และแล้ว ก็มาถึงวันที่จะมีการ ปรับสมดุลฮีโร่ ROV แพทช์ใหม่ 20 เม.ย. 64 ตามที่ประกาศไว้ในเซิฟไต้หวันกันสักทีนะครับ โดยการปรับครั้งนี้ ถือว่า เป็นการปรับสมดุลครั้งที่ใหญ่มากๆ ครั้งนึงของเกม ROV เลยทีเดียวครับ โดยถือเป็นการฉลองครบรอบเกม ROV ครบ 5 ปี ดังนั้น ก็จะมีการปรับอะไรที่เจ๋งๆ หลายๆ อย่าง ซึ่งไฮไลท์สำคัญในการปรับสมดุลฮีโร่ครั้งนี้ จะอยู่ที่ ฮีโร่ 4 ตัวหลักๆ ที่จะมีการ Remake สกิลต่างๆ ได้แก่ Scud, The Joker, Annette และ Qi ทำให้มันเก่งขึ้นกว่าเดิม เก่งขึ้นชนิดที่ว่า ต้องมีคนแย่งกันหยิบมาเล่นเลยทีเดียวว่างั้น รวมทั้งยังมีการปรับสมดุลฮีโร่อีกมากมาย และแก้ไขบัคต่างๆ ของฮีโร่หลายๆ ตัวในเกมอีกด้วย เอาเป็นว่า บทความนี้จะยาวสักหน่อย แต่ผมจะพยายามวิเคราะห์ให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดว่า ฮีโร่แต่ละตัวยังสามารถหยิบมาเล่นได้อยู่หรือไม่
ปรับสมดุลฮีโร่ ROV แพทช์ใหม่ 20 เม.ย. 64 ปรับเยอะมาก
Skud (บัพ/Remake)
ต้องบอกเลยว่า ก่อนหน้านี้ Skud ค่อนข้างที่จะตกยุคไปแล้ว เนื่องจากมีฮีโร่ในตำแหน่งออฟเลนตัวใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมาย ทั้งฮีโร่ใหม่ หรือ ตัวเก่าที่ได้รับการบัพความสามารถให้เก่งขึ้น มาคราวนี้ ทางทีมงานเค้าก็เลยทำการปรับให้ Skud มันเก่งขึ้น และปรับเป็น ไฟต์เตอร์/แท็งค์ ที่สามารถทำดาเมจเป็นความเสียหายเวท รวมทั้งยังคงรักษาจุดเด่นในเรื่องการโจมตีแบบ “หมัดเดียวไส้แตก” เอาไว้อยู่
ค่า Status พื้นฐาน ที่ได้รับการปรับ
พลังชีวิตสูงสุดตอนเริ่มเกม : 3563 → 3865
โบนัส HP ต่อเลเวลที่เพิ่มขึ้น : 345.5 → 356.5
พลังโจมตีกายภาพ : 171 → 160
โบนัสพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นต่อเลเวล : 13.2 → 12
ค่าเกราะป้องกันที่เพิ่มขึ้นต่อเลเวล : 26.4 → 22.5
ระยะการโจมตีปกติ : 3m → 2.5m
Passive
การโจมตีปกติของ Skud ในแต่ละครั้ง จะเพิ่มความเสียหายเวท 60~200 (+2% พลังชีวิตสูงสุด) (+0.25 พลังเวท) กับฮีโร่เป้าหมายที่มีพลังชีวิตน้อยกว่า HP ของ Skud (ความเสียหายเวทที่เพิ่มเติมมาพวกนี้ ไม่สามารถติดคริติคอลได้) และเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดขึ้นอีก 10%
Skill1
Skud พุ่งไปยังทิศทางที่กำหนด และทำความเสียหายกายภาพแก่ศัตรูที่อยู่ในเส้นทางที่พุ่งไป 200/240/280/320/360/400 (+0.8 พลังโจมตี) เมื่อโจมตีโดนเป้าหมายจะเพิ่มความเร็วโจมตีขึ้นอีก 20/24/28/32/36/40% และหากใช้สกิล 1 ร่วมกับสกิล 2 และ Passive จะทำให้โบนัสดาเมจจากการทุบแรงขึ้น 50% เป็นเวลา 5 วินาที
คูลดาวน์ : 8 วินาที
ระยะที่พุ่งออกไป : 5.5m → 5m
Skill2
Skud ชาร์จพลังใส่ลงไปในหมัด เป็นเวลา 5 วินาที ในระหว่างนั้น ความเร็วในการเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้น และหลังจาก 3 วินาทีจะเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น 40% และจะเริ่มช้าลงจากนั้น และเพิ่มความแรงให้กับการโจมตีปกติครั้งถัดไป (ระยะของการโจมตีกว้างขึ้น และโบนัสความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นมาก็จะหายไปหลังจากที่โจมตีปกติ) ซึ่งเมื่อทุบโดนเป้าหมาย จะทำความเสียหาย 300/400/500/600/700/800 (+8% พลังชีวิตสูงสุด) (+1.0 พลังเวท) (ความเสียหายที่เพิ่มเติมมานี้จะไม่สามารถติดคริติคอลได้) และจะสโลว์เป้าหมาย 30/36/42/48/54/60% เป็นเวลา 2 วินาที หากโจมตีโดนเป้าหมายจะลดคูลดาวน์ของสกิล 2 ลง 50%
คูลดาวน์: 10 วินาที
โอเค อธิบายสกิล 2 แบบง่ายๆ ตามนี้นะครับ คือ เดิมทีสมัยก่อน Skud มันจะชาร์จพลังในหมัดไว้เอง ตามเวลาถูกต้องมั้ยครับ แต่หลังจากปรับมาใหม่ มันจะชาร์จ Passive ตอนที่เรากดใช้สกิล 2 ครับ คือ มันจะมีเกจวิ่งอยู่ข้างบน คล้ายๆ ตอนเราเล็งสกิล 2 ของ Elsu นั่นแหละครับ ซึ่งเมื่อเกจมันวิ่งผ่านตรงจุดที่เค้ามาร์คเอาไว้ นั่นแหละเราถึงจะทุบแบบพิเศษแล้วแรงได้ แต่ถ้าทุบก่อนหน้านั้น ก็ไม่มีปัญหาครับ ทุบได้ แต่มันจะไม่ใช่การโจมตีพิเศษแบบ Passive พูดง่ายๆ คือ ต่อไปนี้ ความแรงของหมัดจะอยู่ที่ สกิล 2 เป็นหลัก ว่าเราจะคำนวณให้เกจมันวิ่งแรงแค่ไหนนั่นเองครับ ซึ่งถ้าเรากดใช้สกิล 2 แล้ววืด ไม่ได้ต่อยโดนอะไรเลย มันก็จะติดคูลดาวน์นาน 10 วินาทีทันทีครับ แต่ถ้าเราต่อยโดนอะไรสักอย่าง มันก็จะเหลือคูลดาวน์แค่ครึ่งเดียวครับ โอเคนะ
