วิเคราะห์ ROV แพทช์ 15 ต.ค. 63 ยุคเรืองรองของแอสซาซินกำลังกลับมาอีกครั้ง

หลังจากที่มีการปรับแพทช์ใหม่ไปรอบที่แล้วตอนขึ้นซีซั่นใหม่ ROV SS16 มันก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการปรับสมดุลฮีโร่อีกสักรอบนึง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการปรับสมดุลฮีโร่ในทุกๆ 2 สัปดาห์อยู่แล้ว โดยในคราวนี้ ก็มีการปรับให้แอสซาซินเก่งมากขึ้น และเนิฟฮีโร่หลายๆ ตัวที่มันเก่งอยู่แล้ว ให้เก่งน้อยลง รวมทั้งมีการปรับแก้การปรับสมดุลในรอบที่แล้ว ที่อาจจะมากไป ก็เลยต้องมีการปรับแก้ ซึ่งผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะมาทำการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ 15 ต.ค. 63 ให้อ่านง่าย และเข้าใจง่ายที่สุดเลยครับ สรุปเลยว่า เก่งขึ้นยังไง และควรหยิบมาเล่นมากน้อยแค่ไหน

วิเคราะห์ ROV แพทช์ 15 ต.ค. 63 ปรับสมดุลฮีโร่ 14 ตัว

เพื่อให้ทุกคนได้อ่านอย่างเข้าใจง่ายขึ้น ผมก็จะแบ่งกลุ่มฮีโร่ออกมาให้ชัดเจน ระหว่างฮีโร่กลุ่มที่ได้รับการปรับสมดุลให้เก่งขึ้น และที่ถูกปรับให้อ่อนลง จะได้แยกแยะได้ชัดเจนขึ้นนั่นเองครับ

ฮีโร่ที่ได้รับการปรับสมดุลให้เก่งขึ้น (บัพ)

Quillen (บัพเยอะมาก)

Quillen ROV
Quillen

สกิลติดตัว
– ขีดจำกัดของดาเมจที่ทำได้กับมอนสเตอร์ป่า 1500 → 2000

สกิล 1
– ปรับเพิ่มดาเมจให้แรงขึ้น 175/200/225/250/275/300 (+0.38 โบนัสพลังโจมตี) → 175/200/225/250/275/300 (+0.45 โบนัสพลังโจมตี)

การปรับในครั้งนี้ให้กับ Quillen จะทำให้มันโหดมากๆ ในช่วงเลทเกม แบบว่า เข้าไปล้วงพวกแครี่ กับเมจ ทีเดียวตายแบบไม่ทันได้รู้ตัวเลยทีเดียว โดยในส่วนของค่า Status พื้นฐานที่เพิ่มขีดจำกัดของดาเมจที่ Quillen ทำกับมอนสเตอร์ป่าได้ ทำให้ในช่วงกลางเกมถึงเลทเกม Quillen จะฟาร์มป่าได้เร็วมากๆ เก็บ Objective ต่างๆ ได้ไวสุดๆ ทั้ง Abyssal Dragon และ Dark Slayer รวมทั้งสกิล 1 ที่ปรับดาเมจให้มันแรงขึ้นแบบโคตรๆ

ต้องบอกเลยว่า ในช่วงเลทเกม Quillen จะแรงมากๆ หายตัวเข้าไปฟันพวกแครี่ กับเมจ สกิลเดียวหายวับไปกับตาทันที แปลว่า ในแพทช์นี้ ใครที่ถนัด Quillen ต้องกลับมาเล่นแล้วล่ะครับ มันคือ ตัวล้วงที่จะกลับมาได้รับความนิยม และแน่นอน มันรับมือยากอยู่แล้วเพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ จะแพ้พวกฮีโร่ที่ Wind Walk หายตัวได้พวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งปรับให้แรงขึ้นแบบนี้ แครี่ หรือ เมจ โดนสกิล 1 ชุดเดียว หายแน่นอนครับ แรงเว่อร์เลยล่ะ ติด META แน่นอนครับ สำหรับ Quillen ที่ได้บัพมาแบบนี้

