แนะนำ ระบบพลังแฝง ROV ทั้ง 4 ประเภท พร้อมรายละเอียดของแต่ละสกิล ROV แผนที่ 3.0

หลังจากที่ในบทความที่แล้ว ผมได้ทำการ วิเคราะห์ ROV แผนที่ 3.0 แพทช์ใหม่กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า มีการปรับสมดุลไอเท็ม, ปรับสมดุลฮีโร่ และมีการปรับระบบต่างๆ ในแผนที่ เป็นอย่างไรกันบ้าง และส่งผลกระทบกับการเล่นอย่างไร ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาคราวนี้ ผมก็จะมาแนะนำ เกี่ยวกับ ระบบพลังแฝง ROV ที่กำลังจะเข้ามาใหม่ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Enchantments ซึ่งจะมีบทบาทในการเล่นหลังจากนี้แน่นอนครับ ซึ่งอาจจะทำให้หลายๆ คน สับสนพอๆ กับรูนที่ใช้กันก่อนหน้านี้แน่ๆ ครับ ดังนั้น เพื่อความเข้าใจที่ง่ายมากขึ้น ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ระบบพลังแฝง ROV เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนการอัพเดท ROV แผนที่ 3.0 ที่กำลังจะมาถึงกันเลยนะครับ

ระบบพลังแฝง ROV คืออะไร?

ระบบพลังแฝง ถ้าจะให้พูดความหมายกันตรงๆ ก็เหมือนกับ สกิลพิเศษ ที่เราสามารถหยิบเข้าไปใช้เพิ่มเติมในการเล่นได้นั่นเองครับ รูน คือ สิ่งที่ช่วยเพิ่มค่า Stat และความสามารถในการเล่น ส่วน พลังแฝง จะเน้นไปที่การเพิ่มความสามารถ ให้กับฮีโร่ตามสายการเล่นประเภทนั้นๆ ให้มันโดดเด่นมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความหลากหลาย ให้กับแนวทางการเล่นเกม ROV อีกด้วย เพราะบอกเลยว่า ก่อนหน้านี้ มันค่อนข้างจะน่าเบื่อเกินไปครับ คือ รูน และไอเท็ม มันค่อนข้างตายตัว จึงทำให้ปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่น หรือ ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบอะไรกันมากมายนัก เพราะรู้อยู่แล้วว่า ฮีโร่แต่ละตัว ต้องใช้รูน และไอเท็มอะไรบ้าง มันไม่เกิดความหลากหลายขึ้น ในการเล่นนั่นเองครับ

ดังนั้น ทางทีมงานเค้าจึงได้เพิ่ม ระบบพลังแฝงขึ้นมา โดยได้แบ่งพลังแฝง ออกเป็น 4 ประเภท (Four Enchantments) โดยแบ่งตามตำแหน่งหลักๆ ในการเล่นเกม ROV นั่นเองครับ ได้แก่

ระบบพลังแฝง ในเกม ROV ทั้ง 4 แบบ
ระบบพลังแฝง ในเกม ROV ทั้ง 4 ประเภท หรือ 4 สาย

VEDA (สายสว่าง) เหมาะสำหรับฮีโร่ที่โจมตีระยะไกล เช่น แครี่ หรือ เมจ

AFATA (สายปกป้อง) เหมาะสำหรับฮีโร่ประเภทซัพพอร์ต หรือ แท้งค์

HUMAN (สายสมดุล) ใช้ได้กับฮีโร่ทุกประเภท อยู่ที่ผู้เล่นจะเอาไปประยุกต์ใช้เอง

LOKHEM (สายพลัง) เหมาะสำหรับฮีโร่โจมตีระยะใกล้ เช่น ไฟต์เตอร์ หรือ แอสซาซิน

ระบบพลังแฝงนี้ ผู้เล่นจะได้รับมาแบบฟรีๆ เช่นกัน เหมือนกับ รูน นั่นแหละครับ ที่ทุกคนจะได้รับรูน LV 1 ทุกชนิด ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งระบบพลังแฝง ที่ว่ามานี้ นอกจากแบ่งเป็น 4 ประเภท หรือ 4 สายแล้ว ในแต่ละสาย ยังแบ่งออกเป็น 3 ขั้น หรือ 3 ระดับ อีกด้วย

