ฮีโร่ในตำแหน่งเมจอีกหนึ่งตัว ที่เรียกได้ว่า มีคนหยิบมาเล่นน้อยมากๆ ก่อนหน้านี้ เพราะมันค่อนข้างจะทำประโยชน์ให้ทีมได้น้อย และมักจะเป็นจุดอ่อนของทีม นั่นก็คือ Veera ซึ่งเป็นหนึ่งในสองฮีโร่ตำแหน่งเมจ ที่ผมไม่แนะนำให้หยิบมาลงแร็งค์เด็ดขาด (เฉพาะการ Solo Rank เท่านั้นนะครับ ถ้าเล่นแบบเป็นทีมกับเพื่อน ก็หยิบมาเล่นได้ครับ) เพราะมันตัวบาง และมีสกิลที่ช่วยทีมได้ค่อนข้างน้อย คือ เน้นสตั้น ได้เหมือนกับ Valhein แต่ที่เหลือ มันค่อนข้างเล่นได้ยาก เมื่อเทียบกับเมจตัวอื่นๆ แต่หลังจากที่มีระบบพลังแฝงเข้ามา ก็ทำให้ Veera กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เนื่องจาก พลังแฝง Veera ROV เซ็ตนี้ จะช่วยเพิ่มความโหดให้กับ Veera และแก้ไขจุดอ่อนของ Veera เรื่องการสู้กับฮีโร่ฝั่งตรงข้าม มากกว่า 1 ตัวขึ้นไป ได้อีกด้วย
พลังแฝง Veera ROV ต้องจัดแบบไหน ถึงจะโหดมากที่สุด?
ถ้าเราดูที่ พลังแฝงแนะนำ ที่ทางระบบเค้าได้แนะนำมา สำหรับ Veera ก็จะแนะนำให้ใช้ พลังแฝงสายหลักเป็น Veda สีเหลือง ซึ่งแน่นอนว่า มันเหมาะสมกับเมจตามหลักการอยู่แล้ว แต่นั่น ไม่ได้ทำให้ การเล่น Veera มันโหดขึ้นแต่อย่างใดครับ เป็นเพียงการเพิ่มดาเมจเวทให้กับการโจมตีแบบเล็กๆ น้อยๆ และเป็นการเพิ่มการป้องกันให้กับ Veera ยามคับขันบ้าง ก็เท่านั้น
แต่ถ้าเราต้องการปรับให้ Veera มันโหดมากขึ้น สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนก็คือ พลังแฝงสายหลักครับ โดยเราต้องทำการปรับให้พลังแฝงสายหลักของ Veera เป็นสายสีแดง หรือ Lokheim เพราะอะไร? เพราะเราต้องการ พลังแฝงขั้นสูงสุดอย่าง Devil’s Awakening มาเป็นพลังแฝงหลักยังไงล่ะครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ?
งั้นผมจะอธิบายเลยละกัน คือ แบบนี้ครับ Devil’s Awakening มันไม่ได้เพิ่มดาเมจอะไรให้กับฮีโร่เลย แต่ที่มันสุดยอดมากๆ ก็คือ เมื่อฮีโร่ใช้สกิลอัลติเมทปุ๊บ มันจะลดคูลดาวน์ของสกิลปกติลงทันทีเลย 50% และลดอัตราการนับคูลดาวน์ลงอีก 20% และลดความเสียหายที่ได้รับลง 10% ซึ่งถ้าฮีโร่ตัวนั้น ฆ่า หรือ ช่วยฆ่า ฮีโร่ศัตรูได้ ก็จะขยายระยะเวลาของเอฟเฟคนี้ไปอีก 3 วินาที ซึ่งบอกเลยว่า มันเป็นอะไรที่ เหมาะสมกับ Veera เป็นอย่างมาก
