แผนแครี่ 1 แท็งค์ 4 ไม่มีเมจ เน้นเกมยาว เอาชนะได้ชัวร์ๆ ช่วงเลทเกม แผนการเล่น ROV

หนึ่งในปัญหา ที่มักจะทำให้หลายๆ คน พ่ายแพ้ เวลาที่เล่นในโหมดจัดอันดับก็คือ การเจอกับทีม ที่วางแผนการเล่นกันมาเป็นอย่างดี ใช้แผนประเภท ความแข็งแกร่ง เอาชนะได้ทุกอย่าง เน้นกำแพงหนาๆ ให้ฝ่ายตรงข้าม ทำดาเมจไม่เข้า ยิงจนหมดสกิล แท็งค์มันก็ยังไม่ตาย ซึ่งจากที่ผมเคยแนะนำมา จะเห็นว่า เมื่อก่อนมันจะมีประเภท แท็งค์ 3 แครี่ 1 เมจ 1 แต่ในปัจจุบัน มันมีการปรับเปลี่ยนใหม่ ให้เข้ากับแพทช์ใหม่ ที่ได้อัพเดตมาแล้ว นั่นก็คือ แผนแครี่ 1 แท็งค์ 4 ไม่มีเมจ ซึ่งแผนนี้ จะสร้างปัญหาให้กับฝ่ายตรงข้าม เป็นอย่างมาก

แผนแครี่ 1 แท็งค์ 4 ไม่มีเมจ คืออะไร? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

แผนนี้ จะเน้นดาเมจไปอยู่ที่ตัวฟาร์มป่าเป็นหลัก คือ เป็นตัวทำดาเมจ ที่แรงที่สุดของทีม และให้ฮีโร่ในตำแหน่ง เลนข้าง ทั้งสองเลน เป็นตัวทำดาเมจได้รุนแรงเช่นเดียวกัน ประเภท Burst Damage พร้อมๆ กับ มี Mobility ที่สูง ทำหน้าที่ ยืนเลนยาวๆ พร้อมดันเลนตลอดเวลา

ข้อดีก็คือ ในช่วงต้นเกม จะมีฮีโร่ที่ตัวบางที่สุดเพียงตัวเดียว คือ ตัวฟาร์มป่า ซึ่งเป็นแครี่ ทำให้ดูแลได้ง่าย และเมื่อตัวฟาร์มเราเกิดมากๆ หรือ เก่งมากๆ เลเวลนำ มันก็จะไม่ใช่ตัวที่อ่อนแอที่สุดในทีมอีกต่อไป ยังไม่พอ ในช่วงเลทเกม จะการันตีชัยชนะได้สูงมากๆ เพราะแท็งค์ 4 ตัว จะแข็งแกร่งมากๆ จนตีมันไม่เข้า ขนาดให้ฝ่ายตรงข้าม มายืนทีมไฟต์กัน ก็เอาไม่ลงแน่นอน ส่วนเลนข้าง นอกจากจะแข็งแกร่งในระดับหนึ่งแล้ว ยังมี Mobility ที่สูงมากๆ หากเห็นว่า ตรงกลาง ศัตรูมารวมกัน ก็จะรีบดันครีป ให้เข้าป้อม และทำลายป้อมแบบฟรีๆ ทันที เมื่อเสียป้อมไปเยอะๆ พื้นที่การเล่น ของฝั่งตรงข้ามก็จะน้อยลง แล้วก็จะเสียเปรียบไปเรื่อยๆ นั่นเอง

ข้อเสียก็คือ การจัดทีมแบบนี้ จะมีปัญหามากหากเจอกับฝ่ายตรงข้าม เล่นเกมเร็ว และมีเมจ ที่ Burst Damage แรงๆ รวมทั้ง หากเจอกับฝ่ายตรงข้าม มีแต่ฮีโร่ที่ใช้สกิลสร้างสถานะควบคุมเยอะๆ จะมีปัญหาแน่นอน เพราะฮีโร่พวกแท็งค์ และไฟต์เตอร์เหล่านี้ จำเป็นต้องมีไอเท็ม ถึงจะเก่ง และจะเริ่มเก่ง ในช่วงกลางเกมเป็นต้นไป แต่ถ้าเจอฝ่ายตรงข้าม แก้เกม เปิดเกมเร็ว รุกไล่ถล่มยับ ตั้งแต่ต้นเกม ก็จะทำให้เสียเปรียบ จนไม่สามารถแก้ลำกลับคืนมาได้ครับ