ดังนั้นจังหวะการฆ่าจริงๆ จะอยู่ที่การคอมโบแค่ สกิล 1 + สกิล 2 แค่นั้น ซึ่งในระหว่างที่ชาร์จสกิล 2 Skud จะวิ่งเร็วขึ้น และเข้าถึงตัวเป้าหมายได้ง่ายขึ้นแน่นอนครับ พยายามคำนวณดาเมจให้ดี เข้าไปทุบแล้ว ต้องให้ตายนะครับ ไม่งั้นออกไม่ได้ งานเข้าแน่นอนนะครับ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วที่จะเข้าไปแล้ว อัลติใส่เป้าหมาย แล้วกดสกิล 1 พุ่งออกมาได้อีก มันไม่มีแบบนั้นอีกแล้วนะครับ
อัลติเมทสกิล
Skud ชาร์จพลัง 0.8 วินาที (สามารถเคลื่อนที่ได้ระหว่างที่ชาร์จและต้านทานสถานะควบคุมต่างๆ ได้) จากนั้น เหวี่ยงหมัดหมุนรอบตัว สร้างความเสียหายกายภาพ 400/600/800 (+1.2 พลังโจมตี) กับศัตรูรอบๆ ตัว และผลักให้ศัตรูกระเด็นถอยหลัง ติดสตั้น เป็นเวลา 1.5 วินาที
Passive: ในระหว่างที่ยังไม่ได้ใช้อัลติ การฆ่าครีปเลนหรือมอนสเตอร์ป่าจะฟื้นฟู HP ให้ Skud 4/6/8% ของพลังชีวิตสูงสุด แต่ถ้าใช้อัลติไปแล้ว อัลติติดรอคูลดาวน์อยู่ Passive นี้จะไม่ทำงานนะครับ นั่นแปลว่า ถ้าอยากดูดเลือดได้ ก็อย่าเพิ่งใช้อัลติครับ
คูลดาวน์: 40/35/30 วินาที
วิเคราะห์ : ต้องบอกเลยว่า นี่คือการปรับให้ Skud เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เป็นฮีโร่ประเภท แอสซาซิน ตัวบางๆ ไม่เน้น HP แต่เน้นออกไอเท็มโจมตี เน้นแรงสุดๆ เอาไว้ก่อน ก็เปลี่ยนมาเป็น ต้องเน้นไอเท็มป้องกัน เน้นเพิ่ม HP ให้ตัวเองมากที่สุด เพราะความเสียหายจาก Passive หลักๆ จะมาเป็นตัวคูณจาก HP สูงสุดของตัวเอง รวมทั้งยังมีเงื่อนไขที่ การโจมตีของ Skud ถ้าจะให้ทำดาเมจเวทได้แรงๆ ตามเงื่อนไข Skud ต้องมี HP มากกว่าฮีโร่เป้าหมาย ดังนั้น จึงเหมือนกับว่า เราต้องเล่น Skud โดยการเล่นเป็นสายแท็งค์ เน้นออกไอเท็มป้องกันเพิ่ม HP ให้มากที่สุดนั่นเอง
นอกจากนี้ทางทีมงานยังปรับให้แนวทางการเล่น Skud ง่ายขึ้น ก็คือ ต้องคอมโบสกิลด้วย สกิล 1 + สกิล 2 และไปทุบด้วย Passive เท่านั้น ถึงจะแรงแบบสุดๆ ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องคิดมาก และไม่ต้องสร้างคอมโบสกิลอะไรใหม่ให้แตกต่างไปจากเดิมเลย คือ คอมโบเหมือนเดิม รอให้ Passive พร้อมทำงาน จากนั้นก็ใช้สกิล 1 พุ่งเข้าไป แล้วทุบด้วยสกิล 2 ดาเมจที่ทำได้ก็จะกลายเป็นดาเมจเวท และแรงขึ้นอีก 50% ทันที ง่ายๆ แค่นี้เลย
สิ่งที่เปลี่ยนไป และต้องระวังก็คือ การคอมโบแบบใช้อัลติ จะไม่มีอีกแล้วนะครับ ประเภทที่ว่า เค้าไปอัลติให้โดนเป้าหมายแล้วจะใช้สกิล 1 พุ่งหนีออกมาได้อีกครั้ง จะไม่มีอีกแล้วนะครับ นั่นแปลว่า อัลติไม่ได้มีไว้เพื่อทำแบบนั้นอีกแล้ว และการใช้อัลติต้องระวังด้วย เพราะอะไร?
อัลติเมทสกิลที่มี Passive มาให้ใหม่ก็คือ ในระหว่างที่ยังไม่ได้ใช้อัลติ Skud สามารถฟื้นฟู HP ให้ตัวเองได้ด้วยการฆ่าครีปเลน หรือ มอนสเตอร์ป่า ซึ่งจะเพิ่ม HP ให้ตัวเองได้เยอะมากๆ (ตามเปอร์เซ็นต์เลือด) ตรงนี้ถือว่าเด็ดมากๆ แต่ถ้าเรากดใช้อัลติไปเมื่อไหร่ Passive นี้จะไม่ทำงานนะครับ นั่นคือ เราจะดูดเลือดอะไรคืนไม่ได้เลย ดังนั้น จังหวะการใช้อัลติ ก็ต้องคิดให้ดีหน่อยนะครับ เพราะหลังจากที่ใช้อัลติไปแล้ว ระยะเวลาคูลดาวน์ของอัลตินั่นแหละ คือ ระยะเวลาที่เราดูดเลือดคืนจากครีปเลน หรือมอนสเตอร์ป่าไม่ได้
ซึ่งการปรับทั้งหมดนี้ ทำให้ Skud กลายเป็นตัวแสบประจำ ออฟเลน ไปโดยปริยาย และที่สำคัญ เรายังสามารถหยิบ Skud มาเล่นในตำแหน่งที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิมได้ เช่น ฟาร์มป่า, โรมมิ่ง หรือแม้แต่ เลนมังกร Abyssal Dragon (ในกรณีที่ทีมเรามีแครี่ฟาร์มป่า) เป็นไงครับ เด็ดเลยมั้ยล่ะ สนุกขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียวสำหรับการหยิบ Skud มาเล่นในแพทช์ใหม่นี้
The Joker (บัพ/Remake)
แม้ว่า The Joker จะมีสกิลโจมตีจากระยะไกลมากก็ตาม แต่เมื่อเทียบในเรื่องของดาเมจ หรือความแรงแล้ว ยังด้อยกว่าแครี่ตัวอื่นๆ เยอะมาก และขาดความต่อเนื่องในการโจมตี คอมโบได้ชุดเดียวก็ต้องเผ่นแล้ว ดังนั้น ทางทีมงานเค้าก็เลยทำการปรับให้ The Joker ทำดาเมจได้แรงขึ้น และสามารถโจมตีได้ต่อเนื่องมากขึ้นนั่นเอง
Passive
ปรับให้กระสุนพิเศษ สามารถสะสมได้มากถึง 5 นัด
วิธีได้รับการสะสมกระสุนแบบใหม่ :
เพิ่มตามระยะเวลา ในทุกๆ 10 วินาที ก็จะเพิ่ม Stacks ให้ แต่ถ้าอยากเพิ่มได้เร็วๆ ก็ใช้สกิลต่างๆ ซึ่งจะเพิ่ม Stacks ให้จำนวนที่ไม่เท่ากัน ดังนี้
– สกิล 1 ถ้าโดนฮีโร่เพิ่ม 2 Stacks / ถ้าโดนครีปหรือมอนสเตอร์ป่า เพิ่ม 1 Stack
– สกิล 2 เพิ่ม 1 Stack
– อัลติเพิ่ม 3 Stacks
ดาเมจของกระสุนพิเศษ : 120 (+12 ต่อเลเวล) (+0.6 พลังโจมตี) → 3% ของพลังชีวิตเป้าหมายปัจจุบัน (+1% ต่อเลเวล 2) (+0.4 พลังโจมตี)
เอาเอฟเฟกต์การสโลว์ออกไป
Skill1