ระบบพลังแฝง ROV แผนที่ 3.0 ใหม่
ระบบพลังแฝง ROV แผนที่ 3.0 ใหม่

การใส่พลังแฝง ผู้เล่นจะสามารถตั้งค่าพลังแฝงได้ 3 ชุด ให้กับฮีโร่แต่ละตัว โดยจะแบ่งเป็น 1 สายหลัก กับ 2 สายสนับสนุน กล่าวคือ ในส่วนของ สายหลัก จะใส่ได้ 3 สกิล แบบเต็มๆ ไปเลย ส่วน สายรอง จะใส่ได้อีก 2 สกิล จะสายเดียวกัน หรือ คละสายก็ได้ ถ้าเลือกสายเดียวกัน จะใส่สกิลขั้นที่ 2 ของสายนั้นๆ ได้ แต่ถ้าใช้แบบคละสาย จะใส่ได้เฉพาะขั้นที่ 1 ของ สายนั้นได้เท่านั้น อันนี้ไม่ต้องงงครับ เดี๋ยวพอระบบนี้มา ก็จะรู้เองว่า มันคืออะไร

แต่ประเด็นหลักจริงๆ ที่คุณต้องรู้ก็คือ เราควรจะเลือกสกิลไหน ขั้นไหน มาใส่ให้กับฮีโร่ของเราดี ซึ่งความซับซ้อนมันอยู่ตรงนี้นี่แหละครับ ตรงที่การเลือกใส่แต่ละสกิล แต่ละขั้น ของระบบพลังแฝงที่ผู้เล่นต้องเข้าใจว่า ทำไม และเพราะอะไร เราถึงต้องเลือกใช้สกิลนี้ หรือ พลังแฝงสายนี้ เป็นสายหลัก ให้กับฮีโร่ตัวนี้ ซึ่งการที่เราจะรู้หรือวิเคราะห์ได้ ก็ต้องมาจากความรู้ และความเข้าใจ เกี่ยวกับ การทำงานของทุกๆ สกิล ในทุกๆ สายนั่นเองครับ ซึ่งวันนี้ ผมก็ได้ทำการสรุปรายละเอียด ของทุกๆ สกิล ในทุกๆ ขั้น ของพลังแฝงทุกสาย มารวมเอาไว้ที่นี่แล้วครับ

รายละเอียดสกิลของ ระบบพลังแฝง ROV ทุกสาย แบบละเอียด

HUMAN

Human
Human

ขั้นที่ 1

Mark of Frost
Mark of Frost

Mark of Frost – หลังจากเริ่มเกมไป 3 นาที จะมีสกิลคล้ายๆ กับ Endurance สมัยก่อน คือ แช่แข็งตัวเอง ให้ไม่ตกเป็นเป้าหมายใดๆ นั่นเอง ซึ่งกดใช้ได้เพียงหนึ่งครั้ง แล้วก็จะหายไปเลย ใช้ได้แค่ 1 ครั้ง ใน 1 เกมเท่านั้น

Reaper's Blessing
Reaper’s Blessing

Reaper’s Blessing – หลังจากเริ่มเกมไป 3 นาที จะได้รับสกิลกันตาย เหมือนกับ สกิลติดตัวของ Death Sickle นั่นเองครับ ซึ่งมันจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อเราใกล้ตายและจะใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ต่อ 1 เกม