แผนแครี่ 1 แท็งค์ 4 : ฮีโร่ที่เหมาะสมกับแผนนี้

สำหรับฮีโร่ ที่เหมาะสมมากๆ กับแผนนี้ ผมก็จะขอแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนะครับ เพราะมันจะต้องเล่นตาม แผน 1-3-1 อยู่แล้วครับ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ตัวหลักในการเดินเกม ซึ่งผมจะยกตัวอย่างฮีโร่มาให้ดูนะครับ แต่ในการเล่นจริงๆ ไม่ต้องจัดตามนี้ก็ได้ เอาแค่คล้ายๆ แต่เปลี่ยนตัว หรือ ปรับเปลี่ยน แก้ไขได้ ให้ตรงกับสไตล์การเล่น ความถนัด และแผนของทีมได้นะครับ แต่ตามตัวอย่าง ผมจะจัดตามนี้ครับ ได้แก่

Moren

Maloch

Cresht

จะเห็นได้ว่า ตัวทำดาเมจหลัก คือ Moren ตัวยืนค้ำคือ Maloch และ Cresht แต่เวลาทีมไฟต์จริงๆ ทั้งสามตัวนี้ ทำดาเมจได้รุนแรงทั้งหมด เช่น ถ้าศัตรูมากันเยอะๆ ถึง 4 ตัว กลุ่มนี้ ก็รับมือได้ครับ โดยการที่ Cresht แปลงร่างก่อน จากนั้น Maloch กระโดดอัลติลงมาซ้ำ โดยที่ในระหว่างนั้น Moren ยิงรัวๆ ไปครับ แบบนี้ ต่อให้ศัตรูมีจำนวนมากกว่า ก็เอาไม่อยู่ครับ สามารถไดร์ฟป้อมได้อีกด้วย ถ้าศัตรูมีน้อยกว่า เช่น มีแค่ 2 คน แบบนี้ ไดร์ฟป้อม ได้เลยครับ

สำหรับ ฮีโร่ในเลนข้างทั้งสองเลน ที่ต้องยืนแบบ Solo Lane ก็ได้แก่

Zephys

Skud

ไฟต์เตอร์ทั้งสองตัวนี้ มีจุดเด่นคือ ทำ Burst Damage ได้อย่างรุนแรง และ มี Mobility ที่สูง แถมยังทนทานได้ดี ในระดับหนึ่งอีกด้วย หน้าที่ของเลนข้างตามแผนก็คือ ยืนเลนให้แข็ง และคอยดันครีปเรื่อยๆ มาแก๊งค์บ้าง ถ้าอยู่ใกล้เลนตัวเอง แต่หลักๆ คือ เน้นป้อมก่อน เป็นสำคัญ เช่น ตอนที่เพื่อนบวกกันในเลนกลาง หากเลนข้างด้านไหนว่าง ดันได้ ให้รีบดัน ไม่ต้องไปช่วยเพื่อน ยิ่งดันป้อมได้ลึกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ทีม ได้เปรียบมากเท่านั้น

ใช้สูตรการเล่นแบบ 1-3-1
ใช้สูตรการเล่นแบบ 1-3-1 โดยมีแก๊งค์ 3 ตัว ที่อยู่ตรงกลาง เป็นตัวเดินเกม คอยโยกเลนไปแก๊งค์เพื่อเอาป้อม

ยิ่งไปกว่านั้น ไฟต์เตอร์ ทั้งสองตัวนี้ Skud และ Zephys เป็นฮีโร่ที่ต้องการไอเท็ม ถึงจะทำให้เก่ง และโหดมาก การที่เอาแต่ดันครีป ดันป้อม จึงทำให้มัน มีเงินเยอะ และออกไอเท็มได้เร็ว