เพิ่มความสามารถใหม่ : เมื่อโดนเป้าหมาย จะสโลว์เป้าหมาย 30% เป็นเวลา 2 วินาที
อัลติเมทสกิล
เอฟเฟกต์การสโลว์ : ปรับการสโลว์ (50%~90%) → 50%
ระยะเวลาการสโลว์ : 1 → 2 วินาที
วิเคราะห์ : การปรับมาแบบนี้ จะทำให้การเล่น The Joker ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ และสามารถเข้าไฟต์อย่างต่อเนื่อง ทำดาเมจต่อเนื่องได้ และที่สำคัญ ตีป้อมให้แตกได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแน่นอน กระสุน 5 นัด ในช่วงกลางเกม ถึงเลทเกม ยิงป้อมแตกได้เร็วมากๆ นะครับ และการฆ่าศัตรูจะทำได้ง่ายมากขึ้นเยอะ แม้ว่าศัตรูจะเป็นแท็งค์ตัวหนาๆ The Joker ก็เอาลงได้ หลังจากนี้เราคงจะได้เห็นคนหยิบ The Joker มาเล่นกันมากขึ้นแน่นอนครับ ปรับมาแบบนี้โหดขึ้นจริงๆ ครับ
Annette (บัพ/Remake)
Annette มีสกิลต่างๆ ที่ค่อนข้างจะใช้งานได้ยุ่งยาก และซับซ้อน แต่เพราะความซับซ้อนและลงลึกถึงรายละเอียดแบบนี้ จึงทำให้มันเป็นหนึ่งในซัพพอร์ตที่ทำหน้าที่สนับสนุนทีมได้เป็นอย่างดี แต่ที่ผ่านมามันยังไม่เก่งพอ ดังนั้น ทางทีมงานจึงได้ปรับให้สกิลต่างๆ ของ Annette ส่งเสริมการเข้าไฟต์แบบเป็นกลุ่มให้มากขึ้น ส่งเสริมให้เก่งขึ้นในเรื่องการซัพพอร์ตทีมตอนเข้าไฟต์มากขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเนิฟความแรงของสกิลให้ลดลงไป พูดง่ายๆ คือ ดาเมจเบาลง แต่ได้เรื่อง Sustain และการซัพพอร์ตทีมที่ดีขึ้นเป็นการแลกมานั่นเอง
Passive
ทุกๆ 20 วินาที Annette จะได้รับเอฟเฟกต์วิ่งเร็วขึ้น 15% เมื่อไม่ได้ต่อสู้ และเมื่อ Annette ร่ายสกิล หรือโจมตีใส่ศัตรู จะทำการลดระยะเวลการสะสมพลังงานให้ 1 วินาที (จะมีแถบพลังงานอยู่ด้านล่าง HP สีเทาๆ นั่นแหละครับ)
ปรับใหม่คือจากเดิม เมื่อเพื่อนร่วมทีม หรือ Annette มี HP ต่ำกว่า 70% สกิลติดตัวนี้จะทำงานทันที โดยทำการฟื้นฟู 275 (+25 ต่อเลเวล) (+0.3 พลังเวท) ให้กับฮีโร่ที่อยู่ในระยะภายใน 3m รอบตัว Annette → เมื่อเพื่อนร่วมทีม หรือ Annette มี HP ต่ำกว่า 85% ภายในรัศมี 4m ฮีโร่ทั้งสองตัว คือ เพื่อนเราและตัวเราเอง จะฟื้นฟู 225 (+20 ต่อเลเวล) (+0.6 พลังเวท)
Skill1
ปรับความรู้สึกของการใช้สกิลให้มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
ความสามารถใหม่ : เมื่อใช้สกิลจะทำให้สะสมเกจได้เร็วขึ้น ลดระยะเวลาการสะสมเกจลงไป 1 วินาทีได้เลยเมื่อโดนเป้าหมายตรงกลางวงของสกิล และสามารถสะสมสูงสุดได้ถึง 4 ครั้ง (เป้าหมายโดยสกิลตรงกลางวงเข้าไปเต็มๆ จะลดระยะเวลาสะสมเกจได้มากถึง 4 วินาทีเลยทีเดียว)
ดาเมจเพิ่มเติมเมื่อเป้าหมายยืนอยู่ตรงกลางวงของสกิล : 2% ของพลังชีวิตสูงสุดเป้าหมาย→ 1% ของพลังชีวิตสูงสุดเป้าหมาย
Skill2
ยกเลิก Passive ที่ให้ทั้งเกราะเวท และเกราะกายภาพพร้อมๆ กัน
ได้รับโล่ขนาด : 300/360/420/480/540/600 (+0.5 พลังเวท) → 750/900/1050/1200/1350/1500 (+1.0 พลังเวท)
อัลติเมทสกิล
ความสามารถใหม่ : ถ้ามีเพื่อนอยู่ในระยะใกล้กับจุดที่กดใช้อัลติ Annette จะสามารถใช้อัลติได้อีกหนึ่งครั้ง ภายในระยะเวลา 2 วินาที ถ้าหากว่าไม่ได้กดใช้อัลติครั้งที่ 2 จะถูกเปลี่ยนเป็นการลดคูลดาวน์อัลติลง 30% ทันที และเมื่อ Annette อยู่ในวงที่กดใช้อัลติ จะทำให้การสะสมเกมสำหรับ Passive เร็วขึ้นกว่าเดิม 5 เท่า
ฮีโร่ฝ่ายเราที่อยู่ในวงอัลติ จะวิ่งเร็วขึ้น 40% และ โจมตีเร็วขึ้น 30/40/50% → ตัวของ Annette เองและพันธมิตรจะวิ่งเร็วขึ้น 20% และได้รับเกราะเวทและเกราะกายภาพเพิ่มขึ้น 50/75/100
ระยะการใช้สกิล : 6m → 4.5m
รัศมีของวงสกิล : 3.5m → 4.25m
ระยะเวลาของวงสกิล : 2.5 วินาที → 2 วินาที
ระยะเวลาสตั้น : 1 → 0.75 วินาที
ดาเมจเวท : 400/600/800 (+0.5 พลังเวท) → 300/450/600 (+0.5 พลังเวท)
วิเคราะห์ : การปรับสกิลต่างๆ ของ Annette แบบนี้ โดยเฉพาะ Passive ถือว่า มีผลกับการเล่นเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ Annette เดินกับแครี่ได้ง่าย และฟื้นฟู HP ได้เร็วมากขึ้น ไม่ต้องรอ 20 วินาทีเต็มๆ กว่า Passive จะพร้อมทำงาน เพราะเมื่อ Annette ใช้สกิลต่างๆ หรือ โจมตีปกติ เกจจะสะสมได้เร็วขึ้น และช่วยฟื้นฟู HP ให้เพื่อนและตัวเองสบายๆ
ยิ่งไปกว่านั้น อัลติที่ถูกปรับมาใหม่ ก็ทำให้ Annette เล่นได้ง่ายขึ้น คือ จังหวะการเข้าไฟต์ ก็ใช้อัลติเข้าไปช่วยเพื่อนได้ถึง 2 ครั้งติดๆ กัน ทำให้มีความคล่องตัว และปกป้องเพื่อนได้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก บอกเลยว่า หลังจากนี้ Annette จะกลายมาเป็นซัพพอร์ตยอดนิยมที่จะถูกหยิบมาเล่นกันแทบทุกเกมแน่นอน เพราะมันช่วยแครี่ได้ดีมากๆ ทั้งเรื่องฟื้นฟู HP และช่วยปกป้องจากการโดนล้วงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งซัพพอร์ตที่จะกลับมาเฉิดฉายอย่างแน่นอนครับ