Arcane Whisper
Arcane Whisper

Arcane Whisper – สกิลชาเลนเจอร์ ที่เราหยิบมาใช้ จะถูกลดคูลดาวน์ลงไป 15%

ขั้นที่ 2

Minion Kill
Minion Kill

Minion Kill – เมื่อเราโจมตีใส่ครีป แล้วครีปตัวนั้น มีพลังชีวิตน้อยกว่า 200 เราจะฆ่ามันได้ทันที เรียกได้ว่า เป็นสกิลสำหรับ Last Shot ครีปโดยแท้จริง เอาไว้เสริมสำหรับฮีโร่ที่ต้องการเน้นเคลียร์ครีปเร็ว ซึ่งเราสามารถเอามาใช้ได้กับ พวก ไฟต์เตอร์ ออฟเลน ก็ได้เช่นกัน คือ จะได้เคลียร์ครีปเร็วๆ แล้วไปแก๊งค์กลางนั่นเอง

Gunslinger
Gunslinger

Gunslinger – เมื่อเราฆ่า หรือช่วยฆ่าฮีโร่ศัตรู ที่แตกต่างกัน คือ ไม่ซ้ำฮีโร่ตัวเดิม จะทำให้เราได้รับ 10 พลังโจมตี และ 15 พลังเวท ต่อ 1 ฮีโร่ฝั่งตรงข้าม ที่เราฆ่า ซึ่งมันต้องแตกต่างกัน ดังนั้น เท่ากับว่า สูงสุด น่าจะเป็นการฆ่า หรือ ช่วยฆ่า แค่ 5 ครั้ง เพราะฮีโร่ศัตรู ก็มีแค่ 5 ตัวเท่านั้น ดังนั้น ลิมิตสูงสุด ที่น่าจะได้รับ ถ้าเราฆ่า หรือช่วยฆ่าตลอด ก็จะได้ 50 พลังโจมตี และ 75 พลังเวท ซึ่งดูแล้ว เหมาะสำหรับ โรมมิ่ง เป็นอย่างมาก

ขั้น 3

Endless Cycle
Endless Cycle

Endless Cycle : หลังจากที่เราตาย จะได้รับการชุบชีวิต ให้ไปเกิดที่บ่อเกิดทันที โดยในแต่ละเกม จะทำแบบนี้ได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น และในแต่ละครั้ง จะมีเวลาคูลดาวน์ อยู่ที่ 100 – 310 วินาที ตามแต่ละครั้ง ที่ใช้ไป เช่น เริ่มเกมมา จะยังใช้ไม่ได้ ต้องรอให้ผ่านไป 100 วินาทีแรกก่อน สกิลนี้ ถึงจะพร้อมใช้งาน เมื่อตายไปแล้ว จะเกิดใหม่ทันที แล้วก็ต้องรอไปอีก 200 วินาที สกิลถึงจะพร้อมให้ใช้ได้ใหม่ และถ้าตายอีก ก็จะชุบชีวิตได้ทันที นับเป็นครั้งที่ 2 และต้องรอไปอีก 310 วินาที ถึงจะใช้ได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นการชุบชีวิตทันที เป็นครั้งที่ 3

Visceral Boost
Visceral Boost

Visceral Boost : เริ่มต้นเกมมา เราจะเกิดขึ้นมาเป็นเลเวล 2 ทันที และก่อนที่เราจะเลเวล 12 จะได้รับอัตราการเพิ่ม exp มากขึ้นกว่าเดิมถึง 50% แต่ในระหว่างนั้น เงิน และ exp จากเลนมังกร Abyssal Dragon หรือ ครีปป่า จะลดลงครึ่งหนึ่ง สรุปคือ มันต้องเอามาใช้กับ โรมมิ่งเท่านั้น เอาไปยืนเลนไม่ได้เด็ดขาด และต้องเดินเกมให้ได้ด้วย ถ้าเล่นแบบตั้งรับ ไม่บุก ไม่เวดป่า จะจนหนักแน่นอน

VEDA

VEDA
VEDA

ขั้นที่ 1

Axe of Sacrifice
Axe of Sacrifice

Axe of Sacrifice – ฮีโร่ของเรา จะทำดาเมจได้แรงมากขึ้น 3% แต่จะได้รับดาเมจเพิ่มขึ้น 2% เช่นเดียวกัน ( เพิ่มขึ้น 1% จากฮีโร่ที่โจมตีระยะใกล้ )

