อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่มีการปรับใน RoV แพทช์ 28 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ก็คือ การปรับให้ พลังแฝง Nature’s Rage โหดมากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยเป็นพลังแฝงที่ไร้ประโยชน์ และถูกมองข้าม พอถูกปรับมาแบบนี้ ก็กลายเป็นพลังแฝงคู่ใจสำหรับสายแท็งค์ที่มีดาเมจเวท สามารถทำดาเมจได้รุนแรงมากๆ จนน่าตกใจ เรียกได้ว่า แท็งค์หลายๆ ตัวที่ทำดาเมจเวท หรือ ต้องการดาเมจเพิ่มเติม เวลาเข้าไฟต์ ก็จะได้รับผลประโยชน์จากตรงนี้ไปเต็มๆ เลยทีเดียวครับ ในบทความนี้ ผมก็เลยจะมาทำการ วิเคราะห์ พลังแฝง Nature’s Rage อย่างละเอียดให้ได้เข้าใจกันว่า พลังแฝงนี้ มันเหมาะกับการนำไปใช้เล่นกับฮีโร่ตัวไหนบ้าง ถูกต้องแล้วครับ Nature’s Rage ไม่ใช่พลังแฝงที่เหมาะกับแท็งค์ทุกตัวนะครับ มันมีเงื่อนไขที่จำเป็นจะต้องเข้าใจด้วย
วิเคราะห์ พลังแฝง Nature’s Rage เหมาะกับฮีโร่ตัวไหนบ้าง?
เพื่อให้เข้าใจและมองเห็นภาพได้ชัดเจนว่า พลังแฝง Nature’s Rage นั้น เหมาะกับฮีโร่ตัวไหน ผมแนะนำให้อ่านคำอธิบายพลังแฝง Nature’s Rage ให้เข้าใจก่อนดีกว่าครับ
Nature’s Rage
เมื่อใช้สกิลควบคุม เช่น ยั่วยุ (Mina) ลอยขึ้น ผลัก สตั้น แช่แข็ง และอื่นๆ หากโดนฮีโร่จะทำให้ได้รับเอฟเฟ็กต์เผาไหม้ สร้างความเสียหายเวท 2% HP ทุก 0.5 วินาที เป็นเวลา 3 วินาที (รวมง่ายๆ ก็คือ ใน 3 วินาที จะทำดาเมจเวทได้ 6 ครั้งรัวๆ รวมเป็น 12% HP ของเป้าหมายนั่นเอง) รวมถึงลดเกราะเวทของศัตรูที่โดนเผาลง 30 (LV อัพ + 3) คูลดาวน์ 20 วินาที
เมื่อเราอ่านมาจนจบแล้ว เราก็จะเห็นภาพเลยว่า
1. พลังแฝง Nature’s Rage นี้ จะทำงานก็ต่อเมื่อ ฮีโร่ที่เราเล่น มี CC ประเภทควบคุมที่ไม่ใช่การสโลว์ แต่เป็นการควบคุมการเคลื่อนที่ทุกประเภท ดังนั้น มันชัดเจนแล้วว่า ถ้าต้องการใช้ประโยชน์จาก Nature’s Rage เราต้องใช้กับฮีโร่ที่มี CC ตามเงื่อนไขที่ได้กล่าวไปแล้วในคำอธิบายสกิล
2. การทำงานของพลังแฝง Nature’s Rage จะเป็นการเผาไหม้ด้วยดาเมจเวทรอบๆ ตัวฮีโร่ที่เราเล่น นั่นแปลว่า มันต้องใช้กับฮีโร่ที่ใช้สกิลในระยะประชิด คือ จ่ายสกิลที่มี CC ไปแล้ว ก็ยังต้องอยู่ในระยะประชิดกับเป้าหมาย เพื่อให้เป้าหมายโดนพลังแฝง Nature’s Rage เผาไหม้รอบๆ ตัวด้วย ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้ตัวเลือกในการหยิบฮีโร่มาใช้กับ พลังแฝง Nature’s Rage แคบลงแบบชัดเจนแล้วนะครับ
นั่นแปลว่า ฮีโร่ที่เหมาะกับการใช้พลังแฝง Nature’s Rage ในแพทช์นี้ ก็เช่น Thane, Grakk, Toro, Mina, Superman, Xeniel, Omega, Ormarr, Baldum, Krizzix, Ata, Arduin ในบรรดาที่แนะนำมานี้ ส่วนใหญ่จะเป็นฮีโร่ประเภทแท็งค์ หรือ ฮีโร่ที่เอามาเล่นในตำแหน่งซัพพอร์ตของทีม ที่อาจจะมีดาเมจเดิมไม่มากเท่าไหร่นัก เมื่อได้รับดาเมจเพิ่มเติมจาก พลังแฝง Nature’s Rage นี้เข้าไป ก็จะทำให้โหดมากขึ้น สนุกและสะใจกว่า Explosive Shield อย่างแน่นอนครับ
