Passive ของ The Aegis กับ Shield of the Lost มันทับกันหรือไม่ ไอเท็ม ROV ที่หลายคนสงสัย

หนึ่งในข้อสงสัยที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่กำลังเริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ ไอเท็มทับกัน ในเกม ROV ก็คือ ตกลงแล้ว Passive ของ The Aegis กับ Shield of the Lost มันทับกันหรือไม่? ชื่อสกิลก็เป็นชื่อเดียวกัน แสดงว่า มันต้องทับกันสิ ใช่มั้ย? เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ในบทความนี้ผมจะมาอธิบายถึงข้อเท็จจริง ด้วยผลการทดสอบว่า ตกลงแล้ว ไอเท็มทั้งสองชิ้นนี้ ที่มีชื่อ Passive เหมือนกัน ตกลงแล้ว สกิลติดตัวของไอเท็มทั้งสองชิ้นนี้ มันทับกันหรือไม่ และสามารถนำมาใส่เพื่อใช้งานร่วมกันได้หรือไม่? เอาให้กระจ่างกันไปเลย

Passive ของ The Aegis กับ Shield of the Lost ทับกันหรือไม่? ใส่ไอเท็ม 2 ชิ้นนี้ พร้อมกันได้หรือไม่?

รายละเอียดของ ไอเท็ม The Aegis และ Shield of the Lost ในเกม ROV
รายละเอียดของ ไอเท็ม The Aegis และ Shield of the Lost ในเกม ROV จะเห็นว่า มี Passive ที่ชื่อสกิลเหมือนกัน แต่ทำงานด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

จากในรูปด้านบนนี้ เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ชื่อของสกิลติดตัว หรือ Passive ของไอเท็มป้องกันทั้งสองชิ้นนี้ ก็คือ Sentinel เหมือนกันเป๊ะๆ แต่รายละเอียดสกิลแตกต่างกัน แบบนี้ตกลงว่า Passive ของมันทับกันใช่หรือไม่?

ถ้าเราประเมินตามหลักการทางทฤษฎีของเกม ROV ก็จะต้องสรุปได้เลยว่า มันไม่น่าจะทับกัน เพราะแม้ว่าจะมีชื่อของสกิลเป็น Sentinel เหมือนกัน แต่รูปแบบ หรือ เงื่อนไขการทำงานของสกิล มันแตกต่างกันนะครับ โดย Sentinel ของ The Aegis จะทำงานก็ต่อเมื่อ ศัตรูเข้ามาอยู่ในระยะการทำงานของรัศมี คือ รอบๆ ตัวของฮีโร่ซึ่งเป็นระยะที่สั้นมากๆ เรียกว่า เป็นระยะของการต่อสู้แบบประชิดตัวก็ได้ โดยแค่ศัตรูเข้ามาใกล้ๆ หรือ ฮีโร่ที่ใส่ไอเท็ม The Aegis เข้าไปประชิดตัวศัตรูได้ ก็จะทำให้ Passive นี้ทำงานทันที ลดความเร็วโจมตีศัตรูทันที แม้ว่าศัตรูจะยังไม่ได้โจมตีอะไรใส่เราเลยก็ตาม ส่วน Shield of the Lost จะมี Passive ที่จะทำงานด้วยเงื่อนไขที่ว่า ถ้าศัตรูโจมตีใส่ฮีโร่ที่ใส่ไอเท็ม Shield of the Lost ศัตรูคนนั้นจะถูก Passive ของไอเท็มชิ้นนี้เล่นงานทันที ไม่เกี่ยวกับระยะการทำงานของ Passive แต่อย่างใด ศัตรูโจมตีจากระยะที่ไกลแค่ไหน ก็โดนผลจาก Passive นี้อยู่ดี สรุปคือ ถ้าคำนวณตามเงื่อนไข และรูปแบบการใช้สกิลแล้ว ทางทฤษฎี มันไม่ทับกันครับ แต่ในความเป็นจริง มันเป็นอย่างไรล่ะ?

ในความเป็นจริง จากการทดสอบพบว่า เราสามารถใส่ไอเท็มป้องกันทั้ง 2 ชิ้นนี้ได้ โดยที่สกิลติดตัว หรือ Passive ของไอเท็มทั้งสองชิ้นนี้ ไม่ทับกัน (ถูกต้องตามหลักการทางทฤษฎีเป๊ะๆ) และแสดงผลของสกิลติดตัวออกมาพร้อมๆ กันจากทั้งสองไอเท็มเลยทีเดียว มาครับ เดี๋ยวผมจะเอาผลการทดสอบมาให้ดูแบบชัดๆ เลยว่า มันสามารถใส่ร่วมกันได้และแสดงผลของ Passive ที่ทำงานพร้อมๆ กันออกมาเป็นอย่างไร?