Keera (บัพ)

Keera ROV
Keera

ค่า Status พื้นฐาน
– โบนัสพลังโจมตีที่ได้รับตอนเลเวลอัพ 7.5 → 15

สกิล 1
– ดาเมจที่ทำใส่ศัตรูที่ติดสัญลักษณ์ 25% → 30%
– ดาเมจที่ทำใส่ศัตรูที่ไม่ติดสัญลักษณ์ 40% → 45%

อัลติ
– โบนัสความเร็วในการเคลื่อนที่ 30/40/50% → 50%

หลังจากที่ Keera โดนเนิฟเอาเอฟเฟกต์การหายตัวของอัลติออกไป ทำให้มันเก่งน้อยลงไปเยอะ ก็เลยต้องมีการปรับให้มันเก่งขึ้นมาเพื่อชดเชย โดยการปรับเพิ่มพลังโจมตีให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวตอนเลเวลอัพ นั่นแปลว่า ในช่วงเลทเกม มันจะได้รับพลังโจมตีที่สูงมากๆ นะครับ ซึ่งพลังโจมตีตรงนี้ มันมีผลกับดาเมจเวทที่ทำด้วยนะครับ ตามเงื่อนไขจากสกิลติดตัวของ Keera นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการบัพเพิ่มดาเมจจากสกิล 1 อีกด้วย ยังไม่พอ ยังเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ขึ้นมาคงที่ที่ 50% โดยไม่ต้องรอเลยว่า ต้องอัพอัลติให้เลเวลสูงสุดมันถึงจะวิ่งไวที่สุด

แปลว่า ในแพทช์นี้ นอกจาก Quillen แล้ว ก็มี Keera นี่แหละครับ ที่จะกลายมาเป็น แอสซาซินที่ติด META ต้องหยิบมาเล่นในทุกๆ เกม เพราะดาเมจของมันที่รุนแรงมากขึ้น และการบัพให้มันพลิ้วมากยิ่งขึ้น ทำให้มันเป็นแอสซาซินที่เราต้องหยิบมาเล่นในทุกๆ เกม และปรับแนวทางการเลือกฮีโร่ตัวอื่นๆ ในทีม เพื่อช่วยให้ทั้ง Quillen และ Keera มันเล่นได้ง่ายมากที่สุดนั่นเอง

Krixi (บัพเยอะมาก)

Krixi ROV
Krixi

สกิล 1
– ปรับเพิ่มดาเมจให้แรงขึ้น 460/520/580/640/700/760 (+0.75 พลังเวท) → 500/575/650/725/800/875 (+0.75 พลังเวท)

สกิล 2
– คูลดาวน์ 13/12/11/10/9/8 วินาที → 10/9.6/9.2/8.8/8.4/8 วินาที

อัลติ
– ปรับเพิ่มดาเมจให้แรงขึ้นไปอีก 250/325/400 (+0.6 พลังเวท) → 275/350/425 (+0.65 พลังเวท)

คู่ต่อสู้ของ Krixi นับวันก็ยิ่งมีแต่เก่งขึ้นๆ เรื่อยๆ ไหนจะเมจในปัจจุบันอย่าง Zata และยังมีเมจตัวใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้าเซิฟมาอีก ดังนั้น จึงต้องมีการปรับสมดุลให้ Krixi มันเก่งมากขึ้นไปอีก โดยการปรับเพิ่มดาเมจของสกิล 1 ให้แรงขึ้นตั้งแต่ต้นเกม จนถึงเลทเกมเลย รวมทั้งลดระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิล 2 ในช่วงต้นเกมลงด้วย ส่วนอัลติก็ปรับให้แรงขึ้นไปอีก

สรุปคือ Krixi จะกลายมาเป็นเมจยอดฮิต ที่คู่กับ Zata เลยล่ะครับ ด้วยดาเมจที่แรงขึ้น และคูลดาวน์ของสกิล 2 ที่น้อยลง จึงทำให้ Krixi มันเก่งขึ้นจนไม่ต้องสงสัย เป็นเมจที่ติด META มาตลอด และต่อเนื่องยาวนานอยู่แล้วครับ