Mana Refill
Mana Refill

Mana Refill – เมื่อเราโจมตี หรือ ใช้สกิลโดนฮีโร่ เราจะได้รับมานากลับคืนมา 8% มีคูลดาวน์ 5 วินาที เหมาะกับฮีโร่ที่ใช้มานาแบบเปลืองๆ เป็นอย่างมาก

Sacred Bead
Sacred Bead

Sacred Bead – สกิลอัลติ จะได้รับการลดคูลดาวน์พิเศษเพิ่มเติมให้เลย 10% เฉพาะสกิลอัลติเท่านั้นนะครับ แต่จะไม่เกินขีดจำกัดของการลดคูลดาวน์ 40% นะครับ

ขั้นที่ 2

Blessing
Blessing

Blessing – ได้รับอัตราคริติคอลเพิ่มขึ้น 12% และได้รับพลังเวทเพิ่มเติมอีก 8% โดยทั้งสอง จะคิดค่าเพิ่มเติม จากไอเท็มที่สวมใส่เท่านั้น ไม่ใช่เพิ่มอัตราคริติคอลขึ้นมา 12% ทันที ที่เริ่มเกม แต่จะเพิ่มตามจำนวนคริติคอล ที่เราได้จากไอเท็มที่เราสวมใส่ พูดง่ายๆ คือ ทุกอัตราคริติคอล 10% เราจะได้รับอัตราคริติคอลเพิ่มขึ้นมา 1.2% ทันทีครับ และทุกๆ พลังเวท 10 หน่วย เราจะได้รับ 0.8 พลังเวท เพิ่มเติมขึ้นมาทันทีนั่นเอง โดยค่าของอัตราคริติคอล และพลังเวท ที่จะเอามาคิด คือ ต้องได้จากไอเท็มเท่านั้นนะครับ ( เหมาะกับลิง และแครี่แน่นอน )

Holy Verdict
Holy Verdict

Holy Verdict – ได้รับเจาะเกราะกายภาพ / เจาะเกราะเวท เพิ่มขึ้นมา 18 (เลเวล 1 + 3 ต่อเลเวล)

ขั้นที่ 3

Holy Summoner
Holy Summoner

Holy Summoner : หลังจากที่เราทำการโจมตีเป้าหมายเดิม ครบ 3 ครั้ง เราจะเรียกเอลฟ์ออกมาช่วยโจมตีเป้าหมายเดียวกับที่เราโจมตี เป็นเวลา 5 วินาที โดยมีระยะการโจมตีที่ 8.5 m และมีความเร็วในการโจมตี เท่ากับของตัวเรา จะทำดาเมจเท่ากับ 0.2 ของพลังโจมตีกายภาพของเรา และมีการเจาเกราะ 15% คูลดาวน์ของสกิลนี้ อยู่ที่ 10 วินาที ( เหมาะกับแครี่ เป็นที่สุด )

Holy Thunder
Holy Thunder

Holy Thunder : เมื่อเราโจมตีโดนฮีโร่ฝั่งตรงข้าม จะได้รับโบนัสดาเมจเพิ่มขึ้น 100 (+10/level) (0.4 additional physical attacks) (0.3 magic attacks) เมื่อโจมตี หรือใช้สกิลโดนฮีโร่ฝั่งตรงข้ามต่อไปอีก จะช่วยลดคูลดาวน์ของสกิลนี้ลงไปอีก 1 วินาที (แม้จะโดนหลายเป้าหมาย ในเวลาเดียวกัน ก็ลดได้แค่ 1 วินาที) (คูลดาวน์ 15 วินาที) สกิลนี้ เหมาะเอาไว้ใช้เพื่อรีดดาเมจต่อครั้งให้มันแรงมากขึ้น เช่น เอาไว้ใช้กับ Violet จะดีมากๆ เป็นการเพิ่มดาเมจให้กับการโจมตีของเรา คล้ายๆ กับ Boomstick นั่นแหละครับ

