แอพทำความสะอาดเครื่อง ใช้งานได้ดีจริงหรือเปล่า

แอพทำความสะอาดเครื่อง หรือที่ส่วนใหญ่ มักจะใช้คำว่า Clean ขึ้นต้น หรือลงท้ายเป็นชื่อแอพนั้น จริงๆ แล้ว มันทำความสะอาด และลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นใน สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ของเราได้จริงๆ หรือเปล่า? มันเป็นคำถามที่มีหลายท่าน ส่งเข้ามาทาง Inbox เพราะอยากรู้ว่า แอพประเภท Tweak เหล่านี้ ติดตั้งเข้าไปแล้ว มันช่วยทำให้ สมาร์ทโฟน ของเรา ทำงานได้เร็วขึ้น ด้วยการลบพวกไฟล์ขยะ ไปจากเครื่อง จริงหรือเปล่า? ทำไมส่วนใหญ่ พอติดตั้งแอพพวกนี้แล้ว แทนที่จะเร็วขึ้น กลับทำให้ เครื่องหน่วง เปิดอะไรช้าไปหมด สรุปว่า มันดีจริง หรือมันไม่มีอะไรเลย เพียงแต่ทำเป็น User Interface หน้าตาสวยงาม ขึ้นมาหลอกให้ผู้ใช้งานเอาไปติดตั้งในเครื่อง แต่ไม่ได้ทำให้ เครื่องเร็วขึ้น หรือช่วยปรับแต่ง อะไรเลย? คำถามต่างๆ เหล่านี้ ผมจะมาตอบให้ ในบทความนี้เลยครับ รับรองว่า จะตอบให้เคลียร์กันไปเลยทีเดียว เพราะทุกวันนี้ ผมเห็นหลายคน นิยมดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น ประเภทนี้ มาติดตั้งในเครื่องเยอะมากๆ อาจจะคาดหวังว่า มันจะทำให้เครื่อง ทำงานได้เร็วขึ้น เป็นเหมือนการไป รีดพลัง ให้ฮาร์ดแวร์ในเครื่อง ทำงานแบบเต็มขีดความสามารถ ซึ่งนั่น ไม่ใช่ความจริงครับ

แอพทำความสะอาดเครื่อง ใช้งานได้ดีจริงหรือเปล่า

แอพทำความสะอาดเครื่อง คืออะไร?

แอพประเภทนี้ จัดอยู่ในประเภท Tweak หรือ Optimization คือ ช่วยปรับแต่ง ให้ระบบปฏิบัติการ ทำงานได้ดีขึ้น โดยการ ลบไฟล์ขยะ ไฟล์แคช ( Cache ) และไฟล์ชั่วคราว ( Temporary ) ที่อยู่ในเครื่อง ออกไป เพื่อช่วยทำให้ การทำงาน มีความเร็วเพิ่มมากขึ้น ( นิดนึง ) มันทำได้แค่นั้นครับ บางคนอาจจะแย้งว่า มันช่วยเข้าไป ปรับแต่งการตั้งค่า และรีดพลัง ของฮาร์ดแวร์ ที่อยู่ในเครื่องได้จริงๆ ไม่ใช่หรือ? คำตอบก็คือ ไม่ได้ครับ เพราะระบบปฏิบัติการ แอนดรอย เค้าได้ทำการล็อคระบบมาแน่นหนาดีแล้ว ผู้ใช้งานทั่วไป มีสิทธิ์ปรับแต่งได้เท่าที่กำหนดมาให้ปรับแต่งเท่านั้น ถ้าต้องการมากกว่านั้น ต้อง Root เครื่องครับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะรูทกันไม่เป็น และไม่แนะนำให้ทำครับ เพราะบางรุ่น มีการติดระบบป้องกันมาเป็นอย่างดี เพื่อป้องกัน ไม่ให้ผู้ใช้งาน ทำการ Root เครื่อง ถ้าผู้ใช้งาน ทำการรูทเครื่องปุ๊บ ประกันที่ติดมาด้วย ก็จะขาดทันทีครับ แปลว่า ถ้ารูทแล้ว ทำมั่ว จนเครื่องรวน ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเคลมนะครับ มาใช้บริการได้ แต่ต้องจ่ายเงินเต็มๆ ครับ

แล้วตกลง แอพทำความสะอาดเครื่อง จำเป็นต้องมีไว้หรือไม่?