Qi (บัพ/Remake)
Qi มีดาเมจเพียงพอสำหรับการฆ่าอยู่แล้ว แต่ปัญหาก็คือ กลางเกม ถึงเลทเกม มักจะเอาศัตรูให้ลงได้ยากพอสมควร และการเข้าไฟต์จะทำดาเมจได้ไม่ต่อเนื่อง เพราะโจมตีปกติได้ช้า รวมทั้งการใช้อัลติถ้าพลาดก็คือ หนีไม่ออก และมีโอกาสตายสูง ดังนั้น ทางทีมงานเลยปรับให้มันเก่งขึ้น เล่นง่ายขึ้น และโหดขึ้น
ค่า Status พื้นฐาน
ระยะเวลาการโจมตีปกติจะเร็วขึ้น 0.066 วินาที
ระยะของการโจมตีปกติจะลดลง 0.5m และระยะการโจมตีปกติหลังจากใช้สกิลยังคงเท่าเดิม
การโจมตีพิเศษสามารถสะสมได้สูงสุด 4 ครั้ง และจะมีช่อง Stack ให้เห็นอยู่ด้านล่างใต้แถบมานา – อธิบายเพิ่มเติมตรงนี้นิดนึงว่า มันคืออะไร ทำไมต้องสะสม Stack อีกแล้ว คือ แบบนี้ครับ ปกติแล้ว Passive เดิมของ Qi ก็คือ เมื่อใช้สกิลอะไรไปแล้วก็ตาม การโจมตีหลังจากนั้น 2 ครั้ง จะเป็นการโจมตีแบบพิเศษ ซึ่งข้อเสียก็คือ มันสะสมอะไรไม่ได้ คือ สมมติว่า ถ้าเราใช้สกิล 1 + สกิล 2 คอมโบต่อเนื่องกัน การโจมตีพิเศษหลังจากที่กดใช้สกิลทั้งสองสกิลคอมโบกัน จะได้แค่การโจมตีพิเศษ 2 ครั้งแค่นั้นเอง
แต่ในแพทช์ใหม่นี้ เมื่อเราใช้สกิลใดๆ ก็ตาม การโจมตีพิเศษทั้งสองครั้งหลังจากใช้แต่ละสกิล จะถูกสะสมเอาไว้ได้ สูงสุด 4 ครั้ง ตัวอย่างเดิม เช่น ถ้าเราใช้คอมโบสกิล 1 + สกิล 2 เราจะมีเกมสะสมไว้ 4 ช่องเต็ม นั่นคือ เมื่อเราใช้สกิล 1 + สกิล 2 (ต้องโดนเป้าหมายด้วยนะครับ ไม่ใช้ใช่กับลม แบบนั้นจะไม่มี Stack อะไรขึ้น) หลังจากที่เราใช้สกิล 2 แล้ว การโจมตีพิเศษหลังจากนั้น จะกลายเป็น 4 ครั้งทันที ทำให้เราตีปกติแรงขึ้นและดูดเลือดได้ 4 ครั้ง สบายๆ แต่ถ้าเราใช้คอมโบแบบ สกิล 1 + อัลติ + สกิล 2 แบบนี้แม้ว่าจริงๆ ควรจะได้รับการโจมตีพิเศษ 6 ครั้ง แต่เรามีแถบสะสมเกจได้แค่ 4 ช่อง เราก็จะโจมตีแบบพิเศษได้แค่ 4 ครั้งแค่นั้นเอง ดังนั้น ตรงนี้ ก็ต้องไปคิดจังหวะการคอมโบสกิลใหม่ ให้เราได้ใช้เกจที่สะสมพวกนี้ให้ครบทุกครั้ง ก็จะคุ้มค่ามากๆ นะครับ
ปรับให้ระยะการหาเป้าหมายของทุกสกิลทำงานได้ดีขึ้น แม่นยำขึ้นเมื่อกดใช้สกิล จะโดนเป้าหมายค่อนข้างชัวร์ๆ
Passive
การโจมตีปกติหลังจากใช้สกิลจะเป็นการโจมตีพิเศษ สร้างความเสียหายกายภาพ : 0.4 พลังโจมตี → 30 (+5 ต่อเลเวล) (+0.25 พลังโจมตี)
ฟื้นฟู HP ให้ตัวเอง : 120 (+30 ต่อเลเวล) → 100 (+25 ต่อเลเวล)
การใช้สกิลแต่ละครั้ง จะเพิ่มเกราะให้ตัวเอง : 50 (+10 ต่อเลเวล) → 30 (+5 ต่อเลเวล)
Skill1
ความเร็วในการพุ่งไปโจมตี : 17m/s → 15m/s
ดาเมจกายภาพ : 240/290/340/390/440/490 (+0.85 พลังโจมตี) → 300/375/450/525/600/675 (+0.55 พลังโจมตี)
Skill2
ความสามารถใหม่ : การโจมตีช่วงสุดท้ายของสกิล 2 จะสโลว์เป้าหมาย 50% เป็นเวลา 1 วินาที
จะมีเกจอยู่ที่ด้านบน เพื่อบอกว่า ช่วงไหนที่เป็นช่วงสุดท้ายของการต่อยที่จะสโลว์เป้าหมาย
ดาเมจกายภาพของการโจมตีแต่ละครั้ง : 90/108/126/144/162/180 (+0.4 พลังโจมตี) → 120/150/180/210/240/270 (+0.25 พลังโจมตี)
การโจมตีแต่ละครั้งจะลดเกราะของเป้าหมายลง : 20/28/36/44/52/60 → 15/20/25/30/35/40
อัลติเมทสกิล
ถ้าใช้อัลติผลักศัตรูกระแทกกำแพงได้ ก็จะใช้อัลติได้อีกครั้งในการพุ่ง ได้ทันที
ถ้าใช้อัลติผลักศัตรู แต่ไม่ได้กระแทกกำแพงอะไรเลย จะสามารถใช้สกิลพุ่งได้เช่นกัน หลังจาก 3 วินาทีไปแล้ว
ความสามารถใหม่ : อัลติของ Qi สามารถใช้โดนศัตรูหลายๆ ตัวพร้อมกันได้ จะโดนดาเมจและสตั้นเท่าๆ กัน ถ้าอยู่กันเป็นกลุ่ม โดนผลักเป็นกลุ่ม ก็เจ็บเป็นกลุ่ม และสตั้นเป็นกลุ่ม นานเท่าๆ กัน
ดาเมจกายภาพจากการผลักครั้งแรก : 240/360/480 (+0.6 พลังโจมตี) → 300/450/600 (+0.45 พลังโจมตี)
ดาเมจกายภาพจากการผลักกระแทกกำแพง: 80/120/160 (+0.2 พลังโจมตี) → 100/150/200 (+0.1 พลังโจมตี)
ดาเมจจากการพุ่งครั้งที่ 2 หลังจากผลักเป้าหมาย : 160/240/320 (+0.4 พลังโจมตี) → 200/300/400 (+0.25 พลังโจมตี)
วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ จะทำให้ Qi โหดขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทั้งมีความคล่องตัว เพราะถึงอัลติพลาด ไม่ได้กระแทกกำแพง ก็สามารถหนีออกมาได้ รวมทั้งการสะสมการโจมตีแบบพิเศษ ที่สะสมได้สูงสุดถึง 4 ครั้ง ถ้าศัตรูโดนเข้าไปเต็มๆ ถึง 4 ครั้ง ต่อให้เป็นแท็งค์ก็ไส้แตกได้เลยนะครับ เรียกได้ว่า การปรับแบบนี้ จะทำให้ Qi เอาพวกที่ตัวหนาๆ หรือเก่งในเรื่องฟื้นฟูลงได้สบายๆ เลยนะครับ คือ จะ Burst Damage ชุดเดียวตายแบบเดิม ก็เล่นได้ หรือจะเล่นแบบ Airi คือ เน้นบวกนานๆ แล้วดูดเลือดไปด้วย Qi ก็ทำได้เช่นเดียวกัน