Qi (บัพ)

Qi ROV
Qi

สกิล 1
– ระยะการพุ่งของสกิล 4.5m → 5m

อัลติ
– ระยะการพุ่งในจังหวะที่ 2 ของสกิล 4m → 5m

Qi ได้รับความนิยมในตำแหน่งออฟเลน มาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่มาคราวนี้ มีการบัพให้ Qi มันเก่งขึ้นมาอีก เพื่อทำให้จังหวะการเซ็ตไฟต์ หรือ คอมโบสกิล ทำได้ง่ายมากขึ้น เอาไว้สู้กับพวกไฟต์เตอร์ออฟเลนที่เก่งขึ้น เช่น Florentino หรือ Ryoma ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

Qi ก็ยังคงเป็นทางเลือกสำหรับตำแหน่งออฟเลน ที่สามารถหยิบมาเล่นกันได้เรื่อยๆ นะครับ ใครที่ชอบเล่น และดูการดราฟตัวแล้ว มันเหมาะสม ก็หยิบมาเล่นได้เลยครับ อันนี้มันเก่งอยู่แล้ว ติด META อยู่แล้ว เล่นได้ตลอด ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ

Tulen (บัพ)

Tulen ROV
Tulen

สกิล 2
– ระยะเวลาคูลดาวน์ในการกดใช้ต่อเนื่อง 2 วินาที → 1.5/1.4/1.3/1.2/1.1/1 วินาที
– มานาที่ใช้ 50/55/60/65/70/75 → คงที่ 40

แม้ว่า Tulen จะเป็นเมจที่เก่งมากๆ ในการต่อสู้ระยะประชิด แต่การที่สกิล 2 มันต้องรอถึง 2 วินาที กว่าจะกดใช้ได้อีก ก็ทำให้มันเสียเปรียบพวกแอสซาซินที่ว่องไวมากๆ ในปัจจุบันได้ และทำให้หนียากขึ้นด้วย เนื่องจากต้องรอคูลดาวน์ของสกิล ดังนั้น จึงต้องมีการปรับลดคูลดาวน์ลงมา เพื่อทำให้ Tulen สามารถกดใช้สกิล 2 ได้อย่างต่อเนื่องขึ้นนั่นเองครับ

Tulen สามารถหยิบมาเล่นได้เหมือนเดิมนะครับ ทั้งตำแหน่งเมจเลนกลาง และตำแหน่งฟาร์มป่า เล่นได้เหมือนเดิม ยิ่งบัพมาแบบนี้ ยิ่งมีคนนิยมเล่นกันมากขึ้นแน่นอนครับ

Zata (บัพ)

Zata ROV
Zata

ค่า Status พื้นฐาน
– ค่า HP พื้นฐาน 3438 → 3585
– โบนัส HP ที่ได้รับตอนเลเวลอัพ 267 → 282

เดิมทีตอนนี้ Zata มันก็เก่งอยู่แล้วนะครับ ยิ่งบัพขึ้นมาแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ Zata ในช่วงเลทเกม มันอึดมากขึ้น และตายยากมากขึ้น ส่งผลให้จังหวะการคอมโบสกิล และจังหวะเสี่ยงๆ เล่นได้ง่ายขึ้น เพราะมี HP เยอะขึ้น ก็มีโอกาสรอดมากขึ้นด้วยนั่นเอง

ก็คงไม่ต้องบอกกันนะครับว่า Zata ควรหยิบมาเล่นหรือไม่ เพราะตอนนี้ในแร็งค์ ก็แบนกันจนไม่ได้เล่นอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าหลุดแบนมา และเล่นเป็น ก็ต้องเล่นครับ แต่ถ้าเล่นไม่เป็น ก็ไม่ควรจะหยิบมาเล่น

Veera (บัพ)