ถ้าดูตามรายชื่อฮีโร่ที่ยกตัวอย่างมาให้ดูแล้ว แผนนี้ ไม่น่าจะใช้ชื่อว่า แผนแครี่ 1 แท็งค์ 4 เลย ถ้าให้ถูกต้อง มันควรจะเป็น แครี่ 1 แท็งค์ 1 ซัพ 1 ล้วง 2 ถึงจะเหมาะกว่า แต่มันจะยาวไปมั้ยครับ? ดังนั้น ผมก็เลยคิดเอาชื่อสั้นๆ ให้เข้าใจกันง่ายๆ ดีกว่า เพราะแผนนี้ เราก็ใช้กันเฉพาะพวกเรา ที่เป็นแฟนเพจ ROV Thailand กันอยู่แล้ว พวกอื่นๆ เค้าจะแอบมาส่อง แอบมาอ่าน แล้วเอาไปใช้ ก็จะไปเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร ก็ตามใจเค้า แต่เราเอาชื่อแผนนี้ละกันนะ เวลาเล่นด้วยกัน จะได้เข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องอธิบายกันมาก

การเล่นตามแผนนี้ ผู้เล่นในเลนข้าง ที่เล่นไฟต์เตอร์ อย่าง Skud และ Zephys ต้องอดทนให้มากๆ ครับ เน้นดันป้อม ไม่บวก ไม่ปะทะ ก่อกวน ทำให้ฝ่ายตรงข้าม เล่นได้ไม่เป็นสุข ต้องคอยมาพะวงกันครีปตลอดเวลา ทำให้เพื่อนเรา ที่เป็นตัวเดินเกม อีก 3 คน ทำอะไรก็ได้ จะเอามังกร ไดร์ฟป้อม ขโมยป่า ทำได้หมด เพราะกำลังของฝั่งตรงข้าม ทั้ง 5 คน ถูกแบ่งให้กระจัดกระจายไปทั่ว จนรวมตัวกันไม่ติด

ถ้าทั้ง 5 คนของฝั่งตรงข้าม รวมตัวกันมาสู้กับ ทีมเราที่เป็น ตัวเดินเกม 3 คน ก็แค่ถอย ไม่บวก แค่ยื้อเอาไว้ ทำเหมือนจะบวก แล้วให้เพื่อนที่อยู่ในเลนข้าง ดันครีป ดันป้อมทันที พอฝั่งตรงข้าม แยกจากตรงกลาง ที่รวมกัน 5 ตัวเดินเกมทั้ง 3 ของเรา ก็รุกไล่ได้เลยครับ เพราะเอาชนะได้แน่นอน เนื่องจากมีแท็งค์คู่หน้า อย่าง Maloch และ Cresht ที่ทั้งหนา และทำดาเมจได้รุนแรงอีกด้วย

แผนแครี่ 1 แท็งค์ 4 ไม่มีเมจ : แนวทางการเล่น

สำหรับแนวทางการเล่น ก็อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น คือ เน้นการใช้แผนแบบ 1-3-1 เน้นความชัวร์ เน้นป้อมเป็นหลัก ไม่เน้นฆ่า ใช้กลยุทธ์ มากกว่าความบ้าระห่ำ เหตุผลก็เพราะว่า ฮีโร่ในทีมทุกตัว จะเป็นฮีโร่ที่เก่ง ในช่วงกลางเกม ถึงเลทเกม ยิ่งเกมยื้อนานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องพยายามดึงให้ศัตรูเล่นเกมยาวเข้าไว้ หลีกเลี่ยงการปะทะ ไม่บวกโดยไม่จำเป็น เน้นป้องกันป้อม และแอบดันครีป ขโมยป้อม รวมทั้งก่อกวนให้ศัตรูเกิดความวุ่นวายมากที่สุด

หลักการง่ายๆ ก็คือ ใช้การดันเลน ในเลนข้าง เป็นหลัก เพราะการดันเลนกลางอาจจะลำบาก ยกเว้นว่า ฝั่งตรงข้าม ชอบโถมกำลังดันเลนข้าง แบบนี้ เราก็มาแอบดันครีป ขโมยป้อมกลางได้