Dirak (เนิฟ)
ที่ผ่านมา ปัญหาของศัตรูที่เจอกับ Dirak ก็คือ สกิล 2 ที่มันโหดเกินไป คือ ผลักกระแทกมากเกินไป จนกลายเป็นการทำให้ศัตรูหยุดอยู่นิ่ง หรือ กระเด็นหลายครั้งเกินไป จนไม่รู้ว่า ตกลงมันกระเด็นได้กี่ครั้งกันแน่ คราวนี้ทางทีมงานเค้าก็จะเลยจะปรับให้มันชัดเจนไปเลยว่า เมื่อโจมตีแบบฝนดาวตก (สกิล 2) จะทำดาเมจและผลักศัตรูได้สูงสุดกี่ครั้งกันแน่
Skill2
เมื่อกดใช้สกิล ศัตรูจะได้รับฝนดาวตกสูงสุดแค่ 1 ครั้งเท่านั้น คือ ดาเมจ 1 ครั้ง และกระเด็น 1 ครั้ง
ดาเมจแต่ละลูก : 100/120/140/160/180/200 (+0.125 พลังเวท) → 200/240/280/320/360/400 (+0.25 พลังเวท)
ระยะเวลาการผลักกระแทกต่อลูก : 0.4 วินาที → 0.5 วินาที
วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ ก็เนิฟ Dirak ไปพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ทำให้ Dirak มันเล่นไม่ได้อีกแล้วนะครับ เรายังคงสามารถหยิบ Dirak มาเล่นได้อยู่เหมือนเดิมครับ
Tulen (บัพ)
ในเรื่องของดาเมจสำหรับ Tulen มัน Burst Damage ได้แรงเหลือเฟืออยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ การโจมตีในช่วงกลางเกมและเลทเกมนี่แหละ ที่ลำบากสำหรับ Tulen จะเข้าไป Poke สกิลก็ยาก เพราะถ้าเอาหน้าโผล่ไป โดนยิงสวนกลับมาทีนี่ ตายได้ทันที ดังนั้น ทางทีมงานเค้าก็เลยทำการปรับให้ Tulen มันทำดาเมจจากสกิล 1 ได้แรงขึ้น เพื่อให้ Poke สกิลได้แรงมากขึ้น และเล่นง่ายขึ้นในช่วงกลางเกมถึงเลทเกมนั่นเอง ไม่ต้องเข้าไฟต์ แต่ใช้สกิล 1 ให้โดนจากระยะไกล ก็ทำดาเมจแบบรุนแรงได้
Skill1
ดาเมจเวทของสายฟ้าแต่ละลูก : 450/510/570/630/690/750 (+0.78 พลังเวท) → 500/570/640/710/780/850 (+0.75 พลังเวท)
วิเคราะห์ : Tulen ดาเมจแรงขึ้นจริงครับ สกิล 1 ของ Tulen ในช่วงกลางเกม และเลทเกม จะเห็นผลได้ชัดเจน แม้จะโดนแค่นัดหรือสองนัดไกลๆ ก็เจ็บได้เหมือนกัน และถ้าบังเอิญเจ็บหนัก Tulen ก็แค่เข้ามาล็อคอัลติใส่หัว ก็ฆ่าได้โดยไม่ต้องเปลืองตัวเข้ามาประชิดติดตัวกับศัตรูอีกแล้วครับ
Wiro (บัพ)
แค่สกิลติดตัวที่ชุบชีวิต Wiro ได้แค่นั้น มันไม่เพียงพอ เพราะเมื่อ Passive ทำงาน Wiro ก็ตกเป็นเป้านิ่งรอให้คนมาช่วย และตอนนั้นแหละที่มักจะโดนรุมฆ่าตายอย่างอนาถ ดังนั้น ทางทีมงานก็เลยเอาเอฟเฟกต์การลดเกราะและเกราะเวทออกไป รวมทั้งลดคูลดาวน์ของอัลติลงด้วย เพื่อให้เก่งใกล้เคียงกับฮีโร่ในตำแหน่งเดียวกัน
Passive
เอาการลดเกราะและเกราะเวทออกไป ทำให้ Wiro ตอนที่ Passive ทำงาน จะแข็งแกร่ง และตายยากมากขึ้น มีโอกาสรอดตายสูงมากขึ้น
อัลติเมทสกิล
คูลดาวน์: 60/55/50 วินาที → 50/45/40 วินาที
วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้แม้จะเป็นการบัพให้ Wiro แต่มันก็ยังไม่ได้ทำให้เก่งขึ้นอะไรมากมายครับ แค่จังหวะตอนที่ตายไปแล้ว และกำลังยืนเพื่อฟื้นคืนชีพ มันตัวหนาขึ้นกว่าเดิมหน่อยนึงแค่นั้น แต่การที่ต้องยืนนิ่งๆ ก็ยังถือว่า ไม่ดีครับ ยังคงเป็นโรมมิ่งที่เล่นยาก และออฟเลนที่เสียเปรียบฮีโร่ตัวอื่นๆ อยู่ดีครับ เอามาเล่นได้เป็นบางเกมเท่านั้นครับ
Roxie (เนิฟหนัก)
Roxie มันแข็งแกร่งเกินไป โดยเฉพาะหลังจากที่มีการปรับแพทช์ไปก่อนหน้านี้ ทำให้ Roxie แข็งแกร่งมากๆ โดยเฉพาะโล่จากสกิล 2 ที่จะหนามากๆ จนแครี่ยิงแทบไม่เข้า ดังนั้น ทางทีมงานเลยทำการลดขนาดโล่จากสกิล 2 ของ Roxie ลงมา เพื่อไม่ให้มันเก่งเกินไป ซึ่งก็ถือว่า ลดลงมาเยอะมากๆ เกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวนะครับ
Skill2
โล่ : 200/280/360/440/520/600 (+10% ของพลังชีวิตสูงสุด) → 100/160/220/280/340/400 (+8% ของพลังชีวิตสูงสุด)
วิเคราะห์ : นี่เป็นการเนิฟ Roxie ที่หนักมากๆ แต่ถามว่า ยังหยิบมาเล่นได้อยู่หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ยังคงสามารถหยิบ Roxie มาเล่นได้อยู่ แต่ต้องไม่ห้าวเหมือนเมื่อก่อน คือ ต้องไม่บ้าระห่ำอะไรมากมาย เพราะโล่จากสกิล 2 จะบางลงไปเยอะ ต้องปรับจังหวะการเล่นให้ระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม
Veera (เนิฟ)
หลังจากที่ปรับแพทช์ไปเมื่อครั้งที่แล้ว Veera ถูกปรับให้เก่งขึ้น จนกลายเป็นเก่งเกินไป ทางทีมงานเลยต้องปรับสมดุล แต่โดยส่วนตัว ผมมองว่า มันคือการเนิฟครับ เพราะเนิฟสกิล 2 แต่บัพสกิล 1 ซึ่งเอาจริงๆ ความโหดของ Veera มันอยู่ที่สกิล 2 ในการสตั้นได้บ่อยๆ อย่างต่อเนื่องนั่นเอง การไปเพิ่มคูลดาวน์ให้กับสกิล 2 ถึง 2 วินาที จึงถือว่า เป็นการเนิฟที่เอาเรื่องเลยทีเดียวครับ