Veera ROV
Veera

สกิล 2
– คูลดาวน์ 12/11/10/9/8/7 วินาที → 10/9.4/8.8/8.2/7.6/7 วินาที

อัลติ
– คูลดาวน์ 24/20/16 วินาที → 20/17/14 วินาที

หลังจากในแพทช์ก่อนหน้านี้ ที่มีการเพิ่ม Mechanic ของสกิลที่สามารถใช้สกิล 2 รีเซ็ตคูลดาวน์ของสกิล 1 ได้ แต่มันยังไม่ดีพอ เนื่องจากสกิล 2 คูลดาวน์มันนานเกินไป ดังนั้น จึงต้องมีการปรับลดคูลดาวน์ของสกิล 2 ลงมาเพื่อทำให้การคอมโบระหว่างสกิล 2 และ 1 มันต่อเนื่องมากขึ้น และรีเซ็ตสกิล 1 ได้ต่อเนื่องมากขึ้น

Veera เป็นเมจที่สามารถหยิบมาเล่นได้เรื่อยๆ และไม่ผิดนะครับ ตัวของมันมีสกิลที่ปั่นป่วน และน่ารำคาญจริงๆ ครับ ถ้าทีมเข้าใจ เล่นแบบเข้าใจ มันจะเก่งมากๆ และเป็นตัวทำจังหวะ และทำดาเมจเวทให้ทีมได้ดีมากๆ เลยทีเดียว เรียกได้ว่า เป็นตัวปราบพวกแอสซาซินเก่งๆ หรือ ไฟต์เตอร์เก่งๆ ได้สบายๆ เลยทีเดียวครับ

Lumburr (บัพ)

Lumburr ROV
Lumburr

สกิล 2
– ระยะเวลาการยกศัตรูให้ลอยขึ้น 0.5 วินาที → 0.75 วินาที
– ระยะเวลาคูลดาวน์ 11/10.4/9.8/9.2/8.6/8 วินาที → 10/9.5/9/8.5/8/7.5 วินาที

อัลติ
– สโลว์ศัตรูที่อยู่ในเขตของสกิล 40% → 50%

ในการปรับสมดุลรอบที่ผ่านมา มีการเนิฟ Lumburr หนักเกินไปจริงๆ ทำให้มันหลุด META ไปไกลเลยทีเดียว คราวนี้ก็เลยต้องมีการปรับให้มันเก่งขึ้นมาอีกหน่อยนึง จะได้กลับหวนคืน META ได้ โดยการปรับให้สตั้นได้นานขึ้นนิดนึง และปรับให้สโลว์ศัตรูที่โดนอัลตินานขึ้นมาอีก ก็ถือเป็นอะไรที่พอชดเชยได้

การบัพ Lumburr ขึ้นมาแบบนี้ ก็ทำให้ Lumburr เล่นได้ง่ายขึ้น แต่อาจจะไม่เก่งเท่าเดิม แต่ก็ถือว่า โอเคกว่าเดิม ดังนั้น ใครที่ชอบหยิบ Lumburr มาเล่น ก็สามารถหยิบ Lumburr มาเล่นเหมือนเดิมได้เลยครับ ส่วนใครที่หยุดเล่น Lumburr ไปเพราะโดนเนิฟเมื่อการปรับสมดุลในช่วงเริ่มต้นซีซั่นที่ผ่านมา ก็สามารถกลับมาหยิบ Lumburr ไปเล่นได้เหมือนเดิมครับ

Toro (บัพ)

Toro ROV
Toro

สกิลติดตัว
– ลดความเสียหายที่ได้รับ 20% → 25%

สกิล 2
– ขนาดของโล่ที่ได้รับ 250/300/350/400/450/500 (+2% ของ HP สูงสุด) → 8% ของ HP สูงสุด