ซึ่งตัวของฮีโร่ที่เป็นไฟต์เตอร์ในเลนข้าง อย่าง Zephys และ Skud คือ ตัวทำเกมครับ และต้องออกไอเท็มที่เบี่ยงไปในทางที่เป็นแท็งค์ ให้มากกว่าดาเมจสักหน่อย เพราะเราไม่ต้องการดาเมจมากเท่า ต้องการความอึด และความถึก ซึ่งจะเห็นผลอย่างชัดเจน ในช่วงกลางเกม เนื่องจาก ทั้ง Zephys และ Skud ถ้าออกไอเท็มสายถึก มันก็จะโหดไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกันนะครับ

แต่ก่อนที่ทุกตำแหน่งจะบวก หรือทำอะไร ให้รอเลเวล 4 ก่อน เพื่อให้ Cresht สามารถแปลงร่างได้ ข้อดีของ Cresht ก็คือ เวลาที่มันแปลงร่าง มันสามารถรับดาเมจได้เยอะ เหมือนกับว่า มี Cresht ตัวเดียว เท่ากับมีแท็งค์สองตัว ดังนั้น การเล่น จึงไม่จำเป็นต้องรวมทั้งทีม 5 คน เพื่อมาทีมไฟต์ แค่ 3 – 4 คน ก็เหลือเฟือแล้วครับ

ทีนี้ จังหวะที่ Cresht จะแปลงร่าง มันคือ ตอนไหนล่ะ?

คือ การแปลงร่างของ Cresht ในเกมนี้ จะต้องมีผลต่อป้อมในเลนอื่นๆ นะครับ เพราะการแปลงร่างของ Cresht นั่นหมายถึง ต้องมีการบวกกับศัตรู หรือต้องรุกไล่ ดันป้อม หรือทำอะไรที่มันต้องมีประเด็น ให้เกิดการปะทะ หรือศัตรูสนใจแน่นอน เช่น เราจะบวกกันในเลนข้าง ศัตรูอยู่ในเลนข้างเยอะ Cresht ก็ต้องแปลงร่างในเลนข้าง แต่จะแปลงตอนไหน ขึ้นอยู่กับเลนอื่นๆ ครับ

ใช้การเบี่ยงเบนความสนใจ ให้เพื่อนในเลนไกลๆ ดันป้อมสบายๆ
ใช้การเบี่ยงเบนความสนใจ ให้เพื่อนในเลนไกลๆ ดันป้อมสบายๆ

หมายความว่าอย่างไร ? หมายความว่า ต้องรอดูว่า เพื่อนเรา ที่กำลังจะขโมยป้อม ในเลนตรงข้าม อีกฝั่งหนึ่ง มีครีปของเรา กำลังจะเข้าหรือยัง ถ้าเห็นว่า เพื่อนเรากับครีป เช่น Zephys ที่อยู่ออฟเลน กำลังจะเข้าป้อม พร้อมกับครีป ให้ Cresht กับเพื่อนในเลนมังกรใหญ่ Abyssal Dragon ที่กำลังดูเชิง วิ่งหามุมเตรียมบวกกันอยู่ ลุยเลยครับ โถมกำลังบุกเลย แต่ไม่ได้หมายถึง จะต้องฆ่าให้ตาย หรือ สู้ให้จบไปข้างนึงนะครับ แต่ทำให้เหมือนกับว่า เราจะบวกแบบเต็มที่แล้วนะ เพื่อยื้อกำลังของฝั่งตรงข้าม ให้อยู่กับเรามากที่สุด และสนใจพวกเรามากที่สุด เพื่อให้เวลา Zephys ในการตีป้อมฟรีนั่นเองครับ พอเห็นว่า Zephys ตีป้อมแตกได้ ก็ถอยครับ หรือถ้าเราฆ่าศัตรูได้เยอะกว่าที่คาดไว้ ก็ลุยต่อไปเลยครับ เท่ากับว่า เราจะได้เปรียบแบบสุดๆ เพราะได้ป้อมในเลนข้างยาวๆ ไปเลย 2-3 ป้อม จากการบุกพร้อมกันครั้งเดียว จาก 2 ทิศทาง