เอาอย่างแรกเลย เพราะ Veera เป็นเมจที่ต้องใช้อัลติบ่อยมากๆ และคูลดาวน์อัลติของ Veera ก็ไม่ได้นานครับ และคอมโบสกิลของ Veera ต้องใช้สกิลหมดทุกสกิล แถมยังมีลำดับการใช้สกิล แบบ 2 – 1 – 3 นั่นคือ ใช้สกิล 1 กับ สกิล 2 ก่อนกดใช้อัลติเสมอ ดังนั้น เท่ากับว่า เมื่อเรากดใช้อัลติ เราก็จะสามารถกดใช้ สกิล 1 กับสกิล 2 ได้อีกครั้ง เร็วขึ้นกว่าเดิมครึ่งนึงเลยทีเดียว
เท่านั้นยังไม่พอ โดยธรรมชาติของ Veera นั้น จะเน้นการฆ่าเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะดาเมจแรงมาก เมื่อคอมโบสกิลไปแล้ว ศัตรูต้องตาย หรือไม่ก็ปางตาย ซึ่งถ้ามีเพื่อนมาซ้ำ Veera ก็จะได้ Asist หรือ การช่วยฆ่า เท่ากับว่า ไม่ว่ายังไง Veera มักจะฆ่า หรือ ช่วยฆ่าเสมอ ทุกครั้งที่ใช้สกิลอัลติเมท
นั่นแปลว่า รูปแบบการทำงานของ Devil’s Awakening จะเข้ากับ Veera เป็นอย่างมาก และมันจะถูกดึงออกมาใช้แบบอัตโนมัติ โดยที่ผู้เล่น Veera ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้ Veera ในช่วงกลางเกม ถึงเลทเกม มีสกิลให้กดใช้ได้ต่อเนื่องกันแบบรัวๆ คอมโบติดต่อกันยาวๆ ได้เลยทีเดียวครับ ไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อน ที่พอกดคอมโบสกิลครบแล้ว ก็ต้องวิ่งหนี เพื่อรอคูลดาวน์ของสกิลอีกต่อไปแล้ว
เอาล่ะ ทีนี้ เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า พลังแฝงสายหลักของ Veera ต้องเป็น สายสีแดง หรือ Lokheim ดังนั้น เราจะมาดูกันว่า พลังแฝงในแต่ละขั้น ของสายสีแดง สำหรับ Veera เราควรจัดอย่างไรบ้าง ถึงจะส่งเสริมให้ Veera มันโหดมากที่สุด
พลังแฝงสายหลักขั้นที่ 1 ของ Veera โดยส่วนตัว ผมนิยมใช้เป็น Raging Inferno ครับ เพื่อเน้นไปที่ความแรงของดาเมจเวทที่ทำได้ ให้มันแรงมากที่สุด แม้ว่าต้นเกม อาจจะไม่ได้แรงอะไรมากมาย แต่เลทเกมมา ส่งผลกับดาเมจที่ทำได้อย่างแน่นอนครับ
อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคน ที่รู้สึกว่า อยากได้ความปลอดภัย หรือความชัวร์ในการเล่น Veera ให้มากที่สุด คือ ไม่อยากตายง่ายๆ และอยากได้การดูดเลือดให้มีเลือดเด้งหลังจากที่ฆ่าศัตรูหรือช่วยฆ่าศัตรูบ้าง ผมก็แนะนำว่า ให้ใช้เป็น Devourer ก็ได้เช่นกัน ไม่มีอะไรผิดครับ เพราะ Veera มันต้องเน้นการฆ่า หรือช่วยฆ่าเป็นหลักอยู่แล้ว มันไม่เหมาะกับการยืนเลน เพื่อเคลียร์ครีป แต่มันเหมาะกับการเดินแก๊งค์ ทำจังหวะ จ่าย CC สตั้นศัตรูให้เพื่อน และเติมดาเมจเพื่อฆ่าศัตรูครับ ดังนั้น สำหรับ Veera แล้ว พลังแฝงอย่าง Devourer จะทำงานบ่อยแน่นอนครับ