การปรับในครั้งนี้ เป็นการปรับให้ Toro เริ่มเข้ามาเป็นแท็งค์ตัวเลือกระดับที่ 2 ที่ผู้เล่นสามารถหยิบไปเล่นกันได้ง่ายมากขึ้น โดยปรับให้ลดความเสียหายที่ได้รับมากขึ้น คือ ทำให้ตัวมันขณะที่กดใช้สกิล ลดความเสียหายที่ได้รับลงมากขึ้นไปอีก และที่สำคัญก็คือ มีการปรับให้โล่ที่ได้จากสกิล 2 มีความแข็งแกร่งขึ้นตามจำนวน HP ของ Toro ที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ยิ่ง Toro ออกไอเท็มป้องกันที่เพิ่ม HP มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้ Toro สร้างโล่จากสกิล 2 ได้หนามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนั่นจะยิ่งทำให้มันแข็งแกร่งแบบสุดๆ ไปเลยตอนโดนรุมโจมตีจากศัตรู เป็นอีกหนึ่งแท็งค์ที่สามารถเอาแก้ทาง หรือ สู้กับ Mina และ Grakk ได้แบบสบายๆ เลยครับ

Taara (บัพ)

Taara ROV
Taara

อัลติ
– ระยะเวลาของสกิล 5/6/7 วินาที → 6/7/8 วินาที

ในการปรับสมดุลครั้งที่ผ่านมา Taara โดนเนิฟหนักเกินไป ก็เลยต้องบัพขึ้นมาเพื่อชดเชยนิดนึง เพราะที่โดนเนิฟไป มันหนักจนเล่นไม่ได้เลย แต่ถามว่า การบัพครั้งนี้ มันช่วยให้เราหยิบ Taara มาเล่นได้อีกมั้ย ก็ต้องตอบว่า แค่ 1 วินาทีที่เพิ่มมาของอัลติ ไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ มันก็ยังไม่ถือว่า เก่ง หรือ ดีขึ้นมากจนส่งผลให้เราต้องหยิบ Taara มาเล่นแต่อย่างใด ก็เก็บ Taara ไว้ในกรุก่อนเหมือนเดิมครับ

ฮีโร่ที่ได้รับการปรับสมดุลให้อ่อนลง (เนิฟ)

Omen (เนิฟหนัก)

Omen ROV
Omen ROV

ค่า Status พื้นฐาน
– ปรับลดโบนัสความเร็วโจมตีที่จะได้ตอนเลเวลอัพ 4% → 3%

สกิลติดตัว ขณะที่กำลังฟาดเป็นแส้
– ความเร็วในการเคลื่อนที่ 60 (+2 ต่อเลเวล) → คงที่ 60
– ความเร็วในการโจมตี 25% (+1.8% ต่อเลเวล) → คงที่ 25%

การเนิฟแบบนี้ ทำให้ Omen ตีช้าลงไปเยอะครับ โดยเฉพาะในช่วงเลทเกม จะตีช้าลงจากเดิมเป็นอย่างมาก ทำให้แนวทางการเล่น Omen จากที่เราสามารถเล่นเป็นสายแท็งค์ ออกไอเท็มแท็งค์ล้วนๆ ได้เลย ก็จะทำไม่ได้อีกต่อไป ต้องมีการออกไอเท็มเพิ่มความเร็วในการโจมตีเข้ามาบ้าง อย่างน้อยๆ 1 ชิ้น ก็คือ Fafnir’s Talon และถ้าจะให้กลับมาพลิ้ว และตีเร็วเหมือนเดิม ก็ต้องออกไอเท็มเพิ่มความเร็วโจมตีเข้ามาอีกชิ้นนึง ซึ่งก็ต้องดูว่า สถานการณ์ตอนนั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะการใช้ไอเท็มอีกช่องนึง เพื่อใส่ไอเท็มเพิ่มความเร็วโจมตี อาจจะทำให้ตัวของ Omen บางลงไปพอสมควร จากเดิมที่จะใส่แต่ไอเท็มป้องกันล้วนๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเนิฟ Omen หนักมากๆ ขนาดนี้ แต่เราก็ยังสามารถหยิบ Omen มาเล่นได้อยู่ดีครับ เพราะจุดเด่นของ Omen จริงๆ ก็ไม่ได้อยู่ที่ความเร็วในการโจมตีเพียงอย่างเดียว แต่มันเด่นในเรื่องการจับล็อคศัตรู และการล่อซื้อสกิลจากศัตรูได้เยอะมากๆ โดยที่ตัวเองไม่บาดเจ็บเยอะ (โดยการใช้สกิล 2)