Sacred Protection
Sacred Protection

Sacred Protection : หลังจากที่ได้รับดาเมจมา 30% ของพลังชีวิตสูงสุดของเรา ภายใน 3 วินาที เราจะได้รับการเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ขึ้น 50% ทันที เป็นเวลา 1.5 วินาที และได้รับ โล่ 550 (+60/เลเวล) และเวทแวมไพร์เพิ่มขึ้น 15% ในระหว่างที่ฆ่า หรือ ช่วยฆ่า ระยะเวลาของเวทแวมไพร์ จะเพิ่มขึ้นอีก 3 วินาที (คูลดาวน์ 30 วินาที)

LOKHEIM

LOKHEIM
LOKHEIM

ขั้นที่ 1

Devourer
Devourer

Devourer – หลังจากที่เราฆ่า หรือช่วยฆ่าฮีโร่ศัตรู จะได้รับการฟื้นฟู HP ขึ้นมา 12% และมานา 18% ของที่เสียไป (เหมาะกับสายแอสซาซินที่ต้องฆ่าบ่อยๆ)

Shadow Blade
Shadow Blade

Shadow Blade – เมื่อเราใช้สกิลประเภทเคลื่อนที่ จะได้รับพลังโจมตี สำหรับการโจมตีครั้งต่อไป เพิ่มขึ้นมาเลย 30 (5/เลเวล) เป็นเวลา 2 วินาที สามารถทับซ้อนได้ 3 ครั้ง ก่อนที่จะทำการโจมตี เช่น Lu Bu, Airi หรือ Nakroth เหมาะกับสกิลตัวนี้เป็นอย่างมาก

Raging Inferno
Raging Inferno

Raging Inferno – การโจมตีปกติ หรือโจมตีด้วยสกิล จะได้รับโบนัสความเสียหายเพิ่มขึ้น 50 (+5/level) (0.35 additional physical attacks) (0.25 magical attacks) คูลดาวน์ 8 วินาที (เหมาะกับฮีโร่ที่ใช้การ poke สกิลเป็นอย่างมาก) และเมื่อใช้ร่วมกับ ขั้น 3 ของสีเหลือง ที่เห็นการเพิ่มโบนัสดาเมจเหมือนกันยิ่งจะทำให้ดาเมจเวลาที่ poke สกิลออกไป โคตรแรงเลยทีเดียวครับ เนื่องจากอันนี้ เป็นขั้นที่ 1 เอาไปใส่เสริมร่วมกับ ขั้นที่ 3 ของสายสีเหลืองได้ครับ

ขั้นที่ 2

Deadly Claw
Deadly Claw

Deadly Claw – ได้รับพลังโจมตี 12 – 40 หน่วย และพลังเวท 18 – 60 หน่วย

Bone Cutter
Bone Cutter

Bone Cutter – ได้รับค่าต้านทานสถานะ 10%

ขั้นที่ 3

Desperate Duel
Desperate Duel

Desperate Duel : เมื่อเราทำการโจมตี ไม่ว่าจะด้วยการโจมตีปกติ หรือ ใช้สกิล จะเป็นการสะสม Stack ซึ่งถ้าเป็นการโจมตีจากระยะไกล จะนับเป็น 1 Stack ถ้าเป็นการตีใกล้ จะนับเป็น 2 Stack ซึ่งสามารถสะสมได้ 10 Stack ถ้าสะสมได้ครบ จะทำการฟื้นฟู 15% ของพลังชีวิตที่เสียไป และได้รับเจาะเกราะ/เจาะเกราะเวท 15% ทันที (ถ้าเป็นฮีโร่ที่โจมตีระยะไกล จะได้รับเจาะเกราะเพิ่มแค่ 5%) เหมาะกับพวกไฟต์เตอร์ตีใกล้ ที่โจมตีปกติเป็นหลัก เช่น Omen, Kil’Groth