พลังแฝงสายหลักขั้นที่ 2 ของ Veera สำหรับอันนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่า Deadly Claw อยู่แล้วครับ เพราะ Veera ไม่ต้องไปเน้นต้านสถานะอยู่แล้ว แต่เน้นที่ตำแหน่งการยืน ต้องไม่แหลม และไม่เสี่ยงที่จะโดนสกิลเล่นงานอยู่แล้วครับ เพราะถึงแม้จะใช้ Bone Cutter ที่ช่วยเพิ่มอัตราการต้านสถานะมาแค่ 10% ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายอยู่แล้วครับ ใส่ใจตำแหน่งการยืนจะดีกว่าครับ เพราะถ้าไม่โดนสกิล ก็จะไม่ติด CC นั่นเองครับ
พลังแฝงสายหลักขั้นที่ 3 ของ Veera ก็อย่างที่ผมได้อธิบายไปแล้ว ว่า ต้องเป็น Devil’s Awakening อย่างไม่ต้องสงสัยครับ มันเหมาะสมมากที่สุดแล้วสำหรับ Veera สาย Aggressive เน้นการเดินแก๊งค์กับโรมมิ่งตลอดทั้งเกม ใครโผล่หน้ามา เป็นสตั้น แล้วแจกดาเมจเวทแรงๆ ใส่ทันที
ในส่วนของ พลังแฝงสายรอง สำหรับ Veera นั้น อันนี้ อยู่ที่แต่ละคน แต่ละสไตล์การเล่นจริงๆ ครับ บางคนที่ชอบสายชัวร์ เน้นปลอดภัย และตายยาก ก็จะใช้เป็นพลังแฝงสายสีน้ำเงิน Human เป็นหลัก โดยขั้นแรก ใช้เป็น Mark of Frost ส่วนขั้นที่สองก็ใช้เป็น Gunslinger ก็ได้เช่นกันนะครับ ไม่มีใครว่า ว่าผิดแน่นอนครับ
แต่สำหรับผม ผมเน้นดาเมจเวท ให้มันแรงสุดๆ เข้าไว้ดีกว่าครับ เพราะผมใส่ใจเรื่องของตำแหน่งการยืน และความปลอดภัย ไม่ให้ตัวเองโดนฆ่าตาย หรือถูกล้วงง่ายๆ อยู่แล้ว ดังนั้น ก็จะเน้นไปที่ สายดาเมจเวท ให้มันหนักๆ ไปเลยครับ โดยเลือกใช้เป็น
พลังแฝงสายรอง ช่องที่ 1 ของ Veera ใช้เป็น Sacred Bead เพื่อเน้นการลดคูลดาวน์ให้กับสกิลอัลติเมทของ Veera เพราะยังไงก็ตาม ไอเท็มของ Veera จะไม่ลดคูลดาวน์เต็มอัตรา 40% อย่างแน่นอนครับ อย่างมากก็แค่ 30% ดังนั้น Sacred Bead จะช่วยทำให้ อัลติของ Veera ถูกลดคูลดาวน์ลงเต็มที่อย่างแน่นอนครับ อันนี้มีผลมากๆ ในช่วงตั้งแต่กลางเกม จนถึงเลทเกมเลยนะครับ เพราะเมื่อมีไอเท็ม และพลังแฝงอย่าง Sacred Bead นี้มารวมกัน จนทำให้อัลติของ Veera ถูกลดคูลดาวน์จนถึง 40% ก็จะทำให้ Veera ใช้คอมโบสกิลได้แบบรัวๆ เลยล่ะครับ
พลังแฝงสายรอง ช่องที่ 2 ของ Veera แน่นอนว่า มันต้องเป็น Blessing อย่างเดียวเท่านั้นครับ อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเหตุผลที่ว่า ไอเท็มของ Veera จะเน้นไปที่ ไอเท็มเพิ่มพลังเวทเป็นหลักอยู่แล้ว เมื่อเราใช้พลังแฝงอย่าง Blessing ที่จะเพิ่มความแรงให้กับ พลังเวทจากไอเท็มอีก 8% จะทำให้คอมโบของ Veera ทำดาเมจเวทได้แรงมากขึ้น จนสามารถฆ่าศัตรูได้อย่างรวดเร็ว ภายในคอมโบเดียวอย่างแน่นอนครับ