Nakroth (เนิฟ)

Nakroth ROV
Nakroth

ค่า Status พื้นฐาน
– โบนัสความเร็วโจมตีที่ได้ตอนเลเวลอัพ 3% → 2%

สกิลติดตัว
– เพิ่มความเร็วโจมตี 50% → 40%

การปรับแบบนี้ ทำให้ความเร็วในการโจมตีของ Nakroth มันหายไปเยอะพอสมควรเช่นกัน คล้ายๆ กับ Omen เลยครับ เนื่องจากฮีโร่ทั้งสองตัวนี้ ทั้ง Omen และ Nakroth ได้รับการปรับให้การโจมตีปกติ มีความลื่นไหนมากขึ้น ลดความหน่วงลง ก็เลยทำให้ดูเหมือนว่า มันตีเร็วมากเกินไป เค้าก็เลยต้องเนิฟลง

เช่นเดียวกันกับ Omen แม้ว่าจะมีการเนิฟเรื่องความเร็วในการโจมตีของ Nakroth ลงไป ก็ไม่ได้ทำให้มันน่าเล่นน้อยลงแต่อย่างใด เพราะจุดเด่นของ Nakroth ก็ไม่ได้อยู่ที่เรื่องตีเร็วอยู่ดี แต่มันอยู่ที่ความพลิ้ว และการทำเกมได้อย่างต่อเนื่อง แยกดันได้ ล้วงได้ ปั่นป่วนฝั่งตรงข้ามได้เป็นอย่างดี นั่นคือ จุดเด่นของมัน ดังนั้น การเนิฟแค่นี้ ไม่มีผลครับ เรายังสามารถหยิบ Nakroth มาเล่นได้เหมือนเดิมครับ

Gildur (เนิฟ)

Gildur ROV
Gildur

ค่า Status พื้นฐาน
– โบนัส HP ที่ได้ตอนเลเวอัพ 417 → 380
– โบนัสเกราะที่ได้ตอนเลเวลอัพ 32 → 29

อัลติ ปรับใหม่ให้ฮีโร่เป้าหมายที่ใส่รองเท้า Gilded Greaves มีโอกาสเอาตัวรอด หรือ หนีออกมาจากอัลติของ Gildur ได้

จากในแพทช์ที่ผ่านมา อัลติของ Gildur มันสร้างปัญหาให้มากพอสมควร เนื่องจาก ฮีโร่ที่ใส่รองเท้าต้านทานสถานะอย่าง Gilded Greaves หากโดนอัลติของ Gildur เข้าไป จะขยับอะไรไม่ได้ เหมือนกับไม่ได้ใส่รองเท้าต้านสถานะเลย ดังนั้น ก็เลยต้องมีการปรับแก้ใหม่ ให้รองเท้าต้านสถานะ มีผลกับอัลติของ Gildur แบบจริงๆ จังๆ สักที

การปรับเนิฟ Gildur ลงแบบนี้ มีผลกับการหยิบมันมาเล่นหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า เดิมทีก็ไม่ค่อยมีคนหยิบ Gildur มาเล่นอยู่แล้วนะครับ เพียงแต่ว่า ถ้าใครที่ชอบหยิบ Gildur มาเล่นเป็นประจำ และความเชี่ยวชาญในการเล่น ก็ยังสามารถหยิบมาเล่นได้อยู่ เพียงแต่ว่า จังหวะการจับล็อค ก็อาจจะต้องเลือกให้มันเหมาะสม และแม่นยำนิดนึง เพราะศัตรูจะไม่ถูกล็อคอยู่กับที่นานเท่าเดิม จังหวะการเติมไฟต์ของเพื่อน ก็ต้องแม่นยำขึ้น

Enzo (เนิฟ)