Curse of Death
Curse of Death

Curse of Death : ทุกครั้งที่ทำการโจมตี ด้วยการโจมตีปกติ หรือใช้สกิล จะเป็นการสะสม Stack เมื่อสะสมครบ 3 ครั้ง จะเป็นการระเบิดดาเมจออกมา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งค่อนข้างที่จะแรงเลยทีเดียว อันดับแรก ระเบิด 50 (+5/level) (0.25 additional physical attacks) (0.2 magic attack) เป็นความเสียหายเวท ในระยะ 2.5m หลังจากนั้น ผ่านไป 1 วินาที จะสร้างความเสียหายอีก 100 (+10/level) (0.5 additional physical attack) (0.4 magic attack) ภายในรัศมี 2.5 m เช่นกัน คูลดาวน์ 15 วินาที

Devil's Awakening
Devil’s Awakening

Devil’s Awakening : หลังจากที่ใช้สกิลอัลติไปแล้ว จะทำการลดคูลดาวน์สกิลต่างๆ ออกไป 50% และได้รับอัตราการลดคูลดาวน์ 20% รวมทั้งเพิ่มดาเมจให้อีก 10% เป็นเวลา 6 วินาที การฆ่า หรือช่วยฆ่า จะช่วยเพิ่มระยะเวลาของสกิลนี้ออกไปอีก 3 วินาที คูลดาวน์ 30 วินาที

AFATA

AFATA
AFATA

ขั้นที่ 1

River Treader
River Treader

River Treader – เมื่อเราเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นน้ำ จะทำให้วิ่งเร็วขึ้น 10 หน่วย และได้รับ HP เพิ่มขึ้น 20 และ มานา 10 หน่วย ทุกๆ 5 วินาที

Backstabbing
Backstabbing

Backstabbing – หลังจากที่เราเข้าไปในพุ่มไม้ จะได้รับการบัพความสามารถ ทำให้การโจมตีครั้งต่อไป จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 4% ของความพลังชีวิตศัตรูปัจจุบัน และเมื่อออกจากพุ่มไม้มา บัพนี้ก็ยังจะคงอยู่เป็นเวลา 4 วินาที คูลดาวน์ 20 วินาที

Tower Blessing
Tower Blessing

Tower Blessing – เมื่อเรายืนอยู่ในพื้นที่ป้อม จะได้รับต้านทานสถานะเพิ่มขึ้น 15% และลดความเสียหาย 10%

ขั้นที่ 2

Regrowth
Regrowth

Regrowth – เมื่อเราใช้การฮีลหรือการสร้างโล่ จะได้รับผลเพิ่มขึ้น 10% และถ้าพลังชีวิตของเป้าหมายที่เราจะฟื้นฟู (หรือของตัวเราเองนี่แหละ) เหลือน้อยกว่า 50% ก็จะได้รับผลเพิ่มขึ้นอีก 10% ( รวมถึงการสร้างโล่หรือฮีลเลือดจาก ไอเท็ม หรือ สกิลชาเลนเจอร์ด้วย )

Nature's Gift
Nature’s Gift

Nature’s Gift – ทุกๆ ครีปเลน หรือ มอนสเตอร์ป่า ที่ตายไปรอบๆ ตัวเรา จะทำให้เราได้รับบัพสะสม ซึ่งแต่ละบัพจะให้พลังชีวิต 8 หน่วย โดยสามารถสะสมได้สูงสุดถึง 100 ชั้น เลยทีเดียว โดยถ้าเป็นครีปตัวเล็กในเลน จะให้บัพ 1 ชั้น, มอนสเตอร์ป่าตัวเล็ก จะให้บัพ 2 ชั้น และ มอนสเตอร์ป่าตัวใหญ่ จะให้บัพ 3 ชั้น

ขั้นที่ 3

Nature's Rage
Nature’s Rage

Nature’s Rage : หลังจากที่เราโจมตีใส่ศัตรูด้วยสกิลประเภท CC ที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ เช่น สตั้น, ยก, ผลัก หรือ ไถ จะสร้างโบนัสดาเมจเพิ่มเติม คือ เผาศัตรูด้วยความเสียหายเวท 1% ของพลังชีวิตสูงสุดเป้าหมาย ทุกๆ 0.5 วินาที เป็นเวลาต่อเนื่อง 5 วินาที ศัตรูที่โดนเผาด้วยสกิลนี้ จะถูกลดเกราะเวทลงไป 50(+5/เลเวล) คูลดาวน์ 25 วินาที