นี่เป็นแผนของการใช้ความแข็งแกร่ง มายื้อเวลาของศัตรู และทำให้ศัตรูสนใจแต่กับแก๊งค์เดินเกม 3 ตัวของทีมเรา นั่นคือ Moren, Maloch และ Cresht ให้มากๆ ซึ่งเมื่อศัตรูเห็นแก๊งค์เดินเกม 3 ตัวนี้ไปตรงไหน ศัตรูจะต้องแห่กันรวมพล มากกว่า 3 คนแน่นอน ซึ่งนั่น จะทำให้การป้องกัน หรือ การเคลียร์ครีป ในเลนใด เลนหนึ่ง ที่อยู่ด้านข้าง เสียไปแน่นอนครับ เราก็ให้ไฟต์เตอร์ของเรา ที่ประจำเลนนั้น ดันครีป ตีป้อมฟรีไปครับ ซึ่งทั้ง Zephys และ Skud มันตีป้อมแรงอยู่แล้วครับ แป็บเดียวป้อมก็แตกแน่นอน และสามารถดันครีปลึกๆ ได้ เนื่องจาก ทั้งสองตัว มีสกิลสำหรับหนีอยู่แล้ว

เวดป่าบ้าง เพื่อทำให้เพื่อนในเลนไกลๆ ได้มีโอกาสดันป้อมสบายๆ
เวดป่าบ้าง เพื่อทำให้เพื่อนในเลนไกลๆ ได้มีโอกาสดันป้อมสบายๆ

เห็นมั้ยครับว่า แผนแครี่ 1 แท็งค์ 4 แม้จะไม่มีเมจ ก็ป่วนเกมแบบสุดๆ ได้เหมือนกัน เพราะถ้าเราไม่ชวนทะเลาะ หรือเข้าไปบวก โดยไม่จำเป็น เราก็จะดึงเวลาของเกมให้ยืดยาวออกไปได้ และโยกเลน หลอกว่าจะดันเลนบน จะไฟต์ จะไดร์ฟป้อม แต่จริงๆ แล้วเป็นแผน ให้เพื่อนในเลนล่าง หรอยป้อมฟรี

แบบนี้ ต่อให้ฝ่ายตรงข้าม มีเมจ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรครับ เพราะแผนนี้ เป็นการเอาแผน Split Push มาประยุกต์ใช้ให้มันเหมาะสมมากขึ้นครับ และอุดช่องโหว่ ที่เห็นว่า ทำให้มีจุดอ่อน เวลาแยกดัน หรือ Split Push และทำให้การเดินเกม มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ หรืออาจจะพูดได้ว่า มันคือการเอา แผน 1-3-1 มาใช้ร่วมกับเทคนิค การ Split Push นั่นเองครับ

อย่าประมาท ใช้การ Split Push เพื่อทำลายป้อมให้หมด ก่อนขึ้นบ้าน
อย่าประมาท ใช้การ Split Push เพื่อทำลายป้อมให้หมด ก่อนขึ้นบ้าน

ลองเอาแผนนี้ ไปซ้อมเล่นกับเพื่อนได้ครับ โดยไปลองในโหมดปกติก่อนก็ได้ครับ ลองสัก 3 – 4 เกม แล้วจะเข้าใจ จนเกิดความชำนาญครับ แล้วจะรู้ว่า แผนนี้ มันเด็ดขนาดไหน โดยหัวใจหลักคือ เจ้าหมึก Cresht นี่แหละครับ ที่จะพาให้เกมป่วนตลอดทั้งเกม

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้Slikk’s Sting vs Ifrit’s Claw ไอเท็มคริตีเร็ว ชิ้นไหนน่าใช้มากกว่ากัน
เรื่องถัดไปไอเท็ม Batman ROV ซีซั่นปัจจุบัน แสบกว่าลิงเยอะ เอามาล้วงตัวป่าได้หมดทุกตัว