Dual USB Drive 2 หัว ตอนนี้ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ในปัจจุบัน เนื่องจาก มันมีความหลากหลายในการใช้งาน สูงมากๆ สามารถใช้กับ PC คอมพิวเตอร์ ทั่วไป ก็ได้ หรือจะใช้กับ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ที่เป็น Android ที่มีพอร์ต แบบ micro usb ก็ได้เช่นกัน มันเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ ความต้องการ ของคนไอที ในยุคนี้ สมัยนี้ อย่างมาก ผมเอง ก็ไม่พลาด ที่จะหาซื้อ เจ้า USB Drive 2 หัว ตัวนี้ มาใช้งานด้วยเช่นกัน ก็ต้องบอกว่า เทคโนโลยี มันพัฒนาไปได้ไวมากจนน่ากลัว ผมเอง เริ่มใช้ พวกหน่วยความจำเหล่านี้ มาตั้งแต่ ยุคแรกๆ ที่คอมพิวเตอร์ เข้ามาเมืองไทย เป็นยุคของ แผ่นดิสก์ ขนาด 5.0 นิ้ว ที่บางๆ ใช้กับคอมสมัยก่อน จอเขียวๆ ซึ่งติดตั้งพวกโปรแกรม CW หรือ LOTUS 123 อยู่เลย นานกว่า 20 ปี ได้แล้วมั้งครับ จนพัฒนามาเป็น Floppy Disk และต่อมาเป็น Zip Disk และก็มาเป็น USB drive ซึ่งก็พัฒนาตัวเอง ในเรื่องของ ความจุเรื่อยมา จนในปัจจุบัน ก็พัฒนาในเรื่องของ ความเร็ว จาก USB 2.0 ก็กระโดดมาเป็น USB 3.0 ที่เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เรียกได้ว่า ผมอยู่กับ คอมพิวเตอร์ มาตั้งแต่สมัยแรกๆ เลยก็ว่าได้ ( สารภาพเลยครับ ว่าแก่แล้ว ) ใช้งานพวกหน่วยความจำมาแล้ว ทุกรูปแบบ
SanDisk Ultra Dual USB Drive 2 หัว ( USB 3.0 ) ความจุ 64 GB เร็ว แรง ใช้ได้หลากหลาย
แต่สำหรับเจ้า SanDisk Ultra Dual USB Drive 3.0 ตัวนี้ ที่ผมซื้อมาใช้งาน มีขนาด 64 GB โดยมี 2 หัว ให้เลือกใช้งาน ได้ครั้งละ 1 หัว คือต้อง กดสลับกันไปมา 2 ด้านครับ ว่าจะเลือกใช้ด้านไหน เป็น USB 3.0 1 หัว ที่มีความเร็ว ในการถ่ายโอนข้อมูล 130 MB/s โดยต้องเชื่อมต่อ กับ พอร์ต USB 3.0 ในคอมพิวเตอร์ หรือ โน๊ตบุ๊ค เท่านั้นนะครับ ถึงจะได้ความเร็วขนาดนี้ กับอีกพอร์ตหนึ่งก็คือ พอร์ต micro USB ซึ่งเป็นพอร์ต มาตรฐาน ของ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ที่เป็น Android แทบจะทุกยี่ห้อ ในปัจจุบันอยู่แล้ว แปลว่า มันสามารถใช้เสียบต่อ เพื่อถ่ายโอนข้อมูล กับ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ก็ได้ หรือจะถ่ายโอนกับ PC คอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ๊ค ตามปกติทั่วไปก็ได้
ความพิเศษ ของ Dual USB Drive 2 หัว นี่ก็คือ ความคุ้มค่าครับ เมื่อมี USB ไดร์ฟ 2 หัว ตัวนี้แล้ว คุณไม่จำเป็น ต้องไปซื้อ microSD Card มาใส่เพิ่มเป็นหน่วยความจำ ให้กับ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ของคุณอีกต่อไปแล้ว เวลามีรูปอะไรใหม่ๆ คุณก็ก็อปปี้ มาใส่ใน ไดร์ฟ USB ตัวนี้ แล้วก็จะเอาไปใส่ในคอม ที่ไหนก็ได้ ตามสะดวก หรือถ้าจะให้เทพกว่านั้น คุณก็เอาหนัง หรือคลิป หรือเพลงที่ชอบ ใส่ลงใน USB drive ตัวนี้ไว้ เวลาอยากดู ก็แค่เอามาจิ้มเสียบกับ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ก็ดูได้ทันที ไม่ต้องไปเปลืองพื้นที่หน่วยความจำ ในเครื่อง สะดวกสบายสุดๆ เสียเงินครั้งเดียว แต่ใช้งานได้หลากหลาย ดีกว่าซื้อ microSD การ์ด ตั้งเยอะ
ผมแนะนำให้ ลงทุน ซื้อ Dual USB ไดร์ฟ ตัวนี้ แบบความจุเยอะๆ สัก 128 GB ไปเลย จะคุ้มกว่าครับ ผมลองมาแล้ว ใส่หนัง ใส่เพลง และอื่นๆ ได้เยอะแยะมากมาย จุมากๆ ครับ ปัจจุบันนี้ ผมนำมาใช้ เป็นตัวกลาง ในการถ่ายโอนข้อมูล เพื่อสำรองข้อมูลสำคัญๆ จาก Smartphone ของผม มาเก็บเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ครับ ชีวิตสะดวกสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องกลัวว่า สมาร์ทโฟน จะหาย จะเสีย หรือตกน้ำ อีกต่อไป เพราะข้อมูลของผม ได้ถูกสำรองเอาไว้ตลอดเวลา
สำหรับยี่ห้อ ที่ควรจะเลือกซื้อ ผมแนะนำอยู่ 2 ยี่ห้อครับ คือ Apacer และ SanDisk เพราะทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ รับประกันตลอดชีวิตครับ ( Lifetime Warranty ) แต่ Kingston จะรับประกันเพียง 5 ปีเท่านั้น ส่วนเรื่องของความเร็ว ในการถ่ายโอนข้อมูลนั้น ก็มาตรฐานทั่วไปครับ แต่ละยี่ห้อ ไม่แตกต่างกันมาก แต่เร็วกว่า แฟลชไดร์ฟ ทั่วๆ ไป ที่เป็น USB 2.0 อย่างแน่นอนครับ
เพิ่มเติมอีกนิด เพื่อให้การรับประกัน ยังคงอยู่ และสามารถเคลมเปลี่ยน กับร้านที่เราซื้อมาได้ตลอดไปนั้น ท่านจำเป็นต้องเก็บ บาร์โค๊ด หรือถ้าจะให้ดี เก็บใบเสร็จ และตัวซองใส่ USB drive ตัวนั้นเอาไว้เลย จะดีที่สุดครับ ผมเห็นหลายคน แกะปุ๊บ ทิ้งซองทันที ซึ่งตรงนั้น จะมีบาร์โค๊ค เพื่อเอาไว้สำหรับเคลม กับทางบริษัทแม่อยู่นะครับ ถ้าไม่มีตัวนี้ ทางร้านที่เราซื้อไป เค้าจะไม่รับเคลมให้นะครับ ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย ดังนั้นซื้อไปแล้ว แกะซองแล้ว อย่าทิ้งครับ เก็บใบเสร็จเอาไว้ด้วย เผื่อต้องมาเคลมเปลี่ยนตัวใหม่ไปครับ