Skill1
คูลดาวน์: 7 วินาที → 6 วินาที
Skill2
คูลดาวน์: 10/9.4/8.8/8.2/7.6/7 วินาที → 12/11.4/10.8/10.2/9.6/9 วินาที
วิเคราะห์ : แม้ว่า Veera จะโดนเนิฟแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้กระทบอะไรมากมายนะครับ ยังคงสามารถหยิบมาเล่นได้ เพราะไม่ได้ถูกเนิฟในเรื่องของดาเมจไปแต่อย่างใด ยังคงเล่นได้อยู่เหมือนเดิม แต่ต้องเดินให้ระวัง และเน้นจังหวะการเข้าไฟต์หรือเข้าไปฆ่ามากขึ้น เพราะระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิล 2 มันนานขึ้นตั้ง 2 วินาทีเลยนะครับ และปรับให้ใช้สกิล 1 ให้บ่อยขึ้นแทน
Airi (เนิฟ)
หลังจากการปรับแพทช์ครั้งที่แล้ว ทำให้ Airi มันเก่งเกินไป ดังนั้น ทางทีมงานเลยทำการปรับสิ่งที่ถือได้ว่า เป็นความโหดแบบสุดๆ ของ Airi ก็คือ Passive ที่เป็นความเสียหายจริง ให้ลดลง และปรับเพิ่มคูลดาวน์ของอัลติเพื่อลดความโหดของ Airi ลงไปนั่นเอง
Passive
ความเสียหายจริง : 150% → 136% (+1% ต่อเลเวล)
อัลติเมทสกิล
คูลดาวน์ : 40 วินาที → 60/50/40 วินาที
วิเคราะห์ : การเนิฟ Airi แบบนี้ มีผลเล็กน้อยครับ เหมือนเป็นการเนิฟให้ Airi มันเก่งน้อยลงในช่วงต้นเกม แต่เลทเกมก็จะเก่งเหมือนเดิมครับ ซึ่งเดิมทีธรรมชาติของ Airi มันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว คือ จะเก่งในช่วงกลางเกม ถึงเลทเกมหลังจากที่มีไอเท็มแล้ว ดังนั้น การปรับแบบนี้ คนที่เล่น Airi ในช่วงต้นเกม ต้องควบคุมตัวเองให้ใจเย็นลงกว่าเดิมมากขึ้นไปอีกนะครับ เพราะดาเมจจะหายไปเยอะ และอัลติใช้ได้ช้าลงกว่าเดิมเยอะเลย เนื่องจากคูลดาวน์นานมากขึ้นเยอะนั่นเองครับ
Moren (เนิฟ)
โดยภาพรวมของ Moren คือ มันเก่งเกินไป ทางทีมงานเลยทำการเนิฟดาเมจของ Moren ให้เบาลงแต่ปรับเพิ่มสกิล 2 ให้มันโหดมากขึ้น
Passive
แก้ไขความผิดพลาดในรายละเอียดสกิล เรื่องระยะเวลาการดูดเลือด จากที่เขียนไว้ 1 → 1.5 วินาที
Skill1
ความเสียหายกายภาพ : 25 (+0.95 พลังโจมตี) → 50/55/60/65/70/75 (+0.7 พลังโจมตี)
Skill2
สโลว์เป้าหมาย : 30% → 50%
ระยะเวลาการสโลว์ : 2 วินาที → 1 วินาที
วิเคราะห์ : เอาจริงๆ ถ้าอ่านเผินๆ ก็เหมือนว่า เป็นการเนิฟ Moren แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเลยนะครับ แต่ถ้าสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่า มันเป็นการเนิฟสกิล 1 ของ Moren ในช่วงเลทเกมซะมากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรนะครับ เพราถ้าคำนวณกันจริงๆ มันก็สมดุลพอสมควร แต่ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ต้นเกม Moren จะโหดขึ้นครับ คือ ดาเมจจากสกิล 1 ในช่วงต้นเกมของ Moren จะแรงขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะยังไม่มีไอเท็มโจมตี ตัวคูณดาเมจเลยยังไม่มีผล ดาเมจต้นที่เพิ่มขึ้นมา 2 เท่า มีผลในการเล่นแน่นอนครับ นั่นทำให้การหยิบ Moren มายืนเลน สามารถทำได้แน่นอนครับ ส่วนการเล่น Moren ฟาร์มป่า ก็ทำได้ แต่อาจจะฟาร์มได้ช้าลงเล็กน้อย และเลทเกมอาจจะไม่ได้แรงไส้แตกเหมือนที่ผ่านๆ มา แต่โดยภาพรวม ผมถือว่า มันเป็นการปรับสมดุล Moren ให้เล่นได้สนุกมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้เราสามารถหยิบ Moren มาเล่นในเลนแครี่ได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ
Veres (บัพ)
Skill1
อัตราการสโลว์เป้าหมาย : 30/34/38/42/46/50% → 50%
Skill2
อัตราการสโลว์เป้าหมาย: 30/34/38/42/46/50% → 50%
อัลติเมทสกิล
ความเร็วในการพุ่งไปกระแทก : 37.5m/s → 25m/s
วิเคราะห์ : อันนี้ชัดเจนเลยว่า Veres เก่งขึ้นแน่นอนครับ หยิบมาเล่นได้เลย แม้ว่าอัลติจะถูกปรับให้ความเร็วตอนพุ่งช้าไปนิดนึง แต่ไม่ได้มีผลอะไมากมายครับ Veres เก่งขึ้น น่าเล่นมากขึ้นครับ แต่ก็ต้องหยิบมาให้เหมาะสมกับเกมด้วยนะครับ เพราะฮีโร่สมัยนี้ตัวเก่งๆ ที่ Veres เอาชนะไม่ได้มีเยอะครับ
Murad (บัพ)
แม้ว่า Murad จะมีดาเมจเพียงพอในการเล่นอยู่แล้ว แต่จริงๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ความยากในการใช้อัลติในช่วงกลางเกมถึงเลทเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ Murad ไม่มีมอนสเตอร์ให้เก็บ Stack ในป่า ดังนั้น ทางทีมงานจึงปรับให้การใช้ Passive ของ Murad มันง่ายขึ้น มีเวลาในการเก็บ Stack มากขึ้น
Passive
ระยะเวลาในการสะสม Stack : 3 วินาที → 5 วินาที
Skill1
แก้ไขปัญหาระยะเวลาในการร่ายระหว่างร่างทรายและตำแหน่งที่อยู่จริงๆ