แอพทำความสะอาดเครื่อง ตัวมันเอง ก็เป็น แอพพลิเคชั่น ที่ต้องใช้พื้นที่หน่วยความจำเหมือนกัน และมันกินพื้นที่ มากกว่าแอพอื่นๆ เสียอีกด้วย นั่นแปลว่า ถ้าคุณใช้ สมาร์ทโฟน สเปคต่ำๆ แนะนำว่า อย่าติดตั้ง แอพพวกนี้ จะดีกว่า เพราะตัวมันนั่นแหละ ที่จะกินพื้นที่หน่วยความจำ มากกว่าชาวบ้าน ทำให้เครื่องช้าลงกว่าเดิมเสียอีก แต่ถ้า สมาร์ทโฟน ของคุณ แรงสุดๆ เป็นรุ่นท็อปเรือธง ก็ไม่มีปัญหาครับ ติดตั้งได้เลย ถ้ามันจะทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

ถ้าจะเอาคำตอบแบบตรงไปตรงมา จากผม ที่เรียนจบทางด้าน Computer Science และตอนนี้ ก็ยังเขียนโปรแกรม เขียนเว็บ และอื่นๆ อีกมากมาย ก็บอกได้เลยครับว่า ไม่จำเป็น การที่เครื่อง สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ที่ใช้งานอยู่นั้น มันเริ่มช้าลง ผู้ใช้งาน ควรจะพิจารณาดูนะครับ ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร อย่างที่ผมเคยได้แนะนำไปแล้วว่า ให้ทำการ Factory Reset หรือ ล้างเครื่องใหม่ ดูบ้าง ให้ย้อนกลับไปเป็นค่าเดิมๆ จากโรงงาน เครื่องมันก็จะเร็วขึ้น ชนิดที่ผิดหูผิดตาเลยทีเดียว

ระบบปฏิบัติการแอนดรอย มันยังไม่สมบูรณ์อะไรขนาดนั้นนะครับ ไม่เหมือนกับ iOS ที่ค่อนข้างจะเสถียรกว่า อันนี้ก็ต้องทำใจนะครับ สำหรับ Android แล้ว ยิ่งติดตั้งแอพมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้เครื่องช้าลงมาขึ้นเท่านั้น เพราะมันมีแอพจำนวนมาก ที่ชอบเขียนคำสั่งให้มีบางฟีเจอร์ แอบทำงานอยู่เบื้องหลังตลอด ( Run in Background ) ทำให้เปลืองแบต เปลืองเน็ต และกินพื้นที่หน่วยความจำ ทำให้เครื่องประมวลผลช้าลง

วิธีแก้ไข หรือป้องกัน ไม่ให้เครื่องช้า ก็อย่างที่ผมได้แนะนำไปแล้ว ว่าให้ติดตั้งแค่ 5 แอพจำเป็นในสมาร์ทโฟน แค่นั้นก็พอครับ รับรองได้ว่า เร็วแน่นอนครับ อย่าไปติดตั้งแอพเยอะ มันไม่ดีเลยครับ แต่สำหรับบางท่าน ที่ต้องการทั้งเรื่องของ ความเร็ว และจำนวนแอพ ที่ติดตั้งได้เยอะๆ ก็มีครับ แต่ต้องลงทุนหน่อย คือ จัดสมาร์ทโฟน รุ่นท็อปไปเลยครับ เอาแบบที่มี RAM 3GB พื้นที่ ROM 64GB รับรองว่า เอาอยู่ครับ อยากติดตั้งแอพไหน ก็จัดไปได้เลยครับ ไม่มีอั้น ทำงานได้เร็วอยู่แล้ว มีแรมเหลือเฟือขนาดนั้น แต่ก็ต้องยอมแลกมา กับราคาที่สูงลิ่วเลยนะครับ

ทั้งหมดที่ผมได้อธิบายมานั้น เป็นเพียงแนวความคิดส่วนตัว ของผมเท่านั้นนะครับ ท่านจะเชื่อหรือไม่ ก็แล้วแต่ดุลยพินิจ นี่เป็นเพียงมุมมองจากประสบการณ์ การใช้งานที่ผ่านมาของผม กับแอพประเภทนี้เท่านั้น บางท่านอาจจะรู้สึก หรือคิดไม่เหมือนผมก็ได้ อันนี้ก็ไม่ว่ากันครับ เอาที่สบายใจ ของแต่ละท่านเลยครับ

เรื่องก่อนหน้านี้WaterFox 64-bit บราวเซอร์ ตัวใหม่ ได้ลองใช้กันบ้างหรือยัง?
เรื่องถัดไปส่งไฟล์ผ่าน WiFi ด้วยแอพ SHAREit ส่งได้ทุกอุปกรณ์ ขอแค่มี WiFi ก็พอ