Explosive Shield
Explosive Shield

Explosive Shield : หลังจากที่เราโดนโจมตี จนได้รับดาเมจครบ 20 Stack จะสร้างระเบิดออกมา เป็นวงกว้าง 3.5 m สร้างความเสียหายเวท 8% ให้กับศัตรูรอบๆ และสตั้นเป็นเวลา 0.5 วินาที ในขณะเดียวกันจะเพิ่มการฟื้นฟูให้กับตัวเอง 50% เป็นเวลา 5 วินาที เหมาะสำหรับพวกแท็งค์ที่จะโดนรุมอยู่บ่อยๆ เช่น Arum, Toro, Baldum, Mina

Forest Wanderer
Forest Wanderer

Forest Wanderer : เมื่อไม่ได้ต่อสู้ จะได้รับพลังชีวิตเพิ่มเติม 40 และ มานา 5 หน่วย ทุกๆ 5 วินาที และการโจมตีปกติครั้งถัดไป จะลดความเร็วศัตรูลง 50% เป็นเวลา 1 วินาที และลดความเสียหายของศัตรูลง 30% เป็นเวลา 2 วินาที เหมาะกับโรมมิ่งที่เน้นการเดินแก๊งค์เป็นหลัก เพราะจะยืนอยู่ในสนามรบได้นานขึ้น

และนี่คือทั้งหมดของ ระบบพลังแฝง ROV ที่คุณต้องรู้กันครับ อย่างที่บอกไปแล้ว เรื่องการจัดรูปแบบ ที่เป็นช่องๆ น่ะ มันไม่ยากหรอกครับ เรียนรู้แป็บเดียว ก็ทำได้แล้ว แต่ที่ยากจริงๆ จะอยู่ตรงที่ การเลือกสกิลต่างๆ ให้มันเหมาะสม กับฮีโร่ที่เราจะหยิบมาเล่นนี่แหละครับ ซึ่งตรงนี้ ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ผมจะเอามาแนะนำแบบหมดเปลือก ของฮีโร่ทุกตัวแน่นอนครับ ว่าฮีโร่ตัวไหน เหมาะกับการใช้ ระบบพลังแฝง ROV แบบไหน ถึงจะดีที่สุด และแบบไหนที่สามารถใช้เป็นทางเลือกได้

แน่นอนว่า ในฮีโร่แต่ละตัว ไม่ได้ถูกล็อคเรื่องระบบพลังแฝงอยู่แล้ว มันสามารถใช้พลังแฝงได้หลากหลาย ตามสไตล์การเล่นของผู้เล่นอีกด้วยนะครับ มันไม่ได้ถูกหนดให้ตายตัวขนาดนั้น มันอยู่ที่ตัวผู้เล่นเองด้วยว่า จะใช้ฮีโร่ตัวนั้น เพื่อเดินเกมอย่างไร ดังนั้น พลังแฝงสำหรับฮีโร่แต่ละตัว จึงสามารถมีได้มากกว่า 1 เซ็ตแน่นอนครับ ซึ่งตรงนี้ ผมก็จะทยอยเอามาแนะนำกันเรื่อยๆ นะครับ เพราะมันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว และจะอธิบายเหตุผลด้วยว่า ทำไมถึงต้องจัดแบบนั้นแบบนี้ จะได้ทำให้ทุกคน มีความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบพลังแฝงมากขึ้นไปด้วยนั่นเองครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ

ข้อมูลและภาพจาก https://www.facebook.com/ROVTH/ และ https://moba.garena.tw/news/show/1854

เรื่องก่อนหน้านี้วิเคราะห์ ROV แผนที่ 3.0 ที่ได้อัพเดตที่ไต้หวันไปแล้ว เมื่อ 4 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
เรื่องถัดไประยะการโจมตี ในเกม ROV สำคัญแค่ไหน ในทีมควรมีฮีโร่ที่โจมตีไกลกี่ตัวถึงจะดีที่สุด