มานา : 80/90/100/110/120/130 → 60/70/80/90/100/110
วิเคราะห์ : Murad จะเก่งขึ้นครับ เพราะมีระยะเวลาในการถือ Stack เอาไว้ในมือนานขึ้นเป็น 5 วินาที จังหวะการสะสม Stack หรือเข้าไปฟันเพื่อเพิ่ม Stack จะมีมากขึ้นกว่าเดิมครับ บอกเลยว่า ใครที่เป็นเมน Murad ถูกใจสิ่งนี้แน่นอนครับ
Kriknak (บัพ)
Skill1
ระยะเวลาการร่ายสกิล : -0.066 วินาที
Skill2
ระยะเวลาการร่ายสกิล : -0.133 วินาที
ความเร็วในการพุ่ง : 15m/s → 20m/s
อัลติเมทสกิล
การกดใช้สกิลครั้งที่ 2 : เพิ่มระยะเวลาหน่วง 0.2 วินาที ก่อนกดใช้สกิลได้อีกครั้ง
วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ ทำให้ Kriknak มันพลิ้วมากขึ้นกว่าเดิม แต่จังหวะการกดใช้อัลติมันอาจจะไม่ต่อเนื่องอะไรมากมายนักซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่การที่ Kriknak มันพลิ้วขึ้น ก็จะทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมนิดนึงครับ และยังคงหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิม เพราะไม่ได้โดนเนิฟดาเมจอะไรแต่อย่างใดนะครับ
Slimz (เนิฟ)
เมื่อสกิล 1 ที่ปาหอก กับสกิล 2 ที่กระโดดออกไป มันสัมพันธ์กัน ทำให้ Slimz เก่งมากขึ้น ดังนั้น ทางทีมงานก็เลยปรับให้สกิล 2 ของ Slimz กระโดดได้เร็วมากยิ่งขึ้น แต่จะล็อคให้ใช้แค่ ปาหอกก่อน แล้วกระโดดตามไปทีหลังเท่านั้นนะ ส่วนการกระโดดแล้วปาหอกกลางอากาศ ทำไม่ได้อีกแล้ว
Skill2
ความเร็วของการกระโดด : 10m/s → 15m/s
ระยะเวลาการร่าย : -0.133 วินาที
แก้ไขเอฟเฟกต์ : Slimz ไม่สามารถกดกระโดดด้วยสกิล 2 แล้วปาหอกสกิล 1 กลางอากาศได้อีกต่อไปแล้ว จะปาได้ก็ต่อเมื่อตัวแตะลงพื้นก่อน แต่ถ้าปาหอกออกไปก่อนแล้วกระโดดทันที อันนี้ทำได้
วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ ถือว่าหนักมากๆ สำหรับ Slimz นะครับ เพราะความโหดของ Slimz ก็คือ การกระโดดและปาหอกกลางอากาศ มันจะทำให้ศัตรูไม่สามารถคาดเดาทิศทางของหอกได้ แต่เมื่อถูกปรับแบบนี้ คือ ปาหอกกลางอากาศไม่ได้ ความโหดของ Slimz ก็ลดน้อยถอยลงไปเยอะครับ ทำให้มันเล่นยากขึ้นกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ก็เนิฟดาเมจไม่แล้ว มาเนิฟเรื่องการกระโดดปาหอกแบบนี้อีก ยิ่งทำให้เล่นยากไปกันใหญ่ครับ ถามว่า หยิบมาเล่นได้อยู่มั้ย ก็ต้องตอบว่า ได้ครับ แต่จะเล่นยากขึ้นกว่าเดิมเยอะ เพราะปาหอกให้โดนยากขึ้นครับ
Zanis (บัพ)
แม้ว่า Zanis จะเป็นฮีโร่ในตำแหน่งฟาร์มป่าที่เก่งมากๆ ตัวนึง แต่เมื่อเทียบกับฮีโร่ในตำแหน่งเดียวกันในปัจจุบัน ก็ยังถือว่า ด้อยกว่าอยู่ไม่น้อย ดังนั้น ทางทีมงานจึงทำการปรับให้ Zanis เก่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเล่นตำแหน่งฟาร์มป่า ให้โหดมากขึ้น (อันที่จริง ปรับแบบนี้ ทำให้ Zanis แม้จะหยิบไปเล่นในตำแหน่งออฟเลน ก็ยังโหดอยู่ดีนะครับ)
Skill1
ความเร็วในการเคลื่อนที่ : 80% → 50%
ระยะเวลาที่เอฟเฟกต์ทำงาน : 2 วินาที → 3 วินาที
Skill2
โบนัสความเร็วโจมตี : 100/120/140/160/180/200% → 200%
อัลติเมทสกิล
ระยะเวลาการร่าย : -0.133 วินาที
ระยะเวลาการฟาดหอกลงมา : ด้านหน้าของเป้าหมาย → ตรงตัวเป้าหมาย
วิเคราะห์ : เอาจริงๆ แค่ปรับให้สกิล 2 ของ Zanis มันตีเร็ว 200% ตั้งแต่เลเวลแรก มันก็โหดสุดๆ อยู่แล้ว นี่ปรับให้สกิล 1 วิ่งได้นานขึ้นกว่าเดิม มันยิ่งโหดไปกันใหญ่ บอกเลยว่า งานนี้ Zanis มาแน่นอนครับ โหดขึ้นแบบชัดเจน เล่นง่ายขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญ เราสามารถหยิบมาเล่นได้หลากหลายตำแหน่งมากขึ้น เพราะมันตีเร็ว 200% ตั้งแต่เลเวล 1 นี่แหละครับ คือความโหดที่แท้ทรูของ Zanis
Taara (บัพ)
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับ Taara ไป ก็ทำให้เกิดปัญหาคือ มันแพ้ทางพวก Burst Damage อย่างรุนแรง เนื่องจากฟื้นฟู HP ให้ตัวเองไม่ทัน ยิ่งถ้าโดนพวกไอเท็มลดฟื้นฟูด้วยแล้ว ยิ่งหนักไปกันใหญ่ ดังนั้น ทางทีมงานเลยทำการปรับให้ Taara มันฟื้นฟู HP ให้ตัวเองด้วยอัลติได้มากขึ้นกว่าเดิม เป็นการชดเชย และทำให้มันสู้กับพวกฮีโร่ตัวอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
อัลติเมทสกิล
ระยะเวลา: 6/7/8 วินาที → 5/6/7 วินาที
จำนวน HP ที่ฟื้นฟูต่อวินาที : 6% → 8%
วิเคราะห์ : การปรับแบบนี้ก็ทำให้การเล่น Taara มันง่ายขึ้นกว่าเดิมนะครับ แต่ถามว่า มันเก่งขึ้นอะไรมากมายหรือไม่ ก็ไม่นะครับ แต่ต้องบอกว่า มันอยู่ในระดับที่โอเคสามารถหยิบมาเล่นได้ แบบนี้น่าจะดีกว่า คือ เพิ่มขึ้นมา 2% ก็ถือว่า โอเคครับ สามารถหยิบมาเล่นได้ แต่ก็ต้องหยิบมาเล่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ด้วยนะครับ