ในการทดสอบนี้ ผมใช้ Hayate มาทดสอบกับ Maloch โดย Maloch จะออกไอเท็มป้องกันทั้งสองชิ้นนี้พร้อมกัน นั่นคือ The Aegis และ Shield of the Lost ผลการทดสอบเป็นดังนี้ครับ

Hayate ตอนที่ยังไมได้โจมตีใส่ Maloch และไม่ได้อยู่ใกล้ๆ จะมีความเร็วโจมตีอยู่ที่ 159.5% และความเร็วเคลื่อนที่ 549

ค่า Status ของ Hayate ก่อนที่จะโจมตีและเข้าใกล้ Maloch
ค่า Status ของ Hayate ก่อนที่จะโจมตีและเข้าใกล้ Maloch โปรดสังเกตที่ความเร็วโจมตี และความเร็วเคลื่อนที่ของ Hayate

เมื่อ Hayate โจมตีใส่ Maloch และ Maloch เข้าประชิดตัวในระยะที่สกิลติดตัวของ The Aegis ทำงาน ส่งผลให้ ความเร็วโจมตีของ Hayate ลดลงเหลือแค่ 99.5% และ ความเร็วเคลื่อนที่ 496

ค่า Status ของ Hayate เมื่อโจมตีใส่ Maloch และถูก Maloch เข้าประชิดตัว
ค่า Status ของ Hayate เมื่อโจมตีใส่ Maloch และถูก Maloch เข้าประชิดตัว จะสังเกตเห็นว่า ความเร็วโจมตีหายไป 60% ทันที และความเร็วเคลื่อนที่ก็หายไป 15% ด้วยเช่นกัน

สรุปก็คือ เมื่อ Hayate โจมตีใส่ Maloch จากระยะไกล ความเร็วโจมตีจะหายไป 30% และความเร็วเคลื่อนที่ หายไป 15% ซึ่งเป็นผลจาก Passive ของ Shield of the Lost และเมื่อ Hayate อยู่ประชิดติดตัวกับ Maloch ในระยะที่ Passive ของ The Aegis ทำงาน ก็จะลดความเร็วโจมตีของ Hayate ลงไปอีก 30% เท่ากับว่า หาก Hayate อยู่ในระยะทำงานของ Passive จากไอเท็มทั้งสองชิ้นนี้พร้อมๆ กัน ก็จะถูกลดความเร็วโจมตีลงไปมากถึง 60% ทันที นั่นแปลว่า Passive จากไอเท็มป้องกันทั้งสองชิ้นนี้ ไม่ทับกันนะครับ

ชัดเจนแล้วว่า Passive ของ The Aegis กับ Shield of the Lost ไม่ทับกันแต่อย่างใด สามารถใส่ร่วมกันได้ แต่ปัญหาก็คือ การเลือกใช้ไอเท็มทั้งสองชิ้นนี้ เพื่อมาใส่พร้อมๆ กันนั้น ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมนะครับ เพราะอะไร? เพราะระยะสกิลติดตัว หรือ ระยะของ Passive ของ The Aegis นั้น มันใกล้มากๆ คือ เป็นแบบ ยืนฟันกันประชิดติดตัวเลยว่างั้น มันเลยมีประโยชน์กับพวกฮีโร่ที่เป็นสายตีใกล้แบบแนบเนื้อจริงๆ เช่น Allain, Maloch, Tachi, Arduin, Omen อะไรพวกนี้ จะทำให้เป้าหมายโดน Passive จาก The Aegis เข้าไปเต็มๆ แน่นอน

จากตัวอย่างที่ผมได้ทำการทดสอบ เมื่อ Maloch เข้าประชิดตัว Hayate ได้ จะทำให้ความเร็วโจมตีของ Hayate หายไป 60% ทันที (จาก 159.5% เหลือแค่ 99.5%) และนี่ก็คือ คำตอบให้ทุกคนหายสงสัยว่า ทำไมผมถึงแนะนำให้ออกไอเท็ม Shield of the Lost กับ The Aegis ใส่กับ Tachi โรมมิ่ง พร้อมๆ กัน เพราะมันให้ผลลัพธ์แบบนี้นี่แหละครับ เนื่องจากการโจมตีของ Tachi มันต้องเข้าไปประชิด แนบเนื้อ ติดตัวกับเป้าหมายที่โจมตีอยู่แล้ว (สกิล 2) ดังนั้น มันจะได้รับผลจาก Passive ของไอเท็มป้องกันทั้งสองชิ้นนี้ไปเต็มๆ อย่างแน่นอนครับ รวมทั้งได้ในเรื่องของการลดคูลดาวน์มากถึง 20% จาก The Aegis อีกด้วย