นอกจากฮีโร่ประเภทแท็งค์หรือไฟต์เตอร์ในตำแหน่งซัพพอร์ต จะได้รับประโยชน์จาก พลังแฝง Nature’s Rage ไปเต็มๆ แล้ว ฮีโร่ประเภทไฟต์เตอร์ หรือ แท็งค์ ที่เอามายืนออฟเลน ก็ได้รับประโยชน์จากพลังแฝงนี้ไม่ต่างกัน เช่น Roxie หรือ Amily ก็จะได้รับประโยชน์จากพลังแฝงนี้มากมายไม่แพ้กัน
อัลติของ Roxie จะทำให้พลังแฝง Nature’s Rage ทำงาน และเพิ่มเติมดาเมจให้มากถึง 12% ของ HP สูงสุดของเป้าหมาย ซึ่งมีผลแน่นอนกับฮีโร่ทุกตัวในเกม โดนดาเมจเข้าไปเต็มๆ 12% เฉพาะจากพลังแฝง Nature’s Rage ยังไม่รวมดาเมจเวทจากสกิลอื่นๆ อีก ถือว่า โหดมากนะครับ ยิ่งถ้า Roxie ออกไอเท็มอย่าง เกราะไฟ Mantle of Ra รวมกับ Soaring Aura ด้วยแล้ว มันยิ่งโหดไปกันใหญ่ จังหวะที่อัลติ Roxie ทำงาน พลังแฝง Nature’s Rage ก็จะทำงานด้วย ซึ่งมันจะเป็นอะไรที่โหดมากๆ อย่างไรก็ตาม การใช้พลังแฝง Nature’s Rage สำหรับ Roxie อาจจะไม่เห็นผลดีมากเท่าไหร่นักในช่วงต้นเกม เนื่องจากจะใช้งานได้ไม่บ่อย เพราะอัลติของ Roxie นั้น มีคูลดาวน์ที่นานกว่าของพลังแฝง Nature’s Rage แต่ในช่วงเลทเกม จะเป็นอะไรที่โหดมากๆ เพราะคูลดาวน์ของอัลติ Roxie ใกล้เคียงกับคูลดาวน์ของพลังแฝง Nature’s Rage พอดีครับ
แม้แต่ Amily เองก็สามารถใช้ประโยชน์จากพลังแฝง Nature’s Rage ได้ด้วยเช่นกันนะครับ ก็แน่นอนล่ะ ดาเมจเวท ที่จ่ายความแรงประมาณ 12% ของ HP สูงสุดของเป้าหมาย มันดีกว่าดาเมจจาก Explosive Shield หรือพลังแฝงอื่นๆ เยอะเลย และจังหวะการเข้าไฟต์ หรือ การเตะแล้วติดสตั้นของ Amily ทำได้บ่อยมากๆ นั่นแปลว่า พลังแฝง Nature’s Rage ก็จะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และมีความถี่เป็นอย่างมาก ทำให้ดาเมจโดยรวมตอนที่ Amily คอมโบสกิลจะมีดาเมจเวทเพิ่มขึ้นมถึง 12% ของ HP สูงสุดของเป้าหมาย เลยทีเดียวนะครับ เห็นมั้ยล่ะ ผมบอกแล้วว่า Nature’s Rage คือ พลังแฝงสุดโกงที่ไฟต์เตอร์แท็งค์สายตีใกล้ในเกมนี้ ต้องหยิบไปใช้งานกัน ตรงตามที่วิเคราะห์ไว้ในข้อมูลแพทช์ล่าสุดเป๊ะๆ เลยทีเดียว
จากที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์ พลังแฝง Nature’s Rage มาจนถึงตรงนี้ ก็บอกเลยว่า มันเป็นพลังแฝงที่ต้องหยิบมาเล่นเลยครับ ถ้าฮีโร่ที่คุณเล่นมีเงื่อนไขตรงตามที่ผมได้เขียนแนะนำไป หรืออยู่ในรายชื่อฮีโร่ที่ผมบอกว่า สามารถใช้ประโยชน์จาก Nature’s Rage ได้ ก็ควรจะหยิบพลังแฝงนี้มาใช้ อย่างไรก็ตาม เสต็ปการเล่น หรือ รูปแบบการเล่น ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับพลังแฝงนี้ด้วยนะครับ เพราะพลังแฝง Nature’s Rage มีเงื่อนไขว่า มันจะเผาไหม้ใส่ศัตรูที่อยู่รอบๆ เท่านั้น นั่นแปลว่า คุณต้องเข้าไปอยู่ในระยะที่สกิลมันเผาศัตรูได้ต่อเนื่องนาน 3 วินาที ถึงจะทำดาเมจเวทออกมาได้มากที่สุดถึง 12% ของ HP สูงสุดของเป้าหมาย ซึ่งการที่คุณเข้าไปโจมตีในระยะประชิดตัวกับเป้าหมาย นอกจากจะมีเอฟเฟกต์เผาไหม้ศัตรูรอบๆ ตัวแล้ว ยังมีเอฟเฟกต์ลดเกราะเวทของศัตรูรอบๆ ตัวลงไปอีกด้วย
นั่นแปลว่า ถ้าต้องการใช้ประโยชน์จากพลังแฝง Nature’s Rage ให้มากที่สุด ควรคอมโบกับเมจที่แรงๆ และมีเมจตัวที่ทำดาเมจเวทแรงๆ เดินไปกับเราด้วย จะทำให้ดาเมจเวทที่จ่ายใส่เป้าหมาย ตอนที่ Nature’s Rage ทำงานมันแรงขึ้นอย่างมาก เพราะเป้าหมายโดนเอฟเฟกต์ลดเกราะเวทจาก Nature’s Rage ไปด้วยนั่นเอง เรียกได้ว่า การเข้าไฟต์ในระยะประชิดของฮีโร่ที่มีพลังแฝง Nature’s Rage จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ และควรจะมีเมจเลนกลาง หรือ เมจฟาร์มป่าเข้าไปช่วยเติมดาเมจเวทในจังหวะที่ พลังแฝง Nature’s Rage ทำงานด้วย จะทำให้ศัตรูตายอย่างรวดเร็วแบบงงๆ เลยทีเดียว
ไม่ควรหยิบพลังแฝง Nature’s Rage ไปใช้มั่วซั่ว กับฮีโร่ที่ไม่เหมาะสม เช่น หยิบไปใช้กับ Alice หรือ Annette หรือแม้แต่ Payna แบบนั้นมันไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่นะครับ เพราะแม้จะมีสกิลประเภทสตั้น หรือ กระแทกใส่เป้าหมายได้ก็จริง แต่ศัตรูจะไม่โดนเอฟเฟกต์เผาไหม้จาก Nature’s Rage แล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไรล่ะครับ จริงมั้ย?
ถ้าอยากจะเล่นให้เก่ง เราก็ต้องเลือกใช้พลังแฝง Nature’s Rage ให้เหมาะสมกับฮีโร่ และปรับสเต็ปการเล่น ให้เข้ากับพลังแฝง ก็จะทำให้ฮีโร่ของเราเก่งโคตรๆ และที่สำคัญ ศัตรูจะตกใจมากๆ กับดาเมจที่โดนเข้าไป เพราะไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขนาดนั้น ชนิดที่เลือดไหลเป็นน้ำ แม้แต่แท็งค์ก็ไม่ไหวนะครับ เพราะมันเผาเป็นดาเมจเวทโดยความแรงขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ HP สูงสุดของเป้าหมาย รวมทั้งลดเกราะเวทของเป้าหมายลงอีก มีประโยชน์กับทีมตอนเข้าไฟต์อีกด้วยนะครับ
หากชื่นชอบในสิ่งที่ผมได้เขียนแนะนำมานี้ และชื่นชอบแนวทางการทำเว็บในลักษณะนี้ ไม่จำเป็นต้องบริจาคเงิน หรือ Donate ใดๆ ผมขอแค่การกดไลค์ และช่วยแชร์บทความต่างๆ ที่เป็นสาระความรู้นี้ออกไปก็พอครับ สามารถกดถูกใจ และกดติดตามผมได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return ยอดไลค์นี่แหละครับ คือ กำลังใจของผม ยิ่งทุกคนช่วยกันกดถูกใจ ผมก็ยิ่งมีกำลังใจทำสิ่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยครับ
