Gildur เป็นฮีโร่ตัวฟรีที่อยู่กับเกม ROV มานานมากๆ นะครับ ตัวของมัน ผ่านร้อนผ่านหนาว ในการปรับแพทช์มามากมาย เคยเป็นฮีโร่ที่ถูกบัพแล้วเก่งถึงขั้น เป็นอันดับ 1 ของ META ในเกม ROV ก็มีมาแล้ว แบบใช้ Passive แจ๊ะป้อมทีเดียวแตก แจ๊ะใส่คนทีเดียวแตก ก็มีมาแล้ว เซ็ตไอเท็ม หรือ สายการเล่นของ Gildur ในรูปแบบต่างๆ ก็ผ่านการทดลองเล่นมามากมาย หลายปีแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งในทุกยุคทุกสมัย ก็จะมีคนที่พยายามจะคิดค้น หรือพยายามจะทำอะไรแปลกๆ เช่น Gildur สายคริ ในเกม ROV ซึ่งถามว่า มันมีมั้ย Gildur สายนี้? และ มันเล่นได้จริงมั้ย? มีประโยชน์กับทีมแค่ไหน? ควรทำหรือไม่? ทุกคำถาม ทุกข้อสงสัย มีคำตอบในบทความนี้ครับ
Gildur สายคริ ในเกม ROV มีจริงหรือไม่ และควรออกไอเท็มแบบไหน?
ในเกม ROV นั้น Gildur สายคริกายภาพ ไม่มีอยู่จริงนะครับ จะมีแต่ Gildur สายคริเวท อย่างเดียวเท่านั้น ที่สามารถเล่นได้ และมีอยู่จริง แต่ที่คนส่วนใหญ่ ที่พยายามจะคิดค้น (อยากเป็นไอน์สไตน์ ในเกม ROV) ก็มักจะพยายามลองจัดเซ็ตไอเท็มอะไรแปลกๆ โดยขาดความรู้ ความเข้าใจ ทำให้เวลาเล่น มักจะสร้างปัญหา และความลำบากในการเล่นให้กับเพื่อนร่วมทีม ผมเองก็ไม่เข้าใจว่า เค้าจะพยายามทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องได้ยังไง และทำไปเพื่ออะไร มันไร้สาระมากๆ อันนี้ผมพูดจากใจนะ
หลักการทุกอย่างมีระบุเอาไว้หมดแล้ว เช่น คริติคอลเวทสำหรับ Gildur นั้น จะเกิดขึ้นได้จาก Passive เท่านั้น สกิลอื่นๆ จะไม่ติดคริติคอลเวทนะครับ เช่น สกิล 2 ที่ยิงแรงๆ และเป็นสกิลหลักที่สำคัญมากๆ ของ Gildur ก็ไม่สามารถติดคริติคอลเวทได้นะครับ นั่นแปลว่า ถ้าเราจะเล่น Gildur สายคริ มันก็คือ คริเวทจาก Passive เท่านั้น นั่นเองครับ
การจะจัดเซ็ตไอเท็มแบบไหนให้กับฮีโร่ของเรา เราต้องดูความเหมาะสมในเรื่องการใช้สกิลของฮีโร่ตัวนั้นๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น Gildur จุดเด่นของมันก็คือ การใช้สกิล 2 โจมตีจากระยะไกล เพื่อตอดเลือดฝั่งตรงข้ามได้ฟรีๆ แถมยังเป็นดาเมจเวท ที่การันตีความเจ็บปวดให้กับฝั่งตรงข้ามได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะ เมจ กับแครี่ ที่ไม่มีไอเท็มป้องกันเวทเลย ถ้าโดนเข้าไป เจ็บแน่นอน ยิ่งเลทเกม มันยิ่งมีดาเมจเวทที่แรงขึ้น แครี่ที่โดนเข้าไป จะเสียเลือดเกือบครึ่งหลอดแน่นอน (บางตัวก็โดนหนักเกินครึ่งหลอด เช่น Thorne) ส่วนอัลติ ก็เอาไว้จับล็อค และสกิล 1 เอาไว้เพิ่ม Mobility และคอมโบร่วมกับ Passive เอาไว้แปะแล้วบึ้มใส่เป้าหมาย ในระยะประชิด และสตั้นเล็กน้อย นี่คือ จุดเด่นในการใช้สกิลทั้งหมดของ Gildur
ไม่ใช่ว่า ผมเองไม่เข้าใจความคิดของพวกที่เล่น Gildur สายคริ ที่ออกแต่ไอเท็มโจมตีกายภาพนะครับ แต่เค้าเข้าใจผิดครับ มาครับ ผมจะอธิบายแนวความคิดของเค้าให้ทุกคนได้เข้าใจ
ลองดูภาพด้านบนนี้ เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า ตัวคูณดาเมจกายภาพ หรือ AD ของ Gildur นั้น มีอยู่จริงครับ ใน Passive และ สกิล 1 ซึ่งทั้งสองสกิลนี้ ไม่ใช่สกิลทำดาเมจหลักของ Gildur ย้ำว่า “มันไม่ใช่สกิลทำดาเมจหลักของ Gildur” ใครที่เล่น Gildur แล้วจะเน้นพุ่งเข้าไปประชิดตัวศัตรูอย่างเดียว ไม่ใช้สกิล 2 ตอดเลือดก่อน นั่นคือ ผิดหลักการครับ และเสี่ยงที่จะตายง่ายๆ ด้วย คนที่เล่น Gildur ช่ำๆ เค้าไม่ทำแบบนั้นกันครับ เค้าจะยืนยิงฟรีด้วยสกิล 2 ตอดเลือดไปเรื่อยๆ ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องเอาตัวเองเข้าไปประชิดตัวศัตรูตอนที่ศัตรูเลือดเต็ม โดยหวังแค่จะใช้ Passive แจ๊ะใส่ศัตรูหรอกนะครับ มันไร้สาระ ยกเว้น ในจังหวะที่เราแก๊งค์กับเพื่อน และฝ่ายเราได้เปรียบ ฝ่ายเราคนเยอะกว่า กำลังรุมฝั่งตรงข้าม แบบนี้ทำได้ เพราะเราจะได้ทำคอมโบต่อเนื่องด้วยอัลติ จับล็อคศัตรูต่อได้ แต่ในยามปกติ ที่ยืนดูเชิงกันไกลๆ ไม่มีใครเค้าเอาสกิล 1 ของ Gildur พุ่งไปหาศัตรูหรอกครับ มีแต่เดินเล็งหามุมยิงด้วยสกิล 2 เพื่อทำให้ศัตรูเจ็บฟรีๆ
การเล่น Gildur ที่ถูกต้องก็คือ ใช้สกิล 2 เล่นงานแผงหลังของศัตรูให้เจ็บ ก่อนที่เราจะเข้าไฟต์ เพราะจุดด่อนของ Gildur คือ เสียเปรียบพวกแครี่ ที่ยิงจากระยะไกล หากปล่อยให้แครี่ฝั่งตรงข้ามได้ยิงฟรี Gildur จะตายอย่างรวดเร็วแน่นอน ดูค่าของโล่ที่ได้จาก Passive ของ Gildur สิ มันแค่นิดเดียวเอง แครี่ยิงทีเดียวก็แตกแล้ว ดังนั้น ต้องใช้สกิล 2 เล่นงานศัตรูให้เจ็บก่อน ถึงเข้าไปใช้สกิล 1 + Passive ปิดงานได้ เรียกว่า ยิงให้เจ็บ แล้วใช้สกิล 1 พุ่งเข้าไป กดใช้ Passive เพื่อปิดงานที่เป้าหมายนั่นเอง ย้ำอีกครั้งว่า สกิล 2 ของ Gildur ไม่ได้มีเอาไว้ยิงใส่โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ฝั่งตรงข้ามเป็นหลัก แต่เอาไว้ยิงใส่พวกตัวบางๆ แผงหลัง จะมีแท็งค์ตัวไหนที่สามารถโจมตีใส่แผงหลังของฝั่งตรงข้ามได้ฟรีๆ จากระยะไกลบ้าง? คำตอบคือ ไม่มี
ดังนั้นการออกไอเท็มแบบโจมตีกายภาพล้วนๆ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะจะทำให้สกิล 2 ยิงโคตรเบา ไม่น่ากลัวอะไรเลย ยิงโดนแครี่ ยังไม่รู้สึกระคายผิวอะไรเลย ที่จะแรงก็คือ สกิล 1 ที่พุ่งไป และ Passive จะแรง แต่ไม่มาก ย้ำว่า แรง แต่ไม่มาก และอย่าลืมอีกเรื่อง อัตราคริติคอลที่คุณคาดหวังมัน ไม่ได้มี 100% นะครับ นั่นแปลว่า คุณจะไปหวังพึ่งให้ Gildur พุ่งด้วยสกิล 1 + Passive แล้วติดคริเวท ไส้แตกกระจาย แน่นอนเสมอไปไม่ได้ ถ้าไม่ติดคริ ก็คือ เตรียมตัวโดนสวนแล้วตายได้เลย เพราะนั่นคือ ทั้งหมดที่คุณมีแล้ว Gildur ที่สกิล 2 ไม่แรง อัลติก็ไม่แรง ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด ไม่มีประโยชน์กับทีมครับ มันจะกลายเป็นภาระของทีม โดยเพื่อนอีก 4 คน ต้องคอยแบกไปเรื่อยๆ จนกว่า Gildur จะมีไอเท็มเยอะๆ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าจะเก่งอีกนะครับ เพราะดันเป็นไอเท็มโจมตีกายภาพ
บางคนก็อาจจะแย้งว่า การที่ Gildur ออกไอเท็มตีเร็วสายคริ ก็ทำให้ Passive มันทำงานได้บ่อยนะ ซึ่งก็ ถูกต้องครับ ใช่ครับ หลักการเป็นแบบนั้น แต่ถามว่า ในความเป็นจริง คุณจะยืนตีปกติรัวๆ ได้นานแค่ไหนครับ โล่จาก Passive Gildur ก็บางเฉียบ ตัวคุณก็ออกแต่ของโจมตีกายภาพ ไม่มีไอเท็มป้องกัน และถ้าเจอออฟเลน (คุณบอกว่า Gildur สายคริกายภาพนี้ จะเล่นออฟเลน) ประเภทตีรัวๆ เช่น Omen, Allain, Florentino คุณจะยืนตีปกติรัวๆ แล้วทำให้ Passive เด้ง แล้วชนะฮีโร่พวกนี้ได้หรือครับ? หลักการที่แย้งมา ค่อนข้างจะ Nonsense นะครับ ทฤษฎีฟังแล้วดี แต่ปฏิบัติจริงไม่ได้หรอกครับ ยกเว้นในแร็งค์ระดับ Bronze – Silver แบบนั้นทำได้ครับ เพราะผู้เล่นก็เป็นมือใหม่ ยังไม่รู้อะไร แต่ถ้าในแร็งค์สูงๆ ยับแน่นอนครับถ้าคิดและทำแบบที่แย้งมา
ถ้าอยากจะเล่น Gildur สายคริ ในเกม ROV จริงๆ ล่ะ เอาแบบที่ถูกต้องเลยนะ ต้องทำอย่างไร?
การเล่น Gildur สายคริเวท มีอยู่จริง และทำได้จริง ไม่ผิดหลักการ และสามารถนำไปเล่นได้แน่นอนครับ แต่ไม่ใช่การออกไอเท็มโจมตีกายภาพล้วนๆ นะครับ นั่นเป็นความคิดที่ผิดสุดๆ โดยในทางปฏิบัติจริงๆ สำหรับการเล่น Gildur สายคริเวท เราจะมีตัวเลือก 2 ทาง ดังนี้
1. ใช้ไอเท็ม Claves Sancti + รูน Rampage
การออกไอเท็มจะเป็นไอเท็มเวทล้วน สามารถเล่นในตำแหน่งออฟเลนได้ โดย Claves Sancti จะออกเป็นชิ้นท้ายๆ หลังเลย โดยจะเน้นไอเท็มเวทที่เป็น Core Items ของ Gildur ให้ครบซะก่อน เพื่อทำให้ดาเมจจากสกิลต่างๆ ของ Gildur มันแรงที่สุด แล้วไปเน้นไอเท็มเพิ่มคริอย่าง Claves Sancti ทีหลัง หรือ เป็นชิ้นสุดท้ายเลยก็ได้
รูน Rage ไม่นิยมเน้นให้ใส่สำหรับ Gildur เพราะยังไงอัตราคริติคอลมันก็ขึ้นอยู่กับดวงอยู่แล้ว ดังนั้น คนที่เล่น Gildur สายคริเวท จึงเน้นไปที่รูน Rampage เพียวๆ ไปเลย จะคุ้มค่ากว่า ติดคริเวทขึ้นมาทีนึง สะใจแน่นอน อันนี้สำหรับคนที่อยากเล่นสายคริเวทนะ
2. ใช้รูน Rampage เพียวๆ หรือ ผสมกับรูน Rage
สายนี้ก็จะออกไอเท็มเวทล้วนๆ เช่นเดียวกัน เน้นที่ Core Items หลักๆ ของ Gildur เหมือนเดิม เน้นความแรงของดาเมจเวทเป็นหลัก แล้วหวังผลจากอัตราคริติคอลที่ได้จากรูนแทน คือ หวังพึ่งดวงเอาแค่นั้นพอ เพราะยังไง ดาเมจเวทโดยปกติ มันก็โคตรแรงอยู่แล้ว ถ้าดันติดคริเวทขึ้นมาอีก ก็ถือว่า ได้กำไรไปละกัน อะไรประมาณนี้
ซึ่งโดยปกติแล้ว Gildur สายคริเวท จะนิยมเล่นกันในตำแหน่ง ออฟเลน, เลนกลาง และ ฟาร์มป่า ทั้งสามตำแหน่งนี้ เล่นได้ครับ ไม่ผิดหลักการใดๆ แต่จะมีจุดอ่อนคือ ตัวจะค่อนข้างบางสักหน่อย ต้องยืนให้ดีๆ ไม่งั้น ตายง่ายมากๆ
การเล่น Gildur สายคริเวท ด้วยการออกไอเท็มเวทล้วนๆ แบบนี้ ไม่ได้เป็นภาระกับเพื่อนร่วมทีมแต่อย่างได้และไม่ได้แตกต่างจากการเล่น Gildur สายดาเมจเวทปกติอีกด้วย เพราะไอเท็มคริ ถ้าเราจะออก เราก็ออกเป็นชิ้นสุดท้าย หรือ รูนที่เราใส่ก็ไม่ได้กระทบอะไรมากมาย ดาเมจเวทของ Gildur ก็ยังแรงมาก สกิล 2 ก็ยังยิงใส่ศัตรูแล้วเจ็บมากๆ อยู่ดี คือ มันไม่ได้ทำให้ทีมมีปัญหา เพื่อนร่วมทีมไม่ต้องมาแบก ทุกอย่างปกติ ตามแบบมาตรฐานการเล่นทั่วๆ ไปเลย เพียงแต่ตอนใช้สกิล 1 + Passive หรือ ตีปกติแล้ว Passive ทำงาน แล้วเกิดติดคริเวทขึ้นมา ก็ไส้แตกทันที แค่นั้นเองครับ
บางคนอาจจะบอกว่า ผมไม่เน้นคริแรง แต่เน้นคริบ่อย ใช้เป็น Rage ได้หรือไม่? ก็ต้องตอบว่า ได้ครับ แต่ไม่คุ้ม เพราะ Passive ของ Gildur ไม่ได้ทำได้บ่อยๆ ขนาดนั้น มันต้องใช้สกิล 1 หรือโจมตีปกติต่อเนื่องครั้งที่ 4 มันถึงจะทำงาน Rage จึงไม่ค่อยคุ้มค่า เพราะมันไม่ได้ใช้งาน Passive บ่อยครั้ง ต่อเนื่องได้ขนาดนั้น สู้เราออกเป็น Rampage ให้เวลาติดคริทีนึง ให้มันไส้แตกไปเลย แบบนี้คุ้มค่ากว่าครับ
ถามว่า แล้วตัวคูณ AD หรือ ตัวคูณพลังโจมตีกายภาพของ Gildur มีไว้ทำไมล่ะ? ในเมื่อบอกให้ออกแต่ไอเท็มเวทอย่างเดียว? คำตอบคือ มันมีไอเท็มโจมตีกายภาพบางชิ้น ที่ Gildur ก็สามารถเอามาใส่ได้นะครับ เช่น The Beast เราก็สามารถใส่ให้กับ Gildur แทน Rhea’s Blessing ได้นะครับ มันก็มีประโยชน์ และเล่นได้จริง ดูดเลือดกายภาพได้ เวทแวมไพร์ได้ พร้อมๆ กันทั้งสองอย่างเลย
การเลือกใช้ไอเท็มนั้น เราต้องเลือกใช้กับฮีโร่ที่เหมาะสมก็คือ เราต้องใส่ไอเท็มที่มันส่งเสริมความสามารถให้กับสกิลที่เป็นตัวทำดาเมจหลักของฮีโร่ตัวนั้นๆ ที่เราเล่น เช่น ใส่ Omni Arms ให้กับ Violet เพราะสกิลของมันกลิ้งปุ๊บ Passive ของ Omni Arms จะทำงานอัตโนมัติทันที พอเรากดยิงปกติ มันก็แรงเป็นสองเท่าเลย หรือเราเลือกใส่ Apocalypse ให้กับ Gildur เพราะเมื่อมันพุ่งสกิล 1 ไป Passive ของ Gildur และ Passive ของ Apocalypse จะพร้อมทำงานร่วมกันทันที (สำหรับคนที่เล่น