตรู สร้างความปั่นป่วน ให้กับทีมศัตรู แบบสุดๆ คือ Taara จะคอยวิ่งเปิด Vision ให้กับเพื่อนร่วมทีมไปด้วย และถ้าสบโอกาส ก็จะขโมยมอนสเตอร์ในป่าศัตรูไปด้วย และหรอยป้อมในเลนต่างๆ อีกด้วย ทำให้ศัตรูต้องมาพะวง กับ Taara มากกว่าที่จะรวมทีมกันต่อสู้ การทำแบบนี้ จะช่วยเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมเรา มีพื้นที่ในการเล่นเยอะมากขึ้นครับ
แต่ถ้าในทีม มีแท็งค์ตัวเดียว คือ Taara การออกของ ก็ควรจะเป็นสายปกติ จะดีกว่าครับ จะทำให้ยืนปะทะกับศัตรู ได้นานกว่า สายป่า แน่นอน ดังจะเห็นได้จาก ไอเท็มแนะนำ ที่ไอเท็มยอดนิยมสำหรับ Taara 5 อันดับแรก ไม่ใช่เซ็ตฟาร์มป่าเลยครับ
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า การจะเล่น สายป่า หรือสายฟาร์ม มันขึ้นอยู่กับ เพื่อนร่วมทีม และความชอบ ของตัวผู้เล่นด้วย เรียกได้ว่า สไตล์การเล่น ชอบแนวขโมยบัพหรือไม่ และเพื่อนร่วมทีม เล่นแท็งค์อีกตัวนึงหรือไม่ เช่น Chaugnar ถ้ามี ก็สามารถเล่น ในรูปแบบของ แท็งค์/แอสซาซิน ได้เลยครับ