โดยธรรมชาติแล้ว Veera จะไม่ออกไอเท็มป้องกันเลยนะครับ แต่จะใช้ไอเท็มที่ให้พลังเวทเพียวๆ เรียกได้ว่า เน้นที่พลังเวทล้วนๆ เพื่อทำให้ตัวเองเป็นตัวทำดาเมจเวทที่แรงที่สุดของทีม ดังนั้น จะได้รับอานิสงส์จาก พลังแฝง Blessing ไปเต็มๆ อย่างแน่นอนเลยครับ ซึ่งที่เพิ่มขึ้นอีก 8% นี่ จะเป็นการเพิ่ม 8% จากพลังเวทที่ได้จากไอเท็มนะครับ ยิ่งมีไอเท็มเยอะเท่าไหร่ พลังเวทก็ยิ่งแรงมากขึ้นเท่านั้นครับ
จะเห็นได้ว่า พลังแฝง Veera ROV จะเน้นไปที่การเพิ่มดาเมจเวทให้กับ Veera และเพิ่มจังหวะในการคอมโบสกิลให้กับ Veera เพื่อให้ Veera สามารถกดใช้สกิลต่อเนื่องได้อีก เป็นการเพิ่มดาเมจจากการคอมโบสกิลให้กับ Veera อย่างแท้จริง ซึ่งตรงนี้ ย่อมมีผลกับรูปแบบการเล่นของ Veera แน่นอน เพียงแต่ไม่มาก เป็นการที่ผู้เล่น ต้องปรับจังหวะการคอมโบสกิล ให้มันเหมาะสม และสอดคล้องกับ Devil’s Awakening มากที่สุด
แนวทางการเล่นที่เหมาะสมกับ พลังแฝง Veera ROV ก็คือ ต้องใช้สกิล 1 กับ 2 ก่อน แล้วค่อยกดใช้อัลติเมทสกิล เพื่อจะได้คุ้มค่ามากที่สุด เพราะจะเท่ากับว่า สามารถกดใช้สกิลได้ถึง 5 ครั้ง ต่อเนื่องกัน นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้เล่นหลายๆ คนไม่รู้ เกี่ยวกับ Veera ก็คือ สกิลติดตัวของ Veera นั้น ก็คือ ถ้า Veera ฆ่า หรือ ช่วยฆ่า ฮีโร่ศัตรูได้ ทุกสกิลของ Veera จะถูกลดคูลดาวน์ลง 25% ทันที เท่ากับว่า ด้วยเซ็ตพลังแฝงเซ็ตนี้ จะทำให้ Veera ลดคูลดาวน์ของทุกสกิลอยู่แล้ว และถ้าใช้ในจังหวะที่ศัตรูเลือดเหลือน้อย จนฆ่าได้ จะทำให้สามารถกดใช้สกิลอื่นๆ ได้แบบต่อเนื่อง และเร็วขึ้นแบบสุดๆ ไปเลย เพราะลดคูลดาวน์แล้วก็ลดคูลดาวน์อีก
จึงสามารถพูดได้ว่า Veera กลายเป็นหนึ่งในเมจที่น่ากลัวที่สุด ในทีมไฟต์ของ ROV ซีซั่นปัจจุบันนี้ และสามารถทำคอมโบสกิล “ไหล” ฆ่าศัตรูหลายๆ ตัวอย่างต่อเนื่องได้ คล้ายๆ กับ Butterfly และ Quillen เลยทีเดียว ถามว่า เกมแบบไหน ควรหยิบ Veera มาเล่น แนะนำว่า ควรเป็นเกมที่ ฝั่งตรงข้าม ขาดตัวล้วง หรือ ไม่มีตัวล้วงที่ว่องไว เช่น เกมที่มี แครี่ฟาร์มป่า แบบนี้จะหวานเจี๊ยบสำหรับ Veera มากๆ เลยครับ เพราะจุดอ่อนของ Veera คือ การโดนล้วง นั่นเองครับ ถ้าไม่มีใครล้วง Veera ก็จะสามารถหาตำแหน่งยิงฟรี ยืนจ่ายสตั้น และ ดาเมจเวทได้แบบสบายๆ เลยทีเดียว
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