Ishar (บัพ)
Ishar เป็นเมจที่อ่อนแอมากๆ ดังนั้น ทางทีมงานเลยทำการปรับให้ใหม่ ให้สกิลต่างๆ ของ Ishar มันสมเหตุสมผลกว่านี้
Skill1
เอาเอฟเฟกต์ที่เป็นเห็ดและจะระเบิดหลังจาก 2.5 วินาที ออกไป
เอฟเฟกต์ใหม่ : เพิ่มความแรงให้กับสกิล 1 แรงขึ้น 20% เมื่อเทียบกับดาเมจของสกิล 1 เดิมก่อนปรับ
Skill2
เอาเอฟเฟกต์สโลว์ 30% เป็นเวลา 0.5 วินาที ออกไป
อัลติเมทสกิล
เอฟเฟกต์ใหม่ : เมื่อศัตรูมาโดนที่ขอบของวงสกิล จะทำให้ติดสโลว์ 50% เป็นเวลา 2 วินาที
วิเคราะห์ : ถามว่า Ishar ถูกปรับแบบนี้แล้ว เก่งขึ้นอะไรมากมายหรือไม่ โดยส่วนตัวก็มองว่า มันไม่ได้เก่งขึ้นอะไรมากมายนะครับ ดาเมจอาจจะแรงขึ้นจากสกิล 1 นิดนึง แต่เห็ดก็มีประโยชน์นะครับ โดยเฉพาะจังหวะที่ไล่ล่า มันขวางทางศัตรูได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการสโลว์ที่ขอบของสกิลก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรมากมายนัก โดยภาพรวมก็คือ เรายังสามารถหยิบ Ishar มาเล่นได้ ในเงื่อนไขที่เหมาะสมนะครับ ไม่ใช่หยิบมาเล่นซะทุกเกม อันนี้ก็ไม่ใช่ Ishar มันเหมาะกับเกมที่เจอกับพวกฮีโร่ขาตายเยอะๆ เหมาะมากๆ ครับ
Chaugnar (แก้ไขบัค)
อัลติเมทสกิล
แก้ไขบัคที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ วิ่งเร็วขึ้น 20% หลังจากที่ Chaugnar ใช้อัลติ และปรับแก้ไขเอฟเฟกต์ให้ทำงานได้ถูกต้อง
Lorion (แก้ไขบัค)
Passive
แก้ไขปัญหา เมื่อลูกบอลไม่อยู่กับตัว ดาเมจจะหายไปเร็วเกินไป 0.5 วินาที → 0.75 วินาที
Kahlii (แก้ไขบัค)
อัลติเมทสกิล
ปรับแก้ไขตัวบอกระยะปลายสุดของสกิลให้มันถูกต้องกับระยะการทำดาเมจจริงๆ ของอัลติ
Nakroth (แก้ไขบัค)
Skill2
แก้ไขปัญหาที่ตัวบอกระยะ (4m) ไม่เข้ากับระยะจริงๆ (6m)
อัลติเมทสกิล
แก้ไขปัญหาที่อัลติของ Nakroth ไม่ถูกสถานะควบคุมมันสั้นเกินไปไม่ตรงตามระยะเวลาที่กดใช้อัลติ
แก้ไขปัญหาระยะการโจมตีทางด้านหลังที่ไกลเกินไป
แก้ไขปัญหาที่อัลติจะหันทิศทางตามที่ได้หันไว้ก่อนหน้านี้
ระยะความกว้างของสกิล : +1.5m
Paine (แก้ไขบัค)
อัลติเมทสกิล
แก้ไขปัญหาที่ดาเมจเวทมันแรงเกินไปกว่าที่กำหนด 50% ตอนที่พุ่งไปชน
แก้ไขปัญหาของอัตราส่วนดาเมจเวทในระหว่างทางที่พุ่งไป มันแรงเกินไปกว่า 50%
Hayate (แก้ไขบัค)
Skill1
แก้ไขปัญหาที่ดาวกระจายไม่ถูกหยุดแม้ Hayate จะโดนสตั้นไปแล้ว
Lauriel (บัพนิดนึง)
Skill1
ระยะเวลาการร่าย : -0.066 วินาที
Zill (แก้ไขบัค)
Skill1
แก้ไขปัญหาที่ดาเมจจะเกิดตรงปลายสุดของสกิลเท่านั้น
ปรับแก้ไขตัวบ่งชี้ระยะของสกิล ให้มันตรงกับระยะการโจมตีจริงๆ ของสกิล
Sinestrea (บัพ)
Skill1
เพิ่มความแรงของการโจมตีปกติ : พุ่งไปด้านหลังของเป้าหมาย → พุ่งไปด้านหน้าของเป้าหมาย
Florentino (แก้ไขบัค)
Skill1
แก้ไขปัญหาที่เมื่อถูกขัดจังหวะก่อนที่จะร่ายสกิล ส่งผลให้ทิศทางในการปาดอกไม้ผิดเพี้ยนไปทันที
Skill2
แก้ไขปัญหาที่การลดความเร็วเคลื่อนที่มันเพิ่มขึ้นตามเลเวล
Krizzix (แก้ไขบัค)
ปรับแก้ในเรื่องจังหวะการร่ายสกิล 2 ให้ลื่นไหลขึ้น และหลังจากนี้ขณะที่กำลังกดใช้สกิล 2 ตัวของ Krizzix จะไม่หยุดชะงักอีกแล้ว
Lumburr (บัพนิดนึง)
ค่า Status พื้นฐาน
ระยะการโจมตีปกติ เพิ่มขึ้น 0.5m
ปรับสมดุลเรื่อง Energy หรือ เกจพลังงานของฮีโร่ที่ไม่ได้ใช้มานา
สำหรับฮีโร่ที่ใช้พลังงานและฟื้นฟูพลังงานเองนั้น ทางทีมงานได้ทำการปรับให้การคำนวณและฟื้นฟูพลังงานทำได้ดีขึ้น และสมเหตุสมผลมากขึ้น ซึ่งฮีโร่ที่จะได้รับผลจากการปรับครั้งนี้ ก็ได้แก่ Hayate, Paine, Raz, Florentino โดยหลักการปรับก็คือ ก่อนหน้านี้เกจพลังงานจะฟื้นฟูให้เองตลอดเวลา จะเหลือแค่ไหน มีพอหรือไม่พอ มันก็จะฟื้นฟูไปตามระยะเวลาของมัน แต่เมื่อปรับใหม่ เกจพลังงานจะฟื้นฟูพลังงานให้เมื่อมีเกจพลังงานไม่เพียงพอกับการจะใช้สกิลต่างๆ นั่นเอง
เป็นยังไงกันบ้างครับกับการ ปรับสมดุลฮีโร่ ROV แพทช์ใหม่ 20 เม.ย. 64 ที่ผมเอามาแนะนำกัน น่าสนใจและน่าเล่นมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยใช่มั้ยล่ะครับ ที่สำคัญนี่เป็นเพียงการปรับสมดุลฮีโร่เท่านั้นนะครับ ยังมีในเรื่องของ การปรับสมดุลพลังแฝงและสกิลชาเลนเจอร์ อีกด้วยนะครับ ซึ่งอยู่ในบทความถัดไป เราต้องรีบทำความเข้าใจก่อนนะครับ จะได้รู้ว่า เมื่อปรับแพทช์ใหม่มา เราควรจะหยิบฮีโร่ตัวไหนมาเล่น เพราะอะไร?
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://moba.garena.tw/news/show/3032