Enzo ROV
Enzo

ค่า Status พื้นฐาน
– ความเร็วเคลื่อนที่ 380 → 370

สกิล 2
– ปรับลดดาเมจลงมา 300/360/420/480/540/600 (+1.4 โบนัสพลังโจมตี) → 300/340/380/420/460/500 (+1.4 โบนัสพลังโจมตี)

อัลติ
– ปรับลดดาเมจลงมา 400/600/800 (+2.0 โบนัสพลังโจมตี) → 350/525/700 (+2.0 โบนัสพลังโจมตี)

หลังจากการปรับสมดุลในรอบที่ผ่านมา ทำให้จังหวะการกดใช้สกิลของ Enzo มันเร็วมากขึ้นเกินไป ก็เลยต้องปรับเนิฟความเร็วในการเคลื่อนที่ลงมา ซึ่งจะส่งผลกับการเล่น Enzo แน่นอนครับ รวมทั้งยังมีการปรับลดดาเมจของทั้งสกิล 2 และอัลติอีกด้วย เลยทำให้มันเก่งน้อยลงไปเยอะมากๆ

ผมจึงไม่แนะนำให้หยิบ Enzo มาเล่นอีกแล้วนะครับ ไม่ว่าจะหยิบมาเล่นในตำแหน่งไหน จะโรมมิ่ง หรือ ฟาร์มป่า ก็ไม่แนะนำ เพราะมันมีฮีโร่ที่ดีกว่า ที่ควรหยิบมาเล่น

จากที่ผมได้ทำการ วิเคราะห์ ROV แพทช์ 15 ต.ค. 63 จะเห็นได้ว่า ฮีโร่ที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญในการปรับแพทช์ครั้งนี้ ก็คือ Quillen, Keera, Tulen, Zata และ Krixi ที่มันเก่งขึ้นจริงๆ ซึ่งฮีโร่พวกนี้นี่แหละที่เราจะได้เจอในแร็งค์หลังจากนี้แน่นอน และถ้าหลุดแบนมา ก็ต้องหยิบมาเล่นทันที เพราะดาเมจมันเพิ่มขึ้นเยอะ และเก่งขึ้น แต่ถามว่า เก่งจนโกงเลยมั้ย ก็คงจะไม่ เพราะฮีโร่แต่ละตัว ก็มีจุดอ่อนของมันเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Quillen มันจะเก่งก็ต่อเมื่อเลทเกม และมีไอเท็มโจมตีหลายๆ ชิ้น อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 3 ชิ้น และเพื่อนต้องเซ็ตจังหวะไฟต์ให้ดีๆ ด้วย ไม่งั้นก็จะตายง่ายๆ ตอนเข้าไปล้วงนั่นแหละครับ ดังนั้น แม้ว่า ฮีโร่พวกนี้ จะได้รับการบัพให้เก่งขึ้น แต่ก็ใช่ว่า มันจะเก่งจนแบกทีมได้เสมอไป ทีมก็ต้องเล่นให้ดีๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีฮีโร่นอกกระแสที่ได้รับการบัพให้เก่งขึ้น และน่าสนใจ ก็เช่น Toro, Veera, Lumbur, Qi พวกนี้ก็ได้รับการบัพให้เก่งขึ้นด้วย ไม่ใช่ในเรื่องของดาเมจ แต่เป็นการปรับให้สกิลต่างๆ มันใช้งานได้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรเอาไว้พิจารณาเวลาหยิบไปลงแร็งค์ในแพทช์ปัจจุบันนี้นะครับ

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand Return จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ รวมทั้งเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand Return นะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้วิเคราะห์ LoL Wild Rift เปรียบเทียบกับ ROV มันดีกว่าจริงๆ เหรอ ดีกว่ายังไง
เรื่องถัดไปทริคการเล่น โรมมิ่ง ROV ที่ง่ายที่สุดในสามโลก แค่ทำตามเพื่อนก็จะติดใจในฝีมือและชวนเล่นด้วยตลอดแล้ว