ทีนี้เมื่อเราเข้าใจแบบนี้แล้ว เราก็ต้องเอาความรู้ในเรื่องนี้ไปปรับใช้ กับการจัดเซ็ตไอเท็มของฮีโร่หลายๆ ตัว ที่เคยใส่ The Aegis เป็นไอเท็มหลักในการเล่น ยกตัวอย่างง่ายๆ Alice จะใช้ประโยชน์จากไอเท็ม The Aegis ได้ไม่เต็มที่ ไม่คุ้มค่า เพราะระยะการโจมตีของ Alice มันต้องเล่นแบบ รักษาระยะห่างจากศัตรูอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อเราซื้อ The Aegis มาใส่กับ Alice มันจะไม่คุ้มครับ เพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก Passive อย่างคุ้มค่า เรื่องการลดคูลดาวน์ เราสามารถหาได้จากไอเท็มอื่นๆ ครับ เช่น Berith’s Agony, Soul Scroll, Medallion of Troy, Frost Cape พวกนี้ เราเอามาใส่แทน The Aegis ได้ครับ เพื่อให้ Alice ได้รับประโยชน์จาก Passive ของไอเท็มพวกนี้ คุ้มค่ากว่าการไปออกไอเท็มที่เราจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก Passive ของไอเท็มชิ้นนั้นๆ ได้

ย้ำอีกรอบว่า The Aegis กับ Shield of the Lost สามารถใส่ร่วมกันได้นะครับ สกิลติดตัว หรือ Passive ไม่ได้ทับกัน เพียงแต่เราต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับฮีโร่ที่เราจะเล่น โดยหากเราต้องการใส่ไอเท็มทั้งสองชิ้นนี้ร่วมกัน เพื่อลดความเร็วโจมตีของเป้าหมายให้มากถึง 60% ก็ต้องเลือกใช้กับฮีโร่ที่เน้นการโจมตีในระยะประชิดติดตัวเป้าหมายเป็นหลัก เพื่อให้ Passive ของ The Aegis ที่มีระยะการทำงานที่ใกล้มากๆ มันทำงานได้จริงๆ

ถามว่าการลดความเร็วโจมตีของเป้าหมาย มันดียังไง? การลดความเร็วโจมตีของเป้าหมาย ถ้าเป็นพวกแครี่ หรือ ไฟต์เตอร์ตีเร็ว จะมีผลมากๆ นะครับ ยิ่งถ้าเราใช้สูตรไอเท็มป้องกันทั้งสองชิ้นนี้ร่วมกัน จะลดความเร็วโจมตีลงไปได้มากถึง 60% ทันที เรียกได้ว่า ตีช้าลงแบบสุดๆ ไปเลยทีเดียว มีผลกับพวกฮีโร่ที่ต้องเน้นการยิงเร็ว หรือมี Passive ที่ขึ้นกับความเร็วโจมตี เช่น Hayate หากตีช้าลง ก็จะปาดาวกระจายออกมาได้น้อยลง ดาเมจโดยรวมก็น้อยลงด้วย ตัวเราก็เจ็บน้อยลง หรือ Capheny ที่มี Passive เป็นการเปลี่ยนความเร็วโจมตีจากไอเท็มเป็นพลังโจมตี ก็จะถูกลดความแรงของพลังโจมตีลงไป เพราะความเร็วโจมตีมันหายไปนั่นเอง (เวลามันลดความเร็วโจมตี มันจะลดจากส่วนที่มาจากการเพิ่มไอเท็มเป็นหลักก่อนนะครับ) เรียกได้ว่า หากเราเข้าประชิดตัวฮีโร่ที่เน้นความเร็วในการโจมตีพวกนี้ได้ ดาเมจที่เราได้รับ มันก็จะเบาลงอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ นี่ยังไม่นับรวมเกราะป้องกันที่รวมกันแล้วมากถึง 660 หน่วยเลยทีเดียวนะครับ บอกเลยว่า ตัวเรานี่โคตรหนา ป้อมยิงยังรู้สึกเจ็บน้อยลงมากๆ เลย

เวลาจะหยิบไอเท็มป้องกันสองชิ้นนี้ไปใช้ร่วมกัน ก็พิจารณาเงื่อนไขที่ผมได้อธิบายไปแล้วด้วยนะครับว่า มันเหมาะสม และสมควรจะเอาไปออกใช้พร้อมกันหรือไม่ คือ เราต้องใช้ประโยชน์จาก Passive ของไอเท็มทุกชิ้น มันถึงจะทำให้ตัวฮีโร่ของเราโหดนะครับ

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ

เรื่องก่อนหน้านี้Tachi โรมมิ่ง อยากเล่นต้องได้เล่น เอาสูตรนี้ไปใช้โหดแน่นอน สอนเล่น ROV ทำไมจะเอามาโรมไม่ได้
เรื่องถัดไปพลังแฝง Alchemy โดนเนิฟ แล้วยังสามารถนำมาใช้เล่นได้อยู่หรือไม่ สอนเล่น ROV