Gildur แบบเน้นการพุ่งไปแจ๊ะใส่ศัตรูในระยะประชิด แล้วหวังให้มันติดคริเวท) พอกดโจมตีปกติ ก็จะทำให้ดาเมจเวทที่ออกมาแรงเป็นสองเท่า หรือ Boomstick ที่จะช่วยทำให้ สกิล 2 ของ Gildur แรงมากขึ้น จนแครี่ที่โดนเข้าไป ถึงกับต้องกลับบ่อทันที นี่เป็นการใส่ไอเท็มเพื่อเสริมความเก่งให้กับสกิลของฮีโร่ที่เราเล่น ถ้าอยากดึงเอาประสิทธิภาพของฮีโร่ที่เราเล่น ออกมาให้มากที่สุด เราก็ต้องส่งเสริมให้สกิลในการทำดาเมจหลักของฮีโร่ที่เราเล่น มันเก่งขึ้น และน่ากลัวขึ้น
Gildur สายคริ ในเกม ROV มีอยู่จริง และเป็นคริเวทด้วยนะครับ แต่การจะเล่น Gildur สายคริเวท ไม่ได้แปลว่า ต้องมาออกไอเท็มโจมตีกายภาพ ที่เป็นการเพิ่มคริติคอล มันไม่ได้จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย เพราะมันไม่คุ้มค่า บางคนอาจจะบอกว่า มันก็เล่นได้ ซึ่งก็จริง แต่เล่นได้แบบไหน? เล่นแบบเป็นภาระให้กับเพื่อนในทีมอย่างนั้นหรือ? ให้เพื่อนอีก 4 คน คอยแบกไป มันใช่หรือ? คำว่า เล่นได้ คือ ต้องเล่นง่าย ทั้งตัวเราที่เล่นแล้ว มันเก่ง มันง่าย และเพื่อนร่วมทีมก็เล่นง่ายด้วย เพราะไม่ต้องมาแบกเรา ไม่ใช่ว่า ดาเมจก็ไม่มี เพื่อนในทีมก็หวังพึ่งพาอะไรไม่ได้ ใช้จุดเด่นจากสกิลของฮีโร่ตัวนั้นไม่คุ้มค่า เช่น Gildur ที่ออกแต่ไอเท็มโจมตีล้วนๆ สกิล 2 ยิงไปก็ไม่แรง ไม่ได้สะกิดให้ศัตรูเจ็บ จะรอแต่พุ่งไปแจ๊ะเพื่อให้หวังติดคริเวทอย่างเดียว แบบนี้มันไร้ค่าครับ มันคือ การออกไอเท็มมาเพื่อลดจุดเด่นในการใช้สกิลของฮีโร่ตัวนั้นๆ ไป ไม่มีประโยชน์ และไม่ควรคิดที่จะทำตั้งแต่แรก
ถ้าอยากจะคิดค้นอะไรใหม่ๆ ในเกม ROV มันต้อง Based on หลักการ + ความรู้ที่ถูกต้อง และเหมาะสมเกี่ยวกับฮีโร่ตัวนั้นๆ ด้วยนะครับ ว่ามันสามารถทำได้หรือไม่ อย่างเช่น การที่เราอยากจะเล่น Gildur สายคริ ก็ใส่แต่ไอเท็มโจมตีกายภาพที่เพิ่มคริติคอล แบบนั้นมันค่อนข้างที่จะ Nonsense มากเกินไป ซึ่งในสายตาของหลายๆ คนที่ศึกษาข้อมูลการเล่นเกม ROV มาอย่างเชี่ยวชาญ ก็อาจจะบอกว่า มันเป็นการกระทำที่ “โง่” ได้เช่นกัน ดังนั้น ก่อนจะคิดค้น หรือจะเล่นอะไรที่แปลกๆ ก็ควรจะศึกษาให้ดีก่อนว่า มันทำได้หรือไม่ และมันทำให้ตัวเราเอง และเพื่อนในทีม เล่นง่ายขึ้น หรือ เล่นยากขึ้น ไม่ใช่ว่า อยากเล่นแบบไหนก็เล่น อยากทำอะไรก็ทำ อย่าลืมว่า นี่เป็นเกมที่เค้าเล่นกันเป็นทีม 5 คน การกระทำของแต่ละคนในทีม จะส่งผลกระทบต่อทั้งทีมนะครับ คิดถึงคำว่า “ทีม” ให้มากๆ อย่าเห็นแก่ตัว เพราะเมื่อไหร่ที่ในทีมมีคนเห็นแก่ตัว ความสามัคคีมันก็จะไม่เกิด และคำว่าชนะ มันก็จะไม่มีอีกด้วย
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
